1 / 7

พัฒนาการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 34 ปี

พัฒนาการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 34 ปี. พ.ศ. 2518 - 2552. เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างแข็งแรงในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา. Per capita GDP (USD) เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 7 มีเสถียรภาพภายในประเทศโดยอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.4 *. CAGR = ~7%. GDP per capita (USD).

Download Presentation

พัฒนาการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 34 ปี

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. พัฒนาการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 34 ปี พ.ศ. 2518 - 2552

  2. เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างแข็งแรงในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา Per capita GDP (USD) เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 7 มีเสถียรภาพภายในประเทศโดยอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.4* CAGR = ~7% GDP per capita (USD) ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย หมายเหตุ: *อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2523 - 2552

  3. หลายปีที่ผ่านมาตลาดตราสารทุนและตลาดตราสารหนี้มีขนาดและบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีขนาดรวมใหญ่กว่าระบบธนาคารพาณิชย์ราว 1.5 เท่า เงินกู้ธนาคาร หุ้นทุน พันธบัตร ข้อมูล ณ สิ้นปี 2552 หน่วย: พันล้านบาท เงินกู้ธนาคาร 7,807 หุ้นทุน 5,912 พันธบัตร 6,114 มูลค่ารวมตลาดทุนไทยมีขนาดใหญ่กว่ายอดสินเชื่อคงค้างในระบบธนาคารพาณิชย์ประมาณ 1.5 เท่า ที่มา: เงินกู้ธนาคาร – ธนาคารแห่งประเทศไทยณ สิ้นเดือนธันวาคมของแต่ละปี พันธบัตร – ThaiBMA ณ สิ้นเดือนธันวาคมของแต่ละปี หุ้นทุน (รวม SET และ mai) – SETSMART ณ สิ้นเดือนธันวาคมของแต่ละปี

  4. บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจนถึงสิ้นปี 2552 มีจำนวน 535 บริษัท จำนวนบริษัทจดทะเบียนรวมตลาด SET และ mai หน่วย: บริษัท จำนวนบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ จำนวนบริษัทจดทะเบียน ที่มา : SETSMART ณ สิ้นเดือนธันวาคมของแต่ละปี

  5. วิกฤตเวิลด์คอม (มิ.ย. 2545) สงครามสหรัฐฯ กับอิรัก (ก.ค. 45-เม.ย. 46) วิกฤติสถาบันการเงิน ในเอเชีย (2540) คลัง-ธปท. ประกาศ ค่าเงินบาทลอยตัว (ก.ค. 2540) การแพร่ระบาดของโรค SARS (มี.ค. 46) การได้รับความช่วยเหลือ จาก IMF (ส.ค. 2540) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ (ม.ค.-ธ.ค. 46) การปิดสถาบันการเงิน (ธ.ค. 2540) การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก (ม.ค.-ก.พ. 47) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (มี.ค. 2542) ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ก.พ.- เม.ย. 47) มาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย ภาคเอกชน (ส.ค. 2542) มาตรการฟื้นฟูสถาบันการเงิน (14 ส.ค. 2542) การต่อต้านการ แปรรูป กฟผ. (ก.พ. - มี.ค. 47) การเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ (ม.ค. 2544) แนวโน้มราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น (พ.ค. – ก.ค. 47) การลดน้ำหนักการลงทุนของMSCI (พ.ค. 2544) การก่อวินาศกรรมในสหรัฐฯ (11 ก.ย. 2544) ความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีการพัฒนาไปตามสภาวะการณ์ทั้งในและนอกประเทศ ดัชนีต่ำสุดในปี 2519 ที่ระดับ 76.43จุดเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2519 ดัชนีสูงสุดในปี 2537 ที่ระดับ 1,753.73จุดเมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2537 เกิดรัฐประหาร (ก.ย. 2549) มาตรการ กันสำรอง 30% (ธ.ค. 2549) วิกฤติค่าเงินเปโซของ เม็กซิโก(ม.ค. 2538) ประกาศยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% (ก.พ. 2551) ดัชนี แบริ่ง ซิเคียวริตี้ส์ในสิงคโปร์ขาดทุนจาก การค้าตราสาร อนุพันธ์ (ก.พ. 2538) กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปิดล้อมสนามบิน (พ.ย. 2551) เหตุการณ์จลาจลขั้นรุนแรงจากการประท้วงพฤษภาทมิฬ(พ.ค. 2535) สงคราม อ่าวเปอร์เซีย (ส.ค. 2533) ศาลปกครองระงับ 76 โครงการลงทุนในมาบตาพุด (ก.ย. 2552) การเก็งกำไรจากการ เพิ่มขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ (2532) คณะ รสช. ปฏิวัติ(ก.พ. 2534) รัฐบาลดูไบขอเลื่อนชำระหนี้ของบริษัทดูไบ เวิล์ด (พ.ย. 2552) Mini Black Monday (ต.ค. 2532) วิกฤตการณ์น้ำมัน และปัญหาบริษัท ราชาเงินทุน(2522) เกิดรัฐประหาร (เม.ย. 2524) Black Monday (ต.ค. 2530) เงินตึง และอัตรา ดอกเบี้ยสูงทั่วโลก (2524) ยุบสภา (พ.ค. 2529) เกิดรัฐประหาร (ก.ย. 2528) ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

  6. ด้านการออม ตลาดทุนให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนสูงกว่า โดยผลตอบแทนที่ได้เป็นตัวเงินจากการถือหุ้นมากกว่าที่ได้จากเงินฝากประมาณ 4 เท่า Total nominal return 2518-2552 Unit: index (point); assumed that initial investment in year 2517 = 1000 40,368 21,816 10,473 8,590 ที่มา: SET analysis ถึง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2552

  7. ถ้าหักผลกระทบจากเงินเฟ้อ ตลาดทุนยังคงให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนสูงกว่า โดยผลตอบแทนที่ได้เป็นตัวเงินจากการถือหุ้นมากกว่าที่ได้จากเงินฝากราว 4 เท่า Total real return 2518-2552 Unit: index (point);assumed that initial investment in year 2517 = 1000 • อัตราผลตอบแทนสูงสุดอยู่ที่ร้อยละ 118 ในปี 2532 • อัตราผลตอบแทนต่ำสุดอยู่ที่ร้อยละ -52 ในปี 2540 7,994 4,320 2,074 1,701 ที่มา: SET analysis ถึง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2552

More Related