200 likes | 291 Views
Web Technology. 1.Web 1.0 – 4.0, 2. แนวคิดและอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย , 3. โปรโตคอล TCP/IP, ARP, RARP และ ICMP 4.DNS, E-mail และ FTP. 1.Web 1.0 – 4.0. Web 1.0 คือ ?
E N D
Web Technology 1.Web 1.0 – 4.0, 2.แนวคิดและอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย, 3.โปรโตคอล TCP/IP, ARP, RARP และ ICMP 4.DNS, E-mail และ FTP
1.Web 1.0 – 4.0 • Web 1.0 คือ ? • web 1.0 ผู้เข้าชมสามารถอ่านได้อย่างเดียว ( Read-only ) เป็นเทคโนโลยีที่สามารถที่สามารถแก้ไขข้อมูล หน้าตาของเว็บไซต์ได้เฉพาะผู้ดูแลเว็บไซต์ ( Webmaster )เป็นเว็บที่ผู้เข้าเยี่ยมชมไม่สามารถมีส่วนร่วมกับเว็บดังกล่าวได้ ถือว่าเป็นเว็บรุ่นแรกของเทคโนโลยีเว็บไซต์ ส่วนมากจะใช้ภาษา html เป็นภาษาสำหรับการพัฒนา
1.Web 1.0 – 4.0 • Web 2.0 คือ ? • พัฒนา web 2.0 ผู้เข้าชมสามารถอ่านและเขียนได้ ( Read-Write ) เป็นเทคโนโลยีเว็บไซต์ที่พัฒนาต่อจาก web 1.0 เป็นเทคโนโลยีเว็บไซต์ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้ เช่น เว็บบอร์ด เว็บบล็อก วิพีเดีย เป็นต้น ซึ่งจะใช้ฐานข้อมูลมาเกี่ยวข้อกับเทคโนโลยีนี้ด้วย
1.Web 1.0 – 4.0 • Web 3.0 คือ ? • web 3.0 ผู้ชมสามารถอ่าน เขียน จัดการ ( Read-Write-Execute ) คือจากที่ผู้เข้าไปใช้อ่าน และเพิ่มข้อมูล ผู้ใช้ก็สามารถปรับแต่งข้อมูลหรือระบบได้เองอย่างอิสระมากขึ้น สำหรับเมืองไทยนั้นจะนำเข้ามาใช้ในอนาคต เทคโนโลยีบางอย่างที่คาดว่าจะถูกนำมาใช้ใน web 3.0 ได้แก่Artificial Intelligent (AI) เรียกว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือสมองกล,Semantic Web and SOA (Service-oriented architecture) เป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ต่างระบบกัน, 3D หรือ Web3D Consortium เป็นเว็บรูปแบบ 3 มิติ, Composite Applications เป็นการผสมบริการระหว่างกัน เช่น การดึงบริการจากเว็บรูปแบบหนึ่งมาใช้งานในเว็บไซต์รูปแบบอื่นๆ ได้ด้วยเสมือนเป็นเว็ปไซต์เดียวกัน, Scalable Vector Graphic (SVG) เป็นเทคโนโลยีที่เมื่อเราจะย่อหรือขยายรูปภาพก็ไม่แตกเป็นเม็ดๆ,Semantic Wiki เป็นการแสดงข้อมูลของภาพที่เรากำลังอ่านอยู่, Metadata ( Data about Data)เป็นการอธิบายข้อมูลด้วยข้อมูลในเชิงสัมพันธ์กัน
1.Web 1.0 – 4.0 • Web 4.0 คือ ? • WEB 4.0 หรือบางทีเขาเรียกกันว่า “A Symbiotic web” คือเว็บที่ทำงานแบบ Artificial Intelligence (AI) ที่ฉลาดมากยิ่งขึ้น คอมพิวเตอร์สามารถคิดได้ มีความฉลาดมากขึ้นในการอ่านทั้งเนื้อหา ข้อความ และรูปภาพ หรืวีดีโอ สามารถที่จะตอบสนองหรืตัดสินใจได้ว่าจะ load ข้อมูลอะไรจากไหน ที่จะให้ประสิทธิภาพดีที่สุดมาให้ผู้ใช้งานก่อนก่อน และนอกจากนี้ยังมีรูปแบบการนำมาแสดงที่รวดเร็ว เว็บ 4.0 จะทำให้เว็บ หรือข้อมูลต่างๆ สามารถทำงานได้แทบจะทุก Device หรืออาจจะช่วยระบุตัวตนที่แท้จริงของผู้ใช้เอง
2.แนวคิดและอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย2.แนวคิดและอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย • แนวคิด • ระบบเครือข่าย (Network System) หมายถึง การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไปเข้าด้วยกัน เช่น การเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ภายในห้องเรียน ภายในองค์กร ระหว่าง อาคาร ระหว่างเมืองต่าง ๆ ตลอดไปจนถึงการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ทั่วทั้งโลกที่เรียกว่า "อินเทอร์เน็ต" (Internet) • การติดต่อสื่อสารข้อมูลในปัจจุบันมีรากฐานมาจากความพยายามในการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันโดยอาศัยระบบการสื่อสาร ต่อมาเมื่อมีการใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้นความต้องการในการติดต่อระหว่างคอมพิวเตอร์หลายเครื่องในเวลาเดียวกัน เรียกว่า ระบบเครือข่าย (Network System)
2.แนวคิดและอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย2.แนวคิดและอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย • อุปกรณ์พื้นฐานสำหรับใช้งานเครือข่าย แบ่งเป็น 3 ส่วน • เครื่องคอมพิวเตอร์ Client • Fat Client -> ไม่รอคำสั่งอย่างเดียว เก็บข้อมูลไว้ในเครื่อง เรียกประมวลผลเร็ว • Thin Client-> ประสิทธิภาพต่ำ ต้องรอการร้องขอ ส่วนใหญ่แสดงผลหน้าจอ • Hybrid Client -> ผสมผสานกัน เร็วขึ้น แต่เก็บข้อมูลไว้ไม่ได้ • เครื่องคอมพิวเตอร์ Server • สื่อกลางสำหรับขนส่งข้อมูล (Transmission Media) แบบสาย • สายคู่บิดเกลียว (Twisted Pairs) หรือเรียกว่า สาย UTP • สายโคแอ๊กเชียล (Coaxial Cable) • สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic)
2.แนวคิดและอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย2.แนวคิดและอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย • Twisted Pairs
2.แนวคิดและอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย2.แนวคิดและอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย • Coaxial Cable
2.แนวคิดและอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย2.แนวคิดและอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย • Fiber Optic
2.แนวคิดและอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย2.แนวคิดและอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย • (Transmission Media) แบบไร้สาย • คลื่นวิทยุ (Radio) • คลื่นไมโครเวฟ (Microwave) • แสงอินฟราเรด (Infrared) • บลูทูธ (Bluetooth)
2.แนวคิดและอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย2.แนวคิดและอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย • อุปกรณ์สำหรับเชื่อมต่อเครือข่าย • Hub • Switch • Router • Gateway
3.โปรโตคอล TCP/IP, ARP, RARP และ ICMP • บทนำ TCP/IP (Transmitsion Control Protocol/Internet Protocol) เป็นชุดของโปรโตคอลที่ถูกใช้ในการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สามารถใช้สื่อสารจากต้นทางข้ามเครือข่ายไปยังปลายทางได้ และสามารถหาเส้นทางที่จะส่งข้อมูลไปได้เองโดยอัตโนมัติ ถึงแม้ว่าในระหว่างทางอาจจะผ่านเครือข่ายที่มีปัญหา โปรโตคอลก็ยังคงหาเส้นทางอื่นในการส่งผ่านข้อมูลไปให้ถึงปลายทางได้ ชุดโปรโตคอลนี้ได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ปี 1960 ซึ่งถูกใช้เป็นครั้งแรกในเครือข่าย ARPANET ซึ่งต่อมาได้ขยายการเชื่อมต่อไปทั่วโลกเป็นเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ทำให้ TCP/IP เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางจนถึงปัจจุบัน
3.โปรโตคอล TCP/IP, ARP, RARP และ ICMP • ระดับชั้นต่างๆ ของ TCP/IP
3.โปรโตคอล TCP/IP, ARP, RARP และ ICMP • TCP/IP ขั้นที่ 4 Application Layer • เป็นเลเยอร์ที่แอพพลิเคชั่นเรียกโปรโตคอลระดับล่างๆลงไป เพื่อให้บริการต่างๆ เช่น FTP , SMTP , Telnet , HTTP , POP • FTP (File Transfer Protocal) เป็นโปรโตคอล สนับสนุนการโอนถ่ายข้อมูล หรือไฟล์ระหว่างคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง • SMTP (Simple Mail Transfer Protocal) สนับสนุนการส่งจดหมาย หรือ เรียก E-mail นั่นเอง • HTTP (Hypertext Transfer Protacal)
3.โปรโตคอล TCP/IP, ARP, RARP และ ICMP • TCP/IP -ขั้นที่ 3 Transport Layer (Host to Host Layer) • รับผิดชอบการรับส่งข้อมูลระหว่างปลายด้านส่งและด้านรับข้อมูล และส่งข้อมูลขึ้นไปให้ Application Layer นำไปใช้งาน ต่อ เทียบได้กับ Session Layer และ Transport Layer ของ OSI Model • UDP (User Data Protocal) เป็นโพรโทคอลหลักในชุดโพรโทคอลอินเทอร์เน็ต การส่งข้อมูลผ่าน UDP นั้น คอมพิวเตอร์จะส่งข้อมูลขนาดเล็กที่เรียกว่า เดต้าแกรม (datagram) ผ่านเครือข่ายไปยังเครื่องปลายทาง โดย UDP จะไม่รับประกันความน่าเชื่อถือและลำดับของเดต้าแกรม อย่างที่ TCP รับประกัน ซึ่งหมายความว่าเดต้าแกรมอาจมาถึงไม่เรียงลำดับ หรือสูญหายระหว่างทางได้ : นิยมใช้กับการแพร่กระจายข้อมูล (Broadcast)
3.โปรโตคอล TCP/IP, ARP, RARP และ ICMP • TCP/IP ขั้นที่ 3 Transport Layer (Host to Host Layer) • TCP (Transmission Control Protocol) หน้าที่หลักของทีซีพี คือ ควบคุมการรับส่งข้อมูลระหว่างโฮส ถึง โฮส ในเครือข่าย เพื่อใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน โดยตัวโพรโทคอลจะรับประกันความถูกต้อง และลำดับของข้อมูลที่ส่งผ่านระบบเครือข่าย นอกจากนั้นทีซีพียังช่วยจำแนกข้อมูลให้ส่งผ่านไปยังแอปพลิเคชัน ที่ทำงานอยู่บนโฮสเดียวกันให้ถูกต้องด้วย
3.โปรโตคอล TCP/IP, ARP, RARP และ ICMP • TCP/IP ขั้นที่ 2 Network Layer (Internet Layer) • ชั้นอินเทอร์เน็ต หรือ Internet Layer เทียบได้กับชั้นที่ 3 ซึ่งคือ Network Layer ในโครงสร้างแบบ โอเอสไอ เป็นชั้นที่มีหน้าที่ส่งข้อมูลจากจุดเริ่มต้นไปยังปลายทาง โดยหาเส้นทางที่ข้อมูลจะใช้เดินทางผ่านเครือข่ายหนึ่งไปยังอีกเครือข่ายหนึ่งจนกระทั่งถึงปลายทาง • โพรโทคอลที่ใช้ในชั้นนี้คือ อินเทอร์เน็ตโพรโทคอล หรือ ไอพี ทำหน้าที่เปรียบเสมือนซองจดหมายซึ่งระบุถึงที่อยู่ของต้นทางและปลายทาง โดยมีบุรุษไปรษณีย์ทำหน้าที่ส่งจดหมายนั้นผ่านกรมการไปรษณีย์ในพื้นที่ต่าง ๆ จนถึงจุดหมายปลางทาง ที่อยู่บนซองจดหมายในอินเทอร์เน็ตโพรโทคอลเรียกว่า หมายเลขไอพี ที่ทำการไปรษณีย์คือเราเตอร์ที่ทำหน้าที่ค้นหาเส้นทางที่เหมาะสมเพื่อส่งข้อมูลไปตามสายส่งจนกระทั่งถึงปลายทาง 1. IP (Internet Protocal)2. ARP (Address ) 3. RARP (Reverse Resolution Protocol) 4. ICMP (Internet Control Message Protocol) 5. IGMP (Internet )
3.โปรโตคอล TCP/IP, ARP, RARP และ ICMP • TCP/IP ขั้นที่ 1 Link Layer (Network Access Layer) • เป็นชั้นที่คอยดูแลการติดต่อสื่อสารในระดับกายภาพของอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นในการเชื่อมต่อ และสัญญาณที่ใช้ในอุปกรณ์นั้นด้วย
3.โปรโตคอล TCP/IP, ARP, RARP และ ICMP • ทำความรู้จักกับ IP Addressing