180 likes | 333 Views
การวัดวิเคราะห์และการจัดการความรู้ “การพัฒนาคุณภาพระบบบริการการดูแลผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS แบบครบถ้วนและต่อเนื่อง” PCT อายุรก รรม โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี. การชี้บ่งความรู้ การสร้างและแสวงหาความรู้ การจัดการความรู้ให้เป็นระบบ การประมวลผลและกลั่นกรองความรู้ การเข้าถึงความรู้
E N D
การวัดวิเคราะห์และการจัดการความรู้“การพัฒนาคุณภาพระบบบริการการดูแลผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS แบบครบถ้วนและต่อเนื่อง”PCTอายุรกรรม โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี • การชี้บ่งความรู้ • การสร้างและแสวงหาความรู้ • การจัดการความรู้ให้เป็นระบบ • การประมวลผลและกลั่นกรองความรู้ • การเข้าถึงความรู้ • การแบ่งบันแลกเปลี่ยนความรู้ • การเรียนรู้
1. การชี้บ่งความรู้: • กิจกรรม: ประชุมเชิงปฏิบัติการและทบทวนองค์ความรู้ 8 ประเด็น • ความรู้ที่มีแล้ว • มาตรฐานการดูแลผู้ป่วย HIV/AIDS • การจัดการแบบ Disease Management • การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยด้วย Chronic care model • การวัดและประเมินผลการพัฒนาระบบบริการการดูแลผู้ติดเชื้อHIV/AIDS ด้วย HIVQUAL-T • ความรู้ที่ยังไม่มี • การเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาด้วยยาต้านไวรัสด้วย Lean health care • การเฝ้าระวังความปลอดภัยจากการใช้ยา โดยใช้ Trigger tool • การเฝ้าระวังและติดตามการเกิดเชื้อไวรัสเอชไอวีดื้อยาต้านไวรัสโดยใช้ Early warning signs • การสนับสนุนส่งเสริมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อ ด้วยกระบวนการเรียนรู้เรื่องเอดส์โดยตรง • การเฝ้าระวังและติดตามการเกิดเชื้อไวรัสเอชไอวีดื้อยาต้านไวรัสเอดส์ด้วยEarly warning signs
2. การสร้างและแสวงหาความรู้ • ตรวจสอบความรู้ที่มีอยู่ จากบันทึกความรู้ บทเรียนในงานด้านเอดส์ • ความรู้ที่สามารถสร้างเองได้ - มอบทีม KM รพ. สรรพสิทธิประสงค์ รวบรวบ ตรวจสอบ กิจกรรมคุณภาพ ที่เป็น Best practice Innovation • ความรู้ที่ต้องการจากภายนอก - มอบทีมโรงพยาบาลชุมชน สืบค้น /หรือจัดหาความรู้จากภายนอก
3. การจัดการความรู้ให้เป็นระบบ • ทีม KM ร่วมกับผู้รับผิดชอบงานเอดส์ของ สปสช.เขต 10 สคร. เขต 7 สสจ.และโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ • รวบรวมความรู้ จัดเป็นหมวดหมู่ และทำฐานข้อมูล การพัฒนาระบบบริการการดูแลผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS แบบครบถ้วนและต่อเนื่อง ในเรื่อง • การเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาด้วยยาต้านไวรัส • การเฝ้าระวังความปลอดภัยจากการใช้ยาต้านไวรัส • การเฝ้าระวังการเกิดเชื้อเอชไอวีดื้อยาต้านไวรัสเอดส์ • การสนับสนุนส่งเสริมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อHIV/AIDS • การวัดและประเมินผลการดูแลรักษาการพัฒนาระบบบริการด้วยHIVQUAl-T • จัดทำทำเนียบผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญในการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อHIV/AIDS
4. การประมวลผลและกลั่นกรองความรู้ • จัดหาผู้เชี่ยวชาญในงานคุณภาพ เพื่อ • ตรวจสอบความรู้ในการพัฒนาคุณภาพระบบบริการดูแลผู้ติดเชื้อHIV/AIDS • เทียบเคียงข้อมูลกับโรงพยาบาลขนาดเดียวกัน • มอบหมายทีมสหสาขาที่ดูแลผู้ติดเชื้อHIV/AIDS นำองค์ความรู้สู่การปฏิบัติในคลินิกยาต้านไวรัส และขยายผล • วัด ประเมินผล ปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง • จัดทำแนวทางปฏิบัติ แล้วให้ผู้ทรงคุณวุฒิ/ แพทย์เฉพาะทางโรคติดเชื้อ ตรวจสอบ • ประกาศใช้ • วัดและประเมินผลการนำแนวทางปฏิบัติไปใช้ ทั้งด้านกระบวนการและผลลัพธ์ ทุกปี
5. การเข้าถึงความรู้ • นำความรู้มาพัฒนาเข้าสู่ระบบเทคโนโลยี • ทีม KM สำรวจและสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับช่องทางที่เข้าถึงได้สะดวก • เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ฐานข้อมูลและองค์ความรู้ในรูปแบบเอกสารผลงานวิชาการ ลงในเว็บไซต์งานพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลและสำนักงานควบคุมโรคที่ 7 ในเรื่อง • การเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการรักษาด้วยยาต้านไวรัสเอดส์ • การเฝ้าระวังความปลอดภัยจากการใช้ยาต้านไวรัส • การเฝ้าระวังการเกิดเชื้อเอชไอวีดื้อยาต้านไวรัสเอดส์ • การสนับสนุนส่งเสริมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อHIV/AIDS • การวัดและประเมินผลการพัฒนาระบบบริการการดูแลผู้ติดเชื้อHIV/AIDSด้วยHIVQUAL-T
6. การแบ่งบันแลกเปลี่ยนความรู้ • จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างทีมสหสาขาที่ดูแลผู้ติดเชื้อHIV/AIDS • ทีม KM ร่วมกับทีมผู้ปฏิบัติงาน กำหนดเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพการดูแลผู้ติดเชื้อHIV/AIDSและเป้าหมายองค์ความรู้ที่ต้องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ • สร้างเครือข่ายผู้มีความรู้จากการนำความรู้สู่การปฏิบัติในรูปแบบชุมชนนักปฏิบัติ • จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพการดูแลผู้ติดเชื้อHIV/AIDS • จัดทำเอกสาร คู่มือองค์ความรู้ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
7. การเรียนรู้ • จัดประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาคุณภาพการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อHIV/AIDS • ประชาสัมพันธ์เชิญบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เครือข่ายผู้ติดเชื้อHIV องค์กรเอกชน ชุมชน เข้าร่วมประชุม • วัดผลความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรม • ทีม KM ร่วมกับผู้บริหารสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นให้บุคลากรมีส่วนร่วมในการระบบจัดการความรู้
ระดับความสำเร็จของการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในจังหวัดระดับความสำเร็จของการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในจังหวัด
ภาคผนวก • แนวทางปฏิบัติ/มาตรฐานการดูแลผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS • สัญญาณเตือน(Trigger tool) ในการเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนจากยาต้านไวรัส • Warning Signs : การเฝ้าระวังเชื้อดื้อยา • ภาพกิจกรรม : การพัฒนาคุณภาพระบบบริการการดูแลผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS แบบครบถ้วนและต่อเนื่อง • การนำChronic care model มาใช้ • รายชื่อ KM Team PCT อายุรกรรม
แนวทางปฏิบัติ/มาตรฐานการดูแลผู้ติดเชื้อHIV/AIDSแนวทางปฏิบัติ/มาตรฐานการดูแลผู้ติดเชื้อHIV/AIDS
แนวทางปฏิบัติ/มาตรฐานการดูแลผู้ติดเชื้อHIV/AIDSแนวทางปฏิบัติ/มาตรฐานการดูแลผู้ติดเชื้อHIV/AIDS
Warning Signs : การเฝ้าระวังเชื้อดื้อยา • น้ำหนักตัวลดลง • การเจ็บป่วยที่ยังต้องมาพบแพทย์สม่ำเสมอเช่นเดียวกัน ก่อนรับยาต้านไวรัส • CD4ลดลงกว่าเดิม และหลังรับประทานยาต้านไวรัสไปแล้ว 6 เดือน CD4 ไม่เพิ่มขึ้น(CD4ลดลง30% : บ่งบอกถึงการรักษาที่ล้มเหลว) • ผลตรวจปริมาณเชื้อไวรัส(Virus load)หลังรับประทานยาต้านไวรัสไปแล้ว 6 เดือนมีค่า>50 ก๊อปปี้ • มีการป่วยเป็นโรคติดทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟฟิลิส หนองใน ขณะรับยา • มีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการสวมถุงยางอนามัย • Drug Adherence80% • ขาดนัดนานกว่า 2 เดือน หรือมาตามนัดไม่สม่ำเสมอ • มีการเปลี่ยนสูตรยาที่ไม่ใช่สูตรพื้นฐานในปีแรกที่รับยา
สัญญาณเตือน(Trigger tool) ในการเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนจากยาต้านไวรัส
การนำChronic care model มาใช้ การให้บริการแบบOne Stop Service การให้ข้อมูลการรับบริการในคลินิกโรคติดเชื้อวันอังคาร การปะชุมทีมสหวิชาชีพในการวางแผนการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อHIV/AIDS การจัดยาต้านไวรัสเอดส์มาไว้ การให้ความรู้ในคลินิกยาต้านไวรัสเอดส์
การนำChronic care model มาใช้(ต่อ) การให้บริการแบบOne Stop Service โดยสถานที่ให้บริการเฉพาะกับผู้มารับบริการ เจาะเลือด ซักประวัติโดยพยาบาลประจำคลินิก รับยาต้านไวรัส กับเภสัชกร ให้สุขศึกษา ความรู้ในการดูแลตนเอง
การส่งเสริมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อHIV/AIDSและครอบครัวการส่งเสริมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อHIV/AIDSและครอบครัว สื่อในการสอนและการเรียนรู้เรื่องโรคและการดูแลตนเอง