1 / 47

สรุปการอบรมเชิงปฏิบัติการ “ การเพิ่มมูลค่าบรรณารักษ์การแพทย์

สรุปการอบรมเชิงปฏิบัติการ “ การเพิ่มมูลค่าบรรณารักษ์การแพทย์. วารสาร KM โรงพยาบาลเลิศสิน. วิทยากรโดย นพ.ปรีชา ชื่นวิภาสกุล นายแพทย์เชี่ยวชาญ หัวหน้ากลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลเลิศสิน. วิชาชีพบรรณารักษ์

pomona
Download Presentation

สรุปการอบรมเชิงปฏิบัติการ “ การเพิ่มมูลค่าบรรณารักษ์การแพทย์

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. สรุปการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การเพิ่มมูลค่าบรรณารักษ์การแพทย์

  2. วารสาร KM โรงพยาบาลเลิศสิน • วิทยากรโดย นพ.ปรีชา ชื่นวิภาสกุล นายแพทย์เชี่ยวชาญ • หัวหน้ากลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลเลิศสิน

  3. วิชาชีพบรรณารักษ์ • งานบรรณาธิการมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับวิชาชีพหนึ่งซึ่งทำงานเกี่ยวข้องกับหนังสือเหมือนกัน คือ วิชาชีพบรรณารักษ์ • ราชบัณฑิตยสถานได้ให้คำนิยาม บรรณารักษ์ เป็นบุคคลที่รับผิดชอบในการบริหารและดำเนินงานในห้องสมุด

  4. ประสบการณ์ของบรรณารักษ์ที่สามารถใช้ในงานบรรณาธิการได้ประสบการณ์ของบรรณารักษ์ที่สามารถใช้ในงานบรรณาธิการได้ 1.ประเมินคุณค่าของต้นฉบับ 2.ตรวจการอ้างอิงกับหลักฐานที่อ้างเพื่อความถูกต้อง 3.แนะนำแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม 4.ตรวจกับบรรณานุกรมและเชิงอรรถ 5.ให้ความเห็นเกี่ยวกับการจัดหน้าและออกแบบสิ่งพิมพ์ 6.ตรวจแก้ต้นฉบับ 7.ตรวจพิสูจน์อักษร 8.เขียนคำนำ บทนำ บทบรรณาธิการ 9.แนะนำแหล่งเพื่อวางจำหน่าย

  5. การเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ • วิทยากรโดย นายแพทย์ธวัช ประสาทฤทธา • ข้าราชบำนาญ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

  6. เทคนิคการทำงานของ อ.ธวัช • 1.ไม่บ่น • 2.Begining with the end of mind • 3.win-win • 4.แยกแยะความสำคัญของงาน ด่วน ไม่ด่วน • 5.Synergy • 6.Shaped the saw • 7.คิดบวก ขยัน

  7. ธวัช ประสาทฤทธา. การเขียนบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ. วารสารกรมการแพทย์ 2552;34:587-90.

  8. วิทยากรโดย นางสาวนุชนาท บุญต่อเติม ข้าราชการบำนาญ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

  9. KPI = Key Performance Indicator = ตัวชี้วัดผลงาน • การประเมินผลงานในระดับบุคคล คือ การวัดผลการปฏิบัติงานของบุคลากรคนหนึ่งในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยการเปรียบเทียบกับเกณฑ์หรือมาตรฐานที่กำหนดไว้ตามลักษณะงานของบุคลากรน้น • วัตถุประสงค์ของการประเมิน สามารถมองได้ 2 มุม คือ- มุมมองขององค์กร – ผู้บังคับบัญชา- มุมมองของบุคลากร • องค์ประกอบของการประเมิน มีดังนี้1. ผู้ประเมิน2. ผู้ถูกประเมิน3. เกณฑ์การประเมิน4. ผลการประเมิน5. การให้คำปรึกษา6. การใช้ประโยชน์

  10. ขั้นตอนการหา KPI1. จัดกลุ่มงาน = เอา job descriptions มาดูแล้ว จัดกลุ่มงานที่มีความใกล้เคียงกันอยู่ในชุดเดียวกัน2. ผลที่คาดหวัง = ให้วิเคราะห์ผลที่คาดหวังจากแต่ละกลุ่มงาน ส่วนนี้อาจจะใช้เครื่องมือเพิ่ม คือ Balance Scorecard***3. ตัวชี้วัดผลงาน (ดูที่ PI เป็นหลัก) = ให้นำผลที่คาดหวังมาวัดผลโดยกำหนดคะแนนตาม ร้อยละของงาน, สัดส่วนของงาน, ระยะเวลา, มูลค่า, จำนวน4. ตัวชี้วัดผลงานหลัก = ให้เลือกตัวชี้วัดผลงานหลักของตำแหน่งงานออกมา 3-7 ตัว เพื่อพิจารณาอีกที โดยดูจากความสำคัญของผลงานที่มีต่อองค์กรมากที่สุด • ***Balanced Scorecard ของ ก.พ.ร.นำมาใช้ในการบริหารภาครัฐของไทย ได้มีการกำหนดกรอบ 4 มิติ ดังนี้ (1) คุณค่าด้านประสิทธิผลการปฏิบัติราชการ (2) คุณค่าด้านคุณภาพการบริการ (3) คุณค่าด้านประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการ และ (4) คุณค่าด้านการพัฒนาองค์การ

  11. หลักการของ S-M-A-R-TS = Specific = ชัดเจน ไม่คลุมเครือM = Measurable = วัดผลได้A = Achievable without compromising another result = สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ด้วยตนเอง ไม่ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขอื่นๆR = Realistic = สามารถทำได้จริงและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหน่วยงานT = Time framed = มีการกำหนดเวลาที่แล้วเสร็จแน่นอน

  12. วิทยากรโดย นายแพทย์ทวีทอง กออนันตกูล • นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษากรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

  13. บรรณารักษ์ในวงการแพทย์สามารถสนับสนุนการทำงานของแพทย์ได้อย่างไรบรรณารักษ์ในวงการแพทย์สามารถสนับสนุนการทำงานของแพทย์ได้อย่างไร

  14. แนวคิดระบบข้อมูลใหม่ของระบบห้องสมุดด้านการแพทย์ • - อยากรู้อะไรต้องได้รู้- ทำได้ด้วยตนเอง- เรียนรู้ง่าย จำนวนคลิ๊กที่เข้าถึงข้อมูลต้องน้อยที่สุด- เมื่อส่งคำถามแล้วต้องได้คำตอบเดี๋ยวนั้นเลย- ทำกราฟ และสถิติได้หลายรูปแบบ- ฟรี ไม่ต้องตั้งงบประมาณ

  15. แนวคิดเสริมของระบบห้องสมุดด้านการแพทย์แนวคิดเสริมของระบบห้องสมุดด้านการแพทย์ • - โปรแกรมเดียวสามารถใช้ได้ทุกงาน- ฝึกอบรมรอบเดียวก็เพียงพอ- ไม่ต้องสร้างหลายโปรแกรม- ในกรณีฉุกเฉินต่างๆ ก็สามารถใช้งานได้- พัฒนาต่อยอดได้เรื่อยๆ- ประหยัดงบประมาณ- มาตรฐานด้านเทคโนโลยี

  16. ในปี 2541 จึงได้มีการจัดซื้อฐานข้อมูล full text ของวารสารการแพทย์ เพื่อให้บริการ โดยรูปแบบการให้บริการก็ คือ แพทย์ พยาบาล บุคลากรในหน่วยงาน สามารถติดต่อขอใช้บริการฐานข้อมูล Full text มาที่ห้องสมุดกรมควบคุมโรค (ผ่าน จดหมาย แฟกซ์ อีเมล์) แล้วทางบรรณารักษ์ก็จะค้นข้อมูลและจัดส่งเนื้อหาไปให้ • แต่ผลที่ได้ คือ 1 ปีมีคนค้นหาเพียงแค่ 53 เรื่องเท่านั้น เนื่องจากปัญหาของการซื้อฐานข้อมูลต้องดูเรื่องจำนวนสิทธิ์ในการเข้าถึงฐานข้อมูลด้วย ดังนั้นนอกหน่วยงานจึงไม่สามารถค้นหาข้อมูลได้ จึงทำให้ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนเท่าที่ควร

  17. ในปี 2549 กรมการแพทย์ได้ลงทุนในการซื้อฐานข้อมูล E-Journal ในราคา 3 ล้านบาท โดยรูปแบบการให้บริการยังคงคล้ายๆ กับการให้บริการในปี 2541 แต่คราวนี้นำเรื่องการเข้าถึงข้อมูลผ่านระบบ intranet และ VPN เข้ามาใช้ร่วมด้วย ทำให้แพทย์สามาารถเข้าถึงฐานข้อมูลได้เมื่ออยู่ในกรมการแพทย์ ส่วนแพทย์ที่อยู่นอกองค์กรก็สามารถใช้ VPN เข้ามาใช้งานฐานข้อมูลได้ด้วย • ผลที่ได้ จำนวนการเข้าถึงฐานข้อมูลมีมากขึ้นแต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนอีกเช่นเคย เนื่องจากการใช้ VPN มากๆ บริษัทผู้ขายก็แจ้งเตือนจำนวนการใช้งานมาเป็นระยะๆ และการต่อ VPN เองก็ค่อนข้างซับซ้อน

  18. ในปี 2554 กรมการแพทย์จึงได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือในเรื่องของฐานข้อมูลการแพทย์ โดยที่ขอความร่วมมือกับหน่วยงานการแพทย์ หรือ สถาบันการศึกษาด้านการแพทย์ที่ใหญ่ๆ เพื่อนำฐานข้อมูลมารวมกันและให้บริการแก่หน่วยงานที่ขาดงบประมาณ รูปแบบการทำงานแบบง่ายๆ คือ หน่วยงานที่มีฐานข้อมูลนำฐานข้อมูลมาลงไว้ที่ส่วนกลางที่เดียวและสะสมข้อมูลไปเรื่อยๆ การให้บริการก็สามารถทำได้โดยการใช VPN หรือส่งคำข้อผ่านทาง webboard, email ก็ได้

  19. ปัจจุบัน Elibrary ของกรมการแพทย์ คือ http://www.dms.moph.go.th • แนะนำโปรแรกม UCHA ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้งานกับระบบห้องสมุดได้ด้วยใช้งานได้ง่ายแถมครอบคลุมการทำงานในโรงพยาบาลได้อีก ค่อนข้างสมบูรณ์เลยทีเดียว • สามารถหาอ่านข้อมูลโปรแกรม UCHA ได้เพิ่มเติมที่ http://110.164.65.40/wiki/doku.php

  20. วิทยากรโดย นายพีระวัฒน์ โชติธรรมโม ประธานกรรมการเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์

  21. สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์เป็นสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 5 มีนาคม 2553คนที่ติดเคเบิลที่บ้านหรือติดจานดาวเทียมที่บ้านดูได้หมดยกเว้นของทรู นอกจากนี้ยังดูผ่าน iphone ipad ได้ด้วยhttp://www.springnewstv.tv/ • การบริหารจัดการข้อมูลในสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ แบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ คือ1. การจัดการคน2. การจัดการข้อมูล

  22. การบรรยายจะเน้นในเรื่องของการจัดการข้อมูลเป็นหลัก โดยเฉพาะการจัดการศูนย์ข้อมูลข่าวที่เน้นในเรื่องการจัดเก็บไฟล์ภาพข่าว โดยต้องใช้คนที่เชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดหมวดหมู่ (ควรมีพื้นฐานด้านห้องสมุดหรือบรรณารักษ์) มาเป็นคนกำหนดหัวเรื่องให้กับภาพข่าวซึ่งมีความสำคัญมาก • เช่น ไฟล์ภาพข่าวที่เกี่ยวกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มักจะให้หัวเรื่องว่า “สถานการณ์ใต้” ซึ่งหัวเรื่องค่อนข้างกว้างมาก ถ้าจัดการไม่ดีจะทำให้การค้นหาข้อมูลไฟล์ข่าวมีปัญหาล่าช้าไปด้วย เพราะว่าต้องจำชื่อเรื่อง สถานที่ และวันและเวลาที่เกิดเหตุให้ได้ แต่ถ้าจัดการดีจะทำให้เราสามารถบริหารข้อมูลได้ดีไปด้วย

  23. วิทยากรโดย นายแพทย์วุฒิชัย จตุทอง หัวหน้ากลุ่มงานสนับสนุนวิชาการ โรงพยาบาลเลิศสิน กรมการแพทย์

  24. นักวิจัยต้องการอะไรจากห้องสมุด (บรรณารักษ์)- หัวข้องานวิจัย / โจทย์งานวิจัย- Review Literature- การอภิปรายย่อยเป็นกลุ่มๆ- ฐานข้อมูลสืบค้นออนไลน์- ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับงานวิจัย (สำหรับผู้เริ่มต้นทำงานวิจัย) • นักวิจัยคิดอย่างไรกับห้องสมุด- ห้องสมุดมีความสำคัญ และจะให้ประโยชน์กับนักวิจัยอย่างไร- ห้องสมุดของหน่วยงานตัวเองดีกว่าห้องสมุดของหน่วยงานอื่นหรือไม่ อย่างไร- ห้องสมุดมีเครือข่ายหรือไม่- ห้องสมุดมีฐานข้อมูลอะไรบ้าง

  25. แหล่งข้อมูลสำหรับงานวิจัยในห้องสมุด แบ่งออกเป็น • 1. ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต : แหล่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตที่น่าสนใจ เช่น • - http://www.google.com- http://www.webmedlit.com- http://www.medmatrix.org- http://www.tripdatabase.com • 2. เอกสารที่ไม่ได้มีการตีพิมพ์โดยทั่วไป • - Grey Literature Report- Netprints- SIGLE- CPG

  26. 3. ฐานข้อมูลการแพทย์ออนไลน์ ที่ควรรู้จัก เช่น • - Medline- EMBASE- CINAHL- PsychInfo- ERIC • การศึกษารูปแบบการวิจัยแบบ Systematic Review สามารถดูข้อมูลได้จาก- http://www.cochrane.org- http://www.york.ac.uk/inst/crd/welcome.htm- http://hstat.nlm.nih.gov- http://www.acpjc.org- http://www.clinicalevidence.com- http://www.uptodate.com

  27. รูปแบบของการสืบค้นในฐานข้อมูลก็มีอยู่หลายแบบ เช่น การสืบค้นด้วยคำสำคัญ, การสืบค้นตามเงื่อนไข, การสืบค้นแบบไล่เรียง ฯลฯสิ่งที่ต้องคำนึงถึในการค้นหา คือ เรื่องการตัดคำ หรือการใช้ธีซอรัส (ความสัมพันธ์ของคำสืบค้น)….. • การวิจัยกับบทบาทที่เปลี่ยนไปของบรรณารักษ์ยุคดิจิทัลในอดีตเราอาจจะถูกมองว่าเป็นผู้อนุรักษ์หรือผู้เก็บหนังสือ แต่ด้วยบทบาทในสังคมสมัยใหม่ทำให้เราได้เปลี่ยนบทบาทตัวเองมาเป็นผู้จัดการสารสนเทศ และทิศทางในอนาคตเราจะกลายเป็นผู้เอื้ออำนวยความรู้ (ผู้ชี้นำความรู้)

  28. บรรณารักษ์จะสนับสนุนการทำวิจัยได้อย่างไร- จัดหางานวิจัย และให้คำปรึกษาในการใช้งานวิจัย- วิเคราะห์และจัดหมวดหมู่งานวิจัย- พัฒนาฐานข้อมูลงานวิจัย- พัฒนาเครื่องมือเพื่อเข้าถึงงานวิจัย- เผยแพร่งานวิจัย

  29. ตัวอย่างกรณีศึกษาบรรณารักษ์กับการสนับสนุนงานวิจัย : บรรณารักษ์พบนักวิจัย สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่- ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการหาแหล่งข้อมูลเพื่อการวิจัย- ให้คำแนะนำบริการ และการเข้าถึงฐานข้อมูลออนไลน์- แนะนำฐานข้อมูลที่ใช้เป็นแหล่งตรวจสอบการอ้างอิงผลงานทางวิชาการ (Citation analysis)- จัดโปรแกรมฝึกอบรมเรียนรู้การใช้สารนิเทศเพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนและการค้นคว้าข้อมูล- ประสานความต้องการระหว่างนักวิจัยกับสำนักหอสมุด

  30. วิทยากรโดย นายเมฆินทร์ ลิขิตบุญฤทธิ์ นักพัฒนาระบบห้องสมุด โครงการศูนย์ความรู้กินได้

  31. “ทำไมบรรณารักษ์ต้องรู้เรื่องไอที” ประเด็นอยู่ที่ว่างานในห้องสมุดปัจจุบันเกือบทุกส่วนต้องพึ่งพาไอทีหรือคอมพิวเตอร์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นงานบริการ งานบริหาร งานจัดทำรายการ ฯลฯ • “ไอทีสำหรับบรรณารักษ์”คงไม่ต้องถึงขั้นว่า เขียนโปรแกรม หรือ พัฒนาโปรแกรม เหมือนพวกโปรแกรมเมอร์หรอกนะครับแต่ผมแค่ต้องการให้เรารู้จักโปรแกรม เข้าใจโปรแกรม และนำโปรแกรมไปใช้งานให้ถูกต้องก็เท่านั้นเอง

  32. ทักษะและความรู้ด้านไอทีที่บรรณารักษ์ควรรู้ มี 8 ด้าน ได้แก่1. ความรู้และทักษะในกลุ่มโปรแกรมสำนักงาน2. ความรู้และทักษะในกลุ่มโปรแกรมสำหรับสื่อ3. ความรู้และทักษะด้านการใช้งานระบบเครือข่าย4. ความรู้และทักษะในกลุ่มพื้นฐานคอมพิวเตอร์5. ความรู้และทักษะที่เกี่ยวกับอุปกรณ์อื่นๆ6. ความรู้และทักษะในกลุ่มการใช้งานอินเทอร์เน็ต7. ความรู้และทักษะการใช้งานระบบห้องสมุด8. ความรู้และทักษะการใช้งานเว็บไซต์ 2.0

  33. เครื่องมือออนไลน์ที่สามารถนำมาใช้พัฒนาห้องสมุด (แบบฟรีๆ) มีดังนี้- Blog- E-mail- MSN- Twitter- Facebook- Youtube- Flickr- Slideshare

  34. วิทยากรนายแพทย์ธีรชัย ยงชัยตระกูล • หัวหน้ากลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ โรงพยาบาลเลิศลิน กรมการแพทย์

  35. ห้องสมุดสมัยโบราณ (Ancient Ages)ห้องสมุดในอดีตคงต้องมองย้อนไปตั้งแต่เกิดห้องสมุดแห่งแรกของโลกบริเวณที่เกิดอารายธรรมเมโสโปเตเมียเลย (เมื่อ 4000 ปีก่อน) ในยุคนั้นมีการแกะสลักตัวอักษรลงในแท่นดินเหนียว ถัดมาจนถึงยุคของอียิปต์โบราณที่ใช้กระดาษปาปิรุสบันทึกข้อมูล ไล่มาเรื่อยๆ จนถึง Royal Library at Dresden ที่บันทึกข้อมูลด้วยหนังสัตว์ และมีการนำหนังสัตว์มาเย็บรวมกันที่เรียกว่า Codex เป็นครั้งแรก • ภาพ Codex จาก http://extraordinaryintelligence.com

  36. 2.ห้องสมุดในยุคกลางในยุคนี้จะพูดถึงเรื่องทวีปยุโรปได้มีการจัดสร้างห้องคัดลอกหนังสือ (Scriptorium) ไล่ไปจนถึงจีนที่เริ่มมีการทำกระดาษครั้งแรกของโลก และการกำเนิดเครื่องพิมพ์เครื่องแรกของโลก โดย johannes gutenbergห้องคัดลอกหนังสือ จาก http://joukekleerebezem.com

  37. 3.ห้องสมุดในยุคใหม่ • การจัดการสื่อในห้องสมุดจะเปลี่ยนไปแค่ไหน- จากหนังสือ จะกลายเป็น Digital File- จากชั้นหนังสือ จะกลายเป็น Storage Server • การจัดการด้านเครือข่ายในห้องสมุด- การเข้าถึงข้อมูล จากต้องเข้ามาที่ห้องสมุด จะกลายเป็น เข้าที่ไหนก็ได้- การเข้ารับบริการ จากต้องเข้าใช้ตามเวลาที่ห้องสมุดเปิด จะกลายเป็น เข้าได้ 24 ชั่วโมง • ท่านวิทยากรได้ยกตัวอย่างมาตรฐานของสมาคมห้องสมุด พ.ศ. 2552 โดยหมวดที่เกี่ยวข้องกับการจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจะถูกแทรกอยู่ในหมวด 5, 7, 8

  38. งานที่เกี่ยวกับสื่อในห้องสมุด และการบริการในห้องสมุด งานไอทีที่จำเป็นในงานดังกล่าวจะประกอบด้วย- Server = ดูเรื่องของการจัดการ, ความปลอดภัย, ฐานข้อมูล- Client = เครื่องของผู้เข้ารับบริการจะต้องเข้าใช้งานได้ ตรวจสอบผู้ใช้ได้- Network = มีให้เลือกทั้งแบบมีสายและไร้สาย (ปัจจุบันรพ.เลิศสิน เช่น leased line)- Content = content ทั้งหมดสามารถเข้าผ่าน intranet ได้- Software

  39. วิทยาการโดย นายแพทย์ภัทรกานต์ สุวรรณทศ • นักศึกษาแพทย์ประจำบ้าน โรงพยาบาลเลิศสิน

  40. วิทยากรได้นำภาพบรรยากาศในห้องสมุดการแพทย์มาให้พวกเราดู โดยเน้นที่รูปหนังสือเล่มใหญ่ๆ (หนังสือด้านการแพทย์ส่วนใหญ่เล่มใหญ่ หนา และหนัก) ทำให้ผู้ใช้บริการหลายคนไม่นิยมที่จะยืมหนังสือเหล่านี้ออกจากห้องสมุด ปัจจุบันนักศึกษาแพทย์หลายคนนิยมใช้ Ipad บ้าง Ebook reader บ้าง เพื่อที่จะใช้อ่าน E-book วิทยากรได้โชว์ว่าในเครื่องคอมตัวเองก็เก็บหนังสือ e-book มากมาย ราวๆ 400 กว่าเล่ม นี่ก็เป็นส่วนนึงที่อยากแสดงให้เห็นว่า “ใครจะไปแบกหนังสือในห้องสมุดบ้าง” • แล้วตกลง “มีห้องสมุดการแพทย์ไว้ทำไม”วิทยากรได้แบ่งการใช้งานห้องสมุดการแพทย์ออกมาเป็น 2 ส่วน คือ- ใช้ในแง่แหล่งข้อมูล เช่น หนังสือ วารสาร ฐานข้อมูล e-book ฯลฯ- ใช้ในแง่ส่วนตัว เช่น พักผ่อน นัดพบ หาความรู้เพิ่มเติม

  41. ห้องสมุดการแพทย์ในฝันตามสไตล์นักศึกษาแพทย์ห้องสมุดการแพทย์ในฝันตามสไตล์นักศึกษาแพทย์ • 1 การเป็นแหล่งข้อมูล (อันนี้เน้นการให้บริการทางเว็บไซต์ หรือ การสร้างชุมชนการเรียนรู้) โดยห้องสมุดจะต้องมีฟีเจอร์เพิ่มเติม คือ • 1.1 ระบบการค้นหาที่ใช้ง่าย และค้นหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ1.2 ระบบการสะสมองค์ความรู้ จัดเก็บข้อมูลได้เป็นระบบ1.3 ระบบการสร้าง สามารถสร้างองค์ความรู้ หรือ มีพื้นที่ในการเขียนเรื่องต่างๆ ในเว็บห้องสมุด1.4 ระบบการเผยแพร่ ถ่ายทอดและส่งต่อองค์ความรู้เพื่อให้ผู้อื่นได้อ่านและแสดงความคิดเห็นได้ • 2 สื่อการเรียนการสอนแบบใหม่ๆ เช่น • 2.1 ไฟล์วีดีโอทางด้านการแพทย์ เช่น การผ่าตัด การรักษาเฉพาะที่ ฯลฯ2.2 ไฟล์ภาพทางด้านการแพทย์ เช่น ภาพการวินิจฉัยโรคต่างๆ ฯลฯ2.3 ไฟล์ฟิล์มภาพ X-ray เช่นภาพกระดูกหัก กระดูกแตก กระดูกคต ฯลฯ

  42. 3 บรรยากาศภายในห้องสมุด • 3.1 สถานที่เอื้ออำนวยให้เกิดการเรียนรู้ ส่งเสริมการเรียนรู้3.2 สถานที่เงียบสงบ • 4 ส่วนสนับสนุน • 4.1 หนังสือพิมพ์4.2 วารสาร4.3 อินเทอร์เน็ตไร้สาย • 5 อื่นๆ • 5.1 ห้องน้ำ5.2 ห้องอาหาร • นี่ก็เป็นเพียงความเห็นส่วนหนึ่งจากผู้ใช้บริการ หากเราสามารถทำตามความต้องการของผู้ใช้บริการได้ ห้องสมุดก็ยังคงมีความสำคัญอยู่ตลอดไป

  43. วิทยาการโดย นายแพทย์สมศักดิ์ ลีเชวงวงศ์ กลุ่มงานออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลเลิศสิน

  44. Hand ? Medical Librarian • โรคนิ้วสะดุด • ข้อมูลทั่วไป • - ผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชาย- พบในวัยกลางคน- เกิดอาการที่นิ้วแม่มือ, นิ้วนาง, นิ้วกลาง • การรักษา • -พักการใช้งานชั่วคราว- ใส่เครื่องดามมือ- ทานยาแก้อักเสบ- ฉีดยาแก้อักเสบ (ฉีดสารสเตอรอยด์)- ผ่าตัด

  45. Hand ? Medical Librarian • โรคอักเสบบริเวณข้อมือ • ข้อมูลทั่วไป • - ผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชาย- พบในวัยกลางคน • การรักษา • - พักการใช้งานชั่วคราว- ใส่เครื่องดามมือ- ทานยาแก้อักเสบ- ฉีดยาแก้อักเสบ (ฉีดสารสเตอรอยด์)- ผ่าตัด

  46. Hand ? Medical Librarian • โรคเส้นประสาทถูกกดทับ บริเวณข้อมือ • ข้อมูลทั่วไป • - ผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชาย- คนท้องหรือตั้งครรภ์เกิดบ่อยมาก- เกิดอาการชาเป็นพักๆ ถ้าหนักๆ จะเกิดอาการชาแล้วไม่หาย • การรักษา • - การรักษาจากต้นทาง (สาเหตุ) เช่น ปรับปรุงวิธีทำงาน การปรับการนั่งทำงาน การวางมือบนแป้นคีย์บอร์ด- ดามข้อมือ- ทานยา ยาแก้อักเสบ วิตามิน B6- ผ่าตัด

  47. Hand ? Medical Librarian • โรคข้อเสื่อมทางมือ • ข้อมูลทั่วไป • - ผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชาย- พบในวัยกลางคน- ข้อนิ้วยึดติดในตอนเช้า- ลักษณะนิ้วเก • การรักษาขั้นต้น • - แช่น้ำอุ่นๆ ช่วงเช้า 3-5 นาที • ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ มาจาก- กรรมพันธุ์- อายุ, เพศ, น้ำหนักตัว, ภาวะประจำเดือน- การทำงาน

More Related