70 likes | 380 Views
โครงงานเรื่อง “อุปรากจีน”ศิลปะการแสดงที่ล้ำค่า. จัดทำโดย นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียน แก้งคร้อวิ ทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 30มัธยมศึกษา จังหวัดชัยภูมิ. ที่มาของโครงงาน. เนื่องจากการแสดงงิ้ว หรืออุปรากรจีน
E N D
โครงงานเรื่อง “อุปรากจีน”ศิลปะการแสดงที่ล้ำค่า จัดทำโดย นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนแก้งคร้อวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 30มัธยมศึกษา จังหวัดชัยภูมิ
ที่มาของโครงงาน เนื่องจากการแสดงงิ้ว หรืออุปรากรจีน ถือเป็นศิลปะการแสดงที่ล้ำค่าทางวัฒนธรรม ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ได้รับความนิยมจากคนจีน คนไทยเชื้อสายจีน และการแสดงงิ้วยังได้รับการยอมรับจากองค์กรยูเนสโกและยกระดับการแสดงงิ้วให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก แต่ปัจจุบันคนยุคใหม่ไม่นิยมดูการแสดงงิ้ว เพื่อให้การแสดงงิ้วเป็นที่รู้จักมากขึ้นในหมู่คนไทย ทางกลุ่มจึงได้จัดทำโครงงานเรื่องนี้ เพื่อนำเสนอข้อมูลความรู้ต่อผู้ที่สนใจ
ประวัติความเป็นมา การแสดงงิ้วเป็นการแสดงที่เกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงต้นราชวงศ์ซ้ง เป็นการแสดงที่เป็นโครงกลอนสลับการร้องประกอบเครื่องดนตรี ดีด สี ตี เป่า มักนำนิทานพื้นบ้านเรื่อง “คุนฉู” มาจัดทำการแสดง และเป็นที่ชื่นชอบของขุนนางชั้นสูงตลอดจนสามัญชนทั่วไป การแสดงงิ้วเฟื่องฟูมากในยุคของพระนางซูศีไทเฮา และในศตวรรษที่ 18 เกิดอุปรากรแบบใหม่ที่ปักกิ่ง ซึ่งเป็นรูปแบบของงิ้วในปัจจุบัน และเป็นที่ แพร่หลายและเป็นที่รู้จักทั่วโลก
การแสดงงิ้วในประเทศไทยการแสดงงิ้วในประเทศไทย • การแสดงงิ้วตามเอกสารเก่าที่สุดที่มีการพูดถึงการแสดงงิ้ว คือ จดหมายเหตุลาลูแบร์ซึ่งเป็นราชทูตจากฝรั่งเศสที่เข้ามาเจริญพระราชไมตรีกับสมเด็จพระนารายณ์เมื่อ พ.ศ. 2230 และมีบันทึกอีกช่วงครั้งสมัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กรุงธนบุรี ครั้งมีการอัญเชิญพระแก้วมรกตล่องน้ำมายังพระนคร นอกจากขบวนแห่จะมี โขน ละคร ดนตรีปี่พาทย์แล้ว ยังมีคณะงิ้วอีก 2 ลำเรือแสดงล่องลงมาด้วยกันอีกด้วย • การแสดงงิ้วในเมืองไทยได้รับความนิยมสูงสุดในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยสมัยนั้นมีทั้งคณะของทั้งไทยและจีน และยังมีการเปิดโรงเรียนสอนงิ้วและมีโรงงิ้วแสดงเป็นประจำมากมายบนถนนเยาวราช
ลักษณะและประเภทของการแต่งหน้างิ้วลักษณะและประเภทของการแต่งหน้างิ้ว ความโดดเด่นของการแสดงงิ้วนั้น นอกจากลีลาการร่ายรำการเคลื่อนไหวของผู้แสดงแล้ว เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายตลอดจนการแต่งหน้าก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างเช่นสีสันของการแต่งหน้าที่แตกต่างกันไป ก็จะบ่งบอกถึงบุคลิกและอุปนิสัยของตัวละครได้ อย่างเช่น การแต่งหน้า สีแดง จะมีความหมายไปในทางที่ดี เป็นสัญลักษณ์ของผู้ซื่อสัตย์และกล้าหาญ สีดำ มีความหมาย เป็นกลาง เป็นสัญลักษณ์ของผู้ห้าวหาญ ไม่เห็นแก่ตัวและเฉลียวฉลาด สีน้ำเงิน/เขียว ก็จะมีความหมายเป็นกลางเช่นเดียวกันและยังถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของวีรบุรุษชาวบ้านอีกด้วย สีขาวและสีเหลือง มักจะมีความหมายไปทางลบ เป็นสัญลักษณ์ของผู้เหี้ยมโหดและคดโกง
ตัวละครในการแสดงอุปรากรจีนตัวละครในการแสดงอุปรากรจีน ตัวละครแบ่งออกเป็น 4 ประเภท1. ตัวละครชาย "เชิง (Sheng)" ตัวละครฝ่ายชายแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ "บู๊" ผู้แสดงต้องแสดงบทโลดโผน ส่วน "บุ๋น" เน้นการขับร้องและการแสดงอารมณ์2. ตัวละครหญิง "ตั้น (Dun)" 3. ตัวละครวาด "จิ้ง (Jing)" เป็นตัวละครที่แต่งหน้าด้วยลวดลายสีสันต่างๆ ซึ่งบ่งบอกถึงนิสัยของตัวละคร ผู้แสดงต้องมีหน้าผากที่กว้าง รูปร่างสูงใหญ่ น้ำเสียงกังวาน4. ตัวละครตลก "โฉ่ว (Chou)" แบ่งออกเป็นตลกแบบบุ๋น เช่น ยาม คนรับใช้ คนตัดไม้ เป็นต้น ส่วนตัวตลกแบบบู๊ ต้องแสดงเกี่ยวกับกายกรรม เช่น พลทหาร
อ้างอิงข้อมูลจาก • http://www.wonder12.com/2011/06/chinese-opera.html • http://th.wikipedia.org