1 / 47

อิทธิพลของพระพุทธศาสนาเถรวาท ที่มีต่อประเทศอินเดีย

อิทธิพลของพระพุทธศาสนาเถรวาท ที่มีต่อประเทศอินเดีย. จัดทำโดย พระมหาธีรพันธ์ ธีรกิตติ พระรังสรรค์ ปญญาวุฑโฒ นางสาวอัญชลี จตุ รานน. นำเสนอ อาจารย์ ดร. เทพประ วิณ จันทร์แรง วิชา พระพุทธศาสนาเถรวาท ตามหลักสูตรปริญญาพุทธ ศาสตร มหาบัณฑิต

Download Presentation

อิทธิพลของพระพุทธศาสนาเถรวาท ที่มีต่อประเทศอินเดีย

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. อิทธิพลของพระพุทธศาสนาเถรวาท ที่มีต่อประเทศอินเดีย จัดทำโดย พระมหาธีรพันธ์ ธีรกิตติ พระรังสรรค์ ปญญาวุฑโฒ นางสาวอัญชลี จตุรานน นำเสนอ อาจารย์ ดร. เทพประวิณ จันทร์แรง วิชา พระพุทธศาสนาเถรวาท ตามหลักสูตรปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๕ และเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา

  2. วัตถุประสงค์และประโยชน์จากงานนำเสนอวัตถุประสงค์และประโยชน์จากงานนำเสนอ • เข้าใจถึงความเป็นมาของพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียตั้งแต่ช่วงพุทธกาลจนถึงปีพ.ศ. ๑๗๐๐ ทั้งในด้านสังคม, การศึกษา, การเมืองการปกครอง และเศรษฐกิจ • เข้าใจถึงสาเหตุที่พุทธศาสนาเถรวาทเลือนหายไปจากอินเดียในช่วงปีพ.ศ. ๑๗๐๐ - พ.ศ. ๒๔๐๐ • ทราบและเข้าใจถึงเหตุการณ์การฟื้นฟูพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย เริ่มตั้งแต่ในช่วงปีพ.ศ. ๒๔๐๐ • ทราบถึงเหตุการณ์ และบุคคลสำคัญผู้มีส่วนในการฟื้นฟูพุทธศาสนาเถรวาทคืนสู่อินเดีย และเผยแพร่สู่ทั่วโลก • เข้าใจถึงอิทธิพลของพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย ในยุคปัจจุบัน

  3. โครงสร้างเนื้อหาการนำเสนอโครงสร้างเนื้อหาการนำเสนอ อิทธิพลพระพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย • อิทธิพลของพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียตั้งแต่ช่วงพุทธกาล - พ.ศ. ๑๗๐๐ • ด้านสังคม • ด้านศาสนา • ด้านการศึกษา • ด้านศิลปะ • ด้านเศรษฐกิจ • ด้านการเมือง • พระเจ้าอโศกมหาราช • พระเจ้ามิลินท์ • ช่วงที่พุทธศาสนาเลือนหายไปจากอินเดีย • พ.ศ. ๑๗๐๐ – พ.ศ. ๒๔๐๐ • สาเหตุจากการใช้กำลังทำลายล้าง • สาเหตุจากการกลืนศาสนาพุทธเข้ากับศาสนาฮินดู • ช่วงที่พุทธศาสนาได้รับการฟื้นฟูคืนสู่อินเดีย • พ.ศ. ๒๔๐๐ – ปัจจุบัน • ชาวตะวันตกหันมาสนใจศึกษา ค้นคว้าทางพุทธศาสนา • มีการตั้งสมาคมต่างๆ และฟื้นฟูพุทธสถาน • ดร. เอ็มเบ็ดการ์ ผู้นำชาวพุทธใหม่ • พุทธศาสนาในอินเดียปัจจุบัน

  4. ประวัติประเทศอินเดียโดยสังเขปประวัติประเทศอินเดียโดยสังเขป • สมัยพุทธกาลเรียกว่า ชมพูทวีป มีภาษาพูดกว่า ๒๐๐ ภาษา • พ.ศ. ๒๔๙๐ อังกฤษคืนเอกราช จึงมีการแบ่งแคว้นต่างๆเป็นเขตประเทศ

  5. ภูมิประเทศอินเดีย • ลักษณะประเทศเป็นแหลมยื่นลงมหาสมุทร • อากาศหนาวที่สุด (เทือกเขาหิมาลัย) จนถึงร้อนที่สุด (ทะเลทรายแคว้นราชสถาน อินเดียตะวันตกและ ทางใต้) • มีเขตฝนตกชุกคือ อินเดียตะวันออกต่อแดนพม่า • เขตอุดมสมบูรณ์คือแถบลุ่มแม่น้ำสินธุ และคงคา และภาคใต้

  6. ความเป็นไปของพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียความเป็นไปของพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย • พุทธกาล - พ.ศ. ๕๐๐ • เป็นยุคที่พุทธศาสนาเจริญในอินเดียสูงที่สุด มีอิทธิพลทั้งทางด้านสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ • พ.ศ. ๕๐๐ - พ.ศ. ๑๗๐๐ • ศึกษาเฉพาะบางเรื่องที่เด่นชัดและสำคัญ • พ.ศ. ๑๗๐๐ - พ.ศ. ๒๔๐๐ • พุทธศาสนาเสื่อมไปจากชมพูทวีป • พ.ศ. ๒๔๐๐ - ปัจจุบัน • มีการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาคืนสู่ชมพูทวีป

  7. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียช่วงพุทธกาล– พ.ศ. ๑๗๐๐ • ด้านสังคม • ชนชั้นวรรณะ, ครอบครัว, การสาธารณสุข, การประปา, การศึกษา, ศิลปะ • ด้านศิลปวัฒนธรรมสถาปัตยกรรม • แบ่งเป็นยุคก่อนมีพระพุทธรูป และยุคหลังสร้างพระพุทธรูป • ด้านเศรษฐกิจ • การค้า, การฝีมือ, งานช่าง, งานอาชีพ, เกษตรกรรม, การเก็บภาษีอากร • ด้านการเมือง • ระบบการปกครอง, กฎหมาย, การทูต วัฒนธรรมการเมือง, บทบาททางการเมือง

  8. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียด้านสังคมช่วงพุทธกาล – พ.ศ. ๑๗๐๐ • สถาบันสังคม • สังคมอินเดียมีการจัดระบบวรรณะ๔ คือ • กษัตริย์, พราหมณ์, แพศย์, ศูทร ศาสนาพุทธเน้นความเสมอภาค ล้างระบบ วรรณะ เน้นคุณค่าของชีวิตที่เกิดจากการกระทำ ถือเป็นแนวคิดที่แปลกใหม่ในยุคนี้

  9. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียด้านสังคมช่วงพุทธกาล – พ.ศ. ๑๗๐๐ • สวัสดิการสังคม • พระเจ้าอโศกมหาราชได้สร้างโรงพยาบาลรักษาคนและสัตว์ การประปา และคมนาคม ทั้งในแคว้นของท่าน และเผื่อแผ่ไปถึงราชอาณาจักรของกษัตริย์กรีกองค์อื่นๆ อีก ๔ พระองค์ • หลักฐานเรื่องนี้ปรากฏในศิลาจารึกของพระเจ้าอโศก อัครศาสนูปถัมภ์ ฉบับที่ ๒ (ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๒) เสาจารึก พระเจ้าอโศกมหาราช

  10. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียด้านสังคมช่วงพุทธกาล – พ.ศ. ๑๗๐๐ • การศาสนา • พระพุทธศาสนาแพร่หลายเร็วเพราะมีความเสมอภาค ไม่แบ่งชั้นวรรณะ • การแพร่หลายเร็ว มีส่วนทำให้เกิดภิกษุ • อลัชชีขึ้นจำนวนมาก • จึงเป็นเหตุให้มีการสังคายนาครั้งที่ ๓ และส่งสมณทูตไปเผยแพร่พุทธศาสนาในประเทศต่างๆถึง ๙ สาย

  11. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียด้านสังคมช่วงพุทธกาล– พ.ศ. ๑๗๐๐ • การศึกษา • การศึกษายึดหลัก สมภาพ, เสรีภาพ, ภราดรภาพ และ การศึกษาแบบให้เปล่า • แต่เดิมวรรณะศูทรและนอกวรรณะ ไม่มีสิทธิเรียนคัมภีร์พระเวท • การศึกษาขยายตัวจากครัวเรือน สู่สังคม • การศึกษาครอบคลุมทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์

  12. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียด้านสังคมช่วงพุทธกาล – พ.ศ. ๑๗๐๐ • การศึกษา - กำเนิดมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลก • นาลันทามหาวิทยาลัย – ทางฝั่งอินเดียตะวันออกมีชื่อเสียงเด่นทางมหายาน และภาษาบาลี วิชาหลักธรรมมหายานเป็นภาคบังคับ และมีวิชาฝ่ายเถรวาท, นิรุกติศาสตร์, ปรัชญา, ฯลฯ • มหาวิยาลัยวลภี–ทางฝั่งอินเดียตะวันตก ให้การศึกษาทุกนิกาย แต่เน้นวิชาฝ่ายเถรวาท และมีวิชาการทางโลกด้วย วลภีเป็นเมืองศูนย์กลางการศึกษาที่สำคัญ • ซากปรักหักพังของนาลันทา มหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลก

  13. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียด้านสังคมช่วงพุทธกาล – พ.ศ. ๑๗๐๐ • การศึกษา - บ่อเกิดแห่งนักปราชญ์ • พระพุทธทัตตะ (พ.ศ. ๙๔๐-๑๐๐๐) – อภิธรรมาวตาร, อุตรวินิจฉัย, วินยวินิจฉัย, รูปารูปวินิจฉัย, มธุรัตถวิลาสินี ฯลฯ • พระพุทธโฆษาจารย์(พ.ศ. ๙๔๕-๑๐๐๐) – สมันตปาสาทิกา, กังขาวิตรณี, สารัตถปกาสินี, วิสุทธิมรรค ฯลฯ • พระธัมปาละ (พ.ศ. ๙๕๐-๑๐๐๐) – ปรมัตถทีปนี, อรรถกถาเปตวัตถุ, อรรถกถาวิสุทธิมรรค ฯลฯ • นิทานชาดกถูกแปลเป็นหลายภาษา และมีอิทธิพลต่อนิทานของประเทศอื่นๆหลายประเทศ เช่น นิทานอีสป • คัมภีร์วิสุทธิมรรค ภาษาไทย

  14. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียด้านศิลปวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมช่วงปี พ.ศ. ๑๐๐ – พ.ศ. ๑๗๐๐ • พ.ศ. ๑๐๐ - ๕๐๐ • ยุคก่อนมีพระพุทธรูป ใช้สัญลักษณ์แทน • พ.ศ. ๕๐๐ - ๑๗๐๐ • ยุคหลังการสร้างพระพุทธรูป มีศิลปะสมัยต่างๆ

  15. อิทธิพลด้านศิลปวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมช่วงปี พ.ศ. ๑๐๐ – พ.ศ. ๕๐๐ • พ.ศ. ๑๐๐ – ๕๐๐ ยุคก่อนมีพระพุทธรูป • พระเจ้าอโศกมหาราช สร้างวัด ๘๔,๐๐๐ แห่ง • สถาปัตยกรรม ใช้หินแทนไม้ • นิยมการสร้างสถูป ที่ยังเหลืออยู่คือ สาญจิสถูป • ประติมากรรม เน้นงานแกะสลัก • ศิลาจารึก เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่คงทน • งานศิลปะเน้นนามธรรม และสัญลักษณ์แทน เช่น ดอกบัวแทนปางประสูติ ต้นโพธิ์แทนปางตรัสรู้ ธรรมจักรแทน ปางปฐมเทศนาและพระสถูปแทนปางปรินิพพาน

  16. อิทธิพลด้านศิลปวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมช่วงปี พ.ศ. ๕๐๐ – พ.ศ. ๑๗๐๐ • พ.ศ. ๕๐๐ – ๑๗๐๐ ยุคหลังสร้างพระพุทธรูป • ยุคแรกที่สร้างพระพุทธรูป คือยุคของพระเจ้ามิลินท์ • กษัตริย์ราชวงศ์ศาตวหานะ มีอำนาจรุ่งเรือง และทำนุบำรุงพุทธศาสนา • สนับสนุน สาญจิ, อมราวดี และ นาคารชุนโกณฑะ เป็นต้น

  17. อิทธิพลด้านศิลปวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมช่วงปี พ.ศ. ๕๐๐ – พ.ศ. ๑๗๐๐ • ศิลปะแบบคันธารราฐ(Gandhara) พ.ศ. ๖๐๐ - ๗๐๐ • พระพุทธรูปยุคแรก ได้รับอิทธิพลจากรูปปั้นเทพเจ้าของกรีก • ศิลปะแบบมถุรา (Mathura) • พ.ศ. ๖๐๐ - ๙๐๐ • ใกล้เคียงกับแบบคันธารราฐ ลักษณะเด่นคือ ฐานเป็นสิงห์ ประดับด้วยรูปพระโพธิสัตว์และสาวก

  18. อิทธิพลด้านศิลปวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมช่วงปี พ.ศ. ๕๐๐ – พ.ศ. ๑๗๐๐ • ศิลปะแบบคุปตะ (Gupta) พ.ศ. ๙๐๐ - ๑๓๐๐ เป็นลักษณะของอินเดียอย่างแท้จริง พระเกศาขมวดเป็นก้นหอยเช่นเดียวกับสมัยมถุรา พระเกตุมาลาเป็นต่อม พระพักตร์เป็นแบบอินเดีย ห่มจีวรบางแนบติดพระองค์ • ศิลปะแบบปาละ (Pala) พ.ศ. ๑๔๐๐ - ๑๘๐๐ • ผสมผสานคติของพราหมณ์ พระพักตร์คม พระขนงคมชัด พระนาสิกโด่งงุ้ม จีวรแนบเนื้อ

  19. ศิลปะสกุลช่างใต้ ช่วงปี พ.ศ. ๕๐๐ – พ.ศ. ๑๗๐๐ • ศิลปะอมราวดี (Amaravati) พ.ศ. ๖๐๐ - ๗๐๐ • พระพักตร์งดงาม จีวรเป็นริ้วระเบียบทอดยาวจรดขอบพระบาท นิยมแต่งลายที่ฐาน • ศิลปะจาลุกยะ (Chalukya) • ได้รับอิทธิพลจากคุปตะ • ศิลปะโจฬะ(Chola) • พราหมณ์เริ่มเฟื่องฟู พระพักตร์ทรงรี คางหยิก บั้นพระองค์คอด

  20. ศิลปะแบบสาญจิ ช่วงปี พ.ศ. ๕๐๐ – พ.ศ. ๑๗๐๐ • มีโบราณสถานที่เป็นวิหารที่เจาะเข้าไปในภูเขาลึก ๑๒๐๐ แห่ง (พราหมณ์ ๒๐๐, เชน ๑๐๐, พุทธ ๙๐๐) • ถ้ำอชันตา (Achanta) • มหาวิทยาลัยนาลันทา • ห้องสมุดเป็นอาคารใหญ่ ๓ หลัง หลังหนึ่งสูงถึง ๙ ชั้น ประณีตวิจิตรกว่างานก่อสร้างอิฐในยุคต่อๆมา

  21. บทบาทของวัดและพระสงฆ์ทางสังคมบทบาทของวัดและพระสงฆ์ทางสังคม • ช่วงพุทธกาล– พ.ศ. ๑๗๐๐ • ชาวบ้านส่งลูกหลานมาร่ำเรียนที่วัด, รับใช้พระสงฆ์ • ชาวบ้านมาฟังธรรมเทศนา • วัดเป็นสถานที่พยาบาล เป็นแหล่งตำราแพทย์ • วัดเป็นที่พักพิงของคนเดินทาง • วัดเป็นศูนย์กลางศิลปะ วัฒนธรรม • วัดเป็นที่ช่วยแก้ทุกข์ของชาวบ้าน

  22. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียด้านเศรษฐกิจช่วงพุทธกาล – พ.ศ. ๑๗๐๐ สัมมาอาชีวะ • ไม่ค้าอาวุธ, ไม่ค้ามนุษย์, ไม่ค้าเนื้อสัตว์, ไม่ค้าน้ำเมา, ไม่ค้ายาพิษ ทิฏฐิธัมมิกัตถประโยชน์ ๔ • ขยัน, อดออม, คบเพื่อนดี และไม่ฟุ่มเฟือย อิทธิพลของหลักอหิงสา • คนทำอาชีพฆ่าสัตว์น้อยลง หันมาทำเกษตรกรรม อาชีพที่นิยม • ค้าขาย, รับราชการ, งานช่างฝีมือ

  23. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียอิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย ด้านการเมือง ช่วงพุทธกาล– พ.ศ. ๑๗๐๐ การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง • การกำหนดกฎหมาย นโยบายต่างๆ ใช้หลักแห่งพุทธธรรม ไม่ใช้ความรุนแรง เรียกว่าระบบสามัคคีธรรม ความชอบธรรมทางการเมือง • กฎเกณฑ์ทางศีลธรรมมีอิทธิพลกับการจัดระเบียบทางสังคม การปกครองใช้หลักทศพิธราชธรรม รัฐรับรองพุทธศาสนา • กษัตริย์ให้การรับรองถึงความสำคัญของพุทธศาสนา มีพิธีกรรมทางพุทธคู่กับพระราชพิธีต่างๆ กษัตริย์ทำนุบำรุงพุทธศาสนา • พระเป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์ และประชาชน บทบาทของพระสงฆ์

  24. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียอิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย ด้านการเมือง ช่วงพุทธกาล – พ.ศ. ๑๗๐๐ ราชอาณาจักรครั้งพุทธกาล ๔ แห่ง • ๑.) มคธ ๒.) โกศล ๓.) วังสะ ๔.) อวันตี

  25. พระเจ้าอโศกมหาราช (ครองราชย์ พ.ศ. ๒๗๐ – ๓๑๑) • ทรงเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมริยะ ผู้ปรีชาสามารถพระองค์สุดท้ายของราชวงศ์ ทรงปกครองแคว้นมคธ มีพระราชธานีชื่อว่า ปาฏลีบุตร (ปัจจุบันเรียกว่า ปัฏนะ Patna)ทรงเป็นพระโอรสของพระเจ้าพินทุสารแห่งราชวงศ์โมริยะ พระมารดานามว่าศิริธรรม พระเจ้าอโศกมีพระโอรส และธิดา ๑๑ พระองค์ • เดิมเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่โหดร้าย ชอบการทำสงครามกับแว่นแคว้นต่าง ๆ จนได้รับสมญานามว่า จัณฑาโศกราช(พระเจ้าอโศกผู้โหดเหี้ยม) • ได้ฟังธรรมจากนิโครธสามเณร และ พระสมุทรเถระ จึงเกิดความเลื่อมใสในพุทธศาสนา

  26. พระเจ้าอโศกมหาราช (ครองราชย์ พ.ศ. ๒๗๐ – ๓๑๑) • หันมานับถือพระพุทธศาสนาอุปถัมภ์พุทธศาสนา และปกครองด้วยทศพิธราชธรรม ภายหลังทรงได้รับการขนานพระราชสมัญญานามว่า ธรรมาโศกราช(พระเจ้าอโศกผู้ทรงธรรม) ๑. ทาน ๒. ศีล ๓. บริจาค ๔. ความซื่อตรง ๕. ความอ่อนโยน ๖. ความเพียร ๗. ความไม่โกรธ ๘. ความไม่เบียดเบียน ๙. ความอดทน ๑๐. ความเที่ยงธรรม ทศพิธราชธรรม

  27. ผลงานพระเจ้าอโศกมหาราชผลงานพระเจ้าอโศกมหาราช • ผลงานด้านการปกครอง • ผลงานด้านการปฏิบัติธรรม • ปกครองแบบบิดากับบุตร, สั่งสอนธรรม, จัดบริการสาธารณประโยชน์แบบสังคมสงเคราะห์ • เน้นการทำทาน (ทั้งสิ่งของและธรรมทาน), งดการบูชายัญ,สอนให้ปฏิบัติธรรม และให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา • ผลงานด้านศาสนา • ทรงทำนุบำรุงพุทธศาสนา, สนับสนุนการทำการสังคายนาครั้งที่ ๓ และส่งสมณทูตไปเผยแพร่ศาสนา ทรงสร้างวัด, ศิลาจารึก และเสาอโศก ซึ่งเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของพุทธศาสนา

  28. พระเจ้ามิลินท์ (ประมาณช่วงปี พ.ศ. ๕๐๐) • ทรงเป็นกษัตรย์เชื้อสายกรีก เข้ามาตีเมืองอินเดียได้เมืองปัญจาปคันธาระ จึงสถาปนาเมืองสาคละเป็นราชธานี เป็นผู้แตกฉานในไตรเภท โต้วาทีชนะพราหมณ์ทั้งหมด • จนได้มาพบพระนาคเสน เกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพุทธศาสนา • ทรงอุปถัมภ์พุทธศาสนา ต่อมาได้เสด็จออกผนวชและบรรลุอรหัตผล • มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์อ้างอิงว่าพระเจ้ามิลินท์มีอยู่จริงคือ เหรียญพระยามิลินท์BasileusSoterosMenandros

  29. ผลงานพระเจ้ามิลินท์ • พระพุทธรูปองค์แรก • เป็นยุคแรกที่เริ่มมีการสร้างพระพุทธรูป โดยได้รับอิทธิพลจากศิลปะกรีก • อุปถัมภ์และเผยแพร่พุทธศาสนา • ทรงทำนุบำรุงพุทธศาสนา สร้างวิหารหลายแห่ง, ทรงบำรุงพระขีณาสพถึง ๑๐ โกฎิรูป, ทรงเผยแพร่พุทธศาสนาไปไกล รวมถึงกรีก • ต้นกำเนิดคัมภีร์มิลินทปัญหา • รวบรวมถาม-ตอบ จากสติปัญญาอันเป็นเลิศของพระนาคเสนและพระเจ้ามิลินท์

  30. พุทธศาสนาเลือนหายไปจากชมพูทวีป(พ.ศ. ๑๗๐๐ – ๒๔๐๐) • สาเหตุ - ถูกล้มล้าง • ในราชวงศ์พระเจ้ายักษะปาละ เสนาบดีพราหมณ์ชื่อ ราวเสน ได้ก่อกบฏ และยึดอำนาจ ในราชวงศ์จึงไม่มีผู้นับถือศาสนาพุทธ • ต่อมามีกองทัพอิสลาม โดย บักติยาขิลจิ ได้ยกกำลังทำลายล้างพุทธศาสนาสถาน รวมถึงนาลันทามหาวิทยาลัย และฆ่าพระภิกษุสงฆ์

  31. พุทธศาสนาเลือนหายไปจากชมพูทวีป(พ.ศ. ๑๗๐๐ – ๒๔๐๐) • สาเหตุ – ถูกลืมเลือน และกลมกลืน • ศาสนาฮินดูยังคงดำรงอยู่ตลอด ตั้งแต่ก่อน พระพุทธศาสนาบังเกิด และอยู่คู่กันตลอดมามิได้หายไปจากสังคมอินเดีย เพราะเมื่อพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง ก็ไม่ได้เบียดเบียนหรือล้มล้างศาสนาอื่น • ศาสนาฮินดูยุคหลัง สามารถสอนพระเวท ได้ทั้งคฤหัสถ์และบรรชิต จึงแพร่หลายมาก • ต่อมาพราหมณ์ชื่อ สังกราจารย์ ได้ยกพระพุทธเจ้าเป็นปางอวตารที่ ๙ ของพระนารายณ์ พุทธศาสนาจึงถูกเลือนหายไป

  32. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียอิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย ช่วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐ • พ.ศ. ๒๓๒๗ – ชมพูทวีปตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ • ๑๕ สิงหาคม ๒๔๙๐ – อินเดียได้รับเอกราช และแยกประเทศเป็น อินเดีย และปากีสถาน • ก่อนตกเป็นอาณานิคม – ศาสนาพุทธเริ่มจางหายไปจากอินเดีย • ช่วงเป็นอาณานิคม – ศาสนาฮินดูเฟื่องฟู พุทธถูกผสานรวมเข้ากันฮินดู • หลังได้รับเอกราช – ชาวยุโรปริเริ่มศึกษาค้นคว้าพุทธศาสนา และพุทธสถานโบราณ ส่งผลให้ต่อมานักปราชญ์ชาวอินเดียเริ่มกลับมาตื่นตัวกับการศึกษาและฟื้นฟูพุทธศาสนา

  33. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียอิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย ช่วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐ • พ.ศ. ๒๓๙๕ – นายพลอเล็กซานเดอร์ คันนิงแฮม • เป็นนักโบราณคดีชาวอังกฤษผู้สนใจในพุทธศาสนาและเป็นผู้ค้นคว้าและขุดค้นหลักฐานเกี่ยวกับพระเจ้าอโศกมหาราช และนาลันทามหาวิทยาลัย ซากปรักหักพังของนาลันทามหาวิทยาลัย เสาอโศกมหาราชที่ขุดพบ

  34. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียอิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย ช่วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐ • พ.ศ. ๒๔๒๒ – เซอร์เอดวินอาร์โนล • ชาวอังกฤษผู้ประพันธ์เรื่อง “ประทีปแห่งทวีปเอเชีย” (The Light of Asia) พุทธประวัติที่ไพเราะและลึกซึ้ง ทำให้ชาวอินเดียหันกลับมาสนใจพุทธศาสนา และชาวตะวันตกเริ่มมาสนใจและศึกษาพุทธศาสนาอย่างจริงจัง

  35. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียอิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย ช่วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐ • พ.ศ. ๒๔๒๔ – Mr. T.W. RydsDavids • ชาวอังกฤษผู้ก่อตั้งสมาคมบาลีปกรณ์ (Pali Text Society) แปลและจัดพิมพ์พระไตรปิฎกและคัมภีร์ต่างๆทางพุทธศาสนาเป็นภาษาอังกฤษ ด้วยทุนส่วนตัว

  36. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียอิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย ช่วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐ • พ.ศ. ๒๔๓๔ - ท่านอนาคาริกธรรมปาละ • เป็นชาวศรีลังกา เกิดในครอบครัวชาวคริสต์ที่มั่งคั่ง สนใจศึกษาภาษาอังกฤษตั้งแต่เล็ก • ต่อมาได้อ่านหนังสือเรื่อง ประทีปแห่งทวีปเอเชีย และเกิดความศรัทธามาก จึงเดินทางมาที่พุทธคยาและตั้งใจจะฟื้นฟูพุทธคยาและพุทธโบราณสถาน จึงตั้งสมาคมมหาโพธิ และทำงานเผยแพร่พุทธศาสนา • ได้บวชเป็นพระภิกษุในช่วงปัจฉิมวัย และตั้งจิตจะเกิดใหม่เพื่อมาเผยแพร่พุทธศาสนาต่อไป สมาคมมหาโพธิ

  37. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียอิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย ช่วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐ • พ.ศ. ๒๔๓๕ – สมาคมพุทธศาสนปกรณ์ (The Buddhist Text Society) • ปราชญ์ชาวอินเดียร่วมกันก่อตั้งสมาคมพุทธศาสนปกรณ์ ณ เมืองกัลกัตตา ถือเป็นความตื่นตัวหลังจากได้เห็นชาวยุโรปมีความกระตือรือร้นสนใจในพุทธศาสนา • พ.ศ. ๒๔๙๔ – นาลันทามหาวิหาร • รัฐบาลแห่งแคว้นพิหารได้ตั้งนาลันทามหาวิหารขึ้น เป็นสถาบันศึกษาวิจัยพุทธศาสนาและบาลี ตั้งใกล้กับนาลันทามหาวิทยาลัยเดิม นาลันทามหาวิหาร

  38. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียอิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย ช่วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐ • พ.ศ. ๒๔๙๙ – งานพุทธชยันตี ๒๕๐๐ ที่เมืองบอมเบย์ (มุมไบ) • ศรี เนรูห์ นายกฯ อินเดีย เป็นประธานในงาน กล่าวว่าท่านไม่นับถือศาสนาใด แต่ศรัทธา และปฏิบัติตามคำสอนของพุทธศาสนา และหากต้องเลือก ท่านจะเลือกนับถือศาสนาพุทธ • มีการจัดงานเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ ศรี เนรูห์

  39. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียอิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย ช่วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐ • พ.ศ. ๒๔๙๙ - ดร. บี อาร์เอ็มเบ็ดการ์ ดร. เอ็มเบ็ดการ์ • รมต.กระทรวงยุติธรรมของอินเดีย ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งรัฐธรรมนูนอินเดีย • ๑๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๙๙ เมืองนาคปุระ ท่านได้นำชาวฮินดูวรรณศูทรหลายแสนคน ปฏิญาณตนเปลี่ยนศาสนาจากฮินดูเป็นพุทธ โดยกล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าเกิดมาจากตระกูลที่นับถือศาสนาฮินดู แต่ข้าพเจ้าขอตายในฐานะพุทธศาสนิกชน’ • พุทธภาษิตประจำใจของท่านคือ ‘คนเราไม่ใช่ดีเพราะโคตร ไม่ใช่ดีเพราะตระกูล ไม่ใช่ดีเพราะทรัพย์ แต่จะดีหรือชั่ว อยู่ที่การกระทำของบุคคลนั้นๆ’ • ก่อตั้งวิทยาลัยสิทธารนาถวิทยาลัย (ศึกษาทางนิติศาสตร์โดยนำหลักธรรมไปใช้) ชาวฮินดูกว่าล้านคนปฏิญาณตนนับถือพุทธ

  40. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียอิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย ช่วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐ • พ.ศ. ๒๕๑๕ - ผลงานนักปราชญ์ชาวอินเดีย • ผศ.พินเยนทรนาชเชาธุรี, มหาวิยาลัยกัลกัตตา - ค้นคว้าเรียบเรียงเรื่องพุทธสถานโบราณในอินเดีย ๓๐๐ กว่าเมือง • ศ. ดร. ลาล มณี โชคี, มหาวิทยาลัยปัญจาบ ฮาร์วาร์ด และ ศ. ศัตการี มุเขอร์จี – แต่งหนังสือเสนอความจริงว่า พุทธ ไม่ใช่ ฮินดู

  41. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียอิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย ช่วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐ • พ.ศ. ๒๕๑๕ - ผลงานนักปราชญ์ชาวอินเดีย รพินทรนาถ ฐากูร - มีบทบาทในการให้นานาประเทศเข้าใจกันยิ่งขึ้น ทั้ง ๓ มหาบุรุษนี้ ได้สดุดีพระพุทธเจ้าในหนังสือ Buddha As Seen By Three Illustrious Sons Of India (พระพุทธเจ้าในทัศนะของสามรัตนะบุรุษของอินเดีย) มหาตมา คานธี- เป็นตัวอย่างในการนำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ยวาหระลาลเนรูห์- เทิดทูนพระพุทธเจ้าว่าเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในอินเดีย

  42. อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียอิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย ในช่วงปัจจุบัน มีชาวอินเดียนับถือพุทธศาสนาจำนวนน้อย ไม่ถึง ๒ เปอร์เซ็นต์ของประขากรทั้งหมด (๑. ฮินดู ๒. อิสลาม) การนับถือศาสนาพุทธจะกลมกลืนกับศาสนาฮินดูมาก ทั้งความเชื่อ ประเพณี และพิธีกรรม เพราะศาสนาฮินดูฝังรากลึกกลมกลืนกับวัฒนธรรมอินเดีย สังเวชนียสถาน และพุทธสถานโบราณได้รับการฟื้นฟู และเป็นสถานที่ศักสิทธิ์ที่พุทธศาสนิกชนทั่วโลกไปเยี่ยมชมและบูชา

  43. พุทธกาล – พ.ศ. ๑๗๐๐ ก่อนตรัสรู้ - นับถือฮินดู มีการแบ่งชั้นวรรณะ หลังตรัสรู้ - มีทางเลือกนอกจากวรรณะ, เทพเจ้า พุทธกาล - ศาสนาพุทธเผยแพร่ในอินเดีย มีผู้บรรลุอรหัตผลมากมาย หลังพุทธปรินิพพาน ทางสังคม - อยู่แบบเกื้อกูลกัน กษัตริย์ดูแลแบบพ่อ-ลูก ทางศาสนา - แพร่หลายเร็ว แต่ก็มีความขัดแย้งบ้าง ทำให้เกิดการสังคายนา และมีการส่งสมณทูตไปเผยแพร่พุทธศาสนา การศึกษา - ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ เกิดนาลันทามหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยวลภี การศึกษารุ่งเรือง ช่วง พ.ศ. ๑๐๐๐ - เกิดนักปราชญ์มากมาย กำเนิดคัมภีร์สำคัญๆของพุทธศาสนา ศิลปะ พ.ศ. ๑๐๐ - ๕๐๐ - ยังไม่มีพระพุทธรูป ใช้สัญลักษณ์แทน พ.ศ. ๕๐๐ - ๑๗๐๐ - มีการสร้างพระพุทธรูปในสมัยต่างๆ เริ่มด้วยอิทธิพลกรีก โรมัน จากพระเจ้ามิลินท์ เศรษฐกิจ เน้นอหิงสา และ ทิฏฐิธัมมีกัตถประโยชน์ อาชีพฆ่าสัตว์ได้รับความนิยมน้อยลง นิยม รับราชการ, งานช่างฝีมือ การเมือง ใช้หลักพุทธธรรม, ทศพิธราชธรรม ปกครอง กษัตริย์ให้การรับรองและอุปถัมภ์พุทธศาสนา พระเจ้าอโศกมหาราช (พ.ศ. ๒๗๐ - ๓๑๑) - เป็นผู้อุปถัมภ์พุทธศาสนาคนสำคัญและเป็นประธานการสังคายนาครั้งที่ ๓ พระเจ้ามิลินท์(ช่วงพ.ศ. ๕๐๐) - ผู้มีปัญญามาก อุปถัมภ์พุทธศาสนา และออกผนวช บรรลุอรหันต์

  44. พ.ศ. ๑๗๐๐ – พ.ศ.๒๔๐๐ • สาเหตุที่พุทธศาสนาเสื่อมไปจากชมพูทวีป • ในราชวงศ์พระเจ้ายักษะปาละ เสนาบดีพราหมณ์ชื่อ ราวเสน ได้ก่อกบฏ และยึดอำนาจ ในราชวงศ์จึงไม่มีผู้นับถือศาสนาพุทธ • ต่อมามีกองทัพอิสลาม โดย บักติยาขิลจิ ได้ยกกำลังทำลายล้างพุทธศาสนาสถาน รวมถึงนาลันทามหาวิทยาลัย และฆ่าพระภิกษุสงฆ์ • ศาสนาฮินดูยังคงดำรงอยู่ตลอด ตั้งแต่ก่อน พระพุทธศาสนาบังเกิด และอยู่คู่กันตลอดมามิได้หายไปจากสังคมอินเดีย เพราะเมื่อพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง ก็ไม่ได้เบียดเบียนหรือล้มล้างศาสนาอื่น • ศาสนาฮินดูยุคหลังสามารถสอนพระเวทได้ทั้งคฤหัสถ์และบรรชิต จึงแพร่หลายมาก • พราหมณ์ชื่อ สังกราจารย์ ได้ยกพระพุทธเจ้าเป็นปางอวตารที่ ๙ ของพระนารายณ์ พุทธศาสนาจึงถูกเลือนหายไป

  45. พ.ศ. ๒๔๐๐ – ปัจจุบัน • พ.ศ. ๒๔๙๐ - อินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ • พ.ศ. ๒๓๙๕ - นายพลอเล็กซานเดอร์คันนิงแฮม นักโบราณคดีชาวอังกฤษ ค้นพบซากเสาอโศก และนาลันทามหาวิทยาลัย • พ.ศ. ๒๔๒๒ - เซอร์เอดวินอาร์โนล ชาวอังกฤษ ประพันธ์เรื่อง “ประทีปแห่งทวีปเอเชีย” (The Light of Asia) • พ.ศ. ๒๔๒๔ - มิสเตอร์ที.ดับบลิว. รีดส์เดวิดส์ ชาวอังกฤษ ก่อตั้งสมาคมบาลีปกรณ์ (Pali Text Society) • พ.ศ. ๒๔๓๔ - ท่านอนาคาริกธรรมปาละ ชาวศรีลังกา ได้ฟื้นฟูพุทธคยาและพุทธโบราณสถาน และตั้งสมาคมมหาโพธิ • พ.ศ. ๒๔๓๕ - ปราชญ์ชาวอินเดียก่อตั้งสมาคมพุทธศาสนปกรณ์ (The Buddhist Text Society) เมืองกัลกัตตา • พ.ศ. ๒๔๙๔ - รัฐบาลแห่งแคว้นพิหารได้ตั้งนาลันทามหาวิหารขึ้นเป็นสถาบันศึกษาวิจัยพุทธศาสนาและบาลีตั้งใกล้กับนานลันทามหาวิทยาลัยเดิม • พ.ศ. ๒๔๙๙ - งานพุทธชยันตี ๒๕๐๐ ที่เมืองบอมเบย์(มุมไบ) ท่านศรีเนรูห์นายกฯอินเดียเป็นประธานในงาน • พ.ศ. ๒๔๙๙ - ดร. บี อาร์เอ็มเบ็ดการ์ ได้นำชาวฮินดูวรรณศูทรกว่าล้านคน ปฏิญาณตนเปลี่ยนศาสนาจากฮินดูเป็นพุทธ ก่อตั้งวิทยาลัยสิทธารนาถวิทยาลัย (ศึกษาทางนิติศาสตร์โดยนำหลักธรรมไปใช้) • พ.ศ. ๒๕๑๕ - เกิดผลงานนักปราชญ์ชาวอินเดียมากมาย • --- ผศ.พินเยนทรนาชเชาธุรี ค้นคว้าเรียบเรียงเรื่องพุทธสถานโบราณในอินเดีย ๓๐๐ กว่าเมือง • --- ศ. ดร. ลาล มณี โชคี, มหาวิทยาลัยปัญจาบ ฮาร์วาร์ด และ ศ. ศัตการี มุเขอร์จี –เสนอความจริงว่า พุทธ ไม่ใช่ ฮินดู • --- เกิดหนังสือ Buddha As Seen By Three Illustrious Sons Of India (พระพุทธเจ้าในทัศนะของสามรัตนะบุรุษของอินเดีย: รพินทรนาถ ฐากูร, มหาตมา คานธี และ ยวาหระลาลเนรูห์) • ปัจจุบัน – อินเดียมีผู้นับถือศาสนาพุทธน้อย การนับถือจะกลมกลืนกับศาสนาฮินดูมาก แต่ยังมีพุทธสถานโบราณที่คนทั่วโลกเดินทางไปบูขา

  46. อิมสฺมึ ปน กถาปริโยสาเน มหาธีรกิตฺติภิกฺขุปญฺญาวุฑฺฒภิกฺขุอญฺชลี นาม มหาอุปาสิกา จาติ มยํกลฺยาณจิตฺเตนรตนตฺตยานุภาวํอาทิสฺสเทวปวีนาจริยสฺส จ สพฺเพสํมหาปณฺฑิตานญฺจปสิทฺธิวรํททาม อนุโมทาม ตุมฺเห จ สิกฺขาปารํปปฺโปถ ฯ รตนตฺตยานุภาเวน รตนตฺตยเตชสา ยญฺจ โข สกฺกตํโหติ เอตสฺสานุภาวโต อโรคา โหถนิทฺทุกฺขา นิสฺโสกาอกุโตภยา สมคฺคา จ พลูเปตา ทกฺขา กิจฺจปยุญฺชเน อิทฺธึปปฺโปถเวปุลฺลํ วิรุฬฺหึ จุตฺตรึสทา ฯ โสตฺถิภนฺเต อนุโมทามิ สาธุ สาธุ สาธุ ฯ ส่วนในที่สุดแห่งการกล่าวนำเสนองานนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลาย คือ พระมหาธีรพันธ์ ธีรกิตฺติ พระรังสรรค์ ปญฺญาวุฑฺโฒ และนางสาวอัญชลีขอตั้งกัลยาณจิตอ้างอิงคุณพระศรีรัตนไตร ให้พรกล่าวขอขอบคุณ อาจารย์ ดร.เทพประวิณ และพระนิสิตมหาบัณฑิตทั้งหลาย ขอให้ พวกท่านทั้งหลายจงถึงฝั่งแห่งการศึกษาเทอญ ด้วยอานุภาพและตบะเดชะของพระรัตนไตร บุญกุศลใดแลที่ท่านทั้งหลายได้กระทำ ด้วยอานุภาพแห่งบุญนั้น ขอให้ท่านทั้งหลาย จงเป็นผู้ไม่มีโรค ไม่มีทุกข์ ไม่มีความโศกเศร้า ไม่มีภัยทั้งภายในและภายนอก เป็นผู้รักใคร่สามัคคีกัน มีพละกำลังแกร่งกล้าสามารถและเป็นผู้ขยันในการงานที่จะพึงทำ จงได้ถึงความเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์แผ่ไพศาลยิ่งๆขึ้นไปเทอญ ขอสวัสดี ขอบพระคุณท่านทั้งหลาย สาธุ ๆ ๆ ๆ ฯ ดาวน์โหลดไฟล์งานนำเสนอนี้ และวิชาอื่นๆได้ที่ www.BuddhaBucha.net/download

  47. ขอขอบพระคุณในการติดตามชม หวังว่าการนำเสนอครั้งนี้ จะทำให้ท่านเข้าใจถึงความเป็นไป ของพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียมากขึ้น และจะเป็นประโยชน์ในการศึกษาพุทธศาสนาของทุกท่านต่อไป ขออนุโมทนาสาธุในบุญทุกประการของทุกท่าน และขอให้เจริญร่มเย็นในธรรม ตลอดกาลเทอญ สาธุ... शुक्रियाअपने देख के लिए मुझे उम्मीद है कि इस प्रस्तुतिआप भारत में मूल बौद्ध धर्म के बारे में समझ जाएगाऔर अपने बौद्ध अध्ययन के लिए लाभमैं अपने सभी योग्यता के साथ आनन्दिततुम हमेशा सब सुख की कामनानमस्ते ดาวน์โหลดไฟล์งานนำเสนอนี้ และวิชาอื่นๆได้ที่ www.BuddhaBucha.net/download

More Related