1 / 12

เรื่อง สมบัติของของเหลว

เรื่อง สมบัติของของเหลว. สมบัติของของเหลว ที่เราควรศึกษาดังนี้. ความตึงผิว การระเหย ความดันไอกับจุดเดือดของของเหลว. สมบัติของของเหลว. มีรูปร่างไม่แน่นอน เปลี่ยนตาม ภาชนะที่บรรจุ แต่จะมีปริมาตร คงที่ ถ้าอุณหภูมิและความดัน คงที่ ดังรูป .

susanna
Download Presentation

เรื่อง สมบัติของของเหลว

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. เรื่อง สมบัติของของเหลว

  2. สมบัติของของเหลวที่เราควรศึกษาดังนี้สมบัติของของเหลวที่เราควรศึกษาดังนี้ • ความตึงผิว • การระเหย • ความดันไอกับจุดเดือดของของเหลว

  3. สมบัติของของเหลว มีรูปร่างไม่แน่นอน เปลี่ยนตามภาชนะที่บรรจุ แต่จะมีปริมาตรคงที่ ถ้าอุณหภูมิและความดันคงที่ดังรูป

  4. ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ จะหดตัวหรือขยายตัวได้มากกว่าของแข็ง แต่น้อยกว่าก๊าซ มีความหนาแน่นมากกว่าก๊าซ แต่น้อยกว่าของแข็ง อนุภาคอยู่ห่างกันมากกว่าของแข็ง แต่อยู่ชิดกันมากกว่าก๊าซ *มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคน้อยกว่าของแข็ง แต่มากกว่าก๊าซ อนุภาคอยู่เป็นกลุ่ม ไม่มีระเบียบ มีช่องว่างระหว่างอนุภาค จึงเคลื่อนที่ไปมา แพร่และไหลได้ ดังรูป อนุภาคมีพลังงานจลน์มากกว่า ของแข็ง แต่น้อยกว่าก๊าซ ไม่สามารถบีบอัดให้มีปริมาตรลดลงได้

  5. ความตึงผิว ความตึงผิว ความตึงผิวเป็นสมบัติอย่างหนึ่งของของเหลว ความตึงผิวทำให้ผิวหน้าของน้ำเป็นเสมือนผิวหนังบาง คลุมน้ำข้างใต้ไว้ บางคนคงเคยเห็นแมลงบางชนิดเดินได้บนผิวน้ำ แมลงยืนหรือเดินบนผิวน้ำได้เพราะน้ำมีความตึงผิว ความตึงผิวทำให้คลิปเสียบกระดาษลอยได้บนผิวน้ำในถ้วยแก้ว ทำให้น้ำหยดจากก๊อกน้ำมีรูปทรงกลม ทำให้หยดน้ำกลิ้งได้บนใบบัว และทำให้เราสามารถเป่าน้ำผสมน้ำยาซักผ้าจากขดลวดวงกลม ให้เป็นฟองอากาศทรงกลมสีรุ้งที่สวยงามได้

  6. หน่วยของความตึงผิวเป็น นิวตัน/เมตร (N/m) ที่อุณหภูมิหนึ่งๆ ค่านี้จะเป็นค่าคงตัว แต่จะลดลงเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นถ้ามีขดลวดวงกลมซึ่งมีเส้นรอบวง L จุ่มอยู่ใต้ผิวของของเหลวพอดี การที่จะตึงให้ขดลวดนี้หลุดออกจากผิวของของเหลว จะต้องออกแรงดึงขนาดหนึ่งเพื่อต่อต้านแรงตึงผิว ขณะที่ดลวดหลุดออกจากผิวของของเหลว ผิวของเหลวยืดขึ้นมาสูงที่สุด s แรงดึงนี้จะเท่ากับแรงตึงผิว พอดี ถ้า F คือ ขนาดของแรงตึงนี้ จะคำนวณหาความตึงของของเหลวได้จากสมการ ในสมการนี้ใช้ความยาวเป็น 2L ทั้งนี้เพราะผิวของของเหลวที่สัมผัสกับโครงลวดมีทั้งด้านในและด้านนอกรู Fs F 2Ls 2L g=

  7. การระเหย การระเหย (Evaporation) คือ กระบวนการที่ของเหลว เช่น น้ำเปลี่ยนสภาพโดยธรรมชาติเป็นแก๊ส โดยไม่จำเป็นต้องมีอุณหภูมิถึงจุดเดือด โดยเป็นกระบวนการตรงกันข้ามกับการควบแน่น โดยทั่วไปเราสามารถรับรู้ถึงการระเหยได้ โดยดูจากน้ำที่ค่อยๆ หายไปทีละน้อย เมื่อมันกลายตัวเป็นไอน้ำ

  8. การที่โมเลกุลของของเหลวจะระเหยได้จะต้องเป็นโมเลกุลที่อยู่บนพื้นผิว, อยู่ในทิศทางที่เหมาะสม และมีพลังงานจลน์ภายในมากพอที่จะเปลี่ยนสภาวะจากของเหลวเป็นแก๊ส เนื่องจากการระเหยจะต้องเกิดบนพื้นผิวด้านบนจึงทำให้อัตราการเกิดการระเหยจึงมีน้อย ซึ่งการที่โมเลกุลจะมีพลังงานจลน์ได้ก็ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของมัน กระบวนการระเหยจะเกิดเร็วขึ้นเมื่ออยู่ในอุณหภูมิที่สูง เมื่อโมเลกุลได้กระจายตัวออกไปกับการระเหย โมเลกุลที่เหลือจะมีพลังงานจลน์โดยเฉลี่ยลดลงเรื่อยๆ และอุณหภูมิจะลดลงตามไปด้วย ปรากฏการเช่นนี้เรียกว่า การเย็นลงโดยการระเหย ร่างกายมนุษย์ก็เช่นกัน ที่ใช้เหงื่อช่วยในการลดอุณหภูมิ

  9. ความดันไอกับจุดเดือดของของเหลวความดันไอกับจุดเดือดของของเหลว ถ้าเอาของเหลวใส่ในภาชนะที่ไม่มีฝาปิด เมื่อตั้งทิ้งไว้นานๆ ของเหลวจะมีปริมาตรลดลง และในที่สุดจะหมดไป ทั้งนี้เพราะว่าของเหลวนั้นได้ระเหยกลายเป็นไอไปสู่อากาศ แต่ถ้าเอาของเหลวชนิดเดียวกันนี้ใส่ในภาชนะปิด ไม่ว่าตั้งทิ้งไว้นานเท่าใดของเหลวนั้นจะมีปริมาตรลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้เพราะว่า เมื่อของเหลวกลายเป็นไอ โมเลกุลที่ระเหยเป็นไอหนีไปสู่อากาศไมได้ยังคงอยู่ในภาชนะบริเวณที่ว่างเหนือของเหลวนั้น โมเลกุลของไอเหล่านี้จะเคลื่อนที่ชนกันเอง ชนผิวของของเหลว และชนกับผนังภาชนะ โมเลกุลที่เคลื่นที่ชนผิวหน้าของของเหลวส่วนใหญ่จะถูกของเหลวดูดกลับลงไปเป็นของเหลวอีก ซึ่งเรียกว่า “ไอควบแน่นของของเหลว” เมื่อเวลาผ่านไปปริมาณไอมากขึ้นทำให้อัตราการควบแน่นเพิ่มขึ้น โมเลกุลที่ยังคงอยู่ในสภาพไอทำให้เกิดแรงกระทำต่อภาชนะ หรือมีความดันเกิดขึ้นในภาชนะ ซึ่งเรียกว่า “ ความดันไอ” และความดันนี้จะมีค่ามากขึ้นเมื่อตั้งทิ้งไว้นานๆ ทั้งนี้เพราะโมเลกุลที่ไอมีมากขึ้น เนื่องจากอันตราการระเหยมากกว่าอัตราการที่ไอควบแน่นเป็นของเหลว จนในที่สุดความดันไอจะมีค่าคงที่ค่าหนึ่ง เพราะมีจำนวนโมเลกุลที่เป็นไอคงที่ เนื่องจากอัตราการระเหยกลายเป็นไอมีค่าเท่ากับอัตราที่ไอควบแน่นเป็นของเหลว เราเรียกภาวะนี้ว่า “ภาวะสมดุล” แต่เนื่องจากที่ภาวะสมดุลนี้ระบบมิได้หยุดนิ่ง ยังคงมีทั้งการระเหยกลายเป็นไอและไอควบแน่นเป็นของเหลว แต่เกิดในอัตราที่เท่ากัน จึงเรียกภาวะสมดุลลักษณะเช่นนี้ว่า “สมดุไดนามิก (Dynamic equilibrium)” ส่วนความดันไอในขณะนี้ซึ่งเป็น ความดันไอที่มีค่าสูงสุดเรียกว่า “ความดันไอสมดุล” หรือเรียกสั้นๆว่า ความดันไอ

  10. สมดุลของระบบที่ปฏิกิริยาไปข้างหน้าและปฏิกิริยาย้อนกลับ เกิดขึ้นตลอดเวลา ด้วยอัตราเร็วเท่ากัน ดังนั้น ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกิดขึ้นในภาวะสมดุลก็ตาม ระบบยังคงมีการเปลี่ยนแปลงไปและกลับอยู่ตลอดเวลา ปัจจัยที่มีผลต่อความดันไอของของเหลว     1.) อุณหภูมิ- ที่อุณหภูมิสูง ของเหลวจะกลายเป็นไอได้มาก จึงมีความดันไอสูง- ที่อุณหภูมิต่ำ ของเหลวจะกลายเป็นไอได้น้อย จึงมีความดันไอต่ำ    2) ชนิดของของเหลว- ของเหลวที่มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลมาก จะระเหยได้ยาก จึงมีความดันไอต่ำ มีจุดเดือดสูง- ของเหลวที่มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลน้อย จะระเหยได้ง่าย จึงมีความดันไอสูงมีจุดเดือดต่ำ

  11. แหล่งอ้างอิง • http://www.lks.ac.th/student/kroo_su/chem19/data6.htm • http://th.wikipedia.org/wiki • http://www.thunyakorn.com/F1.pdf • http://sn.ac.th/web51_3/SN_v3.html

  12. ผู้จัดทำ • นาย เกียรติศักดิ์ เกตุมี เลขที่ 1 • นางสาว สุกัญญา สังคง เลขที่ 37 • นางสาว สุวาภร แหยมนิ่ม เลขที่ 44 • นางสาว เพชรนภา ไพโรจน์ เลขที่ 46

More Related