1 / 29

ชื่อพืช : เสน่ห์จันทร์แดง ชื่อวิทยาศาสตร์ : Homalomena rubescens Kunth .

ชื่อพืช : เสน่ห์จันทร์แดง ชื่อวิทยาศาสตร์ : Homalomena rubescens Kunth .

sai
Download Presentation

ชื่อพืช : เสน่ห์จันทร์แดง ชื่อวิทยาศาสตร์ : Homalomena rubescens Kunth .

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ชื่อพืช : เสน่ห์จันทร์แดง ชื่อวิทยาศาสตร์: HomalomenarubescensKunth. ลักษณะทั่วไป : ไม้ล้มลุกมีหัวใต้ดิน ใบเดี่ยวสีเขียวรูปหัวใจ ปลายใบแหลม โคนใบเว้าลึก เส้นใบสีแดง ออกดอกเป็นช่อตรงกลางต้น ดอกเป็นแท่งกลมยาวประมาณ 3-4 นิ้วมีกาบสีแดงห่อหุ้มขยายพันธุ์โดยการปักชำหรือแยกหัวสรรพคุณ : ใบใช้รักษาแผล หัวใช้ทาภายนอกแก้โรคไขข้ออักเสบ

  2. ชื่อพืช : เล็บครุฑกระจก ชื่อวิทยาศาสตร์ : Polyscias scutellaria (Burm.f.) Fosb. ลักษณะทั่วไป : ไม้พุ่มขนาดเล็ก ขนาดทรงพุ่ม 1-1.5 เมตร สูง 0.9-1 เมตร ลำต้นเป็นข้อส่วนยอดมีสีเขียว ลำต้นแก่สีน้ำตาลอ่อนมีจุดสีเข้มประทั่วไป ก้านใบ สีเขียวอ่อนมีลายสีน้ำตาลไหม้ใบเป็นใบรวมมี 3 ใบย่อย ลักษณะกลมคล้ายใบบัวบก สีเขียวมีด่างสีขาวที่ขอบใบขอบใบหยัก ดอกสีขาวขนาดเล็ก ปลูกในที่สภาพแดด ร่มรำไร-เต็มวันขยายพันธุ์โดยการปักชำ

  3. ชื่อพืช : ข่อย ชื่อวิทยาศาสตร์ : StreblusasperLour. ลักษณะทั่วไป : ทรงพุ่มรูปไข่ขนาดทรงพุ่ม 5-6 เมตร ลำต้นสีเทาขรุขระใบสีเขียวหนาสากมือ ดอกตัวเมียสีขาว- เหลืองอ่อนดอกตัวผู้สีเขียวอ่อน ออกดอกเกือบตลอดปี ชอบแดดเต็มวัน สรรพคุณ :เปลือกแก้ท้องร่วงระมะนาด บำรุงธาตุเจริญอาหาร ขับลม เป็นยาอายุวัฒนะ ยางใช้กำจัดแมลง เนื้อไม้ใช้ทำ กระดาษทำเป็นสมุดเรียกว่าสมุดไทยหรือสมุดข่อย ใช้กิ่งสีฟัน ทำให้ฟันทน ใบสดนำมาปิ้งชงดื่มเป็นยาระบายอ่อนๆ ขยายพันธุ์โดยการปักชำ

  4. ชื่อพืช : หนวดปลาดุก ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ophiopogonjaponicus(L.f.) Ker-Gawl. ลักษณะทั่วไป :รูปทรงแตกกอขนาดทรงพุ่ม 0.1 เมตร มีไหลใต้ ดิน ลำต้นสีเขียว ใบเป็นเส้นเล็กๆ แบนยาว สีเขียวเข้มดอกสี ขาวออกดอกช่วงฤดูร้อน ชอบแดดร่มรำไรหนวดปลาดุกเป็นไม้ คลุมดิน โตค่อนข้างช้าสามารถปลูกแทนหญ้าในบริเวณร่มเงาจัด ได้อยู่ได้ทั้งในที่แจ้งและที่ร่มรำไรเป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในญี่ปุ่น และเกาหลี ขยายพันธุ์ด้วยการแยกกอ หนวดปลาดุกยังมีต้น แคระเรียกว่า แคระเกียวโต (Kyoto Dwarf)ใบสั้นกว่ากอ เล็กกว่าพบในเขตอบอุ่นของญี่ปุ่น แต่หนวดปลาดุกชนิดแรกให้ ความรู้สึกที่นุ่มนวลกว่า

  5. ชื่อพืช : หมากเหลือง ชื่อวิทยาศาสตร์ : Chrysalidocarpuslutescens(Bory) ลักษณะทั่วไป :ปาล์มแตกกอ สูงได้ถึง 8 เมตร ลำต้นขนาด 4-8 ซม. ลำต้นมีผิวเรียบสีเหลืองส้มจนถึงเขียวมีข้อเห็นได้ชัดเจน ใบประกอบแบบขนนกเรียงสลับ ใบย่อยรูปขอบขนาน กว้าง 1-2 ซม. ยาวประมาณ 60 ซม. ปลายใบเรียวแหลมโคนใบรูปลิ่มแผ่นใบสีเขียว อ่อน กาบใบสีเหลืองจนถึงทางใบ ดอกสีขาวมีกลิ่นหอมออกเป็นช่อ แบบช่อแยกแขนงระหว่างกาบใบ ดอกแยกเพศอยู่ต่างต้น ช่อดอก ยาวประมาณ 1 ม.ผลสดแบบมีเนื้อเมล็ดเดียว ติดผลจำนวนมากผล กลมรีขนาดประมาณ 1.5 ซม.ผลแก่สีเหลืองส้มและเปลี่ยนเป็นสีม่วง แก่เกือบดำ ทรงพุ่มสวย ปลูกในกระถางประดับในอาคาร หรือปลูก เป็นฉากกั้นมุมอาคาร ปลูกริมทะเลได้

  6. ชื่อพืช : เศรษฐีเรือนนอก ชื่อวิทยาศาสตร์ : Chlorophylumbichetii(Karrer) Backer ลักษณะทั่วไป :ไม้คลุมดินสูง 20-30 ซม.ลำต้นเป็นเหง้าสั้นอยู่ใต้ผิวดิน แตกใบขึ้นเป็นพุ่ม รากมักมีตุ่มสีขาวสำหรับเก็บสะสมอาหารและน้ำ ใบเดี่ยวเรียงเวียนสลับแน่นใบรูปขอบขนานกว้าง 0.8-1.6 ซม.ยาว 10- 20 ซม. ปลายใบแหลมโคนใบแผ่เป็นกาบหุ้มลำต้นขอบใบเรียบ ผิวใบ ด้านบนสีเขียวเป็นมันมีแถบสีขาวครีมบริเวณขอบใบ ดอกสีขาวมีกลิ่นหอม อ่อนๆเหมาะสำหรับนำมาจัดสวนหิน สวนญี่ปุ่น สวนถาด และสวนทั่วๆไป ที่มีสภาพแสงร่ม-รำไร

  7. ชื่อพืช : คล้าซิการ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Calathealutea(Aubl.) Mey. ลักษณะทั่วไป :ลำต้นแตกเป็นกอมีเหง้าอยู่ใต้ดิน สูง 2-5 เมตร ใบรูปไข่หรือรูปไข่กลับ กว้าง 25-30 ซม. ยาว 30-50 ซม. แผ่นใบ ค่อนข้างหนาใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน เส้นกลางใบสีเขียวอ่อน ใต้ใบสีเขียวอมเทา มีนวลสีขาวปกคลุม ปลายใบแหลมโคนใบป้าน ขอบใบเรียบก้านใบกลมสีเขียว ยาว 50-70 ซม.โคนต้นสีเขียว เหลือบน้ำตาล มีกาบใบแผ่คลุมลำต้น ดอกเป็นช่อยาว 10-13 ซม. ออกจากซอกกาบใบก้านช่อดอกยาว 5-6 ซม. กาบรองดอกสีน้ำตาล เหลือบสีเขียวอ่อน ปลายกาบมีติ่งแหลม แต่ละกาบเรียงซ้อนเป็นวง ดอกย่อยสีเหลืองยาว 1.5 ซม.ยื่นออกจากกาบรองดอก นิยมตัดดอกมา จัดแจกันเนื่องจากมีสีสวยแปลกตา

  8. ชื่อพืช:ปัตตาเวีย ชื่อวิทยาศาสตร์ :Jatropha integerrima L.ลักษณะทั่วไป:ไม้พุ่มขนาดเล็กสูง 1.5-2 ม. ทรงพุ่มค่อนข้างสูงโปร่งเปลือกสีน้ำตาลเข้มใบเดี่ยวเรียงสลับใบรูปรีถึงรูปไข่ กว้าง 4-6 ซม. 10-12 ซม.ปลายใบแหลมเรียวยาวโคนใบมน ขอบใบเรียบผิวใบด้านบนสีเขียวเข้ม ผิวใบด้านล่างสีเขียวอมแดง ดอกสีแดง ชมพู ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกตามซอกใบที่ปลายกิ่ง โคนกลีบดอกเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็น 5 แฉก ดอกทยอยบานดอกบานเต็มที่กว้าง 2.5-3 ซม.ผลแห้งแตก รูปไข่ เมื่อสุกสีแดงสด ปลูกเป็นต้นเดี่ยว หรือปลูกเป็นกลุ่ม ริมทางเดิน ไม่ทนน้ำท่วมขัง

  9. ชื่อพืช :กระดาดเขียว ชื่อวิทยาศาสตร์ : Alocasiamacrorrhiza(L.) G.Don ลักษณะทั่วไป :ไม้ล้มลุก มีเหง้าทอดไปตามพื้นดิน ลำต้นตั้งตรง สูงได้ถึง 2 ม.ใบเดี่ยวรูป ไข่แกมรูปหัวใจกว้าง 20-40 ซม. ยาว 30-75 ซม. ปลายแหลม โคนเว้าลึก แคบ ขอบเรียบ หรือเป็นคลื่นเส้นแขนงใบข้างละ 5-7 เส้น ก้านใบใหญ่ ยาว 0.4-1.2 ม. ช่อดอกเป็นแท่ง ยาวปลายแหลม ยาว 11-23 ซม. ก้านช่อดอกเล็ก ยาว 25-50 ซม. ดอกมีกาบสีเหลืองอม เขียวหุ้มส่วนโคนของกาบโอบรอบโคนช่อ ช่อดอกประกอบด้วยดอกเพศเมียอยู่บริเวณโคนช่อ ส่วนบนเป็นดอกเพศผู้ผลกลมเมื่อสุกสีแดง เนื้อนุ่ม มีเมล็ดแข็ง 1 เมล็ด เติบโตในที่ชื้นมีแดด รำไร สรรพคุณ : เหง้าใช้เป็นยาระบายขับปัสสาวะ เป็นยาถ่าย ใช้ใส่แกง เหง้าต้มสุกทานได้ ไหลใช้กินเพื่อขับพยาธิ ต้นต้มแล้วกินเป็นยาระบายอ่อนๆ ใบใช้เป็นยาฝาดสมานห้ามเลือด ยาต้มจากใบใช้แก้ท้องผูก ความเป็นพิษ : ต้นกระดาดมีสารพวกเรซิน และ protoanemonineซึ่งเป็นพิษ และมี calcium oxalate มาก มีฤทธิ์ทำให้ผิวหนังบวมแดงและทำให้ระคายเคือง ต่อระบบทางเดินอาหาร ความเป็นเช่นเดียวกับในพืชสกุลสาวน้อยประแป้ง (Dieffenbachia) และ ฟิโลเดนดรอน(Philodendron)

  10. ชื่อพืช:วาสนา ชื่อวิทยาศาสตร์:Dracaena fragrans Ker-Gawl. ลักษณะทั่วไป:ไม้พุ่มขนาดกลางถึงใหญ่ลำต้นสีน้ำตาลอมเทาแตกกิ่งแขนง ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับถี่ที่ปลายยอด ใบรูปขอบขนานถึงรูปใบหอก กว้าง 6-10 ซม.ยาว 30-90 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบสอบเรียว ขอบใบเรียบ แผ่นใบค่อนข้าง หนาสีเขียวหรือมีลายสีเหลืองหรือสีขาวอมเขียวสลับตามยาวปลายใบมักจะอ่อนโค้งลง ผิวเป็น มัน ก้านใบเป็นกาบหุ้มลำต้นดอกสีชมพูอ่อนถึงขาวมีกลิ่นหอมแรงออกเป็นช่อแบบช่อแยก แขนงตามซอกใบที่ปลายต้น ช่อดอกยาว 45-50 ซม.ใบประดับแห้งสีขาวมีดอกย่อยจำนวน มาก โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยก 6 กลีบบานกลางคืนโดยบานเกือบพร้อม กันทั้งช่อดอกบานเต็มที่กว้าง 1ซม. ผลสดทรงกลมถึงรี สีแดง ส้ม เหลือง มีเมล็ด 1-3 เมล็ด สีขาวถึงน้ำตาลปลูกเป็นไม้กระถางประดับในอาคารหรือปลูกลงแปลง ริมทะเล ใบสวยงาม ดอกมีกลิ่นหอมช่วงเย็น ทนร่มได้ดี ถ้าแดดจัดใบจะเหลืองหรือไหม้ ไม่ทนน้ำท่วมขัง

  11. ชื่อพืช :เดหลีใบเล็ก ชื่อวิทยาศาสตร์ :Spathiphyllumsp. ลักษณะทั่วไป :ไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 50-70 ซม. มีเหง้าใต้ดิน แตกกอทุกส่วนมีน้ำยางใสใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับรูปรีแกมรูปขอบขนาน ยาว 25-30 ซม. ก้านใบยาว กาบใบมีปีก ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบเป็นคลื่น เล็กน้อย ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมันและเป็นร่องตามแนวเส้นใบชัดเจน อัตราการ เจริญเติบโตปานกลาง ความชื้นสูงแสงปานกลาง-รำไรดอกสีขาว บางพันธุ์มีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดปีดอกเป็นช่อแบบช่อเชิงลดที่ปลายกิ่ง มีจานรองดอกสีขาวรูปไข่โค้งงอ เล็กน้อย ปลายเรียวแหลมด้านหลังอาจมีสีเขียวปนบ้าง ดอกย่อยมีขนาดเล็กมีกลีบดอก 6 กลีบ โคนกลีบดอกเชื่อมติดกัน ผลสดมีเนื้อ มีเมล็ดจำนวนมากขยายพันธุ์โดยการเพาะ เมล็ดและแยกกอ

  12. ชื่อพืช:ไผ่เลี้ยง ชื่อวิทยาศาสตร์:Bambusa multiplex (Lour.) Rausch. (Syn. B. nana Roxb.) ลักษณะทั่วไป:พืชล้มลุกอายุหลายปีสูงได้ถึง 15ม.เป็นไม้พุ่มเป็นกอลำต้นตั้งตรง กลมเป็นทรงกระบอกกลวง ขนาด 1-4.5 ซม.ผิวเกลี้ยงสีเขียว ไม่มีหนาม เนื้อแข็ง มีข้อปล้องชัดเจน แต่ละปล้องยาว 20-30 ซม.มีเหง้าใต้ดินสั้น ใบเดี่ยว เรียงสลับ 2 แถว ใบรูปหอก กว้าง 0.5-1.5ซม. ยาว 2.5-15 ซม. ปลายใบแหลมโคนใบสอบ ขอบใบเรียบคมแผ่นใบสีเขียว มีกาบหุ้มลำต้นหนาแข็งไม่แนบชิดลำต้น หลุดร่วงไปเมื่อแก่ ยอดกาบหนาแข็งมักมีขนคายทางด้านในมีติ่งกาบเห็นชัดเจน ตอนปลายกาบตรงที่ต่อกับใบจะมีลิ้นใบ ทรงพุ่มสวย ปลูกเป็นฉากหลังบังสายตาเป็นแนวรั้ว กันลม ปลูกตามแนวทางเดินหรือถนนขนาดเล็กในสวนสาธารณะหรือรีสอร์ท ใช้ทำกระดาษ ทำเครื่องจักสานทำบันได โป๊ะ แม่บันได และทำเฟอร์นิเจอร์ หน่อนำมาปรุงอาหารได้หลายวิธี เช่น นำมาแกง ต้ม ผัดและดองใส่น้ำพริก ยำหน่อไม้ ลำต้นเรียวเหมาะสำหรับทำคันเบ็ดได้

  13. ชื่อพืช:คล้ามรกต ชื่อวิทยาศาสตร์:Calathea albertii (Pynaet & Van Geert) L. H. Bail. ลักษณะทั่วไป:ต้นสูง 40-60 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม 50-70 ซม. ใบรูปไข่ กว้าง 7-9 ซม.ยาว 24-26 ซม. ปลายใบเรียวแหลมขอบใบเป็นคลื่นสีเขียวเป็นมัน กึ่งกลางใบมีแถบหยักคล้ายหางปลาสีเขียวอมขาว ใต้ใบสีเขียวเหลือบม่วงแดง ก้านใบกลมเรียวเล็ก สีเขียว ยาว 28-35 ซม.รอยต่อกับแผ่นใบสีน้ำตาลแดง ดอก เป็นช่อแบบ spike ยาว 5.5-6 ซม. ก้านช่อดอกกลม สีเขียว ยาว 6-10 ซม. มี กาบรองดอกโค้งงอ ปลายแหลม เรียงสลับกันจำนวน 6-8 กาบ สีเขียวอ่อนดอกย่อย มีขนาดประมาณ 1 ซม. สีขาวนวล

  14. ชื่อพืช :โมก ชื่อวิทยาศาสตร์ : Wrightia religiosa Benth. ลักษณะทั่วไป :ทรงพุ่มรูปทรงแจกัน ขนาดทรงพุ่ม 1.5 เมตร สูง 4-5 เมตร ลำต้นสีน้ำตาลดำ มีจุดขาวเล็กๆ ใบสีเขียว ทิ้งใบในฤดูหนาว ดอกสีขาวมีทั้งดอกลาและดอกซ้อนมีกลิ่น หอม ปลูกในที่แสงแดดรำไรถึงเต็มวัน

  15. ชื่อพืช: สัก ชื่อวิทยาศาสตร์:TectonagrandisL.f. ลักษณะทั่วไป:ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ผลัดใบในฤดูร้อนลำต้นเปลาตรงเปลือกเรียบหรือแตกเป็น ร่องเล็กๆ สีเทา โคนเป็นพูพอนต่ำๆเรือนยอดเป็นพุ่มทรงกลมค่อนข้างทึบ ใบเดี่ยวใหญ่มาก ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ปลายใบแหลมโคนใบมน ยาว 25-30 ซม. กว้างเกือบเท่ายาว ผิวใบมี ขนสากคายสีเขียวเข้ม ขยี้ใบสดจะมีสีแดงเหมือนเลือด ดอกขนาดเล็กสาวนวลออกเป็นช่อ ตามปลายกิ่ง ผลแห้งค่อนข้างกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. เปลือกแข็ง ภายในมี 1-3เมล็ด เนื้อไม้มีลายสวยงามทนทาน ใช้ทำเครื่องเรือนและก่อสร้างบ้านเรือน ปลอกมอด ไม่ชอบทำลายเพราะเนื้อไม้มีสารพวกเตดโตรควิโนน

  16. ชื่อพืช: หมากเขียว ชื่อวิทยาศาสตร์:Ptychosperma macarthurii H.A. ลักษณะทั่วไป:ปาล์มแตกกอสูง 2-3 ม. ลำต้นขนาด 4-8 ซม. ลำต้นเรียบสีเทาอ่อนหรือ สีน้ำตาลปนเทา เห็นข้อปล้องชัดเจนใบประกอบแบบขนนกเรียงสลับ ใบย่อยรูปขอบขนาน กว้าง 2-5 ม. ยาว 90-120 ซม. ปลายใบเรียวแหลมโคนใบรูปลิ่มแผ่นใบสีเขียวเข้ม ดอก สีเหลืองอมเขียวออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนง ใต้โคนกาบใบ ดอกแยกเพสอยู่ร่วมต้น ช่อดอกยาวประมาณ 30 ซม. ผลสดแบบมีเนื้อเมล็ดเดียว ติดผลจำนวนมาก ผลทรงกลมรี ขนาด 1 ซม. ผลสุกสีแดงเมื่อแห้งผิวย่น ใช้ปลูกประดับในอาคารได้ดี ปลูกริมทะเลได้

  17. ชื่อพืช: พลูด่าง ชื่อวิทยาศาสตร์:Epipremnumaureum(Lind.&Andre’) Bunting ลักษณะทั่วไป:ไม้เลื้อยเนื้ออ่อนอายุหลายปี ลำต้นเลื้อยไปตามพื้นหรือมีรากเกาะพัน กับต้นไม้ใหญ่หรือเสาหลักอื่นๆ เมื่อแก่มีเนื้อไม้ กิ่งก้านสีเขียวถึงสีเขียวอ่อนอมเหลือง มักมีขีดตามยาวสีเหลืองหรือสีขาวใบเดี่ยว เรียงสลับรูปไข่แกมหัวใจ กว้าง 5-30 ซม. ยาว 7-45 ซม. ปลายใบแหลมโคนใบเว้า ขอบใบเรียบแผ่นใบหนาอวบน้ำ ผิวใบ ด้านบนด่างสีเขียวปนเหลือง มักไม่ออกดอกให้เห็นจนกว่าต้นจะสมบูรณ์เต็มที่ ปลูกประดับสวนในบริเวณที่ร่มรำไร ปลูกริมทะเลได้ถ้าปลุกให้เลื้อยพันไม้ ต้นจะมีใบใหญ่ ขึ้น

  18. ชื่อพืช: ราชพฤกษ์ ชื่อวิทยาศาสตร์:Cassia fistula L. ลักษณะทั่วไป:ไม้ยืนต้นขนาดกลางสูง 10-20 ม. ใบสีเขียวอ่อนขอบใบเรียบโคนใบมน ปลายใบแหลมเล็กน้อย ดอกออกช่วงฤดูร้อนเป็นช่อตามปลายกิ่งช่อดอกยาว 20-40 ซม. แต่ละดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 4-7 ซม. มีกลีบดอกสีเหลืองขนาดเท่ากัน 5 กลีบ ผลเป็น ฝักยาว 30-62 ซม. กว้าง 1.5-2.5 ซม.มีเมล็ดจำนวนมาก ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด สรรพคุณ: ฝักแก่ เนื้อสีน้ำตาลดำมีรสหวานใช้เป็นยาระบาย โดยนำฝักมาต้มกับน้ำเติม เกลือเล็กน้อย ดื่มก่อนนอนหรือก่อนรับประทานอาหาร ฝักแก่นำมาบดผสมน้ำแช่ทิ้งไว้ ประมาณ 2-3 วัน สารละลายที่กรองได้นำมาฉีดพ่นกำจัดแมลงและหนอนในแปลงผักได้ ฝักอ่อนใช้ขับเสมหะ ใบนำมาใช้ฆ่าเชื้อโรค ดอกแก้แผลเรื้อรัง

  19. ชื่อพืช: มิกกี้เม้าท์ ชื่อวิทยาศาสตร์:OchnakirkiiOliv. ลักษณะทั่วไป:ไม้พุ่มขนาดเล็ก แตกกิ่งก้านจำนวนมาก เป็นพุ่มทึบ ลำต้นสีน้ำตาลอ่อน ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามเป็นคู่ ใบรูปรี กว้าง 3-4 ซม. ยาม 5-8 ซม.ปลายใบมนโคนใบสอบ แคบ ขอบใบมีหนามเล็กๆผิวใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมันดอกสีเหลือง ออกเป็นช่อแบบช่อ แยกแขนงที่ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงสีแดงสด กลีบดอก 5กลีบดอกบานเต็มที่กว้าง 1-2 ซม. ผลสดมีเนื้อนุ่มสีเขียว เมื่อสุกสีดำแดง มีเมล็ดเดียว ดอกและผลสวยเด่นสะดุดตา ควรปลูก ในที่ใกล้ตา หรือปลุกเป็นจุดเด่นของสวนหย่อมที่ร่ม ถ้าโดนแดดจัดใบจะกร้านไม่สวยงาม เจริญเติบโตช้ามาก

  20. ชื่อพืช: แพรเซียงไฮ้ ชื่อวิทยาศาสตร์:Portulaca grandiflora Hook.f. ลักษณะทั่วไป:ทรงพุ่มแผ่เตี้ยขนาด 0.2-0.5 ม. สูง 0.15-0.25 ม. ลำต้นสีเขียวใบสี เขียวเข้ม ผิวสัมผัสละเอียด ดอกสีขาว ชมพู เหลือง มีทั้งกลีบเดี่ยวและซ้อน ออกดอก ตลอดปี ชอบแดดเต็มวัน ขยายพันธุ์โดยการปักชำและเพาะเมล็ด

  21. ชื่อพืช: ลิ้นกระบือ ชื่อวิทยาศาสตร์:ExcoecariacochinchinensisLour. ลักษณะทั่วไป:ทรงพุ่มรูปทรงกลม ขนาดทรงพุ่ม 0.3-0.8 ม.สูง 1-1.5 ม. ลำต้นสีน้ำตาล เข้ม ทุกส่วนมียางขาว เหมือนน้ำนม ใบเดี่ยวออกตรงข้ามหรือเรียงสลับ ใบรูปหอกกว้าง ประมาณ 5 ซม. ยาวประมาณ 12 ซม. โคนใบแหลมปลายใบเรียวแหลม หลังใบสีเขียวเข้ม ท้องใบสีแดง ดอกเป็นช่อออกตามซอกใบสีเหลืองอมเขียว ขนาดเล็ก ผลรูปร่างค่อนข้าง กลม มี 3พู เมื่อแก่แตกเป็น 3 ส่วน ปลูกในที่แดดรำไร-เต็มวัน ขยายพันธุ์โดยการปักชำกิ่ง และตอนกิ่ง สรรพคุณ:ใบสด ใช้เป็นสมุนไพรผสมเหล้าดื่มขับน้ำคาวปลาหลังคลอดและประจำเดือนมา ไม่ปกติ

  22. ชื่อพืช: เข็มพิษณุโลก(ชมพู) ชื่อวิทยาศาสตร์:Ixorahybrid ลักษณะทั่วไป:ไม้พุ่มขนาดเล็ก แตกกิ่งก้านจำนวนมาก ทรงพุ่มแน่นทึบใบเดี่ยว เรียงตรง ข้ามสลับตั้งฉาก ใบรูปหอกกลับกว้าง 1-2 ซม. ยาว 2-4 ซม. ปลายใบและโคนใบมนขอบ ใบบิดเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบสีเขียวอมเหลืองดอกสีขาวหรือชมพูออกเป็นช่อแบบช่อ กระจุกซ้อนที่ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงสีเขียวมี 5กลีบ โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยก 4 แฉก ดอกสวย ตัดแต่งทรงพุ่มได้ สูง 30-50 ซม. นิยมปลูกเป็นขอบแปลงในสวนหย่อม ปลูกริมทะเลได้

  23. ชื่อพืช: หมากผู้หมากเมีย ชื่อวิทยาศาสตร์:Codyline fruticosa (L.) Goeppert ลักษณะทั่วไป:ไม้พุ่ม สูง 1-3 ม. ลำต้นตั้งตรงใบเรียงเวียนสลับบริเวณยอดของลำต้น ใบเดี่ยวรูปยาวรี กว้าง 5-10 ซม. ยาว 12-20 ซม. ปลายใบแหลม ผิวใบมีสีแดงเขียวหรือ สีแดงม่วง ก้านใบยาว ดอกเป็นช่อยาวประมาร 30 ซม. ออกบริเวณส่วนยอดของลำต้น ดอกย่อยมีกลีบเลี้ยงและกลีบดอกอย่างละ 6กลีบ ดอกสีม่วงแดงหรือชมพู สลับด้วยสีเหลือง ดอกยาว 1 ซม. ผลทรงกลมฉ่ำน้ำ เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5 ซม. ภายในมี 1-3 เมล็ด ขยายพันธุ์โดยการตอนและปักชำยอด

  24. ชื่อพืช: เข็มสามสี ชื่อวิทยาศาสตร์: Dracaena cinctaBak.cv.Tricolor ลักษณะทั่วไป:ไม้พุ่มขนาดเล็กแตกกอ ลำต้นตั้งตรงมีขนาดเล็ก กิ่งแขนงแตก ออกตามส่วนข้อของลำต้น ลำต้นแก่มีสีน้ำตาลอ่อน ใบเดี่ยวเรียงเวียนสลับแตก ใบถี่ตรงส่วนยอดของลำต้น ใบรูปแถบกว้าง 1.5-2 ซม. ยาว 30-35 ซม. ปลาย ใบแหลมโคนใบสอบ ขอบใบเรียบแผ่นใบมีสามสีเป็นแถมไปตามความยาวของ ใบ สีแดงอยู่ขอบนอก สีครีมหรือเหลืองอ่อนอยู่ถัดมาและสีเขียวอยู่ตรงกลางใบ ดอกสีขาวอมเขียว มีกลิ่นหอมตอนกลางคืน ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงผล สดรูปทรงกลมถึงรี สีเหลือง ส้มหรือแดง เมล็ดสีขาวถึงน้ำตาล มี 1-3 เมล็ด นิยมปลูกเป็นกลุ่ม ต้นใหญ่ใช้เป็นไม้ประธานของสวนหย่อมได้ ปลูกริมทะเลได้ ไม่ควรปลูกใต้หน้าต่างเพราะต้องตัดแต่งทำให้ไม่สวย

  25. ชื่อพืช: เต่าร้าง ชื่อวิทยาศาสตร์:Caryota mitis Lour. ลักษณะทั่วไป:รูปทรงปาล์มแตกกอ ลำต้นขนาด 10-15 ซม. ใบประกอบแบบขนนกสองชั้นเรียงสลับ ใบย่อยรูปสามเหลี่ยม หยักเว้ากว้างประมาณ 13 ซม. ยาว 20-30 ซม. ปลายแหลมคล้ายหางปลา โคนใบรูปลิ่มแผ่นใบสีเขียวเป็นมัน กาบใบยาว 0.5-2 ม. โคนกาบใบมีขนสีน้ำตาลแดงปนเทาหรือดำ มีรยางค์สีน้ำตาลปกคลุม ดอกสีขาวอมเหลือง ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงระหว่างกาบใบหรือใต้โคนกาบใบ ดอกแยกเพศอยู่ร่วมต้น ช่อดอกยาว 60-80 ซม. ดอกบานเต็มที่กว้าง 2 ซม. ผลสดแบบมีเนื้อเมล็ดเดียว ออกเป็นพวงทรงกลมขนาด 2 ซม. ผลสุกสีแดงคล้ำขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด

  26. ชื่อพืช: หางนกยูงฝรั่ง ชื่อวิทยาศาสตร์:Delonix regia (Bojer) Raf. ลักษณะทั่วไป:ไม้ยืนต้นสูง 10-15 ม. เรือนยอดแผ่กว้างทรงกลมคล้ายร่ม ผลัดใบ เปลือก สีน้ำตาลอ่อน อมขาวถึงสีน้ำตาลเข้ม ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น เรียงเวียนสลับ ใบย่อย เรียงตรงข้ามกัน แผ่นใบรูปขอบขนาน ปลายกลมโคนเบี้ยว ผิวใบเกลี้ยง ช่อดอกออกตาม ปลายกิ่ง และตามง่ามใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกสีแดงแสดหรือเหลือง ผลเป็นฝักแบนโค้งรูปดาบ เมล็ดเรียงตามขวาง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด สรรพคุณ:รากอากาศเป็นยาขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ ซูบผอม โลหิตจาง ปวดเมื่อย

  27. ชื่อพืช: หมากนวล ชื่อวิทยาศาสตร์:Veitchiamerrillii(Becc.) H.E. Moore ลักษณะทั่วไป:ไม้วงศ์ปาล์มต้นเดี่ยว ลำต้นสีน้ำตาลปนเทา เส้นผ่าศูนย์กลาง 25 ซม. มีคอสี เขียวนวลยาว 30-50 ซม. มีรอยหลุดของก้านใบถี่ชัดเจน ใบประกอบแบบขนนกเรียงสลับ ใบย่อยรูปขอบขนาน กว้าง 2-5 ซม. ยาว 45-75 ซม. ปลายใบเรียวแหลม โคนใบรูปลิ่ม แผ่นใบสีเขียวดอกสีเหลืองนวล ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงใต้โคนกาบใบ ดอกแยกเพศ อยู่ร่วมต้น ช่อดอกยาวประมาณ 30 ซม. ผลสดแบบมีเนื้อเมล็ดเดียวเมื่อสุกสีแดงเข้ม ผลทรงกลมรี ขนาดประมาณ 3 ซม. ติดผลจำนวนมาก ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด

  28. ชื่อพืช: คล้าเสน่ห์ขุนแผน ชื่อวิทยาศาสตร์:CalatheamajesticaH.Kenn. cv. Roseo-Lineata ลักษณะทั่วไป:ไม้พุ่มขนาดเล็ก มีเหง้าทอเลื้อยใต้ดิน ลำต้นตั้งตรง ใบเดี่ยวเรียงเวียนสลับ ใบรูปไข่กว้าง 7-15 ซม. ยาว 25-30 ซม. ปลายใบแหลมโคนใบมนขอบใบเป็นคลื่น เล็กน้อย แผ่นใบหนา ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน มีลายขีดสีขาวยาวไม่เท่ากันพาดขวาง เป็นกลุ่มๆกลุ่มละ 2-3 เส้น ใบอ่อนมีริ้วสีชมพูอ่อนเมื่อแก่จะจางลงเป็นสีขาว เส้นกลางใบ สีเขียวอ่อน ผิวใบด้านล่างสีม่วงแดง ก้านใบกลม สีเขียวเหลือบม่วงแดงรอยต่อกับแผ่นใบ สีเขียวอ่อน ดอกสีขาว ออกเป็นช่อแบบช่อเชิงลดที่ปลายกิ่ง มีกาบรองดอก 2 ใบขึ้นไป ดอกย่อยมีกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกัน ชั้นของกลีบดอกเป็นช่อ แบ่งเป็นกลีบ 2-3กลีบ มีหนึ่งกลีบ ที่โค้งงอลง ผลแห้งแตก มีเมล็ดแข็ง 1-3 เมล็ด ผิวหยาบ มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีขาว

  29. ชื่อพืช: เทียนหยด ชื่อวิทยาศาสตร์:Durantaerecta L. ลักษณะทั่วไป:ไม้พุ่มขนาดกลาง สูง 2-3 ม. ลำต้นแตกกิ่งก้านจำนวนมาก กิ่งลู่ลง ทรงพุ่ม แน่นทึบ เปลือกสีน้ำตาลอ่อน ใบเดี่ยว เรียงสลับรูปไข่กลับ กว้าง 1.5-2 ซม. ยาว 3-7 ซม. ปลายใบแหลมหรือมน โคนใบสอบ ขอบจักฟันเลื่อย ก้านใบสั้น ดอกสีม่วง-ม่วงเข้ม หรือ ขาว ออกเป็นช่อตามซอกใบที่ปลายกิ่ง โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดปลายแยก 5 แฉก ดอกบานเต็มที่กว้าง 1-1.5 ซม. ผลสด ออกเป็นช่อห้อยลง รูปกลม ขนาด 0.5-0.8 ซม. สีเขียว เมื่อสุกสีเหลือง ดอกสวย ผลเป็นพิษไม่ควรปลูกใกล้กับสนามเด็กเล่น สรรพคุณ:ใบตำพอกแก้ห้อเลือด ห้ามเลือด แก้อักเสบบวมเป็นหนอง

More Related