1 / 105

อ.มนัสสินี บุญทำดี

765 203 หลักการมัคคุเทศก์. สัปดาห์ที่ 6. บทบาทของมัคคุเทศก์ต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว. อ.มนัสสินี บุญทำดี. 6. บทบาทของมัคคุเทศก์ต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว. 6.1 ธุรกิจนำเที่ยว 6.2 ธุรกิจขนส่ง 6.3 ธุรกิจที่พักแรม 6.4 ธุรกิจบริการอาหารและบันเทิง

shirin
Download Presentation

อ.มนัสสินี บุญทำดี

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. 765 203 หลักการมัคคุเทศก์ สัปดาห์ที่ 6 บทบาทของมัคคุเทศก์ต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อ.มนัสสินี บุญทำดี

  2. 6. บทบาทของมัคคุเทศก์ต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว • 6.1 ธุรกิจนำเที่ยว • 6.2 ธุรกิจขนส่ง • 6.3 ธุรกิจที่พักแรม • 6.4 ธุรกิจบริการอาหารและบันเทิง • 6.5 ธุรกิจสินค้าที่ระลึก • 6.6 ร้านค้าปลอดภาษี • 6.7 ธุรกิจบริการด้านการเงิน

  3. วัตถุประสงค์ • เมื่อศึกษาสัปดาห์ที่ 6 จบแล้ว นักศึกษาสามารถ • 1. อธิบายบทบาทของมัคคุเทศก์ต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้อง กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในด้านต่างๆ ได้

  4. ธุรกิจนำเที่ยว ตามความในพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ปี พ.ศ.2535 ได้ให้ความหมายของธุรกิจนำเที่ยวไว้ว่า คือ “การประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการจัดหรือการให้บริการ หรือการอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการเดินทาง สถานที่พัก อาหาร ทัศนาจร และหรือมัคคุเทศก์ให้แก่นักท่องเที่ยว” ทั้งนี้ธุรกิจนำเที่ยวจะมุ่งเน้นการนำเที่ยวในเชิงธุรกิจ มีการดำเนินการเป็นกิจการโดยมีผลตอบแทนในการดำเนินงาน

  5. 1. ประเภทของบริษัทนำเที่ยว ในกฎกระทรวง พ.ศ.2536 ได้แบ่งธุรกิจนำเที่ยวออกเป็น 3 ประเภทดังนี้ • 1.1 ธุรกิจนำเที่ยวเฉพาะพื้นที่ • 1.2 ธุรกิจนำเที่ยวในประเทศ • 1.3 ธุรกิจนำเที่ยวต่างประเทศ

  6. นอกจากประเภทของบริษัทนำเที่ยวในกฎกระทรวงปี พ.ศ. 2536 แล้ว ยังสามารถแบ่งประเภทของธุรกิจบริษัทนำเที่ยว ที่พบอยู่มากในลักษณะต่างๆ ดังนี้ • 1. บริษัทนำเที่ยวที่เน้นบริการนำเที่ยวแบบเหมาจ่าย (Package Tours) • 2. บริษัทนำเที่ยวที่มีความชำนาญพิเศษเฉพาะด้าน • 3. บริษัทนำเที่ยวภายในประเทศ • 4. บริษัทนำเที่ยวที่ให้บริการเฉพาะชาวต่างประเทศ

  7. 2. ประเภทของการจัดนำเที่ยว การแบ่งประเภทของการจัดนำเที่ยว อาจจัดแบ่งได้ดังนี้ (กุลวรา สุวรรณพิมล 2542 : 104-108) • 2.1 จัดแบ่งโดยทั่วๆ ไป (Generic Categories) ที่นิยมจัดกันมี 4 ประเภท คือ • 2.1.1 ทัวร์นำเที่ยวแบบเหมาจ่าย (A Package Tour) • 2.1.1.1 ทัวร์นำเที่ยวเหมาจ่ายอิสระ (Independent Package Tour) • 2.1.1.2 ทัวร์นำเที่ยวเหมาจ่ายพร้อมบริการ (A Hosted Tour) • 2.1.1.3 ทัวร์นำเที่ยวเหมาจ่ายพร้อม “มีเพื่อนเดินทาง” • (An Escorted Tour)

  8. 2.1.2 ทัวร์นำเที่ยวเฉพาะกลุ่ม หรือสมาชิกของหน่วยงาน องค์การ (An Affinity Tour) • 2.1.3 ทัวร์นำเที่ยวแบบเช่าเหมาเป็นกลุ่ม (A Charter Group) • 2.1.4 ทัวร์นำเที่ยวเป็นกลุ่ม (A Group Tour)

  9. 2.2 จัดแบ่งตามวัตถุประสงค์ของนักท่องเที่ยว (By Purpose Categories) ได้แก่ (Reilling 1991 :1-8) • - 2.2.1 ท่องเที่ยวเพื่อการศึกษา (Education Tour) • - 2.2.2 ท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ (Recreation Tour) • - 2.2.3 ท่องเที่ยวเพื่อศาสนา (Religious Tour) • - 2.2.4 ท่องเที่ยวเชิงวิทยาศาสตร์ (Scientific Tour) • - 2.2.5 ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพอนามัย (Health Tour) • - 2.2.6 ท่องเที่ยวเพื่อเล่นหรือชมการแข่งขันกีฬา (Spot Tour) • - 2.2.7 ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Ecotourism)

  10. 2.3 จัดแบ่งตามจุดหมายปลายทาง (Destination Categories) แบ่งได้ 4 ประเภท(การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 1993 : 1-5) คือ • - 2.3.1 ทัวร์นำเที่ยวชมเมือง (City Tour) • - 2.3.2 ทัวร์นำเที่ยวชมภูมิทัศน์ (Sight-Seeing Tour) • - 2.3.3 ทัวร์นำเที่ยวชมเมืองและชมภูมิทัศน์ • (City-Sight-Seeing Tour) • - 2.3.4 ทัวร์นำเที่ยวแหล่งบันเทิงยามราตรี (Night Tour)

  11. 2.4 จัดแบบตามรูปแบบการท่องเที่ยว (Mode of Travel Categories) มีหลายประเภทตามพัฒนาการในรูปแบบของการเดินทางท่องเที่ยว เช่น - 2.4.1 ทัวร์นำเที่ยวเดินป่า (Trecking) - 2.4.2 ทัวร์นำเที่ยวล่องเรือ (Boat trip) - 2.4.3 ทัวร์นำเที่ยวล่องเรือแคนู (Sea Canoe) - 2.4.4 ทัวร์นำเที่ยวดำน้ำ (Diving) - 2.4.5 ทัวร์นำเที่ยวล่องเรือสำราญ (Cruise) - 2.4.6 ทัวร์นำเที่ยวล่องแพ (Jungle Raft) - 2.4.7 ทัวร์นำเที่ยวล่องไพร (Safari)

  12. 2.5 จัดแบ่งตามระยะ (Timing Categories) จำแนกได้เป็น 3 ประเภท คือ • - 2.5.1 ทัวร์นำเที่ยวครึ่งวัน (Half-Day Tour) • - 2.5.2 ทัวร์นำเที่ยวเต็มวัน (All Day Tour) • - 2.5.3 ทัวร์นำเที่ยวมากกว่าหนึ่งวัน (Tour Around) • 2.6 จัดแบ่งตามระยะเวลา (Timing Categories) จำแนกได้เป็น 3 ประเภท คือ • - 2.6.1 ทัวร์นำเที่ยวระยะสั้น (Short-Haul Tour) • - 2.6.2 ทัวร์นำเที่ยวระยะยาว (Long-Haul Tour)

  13. 2.7 จัดแบ่งตามลักษณะการจัดรายการ (Tour Design Categories) มีอยู่ 2 ประเภท คือ • - 2.7.1 ทัวร์นำเที่ยวแบบสำเร็จรูป (Ready-Made Tour) • - 2.7.2 รายการนำเที่ยวตามประสงค์ (Tailor-Made Tour) • 2.8 จัดแบ่งตามลักษณะพฤติกรรมการซื้อ (Buying Behavior Categories) ปกติจะจัดแบ่งได้ 2 ประเภท คือ • - 2.8.1 ทัวร์นำเที่ยวเหมาจ่าย (Package Tour) • - 2.8.2 ทัวร์นำเที่ยวเสริมพิเศษ (Optional Tour)

  14. 3. การบริการของบริษัทนำเที่ยว • บริษัทนำเที่ยวอาจมีการจัดบริการหลัก ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวในเรื่องต่อไปนี้ • - บริการนำเที่ยว • - จัดรายการนำเที่ยว • - บริการจองตั๋วเดินทาง • - บริการรับจองโรงแรมหรือที่พักให้กับนักท่องเที่ยว • - บริการด้านการขนส่ง • บริการจองร้านอาหาร และบัตรเข้าชมการแสดง • บริการแลกเปลี่ยนเงิน • บริการติดต่อหาสถานศึกษาในต่างประเทศ • บริการจัดทำหนังสือเดินทางและวีซ่า • - บริการให้คำปรึกษา แนะนำการเดินทางท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยว

  15. ธุรกิจขนส่ง • ตามสารานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้ความหมายของการขนส่งไว้ว่า “ขน” หมายถึง การนำเอาของมากๆ จากที่หนึ่งไปไว้อีกที่หนึ่ง ส่วน “ส่ง” หมายถึง การยื่นให้ถึงมือ พาไปให้ถึงที่เมื่อรวมเป็นคำว่า “ขนส่ง” หมายถึง การนำไปและนำมาซึ่งขนมากๆ จากที่หนึ่งไปไว้อีกที่หนึ่ง หรืออีกความหมายหนึ่งคือ การใช้ยานพาหนะทางคมนาคมบรรทุกสิ่งของหรือสินค้าจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง

  16. การขนส่งผู้โดยสารแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ • การขนส่งผู้โดยสารทางรถยนต์ • การขนส่งผู้โดยสารทางรถไฟ • การขนส่งผู้โดยสารทางเรือ • การขนส่งผู้โดยสารทางเครื่องบิน

  17. 1. การขนส่งผู้โดยสารทางรถยนต์ • 1.1 เส้นทางถนน • 1) ทางหลวงหมายเลข 1 เป็นเส้นทางหลวงสายเหนือ ชื่อถนนพหลโยธิน • 2) ทางหลวงหมายเลข 2 เป็นเส้นทางหลวงสายตะวันออกเฉียงเหนือ ชื่อถนนมิตรภาพ • 3) ทางหลวงหมายเลข 3 เป็นเส้นทางหลวงสายตะวันออก ชื่อถนนสุขุมวิท • 4) ทางหลวงหมายเลข 4 เป็นเส้นทางหลวงสายใต้ ชื่อ ถนนเพชรเกษม

  18. ส่วนทางหลวงสายรองซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมโยงกับทางหลวงแผ่นดินนั้น กรมทางหลวงได้ใช้ตัวเลข 3 ตัวดังนี้ คือ • 1) ขึ้นต้นด้วยหมายเลข 1 เป็นทางหลวงสารรองอยู่ภาคเหนือ • 2) ขึ้นต้นด้วยหมายเลข 2 เป็นทางหลวงสายรองอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ • 3) ขึ้นต้นด้วยหมายเลข 3 เป็นทางหลวงสายรองอยู่ภาคกลาง, ตะวันตก, ตะวันออก • 4) ขึ้นต้นด้วยหมายเลข 4 เป็นทางหลวงสายรองอยู่ภาคใต้

  19. นอกจากนี้ยังมีทางหลวงจังหวัดซึ่งเป็นทางหลวงเชื่อมจังหวัดกับอำเภอ เชื่อมอำเภอกับอำเภอ เชื่อมอำเภอกับตำบล เพื่อให้สามารถเชื่อมติดต่อกับทางหลวงแผ่นดิน และทางหลวงสายรองโดยกรมทางหลวงกำหนดใช้ตัวเลข 4 ตัว ดังต่อไปนี้ คือ • 1) สายเหนือ ขึ้นต้นด้วยหมายเลข 1 • 2) สายอีสาน ขึ้นต้นด้วยหมายเลข 2 • 3) สายตะวันตก, กลาง, ตะวันออก ขึ้นต้นด้วยหมายเลข 3 • 4) สายใต้ ขึ้นต้นด้วยหมายเลข 4

  20. 1.2 สถานีขนส่งผู้โดยสาร • สายเหนือและอีสาน จะอยู่ที่หลับสวนจตุจักรบริเวณ กม. 11 เรียกว่า สถานีขนส่งหมอชิต (ใหม่) • สถานีขนส่งผู้โดยสารภาคกลาง (ฝั่งตะวันออก) และภาคตะวันออกจะอยู่ที่ถนนสุขุมวิท เรียกว่าสถานีขนส่งเอกมัย • สถานีขนส่งผู้โดยสารภาคกลาง (ฝั่งตะวันตก) ภาคตะวันตกและภาคใต้ อยู่บริเวณถนนบรมราชชนนี จะเรียกว่าสถานีขนส่งสายใต้ (ใหม่)

  21. เส้นทางหลวงสายเอเชียที่ผ่านประเทศไทยมีดังนี้เส้นทางหลวงสายเอเชียที่ผ่านประเทศไทยมีดังนี้ • 1) เส้นทางหลวงสายเอเชีย A-1 จากพม่าเข้ามาทางอำเภอแม่สอด สู่จังหวัดตาก, กำแพงเพชรไปอยุธยา นครนายกไปเชื่อมต่อกับทางหลวงในประเทศกัมพูชาที่อรัญประเทศจังหวัดสระแก้ว ต่อไปสิ้นสุดที่โฮจิมินห์ซิตี้ (ไซง่อน) • 2) เส้นทางหลวงสายเอเชีย A-2 จากพม่าเข้ามาสู่ประเทศไทยทางอำเภอแม่สาย ไปบรรจบกับถนนพหลโยธินที่จังหวัดตาก ต่อจากนั้นก็เข้าสู่กรุงเทพฯ ลงใต้ไปเชื่อต่อกับทางหลวงในประเทศมาเลเซียที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ต่อไปยังสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย

  22. ข้อดีของการเดินทางท่องเที่ยว โดยรถยนต์มีดังนี้ • 1. มีความคล่องตัวสะดวกรวดเร็วมีให้เลือกเดินทางได้มากมายหลากหลายเที่ยวหลากหลายผู้ประกอบการ • 2. เข้าถึงจุดหมายปลายทางในแหล่งท่องเที่ยวได้มากกว่า • 3. เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไม่มาก • 4. ได้เรียนรู้เส้นทางระหว่างเดินทางผ่าน • 5. มีเวลาเป็นอิสระมากกว่า • 6. สามารถให้บริการถึงที่ • 7. การขยายงานการดำเนินงานทำได้ง่าย • 8. การเลิกกิจการ เลิกเดินทางทำได้ง่ายและเสียหายน้อย • 9. ต้นทุนการขนส่งระยะสั้นต่ำ เนื่องจากมีต้นทุนคงที่ต่ำ

  23. ข้อเสียของการเดินทางท่องเที่ยว โดยรถยนต์มีดังนี้ • 1. ถ้าไปรถยนต์ส่วนตัว แบบไปคนเดียวอาจไม่คุ้มค่าน้ำมัน • 2. อาจต้องมีการเปลี่ยนคนขับถ้าเดินทางไกลๆ • 3. เกิดอุบัติเหตุง่ายเพราะมีผู้เดินทางแบบนี้เยอะ ความปลอดภัยยังควรต้องระวังโดยเฉพาะการเดินทางไปในที่ไม่คุ้นเคย • 4. สามารถขนส่งได้ปริมาณน้อย • 5. ต้นทุนระยะไกลสูง เนื่องจากมีต้นทุนแปรผันมาก ยิ่งขนส่งไกลค่าใช้จ่ายแปรผันก็จะเพิ่มขึ้น

  24. 2. การขนส่งผู้โดยสารทางรถไฟ แบ่งขบวนรถไฟจากการให้บริการออกเป็น 3 ประเภท คือ • 1) ขบวนรถธรรมดา เป็นขบวนรถไฟโดยสารที่จอดทุกสถานี • 2) ขบวนรถเร็ว เป็นขบวนรถไฟโดยสารที่จอดเฉพาะบางสถานี • 3) ขบวนรถด่วน เป็นขบวนรถไฟโดยสารที่จอดน้อยสถานี กว่าขบวนรถเร็ว

  25. ในขบวนรถไฟโดยสารทั้ง 3 ประเภท มีระดับชั้นในการให้บริการขนส่งผู้โดยสารอยู่หลายระดับชั้น เช่น บริการชั้นหนึ่ง ชั้นหนึ่งนั่งปรับอากาศ ชั้นหนึ่งนอนปรับอากาศ ชั้น 2 นั่ง ชั้น 2 นั่งปรับอากาศ ชั้น 2 นอนธรรมดา ชั้น 2 นอนปรับอากาศ และชั้น 3 เป็นต้น

  26. 2.1 เส้นทางรถไฟ แบ่งออกเป็น 2 ระบบ คือ • 1) เส้นทางรถไฟระบบทางเดียว (Single Line) เป็นเส้นทางรถไฟที่สร้างให้ขบวนรถไฟวิ่งได้ขบวนเดียว • 2) เส้นทางรถไฟระบบทางคู่ (Double Line) เป็นเส้นทางรถไฟที่สร้างคู่กันไปให้ขบวนรถไฟโดยสารวิ่งสวนทางกันได้ตลอดเวลา

  27. 2.2 สถานีรถไฟ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ • 1) สถานีรถไฟต้นทางปลายทาง เป็นสถานีรถไฟต้นทาง หรือปลายทางของเส้นทางบริการที่กำหนดให้ • 2) สถานีรถไฟชุมทาง เป็นสถานีรถไฟที่มีเส้นทางรถไฟจากหลายเส้นทางมาบรรจบกัน เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถต่อรถไฟอีกขบวนหนึ่ง ไปยังเส้นทางที่ต้องการได้ • 3) สถานีรถไฟรายทาง เป็นสถานีรถไฟระหว่างทางของเส้นทางที่ให้บริการ

  28. ข้อดีของการประกอบการและการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟคือข้อดีของการประกอบการและการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟคือ • 1. มีความปลอดภัยสูงเพราะมีทางวิ่งของตนเองเฉพาะ • 2. ได้สัมผัสบรรยากาศระหว่างทางได้มากกว่า • 3. เหมาะสมกับการขนส่งระยะปานกลาง-ระยะไกลเพราะต้นทุนเชื้อเพลิงขับเคลื่อนต่ำ • 4. สามารถปรับตัวตามปริมาณขนส่งได้ง่าย สามารถเพิ่มหรือลดตู้รถพ่วงได้ตามความต้องการสามารถให้บริการขนส่งได้คราวละมากๆ

  29. ข้อเสียของการประกอบการและการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟข้อเสียของการประกอบการและการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟ • 1. อาจล่าช้ามีความคล่องตัวน้อย • 2. เข้าถึงจุดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้น้อย • 3. มีข้อจำกัดในเรื่องขบวน จำนวนที่นั่งต้องจองล่วงหน้าหลายวัน • 4. การบริการขนส่งระยะใกล้ต้องเสียค่าต้นทุนสูง • 5. เป็นกิจการที่ต้องลงทุนมา • 6. ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเส้นทางในการให้บริการได้ • 7. หากเลิกกิจการจะเสียหายมากเนื่องจากเครื่องไม้เครื่องมือมี คุณสมบัติเฉพาะ เมื่อเลิกกิจการเครื่องมือเหล่านั้นจะขายได้ ในราคาต่ำมาก

  30. 3. การขนส่งผู้โดยสารทางเรือ • 3.1 เรือโดยสาร แบ่งประเภทออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ 1) เรือกลไฟ 2) เรือสำราญ 3) เรือความเร็วสูง

  31. 3.2 เส้นทางเดินเรือ แบ่งเส้นทางเดินเรือออกเป็น 3 ประเภท คือ • 1) เส้นทางเดินเรือน่านน้ำภายในประเทศ • 2) เส้นทางเดินเรือทะเลชายฝั่ง • 3) เส้นทางเดินเรือระหว่างประเทศ

  32. 3.3 ท่าเรือ หน้าที่สำคัญมี 2 ประการ คือ • 1) หน้าที่ในการให้บริการแก่ผู้โดยสาร ได้แก่ การให้บริการด้านที่พักผู้โดยสาร การตรวจคนเข้าเมือง และงานด้านศุลกากร เป็นต้น • 2) หน้าที่ในการให้บริการแก่เรือโดยสาร ได้แก่ การให้บริการนำร่องและเรือลากจูงเสบียงอาหาร น้ำมันเชื้อเพลิงและซ่อมเรือ เป็นต้น

  33. ท่าเรือที่ดีควรประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ดังนี้ • - ท่าเทียบเรือโดยสาร • - อาณาเขตทอดจอดเรือโดยสาร • - บริการนำร่องและเรือลากจูง • - บริการน้ำจืดและน้ำมันเชื้อเพลิง • - บริการซ่อมและบำรุงรักษาเรือ • - อาคารผู้โดยสาร • - การศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง • - มีทางถนนหรือทางรถไฟที่จะนำผู้โดยสารเข้าออกท่าเรือ • - บริการด้านอื่นๆ เช่น สโมสร ที่พักแรมในราคาถูก เป็นต้น

  34. ข้อดีของการประกอบการและการเดินทางท่องเที่ยวทางเรือข้อดีของการประกอบการและการเดินทางท่องเที่ยวทางเรือ • 1. ได้รับความแปลกใหม่สัมผัสธรรมชาติทางทะเลอย่างใกล้ชิด • 2. ต้นทุนการดำเนินงานต่ำ เนื่องจากรัฐเป็นผู้จ่ายค่าบำรุงรักษาปรับปรุงเส้นทางให้ • 3. ประหยัดน้ำมันเพราะการขนส่งทางเรือจะมีกระแสน้ำช่วยพัดพาเรือไปด้วย • 4. อัตราค่าขนส่งถูกเนื่องจากเหตุผลในข้อ 2-3 • 5. จะขนส่งได้ปริมาณมากๆ ถ้าเป็นเรือขนาดใหญ่

  35. ข้อเสียของการประกอบการและการเดินทางท่องเที่ยวทางเรือ • 1. มีข้อจำกัด และข้อปฏิบัติมากกว่าการเดินทางโดยวิธีอื่นๆ • 2. ไม่สามารถเดินทางได้ถ้าคลื่นลมแปรปรวนฝนตก หรือน้ำแห้ง • 3. มีความล่าช้ากว่าการขนส่งประเภทอื่นๆ ทำให้เสียเวลาเดินทางมาก • 4. การบริการมีลักษณะเป็นฤดูกาล เช่น ทางยุโรปที่ให้บริการได้ในเดือนที่น้ำไม่แข็งตัว • 5. การขนส่งทางเรือมักต้องมาจากการขนส่งทางอื่นก่อน

  36. 4. การขนส่งผู้โดยสารทางเครื่องบิน • 4.1 เครื่องบินโดยสาร แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1) เครื่องบินโดยสารใบพัด 2) เครื่องบินโดยสารไอพ่น 3) เครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียง

  37. 4.2 เส้นทางบิน แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ • 1) เส้นทางบินภายในประเทศ เป็นเส้นทางบินติดต่อระหว่างเมืองต่างๆ ภายในประเทศนั้นๆ • 2) เส้นทางบินระหว่างประเทศ เป็นเส้นทางบินติดต่อระหว่างเมืองต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งมีเส้นทางบินระหว่างประเทศที่สำคัญของโลกอยู่ 5 เส้นทาง คือ เส้นทางแอตแลนติคเหนือ เส้นทางตะวันออกไกล เส้นทางตะวันออกไกล เส้นทางอาฟริกา เส้นทางแปซิฟิกใต้ และเส้นทางภายในทวีปยุโรป

  38. 4.3 ท่าอากาศยาน มีหน้าที่สำคัญอยู่ 2 ประการ คือ • 1) หน้าที่ในการให้บริการแก่ผู้โดยสาร • 2) หน้าที่ในการให้บริการแก่เครื่องบินโดยสาร

  39. ท่าอากาศยานจึงต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญ คือ • ทางวิ่งและทางขับ ซึ่งเป็นทางที่ให้เครื่องบินขึ้นลงอย่างปลอดภัย • อาคารสถานี เป็นพื้นที่ที่ให้บริการและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร • ลานจอดเครื่องบิน เป็นบริเวณที่ให้เครื่องบินจอดเพื่อรอรับบริการ • ทางเข้าออกระหว่างท่าอากาศยานกับตัวเมือง เป็นเส้นทางในการเข้าออกระหว่างท่าอากาศยานกับตัวเมือง

  40. 4.4 สนามบินในประเทศไทย • ในปี พ.ศ. 2543 ประเทศไทยมีสนามบินรวมทั้งหมด 34 แห่ง จำแนกเป็นสนามบินนานาชาติ 5 แห่ง สนามบินพาณิชย์กระจายตามจังหวัดสำคัญต่างๆ อีก 29 แห่ง ดังนี้ • สนามบินนานาชาติ 5 แห่ง คือ สนามบินกรุงเทพ เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ และอู่ตะเภา

  41. สนามบินพาณิชย์ 29 แห่ง แบ่งตามภูมิภาคดังนี้ • ภาคเหนือ 10 แห่ง ประกอบด้วย สนามบินเชียงราย ลำปาง แม่ฮ่องสอน น่าน พิษณุโลก แพร่ ตาก แม่สอด สุโขทัย และเพชรบูรณ์ • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 แห่ง ประกอบด้วย สนามบินขอนแก่น สกลนคร เลย นครพนม อุบลราชธานี อุดรธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ และร้อยเอ็ด • ภาคใต้ 10 แห่ง ประกอบด้วย สนามบินหัวหิน ระนอง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี สุราษฎร์ธานี ตรัง เกาะสมุย กระบี่ และชุมพร

  42. ข้อดีของการประกอบการและการเดินทางท่องเที่ยวทางเครื่องบินข้อดีของการประกอบการและการเดินทางท่องเที่ยวทางเครื่องบิน • 1. มีความเร็วสูง เป็นลักษณะเด่นสุดของการขนส่งทางเครื่องบินทำให้ถึงที่หมายรวดเร็ว ลดเวลาในการเดินทาง • 2. สามารถเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินได้ง่าย หากมีผู้โดยสารที่จะใช้บริการมากเพียงพอก็สามารถเพิ่มเที่ยวบินโดยใช้ความเร็วของเครื่องบินเข้าช่วย ทำให้ผู้โดยสารสามารถเลือกเวลาในการเดินทางได้มากขึ้น

  43. ข้อเสียของการเดินทางท่องเที่ยวของเครื่องบิน • 1. ต้องลงทุนไม่รู้จักจบสิ้นเป็นเงินจำนวนมาก จากการมีการเปลี่ยนแปลงแบบของอากาศยาน และการควบคุมการจราจรทางอากาศ • 2. เทคนิคด้านการบินยุ่งยากซับซ้อนมาก • 3. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูง • 4. อัตราค่าโดยสารสูงเนื่องจาก เหตุผลข้อ 1-3 • 5. การบินต้องขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ • 6. ความปลอดภัยมีน้อยหากเครื่องยนต์ขัดข้อง • 7. การเข้าสู่วงการธุรกิจการบินทำได้ยาก เพราะมีอุปสรรคทางการเมืองระหว่างประเทศและการควบคุมของรัฐบาลเข้ามาเกี่ยวข้อง

  44. 5. การขนส่งผู้โดยสารระหว่างเมือง ในประเทศไทยในแต่ละประเภทดังนี้ • 5.1 การขนส่งผู้โดยสารทางรถยนต์ระหว่างเมือง แบ่งตามลักษณะของตัวรถได้ 4 ประเภท คือ • รถโดยสารมาตรฐาน 3 เป็นรถยนต์โดยสารธรรมดาติดพัดลม • รถโดยสารมาตรฐาน 2 เป็นรถยนต์โดยสารปรับอากาศที่ไม่มีห้องสุขภัณฑ์ ไม่มีพนักงานต้อนรับบนรถ • รถโดยสารมาตรฐาน 1 เป็นรถยนต์โดยสารปรับอากาศที่มีห้องสุขภัณฑ์ พร้อมพนักงานต้อนรับบนรถ อีกทั้งมีบริการอาหาร • รถโดยสารมาตรฐานพิเศษ เป็นรถยนต์โดยสารมาตรฐาน 1 ที่ลดจำนวนที่นั่งลงเหลือเพียงคันละ 24-32 ที่นั่ง เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถปรับเอนนอนได้เต็มที่

  45. 5.2 การขนส่งผู้โดยสารทางรถไฟระหว่างเมือง จำแนกตามลักษณะเป็นภาคได้ดังนี้ • 1) สายเหนือ • 2) สายตะวันออกเฉียงเหนือ • 3) สายตะวันออก • 4) สายใต้ • 5) สายตะวันตก • 6) สายแม่กลอง

  46. การรถไฟแห่งประเทศไทยได้จัดขบวนรถโดยสารบริการขนส่งผู้โดยสารระหว่างเมืองไว้ 4 ประเภท คือ • ประเภทที่ 1 ขบวนรถด่วน (Express Trains) สำหรับให้บริการผู้โดยสารชั้นที่ 1 และ 2 • ประเภทที่ 2 ขบวนรถเร็ว (Rapid Trains) ปัจจุบันจะให้บริการผู้โดยสารชั้นที่ 2 และ ชั้นที่ 3 เท่านั้น • ประเภทที่ 3 ขบวนรถธรรมดา (Ord inary Trains) โดยทั่วไปจะบริการผู้โดยสารชั้นที่ 3 เท่านั้น • ประเภทที่ 4 ขบวนรถดีเซลราง ซึ่งเป็นขบวนรถที่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองไม่ต้องมีหัวรถจักรลากจูง

  47. 5.3 การขนส่งผู้โดยสารทางเรือระหว่างเมือง รูปแบบต่างๆ ให้การบริการดังต่อไปนี้ • 1) การขนส่งผู้โดยสารด้วยเรือสำราญ • 2) การขนส่งผู้โดยสารด้วยเรือเฟอร์รี่ • 3) การขนส่งผู้โดยสารด้วยเรือความเร็วสูงมาก

  48. 5.4 การขนส่งผู้โดยสารทางเครื่องบินระหว่างเมืองการขนส่งผู้โดยสารทางเครื่องบินระหว่างเมืองตกอยู่ในระบบเศรษฐกิจแบบผูกขาด โดยมีบริษัทการบินไทย จำกัด (บกท.) ให้บริการเป็นประจำมี 3 เส้นทาง คือ • 1. สายเหนือทำการบินระหว่างกรุงเทพฯ-พิษณุโลก-ตาก-แม่สอด-แพร่-น่าน-ลำปาง-เชียงใหม่-เชียงราย-แม่ฮ่องสอน • 2. สายตะวันออกเฉียงเหนือ ทำการบินระหว่างกรุงเทพฯ-นครราชสีมา-ขอนแก่น-อุดรธานี-อุบลราชธานี-สกลนคร-เลย • 3. สายใต้ ทำการบินระหว่างกรุงเทพฯ-ภูเก็ต-หาดใหญ่-สุราษฎร์ธานี-ตรัง-ปัตตานี-นราธิวาส-นครศรีธรรมราช

  49. 6. การขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศ • 6.1 การขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศทางเรือ • 6.2 การขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศทางเครื่องบิน 1) เส้นทางการบินภูมิภาค แบ่งออกเป็น 3 สาย คือ • สายเหนือ บริการบินไปยังฮ่องกง มะลิลา ไทเป โอซากา นาโกย่า คุนหมิง เบญจิมินจ์ เวียดนาม ฮานอย โซล และปักกิ่ง - สายใต้ บริการบินไปยังปีนัง กัวลาลัมเปอร์ สิงคโปร์ จาการ์ตา บันดาสารีเบกาวัน โกตาคินาบาลู และบรูไน • สายตะวันออกกลางหรือสายตะวันตก บริการบินไปยังร่างกุ้ง ดัคคา กัลกาตา กาฎมัณฑุ เดลฮีโคลัมโบ การาจี ดาร์ราน ริยาด คูเวต แบกแดด มัสแกต และ ไคโร

  50. 2) เส้นทางบินข้ามทวีป แบ่งออกเป็น 3 สาย คือ - สายยุโรป บริการบินไปยังเอเธนส์ โรม เมดริด ปารีส ลอนดอน บรัสเซล อัมสเตอร์ดัม ซูริค มิวนิค เวียนนา แฟรงเฟิร์ต โคเปนเฮเกน มอสโคว์ และสต็อกโฮล์ม - สายออสเตรเลีย บริการบินไปยังเมลเบอร์น บริสเบน ซิดนีย์ เพิร์ธ และโอ๊คแลนด์ - สายอเมริกา บริการบินไปยังซีแอตเติล ดัลลัส ลอสเองเจลลิส และโตรอนโต

More Related