90 likes | 248 Views
บทที่ 5 วันที่ 2 สิงหาคม 2014. จะรอดได้อย่างไร. “ โม เสส ยกงูขึ้นในถิ่น ทุร กันดารอย่างไร บุตรมนุษย์จะต้องถูกยกขึ้นอย่าง นั้น เพื่อ ทุกคนที่วางใจพระองค์จะได้ชีวิตนิ รันดร์ ” ” ( ยอห์น 3:14-15).
E N D
บทที่ 5 วันที่ 2 สิงหาคม2014 จะรอดได้อย่างไร
“โมเสสยกงูขึ้นในถิ่นทุรกันดารอย่างไร บุตรมนุษย์จะต้องถูกยกขึ้นอย่างนั้นเพื่อทุกคนที่วางใจพระองค์จะได้ชีวิตนิรันดร์”” (ยอห์น 3:14-15) ความรอดของพระเยซูคริสต์ได้สำเร็จสมจริงที่กางเขนโดยมีภายใต้เงื่อนไขของพระองค์ ขั้นตอนของการได้ความรอดมีเช่นไรบ้าง? ตระหนักว่าจำเป็นต้องได้รับความรอด มีการกลับใจ เชื่อในพระเยซูคริสต์ ยอมรับความชอบธรรมของพระเยซูคริสต์ ยินยอมที่จะดำเนินชีวิตติดตามพระเยซูคริสต์
ตระหนักว่าจำเป็นจะต้องได้รับความรอดตระหนักว่าจำเป็นจะต้องได้รับความรอด “เมื่อพระองค์เสด็จมาแล้ว พระองค์จะทรงทำให้โลกรู้แจ้งในเรื่องความบาป ความชอบธรรม และการพิพากษา” (ยอห์น 16:8) พระเยซูถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้คลุกคลีกับคนบาป พระองค์ทรงตรัสตอบว่า “พระเยซูตรัสตอบพวกเขาว่า “คนสบายไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บป่วยต้องการ เราไม่ได้มาเพื่อเรียกคนชอบธรรม แต่มาเรียกคนบาปให้กลับใจใหม่”” (ลูกา5:31-32) เราทุกคนต่องการแพทย์เมื่อเรามีอาการเจ็บป่วย ในลักษณะเดียวกันเราทุกคนก็ต้องการความรอดเมื่อเราเป็นคนบาป • พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทำงานในมโนธรรมของเราเพื่อให้เราได้ตระหนักถึงความบาปของเรา เพื่อให้เรารู้สึกสำนึกในความผิดบาปอย่างลึกซึ้ง และความตระหนักถึงความบาปนี้ทำให้เราแสวงหาพระผู้ช่วยให้รอด • ถ้าเราไม่เชื่อฟังพระองค์และทำให้จิตใจของเราแข็งกระด้างต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ จิตใจของเราจะค่อยๆ หยุดการรับฟังพระวิญญาณบริสุทธิ์ลงทีละเล็กทีละน้อย
มีการกลับใจ “เปโตรจึงกล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “จงกลับใจใหม่และรับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูคริสต์ให้หมดทุกคน เพื่อพระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของท่านทั้งหลาย แล้วพวกท่านจะได้รับของประทานคือพระวิญญาณบริสุทธิ์” (กิจการ 2:38) • ตระหนักว่าความบาปของเราไม่สมควรที่จะได้รับการอภัย ดังนั้นจึงต้องมีการกลับใจ • พระเยซูตรัสว่า “เราบอกพวกท่านว่า ไม่ใช่ แต่ท่านเองถ้าไม่กลับใจใหม่ก็จะต้องพินาศเหมือนกัน” (ลูกา13:3) การกลับใจที่แท้จริงเกี่ยวพันกับ 3 ขั้นตอนสำคัญ: ตระหนักว่าเราเป็นคนบาป รู้สึกอับอายต่อสิ่งที่ได้กระทำ มีความจริงใจที่จะไม่กระทำบาปนั้นอีกต่อไป มนุษย์ทุกคนมีแนวโน้มที่จะปกป้องและพยายามแก้ตัวต่อความบาปของเรา ดังนั้นการกลับใจจึงเป็นของประทานจากพระเจ้าอย่างแท้จริง(โรม2:4) “เรามิได้กลับใจเพื่อที่จะให้พระเจ้าได้ทรงรักเรา แต่เพราะว่าพระเจ้าทรงรักเราจึงทำให้เรากลับใจจากความบาปมาสู่พระองค์ E.G.W. (Christ’s Object Lessons, pg. 189)
เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ “เปาโลกับสิลาสจึงกล่าวว่า “จงวางใจในพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วท่านและครอบครัวจะได้รับความรอด”” (กิจการ 16:31) การตระหนักถึงความบาปและการกลับใจเป็นขั้นตอนสำคัญ แต่ทว่าไม่ใช่เพียงเท่านั้น เราจะต้องมีความเชื่อและศรัทธาอย่างแท้จริงในองค์พระเยซูคริสต์และการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ฤทธานุภาพแห่งความเชื่อนั้นมาจากพระเจ้าซึ่งเราได้เชื่อ ฤทธานุภาพนี้มิได้เกิดขึ้นจากเราเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือของประทานจากพระเจ้าด้วยเช่นกัน (เอเฟซัส2:8)
“ความเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์, ซึ่งเกิดจากการที่เราได้ยอมรับในพระเมตตาของพระผู้ช่วยให้รอดที่มีต่อโลกนี้ที่สามารถช่วยเหลือจิตวิญญาณแห่งโลกนี้ได้ ซึ่งมิใช่เพียงแค่เป็นความยอมรับในความจริงที่มีอยู่เท่านั้น ดังนั้นผู้ใดที่จะรอคอยให้เข้าใจหรือมีความรู้ทุกสิ่งเสียก่อนที่จะมีประสบการณ์แห่งความเชื่อ เราจะไม่สามารถได้รับพระพรจากพระเจ้าได้ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่เชื่อในสิ่งที่เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ แต่ทว่าพวกเขาจะต้องมีความเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ ความเชื่อลักษณะนี้เท่านั้นที่จะทำให้เราได้รับการปกป้องจากความบาปโดยพระผู้ช่วยให้รอด; ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือการที่ทำให้เราสามารถได้รับคุณความดีจากพระเจ้าได้ ความเชื่อที่แท้จริงได้กระทำโดยการยอมรับในองค์พระเยซูคริสต์และถือรักษาพระบัญญัติของพระเจ้า ความเชื่อที่แท้จริงคือการให้ชีวิต และชีวิตแห่งความเชื่อคือการเพิ่มพูนแห่งศรัทธาและความไว้วางใจ ซึ่งจะทำให้จิตวิญญาณมีพลังอำนาจแห่งความดีขึ้นมาได้” E.G.W. (The Desire of Ages, cp. 36, pg. 347)
ยอมรับในความชอบธรรมของพระเยซูคริสต์ยอมรับในความชอบธรรมของพระเยซูคริสต์ ““แต่เมื่อกษัตริย์องค์นั้นเสด็จไปทอดพระเนตรแขกทั้งหลาย ก็ทอดพระเนตรเห็นคนหนึ่งไม่ได้สวมเสื้อสำหรับงานอภิเษกสมรส จึงตรัสถามว่า ‘เพื่อนเอ๋ย ทำไมท่านมาที่นี่โดยไม่สวมเสื้อสำหรับงานอภิเษกสมรส?’ คนนั้นก็นิ่งอั้นอยู่พูดไม่ออก กษัตริย์จึงมีรับสั่งกับพวกคนรับใช้ว่า ‘จงมัดมือมัดเท้าคนนี้เอาไปโยนทิ้ง บริเวณที่มืดข้างนอก ซึ่งเป็นที่มีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน’” (มัทธิว 22:11-13) เราไม่สามารถเข้าไปในอาณาจักรแห่งสวรรค์ได้โดยปราศจากเสื้อคลุมแห่งความชอบธรรม แล้วเสื้อคลุมแห่งความชอบธรรมคืออะไร? อิสยาห์กล่าวว่า, “ข้าพเจ้าจะเปรมปรีดิ์อย่างยิ่งในพระยาห์เวห์ ใจของข้าพเจ้าจะลิงโลดในพระเจ้าของข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทรงสวมเสื้อผ้าแห่งความรอดให้ข้าพเจ้า พระองค์ทรงคลุมข้าพเจ้าด้วยเสื้อคลุมแห่งความชอบธรรม เหมือนเจ้าบ่าวที่โพกศีรษะแบบปุโรหิต และเหมือนเจ้าสาวที่แต่งตัวด้วยเพชรพลอย” (อิสยาห์61:10) พวกเรานั้นล้วนมีจิตวิญญาณที่เปล่าเปลือย แต่เราสามารถห่อหุ้มความรอดได้โดยหมายถึงการยอมรับความชอบธรรมของพระเยซูคริสต์ในชีวิตของเรา “พระเจ้าทรงทำพระองค์ผู้ทรงไม่มีบาปให้บาป เพราะเห็นแก่เรา เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมของพระเจ้าทางพระองค์” (2 โครินธ์ 5:21)
ดำเนินชีวิตติดตามพระเยซูคริสต์ดำเนินชีวิตติดตามพระเยซูคริสต์ “พระเยซูจึงตรัสกับพวกยิวที่วางใจในพระองค์ว่า “ถ้าพวกท่านยึดมั่นในคำสอนของเรา ท่านก็เป็นสาวกของเราอย่างแท้จริง’” (ยอห์น 8:31) เมื่อเราดำเนินชีวิตตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เราจะได้รับความรอด อย่างไรก็ตามเส้นทางก็ยังไม่จบลงแต่เพียงเท่านี้ พระเยซูได้ทรงตรัสต่อผู้ที่ติดตามพระองค์สองประการด้วยกัน: • ดำรงอยู่ในพระคำของพระองค์ • ดำรงชีวิตอยู่ในหลักแห่ง “คำสอนที่ถูกต้อง” ซึ่งปรากฏอยู่ในพระวจนะของพระองค์ (ทิตัส2:1) • เป็นสาวกของพระองค์ • ติดตามพระเยซูคริสต์ ตัวอย่างเช่นรักพระองค์ด้วยสิ้นสุดจิตใจและความคิด เป็นพยานให้กับพระองค์ต่อคนอื่นๆ (1 ยอห์น2:6; มัทธิว10:37; มัทธิว28:19-20)
ขั้นตอนแห่งความรอดเป็นอย่าง?ขั้นตอนแห่งความรอดเป็นอย่าง? ไม่มีสิ่งใดที่เราสามารถกระทำได้โดยการซื้อหามา เพื่อได้รับความรอดจากพระเจ้า ทุกขั้นตอนแห่งกระบวนการความรอดนั้นล้วนแล้วแต่อยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้าทั้งสิ้น “เพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้ทรงทำการอยู่ภายในพวกท่าน ให้ท่านมีความประสงค์และมีความสามารถทำตามชอบพระทัยของพระองค์” (ฟิลิปปี 2:13)