450 likes | 629 Views
อะไรเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง?. แรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคือ …. พลังที่ซึ่งสนับสนุนองค์การหรือธุรกิจให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือหมายถึงสิ่งที่องค์การไม่สามารถคงสภาพเดิมเหมือนที่เคยเป็นอยู่ได้ สามารถจัด เป็นกลุ่มได้ดังนี้ : แรงผลักดันภายนอก ( External Change Drivers )
E N D
อะไรเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง?อะไรเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง? • แรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคือ…. • พลังที่ซึ่งสนับสนุนองค์การหรือธุรกิจให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือหมายถึงสิ่งที่องค์การไม่สามารถคงสภาพเดิมเหมือนที่เคยเป็นอยู่ได้ • สามารถจัด เป็นกลุ่มได้ดังนี้: • แรงผลักดันภายนอก (External Change Drivers) • แรงผลักดันภายใน (Internal Change Drivers)
แรงผลักดันการเปลี่ยนแปลงภายนอก เงื่อนไขทางเศรษฐกิจ ลำดับความสำคัญ ของรัฐบาล ประชากร นวัตกรรม เทคโนโลยี ความต้องการของลูกค้า /สาธารณะ การพัฒนาการเมือง การเปลี่ยนแปลง ของตลาด
แรงผลักดันการเปลี่ยนแปลงภายในแรงผลักดันการเปลี่ยนแปลงภายใน ยุทธศาสตร์ใหม่ การปฏิรูปการบริหาร การลดขนาดองค์การ การบริหารจัดการใหม่ การรวมศูนย์อำนาจ / การกระจายอำนาจ การแปลงสภาพสู่เอกชน การขยายตัว กระบวนการใหม่ / เทคโนโลยีใหม่
กระบวนการเปลี่ยนแปลง (The Change Process) รางวัล องค์การ (Organizational) การวัดผล งาน การยอมรับ กระบวนการ กลยุทธ์ โครงสร้าง การประเมินผล ทดลอง/ฝึกปฏิบัติ บุคคล (Individual) ความรู้ การตระหนัก
ภาวะผู้นำเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างเสริมวัฒนธรรมองค์การและสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงองค์การภาวะผู้นำเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างเสริมวัฒนธรรมองค์การและสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงองค์การ { วัฒนธรรม แรงผลักดันการเปลี่ยนแปลง ภาวะผู้นำ กระบวนการทางธุรกิจ { ระดับการเปลี่ยนแปลง โครงสร้างองค์การ การจัดการ การปฏิบัติงาน ผลตอบแทน & ผลประโยชน์ รางวัล &การยอมรับ การฝึกอบรม & พัฒนา การสื่อสาร ขีดสมรรถนะบุคลากร
: คือบุคคลที่มีอำนาจหรืออิทธิพลต่อผู้อื่นในหน่วยงาน ทั้งในแง่ความคิด และพฤติกรรมการทำงาน ภาวะผู้นำ (Leadership) : คือการที่ผู้นำใช้อิทธิพลหรืออำนาจหน้าที่ ที่มีอยู่ ต่อผู้อื่น ในสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติตามเป้า หมายที่กำหนดไว้ ผู้นำ (Leader)
ระบบความคิดของผู้นำยุคใหม่ระบบความคิดของผู้นำยุคใหม่ • สร้างความต้องการการเปลี่ยนแปลงเฉพาะบุคคล • เข้าใจความสำคัญของภาวะผู้นำในการผลักดันการเปลี่ยนแปลง • เข้าใจรูปแบบภาวะผู้นำและขอบเขตการพัฒนาของแต่ละคน
การทุจริต ประพฤติมิชอบ ความเก่า ล้าสมัย ของระบบ สภาพปัญหา ของระบบราชการ กำลังคน ไม่มีคุณภาพ การบริหาร แบบรวมศูนย์ อำนาจ ทุจริต ประพฤติ มิชอบ ความไม่ รับผิดชอบ ปัญหา ประสิทธิภาพ ทัศนคติ ค่านิยม แบบดั้งเดิม กฎ ระเบียบ เทคโนโลยี วิธีปฏิบัติงาน ไม่ทันสมัย ค่าตอบแทน สวัสดิการไม่เหมาะสม
กระแสโลกาภิวัตน์ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แรงผลักดันการปฏิรูป ระบบราชการ วิกฤต เศรษฐกิจ การเข้าสู่ สังคมเรียนรู้ ความเข้มแข็งของภาคเอกชน ความต้องการ มีส่วนร่วม ของประชาชน รัฐธรรมนูญใหม่
องค์ประกอบหลักของ New Public Management : NPM การประชุมของThe Commonwealth Association For Public Administration and Management (CAPAM)ปี 1994 สรุปได้ว่า NPMประกอบด้วย : 1. การให้บริการที่มีคุณภาพแก่ประชาชน 2. การลดการควบคุมจากส่วนกลาง และเพิ่มอิสระในการบริหาร ให้แก่หน่วยงาน 3. การกำหนดความต้องการ การวัดผลงาน และการให้รางวัล แก่ผลการดำเนินงาน ทั้งในระดับองค์การ และระดับบุคคล
องค์ประกอบหลักของ New Public Management : NPM (ต่อ) 4. การสร้างระบบสนับสนุนทั้งในด้านของบุคลากร (เช่นระบบการ ฝึกอบรม ระบบค่าตอบแทน และระบบคุณธรรม) และเทคโนโลยี (เช่น ระบบข้อมูลสารสนเทศ) เพื่อช่วยให้หน่วยงานสามารถทำงาน ได้บรรลุวัตถุประสงค์ 5. การเปิดกว้างต่อแนวคิดในเรื่องการแข่งขัน ทั้งการแข่งขันระหว่าง หน่วยงานของรัฐด้วยกันเอง และระหว่างหน่วยงานของรัฐกับหน่วย งานของเอกชน ในขณะเดียวกัน ภาครัฐก็หันมาทบทวนตัวเองว่า สิ่งใดควรทำเองและสิ่งใดควรปล่อยให้ภาคเอกชนทำ
โลกแห่งการเปลี่ยนแปลงในลักษณะแบบ non-linear Re-thinking Re-thinkingthe future Strategic thinking Re-imagine As the future catches you Change management World out of balance Re-managing Information technology Bio-technology (life sciences) Nano-technology Strategy-focused Organization Strategy Map Balanced Scorecard
- เน้นการเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา (Catalytic Government: steering rather than rowing) คือ เน้นการกำกับดูแล มากกว่าเป็นผู้ให้บริการต่าง ๆ ด้วย ตัวเอง แล้วให้ชุมชนหรือภาคเอกชน มีส่วนร่วมให้บริการต่าง ๆ ให้มากที่สุด - ต้องมองการณ์ไกล และเน้นการป้องกัน มากกว่าแก้ไข (Anticipatory Government: preventing rather than cure) แนวการปฏิรูป Reform Approach 1. รัฐต้องปรับบทบาท ภารกิจ และกลยุทธ์ในการดำเนินงาน ผลกระทบ • ต้องปรับแผนกลยุทธ์ : ภารกิจ วิธีการดำเนินงาน ขนาด และ • การจัดโครงสร้างองค์การ
- เน้นการบริหารแบบมุ่งผลงาน (Result-oriented Government: Funding outcomes rather than inputs) ระบบงบประมาณแบบมุ่งผลสัมฤทธ์ (Performance-Based Budgeting) ระบบบริหารงานที่เน้นผลงาน(Result-Based Management) ระบบบริหารบุคคลที่เน้นผลงาน เช่น ระบบ SES - เป็นองค์กรประสิทธิภาพสูง (High Performance Organizations) แนวการปฏิรูป Reform Approach (ต่อ) 2. รัฐต้องปรับวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ใช้ทรัพยากร ให้คุ้มค่า (Value for Money) ผลกระทบ • การปรับวิธีการดำเนินงาน การจัดสรรและใช้งบประมาณ • วิธีบริหารคน และการคิดตัดสินใจ ที่อิงผลงานมากกว่าระเบียบ
- เป็นองค์การที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ( Transparent Government : transforming black boxes into glass houses) - กระจายอำนาจและเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วม - ต้องจัดระบบงานให้สามารถเปิดเผย ให้ตรวจสอบ และมีส่วนร่วมได้ ในทุกขั้นตอน - ต้องแสดงให้เห็นด้วยว่าดำเนินงานอย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว แนวการปฏิรูป Reform Approach (ต่อ) 3. รัฐต้องปรับการดำเนินงานให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ ผลกระทบ • การปรับวิธีการดำเนินงาน การจัดสรรและใช้งบประมาณ • วิธีบริหารคน และวิธีการคิดตัดสินใจให้เป็นประชาธิปไตย
การยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง (citizen-centered) คิดเชิงยุทธศาสตร์ (strategic thinking) มุ่งอนาคต (future-oriented) เปิดมุมมองจากภายนอก (outside-in approach) ทำงานเชิงรุก กล้าคิดกล้าทำ(proactive ไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิม(out of the box) มีเป้าหมายในการทำงานและสามารถวัดผลสำเร็จได้อย่างชัดเจน (result-oriented) เน้นความรวดเร็ว เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ (economy of speed) ยึดหลักบูรณาการ ไร้พรมแดนของหน่วยงาน (boundaryless) เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ปรับตัวให้ทันโลก ทันสมัย (continuous learning) แสวงหาและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสมัยใหม่ (technology oriented) บริหารงานบนฐานขององค์ความรู้และข้อมูลสารสนเทศ (knowledge based mgt.) ราชการที่ก้าวข้ามผ่านให้พ้นความเป็นระบบราชการ(Beyond Buraucracy)
Customer Drivenมุ่งเน้นบริการประชาชน Mission-oriented มุ่งบรรลุภารกิจ Learning Organization เรียนรู้ทันโลก ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง Technology-based ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ Empowerment & Participation มอบอำนาจและให้มีส่วนร่วม Networking Organization รูปแบบเครือข่าย Accountability to Results รับผิดชอบต่อผลงาน องค์การภาครัฐยุคคิดใหม่ทำใหม่ High Performance Organization
การดำเนินการพัฒนาระบบราชการการดำเนินการพัฒนาระบบราชการ ยุทธศาสตร์ 1 : ยกระดับการให้บริการและการทำงาน เพื่อตอบสนองความคาดหวังและ ความต้องการของประชาชนที่มีความสลับซับซ้อน หลากหลายและ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ยุทธศาสตร์ 2: มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูง บุคลากรมีความพร้อมและ ความสามารถในการเรียนรู้คิดริเริ่ม เปลี่ยนแปลง และปรับตัวได้อย่าง เหมาะสมต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ยุทธศาสตร์ 3: ปรับรูปแบบลักษณะเชิงบูรณาการเกิดจากการแสวงความร่วมมือและสร้าง เครือข่ายกับฝ่ายต่าง ๆ รวมทั้งเปิดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ยุทธศาสตร์ 4: สร้างระบบการกำกับดูแลตนเองที่ดี เกิดความโปร่งใส มั่นใจและสามารถ ตรวจสอบได้ รวมทั้งทำให้บุคลากรปฏิบัติงานอย่างมีจิตสำนึกความ รับผิดชอบต่อตนเอง ต่อประชาชนและต่อสังคมโดยรวม
เงื่อนไขของความสำเร็จเงื่อนไขของความสำเร็จ 1. ภาวะผู้นำและความเป็นเจ้าของในการบริหารการเปลี่ยนแปลง - ให้มีคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการของแต่ละหน่วยงาน - ให้มีผู้บริหารระดับสูงเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการพัฒนา ระบบงานและการบริหารการเปลี่ยนแปลง (Chief Change Officer : CCO) 2. การแก้ไขกฎหมายอันเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาระบบราชการ 3. การเชื่อมโยงและบูรณาการสรรพกำลังของทุกภาคส่วนในการ พัฒนาระบบราชการ 4. การจัดสรรงบประมาณเพื่อการพัฒนาระบบราชการให้แก่ส่วน ราชการต่างๆ การนำยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติ
คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2546 เห็นชอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศ เป็นผู้บริหารสูงสุดของหน่วย งาน (Chief Executive Officer : CEO) และใช้การบริหารงานแบบบูรณาการ ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2546 มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2546 เห็นชอบแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการ (พ.ศ. 2546-พ.ศ.2550) ซึ่งได้ระบุเงื่อนไขความ สำเร็จในการนำแผนยุทธศาสตร์ ฯ ประการหนึ่งก็ คือ มีผู้บริหารระดับสูงเป็นผู้รับผิดชอบในการพัฒนาระบบงานและการบริหารเปลี่ยนแปลง ที่เรียกว่า Chief Change Officer : CCO ผู้นำการบริหารการเปลี่ยนแปลง : ที่มา
CCO กระทรวงคือ รองปลัดกระทรวงที่รับผิดชอบงานด้านนโยบาย และแผนของกระทรวง CCO กรม คือ รองอธิบดีที่รับผิดชอบงานด้านแผนกลยุทธ์ และแผน ปฏิบัติการของกรม CCO จังหวัด คือ รองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับมอบหมายจาก ผู้ว่าราชการจังหวัด CCO ของหน่วยงาน
เสนอแนะ ให้คำปรึกษา แก่ผู้บริหารระดับสูงสุดของหน่วยงาน ในการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบบริหารภายในหน่วยงาน ให้สอดคล้องกับยุทธ ศาสตร์และเจตนารมณ์การพัฒนาระบบราชการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย (พ.ศ.2546-พ.ศ.2550) ผลัดกันให้หน่วยงานและบุคลากรในหน่วยงาน ปฏิบัตืตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 รวมทั้งแนวปฏิบัติที่ ก.พ.ร. กำหนด เพื่อนำองค์การไปสู่รูปแบบการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ คือ - ปรับบทบาท ภารกิจ กระบวนการทำงานของหน่วยงาน ให้เหมาะสม คล่องตัว รวดเร็ว โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง - ปรับกระบวนทัศน์ วัฒนธรรม ค่านิยม และกลไกวิธีการบริหารราชการ หน้าที่ความรับผิดชอบของ CCO
- พัฒนาระบบ วิธีการปฏิบัติงานของข้าราชการในหน่วยงาน ให้มีประสิทธิภาพ เท่าเทียมมาตรฐานสากล สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างถูกต้องเหมาะสม เป็นแกนกลางประสานการดำเนินงานระหว่างสำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานภายใน เพื่อให้การประสานปฏิบัติงานเรื่องการพัฒนาระบบราชการ บรรลุเป้า หมายอย่างมีประสิทธิผล เป็นผู้นำการกระตุ้น เร่งเร้าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์การ ติดตาม รายงานผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการเสนอ CEO เพื่อสั่งการ สื่อสาร สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับข้าราชการในองค์การ เพื่อให้เกิดทัศนคติที่ดีต่อการพัฒนาระบบบริหารราชการ เป็นต้นแบบของการเปลี่ยนแปลง หน้าที่ความรับผิดชอบของ CCO (ต่อ)
ต้องเป็นผู้มีความรู้ ความเข้าใจสถานการณ์ทั่วไปของโลกและประเทศ ต้องเป็นผู้ที่รอบรู้ และทัศนคติที่ดีต่องานในองค์การ สามารถทำงานร่วมกับผู้บริหารระดับสูงสุดขององค์การได้ดี สามารถดำเนินการร่วมกับทีมงานการบริหารการเปลี่ยนแปลง (กลุ่มงานพัฒนาระบบงาน) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับของผู้ร่วมงานในองค์การ มีความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาองค์การให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี มีความกระตือรือร้น เอาใจใส่ มุ่งมั่น และอดทนในการปฏิบัติงาน มีความยืดหยุ่น และตอบสนองการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว คุณสมบัติของ CCO
การบริหารรัฐกิจแนวใหม่การบริหารรัฐกิจแนวใหม่ นำยุทธศาสตร์ ไปปฏิบัติ Strategy Implementation วางยุทธศาสตร์ Strategy Formulation ติดตาม ประเมินผล Strategic Control แผนปฏิบัติการ • กำกับติดตามและ • ประเมินผล • ทบทวนสถานการณ์ • เพื่อวางยุทธศาสตร์ ใหม่ • วิสัยทัศน์ • ประเด็นยุทธศาสตร์ • เป้าประสงค์ • ตัวชี้วัด/ค่าเป้าหมาย • กลยุทธ์ • Strategy Map • การปรับแต่ง • กระบวนงาน • โครงสร้าง • เทคโนโลยี • คน กระบวนการบริหารเชิงกลยุทธ์
ผู้นำยุคใหม่ที่เป็นผู้นำการบริหารการเปลี่ยนแปลงผู้นำยุคใหม่ที่เป็นผู้นำการบริหารการเปลี่ยนแปลง • พัฒนาบทบาทใหม่ของข้าราชการผู้เกี่ยว ข้องและผู้มีส่วนได้เสียในหน่วยงาน • สร้างวิสัยทัศน์ใหม่ของหน่วยงาน • สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกระตุ้นเร่งเร้าและสื่อสารให้บุคคลทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงโดยเน้นกระบวนการเรียนรู้เชิงปฏิบัติการ (action learning) และการ มีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม (รัฐเอกชนและประชาชน) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี • สร้างแผนยุทธศาสตร์ในหน่วยงานของตน (strategic plan) และกระบวนการทำงานใหม่ที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลรวมทั้งเป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วนในสังคม • สนับสนุนส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนในสังคมร่วมดำเนินการปฏิบัติตามแผนยุทธศาสตร์ฯ • ............... วิสัยทัศน์๒๐๒๐ ต้องเข้าใจบทบาทของตนเองและพร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่บุคคลอื่นในองค์การได้ เพื่อการพัฒนาไปสู่ระดับการแข่งขันในเวทีโลก เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างแท้จริง
วัตถุประสงค์ของการพัฒนาผู้นำการบริหารการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ของการพัฒนาผู้นำการบริหารการเปลี่ยนแปลง วิสัยทัศน์๒๐๒๐ เพิ่มขีดความสามารถ ของข้าราชการ ประเทศไทยมีการพัฒนาที่ยั่งยืน มีเสถียรภาพและความเจริญทาง ด้านเศรษฐกิจสังคมและการเมือง อย่างสมดุลและเป็นผู้นำในเวที ระหว่างประเทศ เพิ่มขีดความสามารถ ของระบบราชการ เพิ่มขีดความสามารถของ ผู้นำการบริหารการเปลี่ยนแปลง เป็นผู้บริหารการเปลี่ยนแปลง (change agent) ที่มีประสิทธิภาพเข้าใจบทบาทของตนเองและพร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลง ด้วยนวัตกรรมใหม่ (innovation) ให้แก่องค์การและบุคคลอื่นในองค์การได้ตลอดจนกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมใหม่ในองค์กร เพื่อการพัฒนาศักยภาพไปสู่ระดับการแข่งขันในเวทีโลกและ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างแท้จริง
วัตถุประสงค์โครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่: เพื่อพัฒนานักบริหารรุ่นใหม่ ให้เป็นนักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ ที่มีสมรรถนะครบครัน ในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Change Leader)โดยเป็นได้ทั้งนักคิดที่มีวิสัยทัศน์ (Visionary Thinker)นักพัฒนาและวางแผน (Developer & Planner)และนักปฏิบัติ (Operator)อย่างสมดุล สามารถเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในด้านความคิด วิชาการ และเทคนิคการบริหารจัดการองค์การ และสามารถนำนวัตกรรม (Innovation) ด้านการบริหารจัดการใหม่ๆ มาพัฒนาหน่วยงานภาครัฐให้มีศักยภาพไปสู่การแข่งขันในเวทีโลก และเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างแท้จริง • นักคิดที่มีวิสัยทัศน์ • (Visionary Thinker) • นักพัฒนาและวางแผน • (Developer & Planner) • นักปฏิบัติ • (Operator) นักบริหารการเปลี่ยนแปลง รุ่นใหม่ โครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่
1. มีวิสัยทัศน์ที่มีความหมาย มองไปข้างหน้า หลักการที่สำคัญคือ Where we want to go and how to get there. 2. สื่อสารได้อย่างดี สามารถนำเสนอวิสัยทัศน์ของตนเองให้ทุกคนในองค์การทราบได้ว่า องค์การจะเดินไปทางไหน 3. เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ ไม่โกหก ไม่หลอกลวง 4. เป็นบุคคลที่กล้าได้กล้าเสีย และพร้อมจะเรียนรู้จากประสบการณ์ วางแผนแล้วต้องเดินหน้า อย่ากลัวผิด อย่านั่งทับปัญหา ต้องปรับ ปรุงแก้ไข เปลี่ยนแปลงไม่ให้เกิดปัญหาอีก ภาวะผู้นำในศตวรรษที่ 21
5. มีสำนึกและเชื่อมั่นต่อการเปลี่ยนแปลง กล้าคิดนอกกรอบ คิดเพื่อหลุดพ้น คิดโดยต้องให้เกิดความเชื่อมโยงในกรอบของโลกาภิวัฒน์(Globalization) คิดโดยมีมิติใหม่ ๆ 6. ต้องกล้าที่จะทำให้องค์การมีความกะทัดรัด คล่องตัว ทำให้องค์การขนาดใหญ่มีจิตวิญญาณ ขององค์การขนาดเล็ก เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้เร็วที่สุด Dr. Warren Bennis ภาวะผู้นำในศตวรรษที่ 21
ต้องสามารถ... Articulate Vision : สร้างและพัฒนาวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน Anticipate Change : คาดการณ์ความเปลี่ยนแปลง Accelerate Execution : เร่งสร้างสรรค์การปฏิบัติงาน เร่งรุด ไม่รั้งรอ ให้สถานการณ์มาเป็นตัวกดดัน ให้สร้างงาน หากแต่ริเริ่มทำด้วยวิสัยทัศน์ของตนเอง Accountable : มีความรับผิดชอบต่อการดำเนินงานของตน ไม่ว่าผลที่เกิดขึ้นจะเป็นเชิงบวกหรือลบ Professor Dipak C. Jain ผู้ว่าราชการจังหวัดแบบ CEO
ประกอบด้วย... 1. Entrepreneurial Spirit : การสร้างจิตวิญญาณแบบผู้ประกอบ ธุรกิจ 2. Positive Attitude : การมีทัศนคติเชิงบวก 3. Team Leadership : การสร้างภาวะผู้นำกลุ่ม 4. Proactive Approach : การปฏิบัติงานแบบเชิงรุก 5. Collaboration Culture : การสร้างวัฒนธรรมความร่วมมือ การสร้างแนวคิดแบบ Market-Driven ให้กับผู้ว่าฯ CEO
ต้องสามารถ ... Articulate Vision: สร้างและพัฒนาวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน Anticipate Change: คาดการณ์ความเปลี่ยนแปลง Accelerate Execution: เร่งสร้างสรรค์การปฏิบัติงาน เร่งรุดไม่รั้งรอ ให้สถานการณ์มาเป็นตัวกดดันให้สร้างงาน หากแต่ริเริ่มทำด้วยวิสัยทัศน์ของตนเอง Accountable: มีความรับผิดชอบต่อการดำเนินงานของตน ไม่ว่าผลที่เกิดขึ้นจะเป็นเชิงบวกหรือลบ Professor Dipak C. Jain ผู้ว่าราชการจังหวัดแบบ CEO
The 4 Roles of Leadership Mission Values Vision Strategy Customers’ needs & Stakeholders’ expectations Results Pathfinding Modeling • 6 Rights • Process • Structure • People • Info. • Decision • Rewards People Paradigm Empowering Aligning Culture Behavior
1.Path Finder: การหาเส้นทางหรือหาทางเลือกที่ดีที่สุดให้เจอ 2.Aligning: การเตรียมคน เตรียมระบบ การสื่อสารกับคน การรวม พลัง (Empowering ) ของคนที่เข้ามาทำงาน ผ่านการ ให้กำลังใจ และการกระตุ้น (Inspiration) ไปสู่จุดหมาย ปลายทาง 4.Empowerment: มอบ/แบ่งอำนาจให้ลูกน้อง 3.Role Model : ต้องเป็นตัวอย่าง เป็นผู้ปฏิบัติให้ลูกน้องเห็น บทบาทหลักของ CEO
Integrity Dedication Respect for colleagues Management Communication / one’s own ideas Interpersonal skills Values and culture Vision: shared vision embraced with passion Change Risk-taking Think out of box LeadershipRandall and Todd Tobias
Democratization Globalization Technology : Information, Nano, Bio, Material Science ผู้นำยุคปัจจุบัน จะต้อง...
Globalizationที่ก่อให้เกิด Free Flow มีดังนี้ - Capital - Goods & Services - Information & Knowledge - People Globalization
The 7 Habits of Highly Effective People 1. Be proactive 2. Begin with the end in mind 3. Put first things first 4. Think win/win 5. Seek to understand, then to be understood. 6. Synergy 7. Sharpen the saw Dr. Stephen R. Covey
ผู้นำ เจ้านาย/ผู้จัดการ ผู้นำ : เจ้านาย • วิสัยทัศน์ - วางแผน • ริเริ่ม - วางรูปงาน • นำการเปลี่ยนแปลง - จัดการบุคคล • จูงใจ - มอบหมายงาน/อำนวยการ • กระตุ้น - ควบคุมงาน
ทำลาย สนับสนุน ผู้นำ/หัวหน้างานกับการสร้างบรรยากาศในการทำงาน • วิพากษ์วิจารณ์ - การสร้างความเข้าใจ • ดุ - ให้กำลังใจ • บังคับ ควบคุม - ให้อิสระ • เล่ห์เหลี่ยม - จริงใจ • ไม่สนใจ ไม่แยแส - สอนงาน เอื้ออาทร • ดื้อรั้น - รับฟังความคิดเห็น • ใช้อำนาจ - ยืดหยุ่น • ฯลฯ - กระตุ้นให้ใช้ความคิดสร้างสรรค์