1 / 10

ความขัดแย้งแห่งจักรวาล สำแดงพระลักษณะของพระเจ้า

บทที่ 12 วันที่ 21 ธันวาคม 2013. ความขัดแย้งแห่งจักรวาล สำแดงพระลักษณะของพระเจ้า.

peggy
Download Presentation

ความขัดแย้งแห่งจักรวาล สำแดงพระลักษณะของพระเจ้า

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. บทที่12 วันที่ 21 ธันวาคม2013 ความขัดแย้งแห่งจักรวาลสำแดงพระลักษณะของพระเจ้า

  2. “ถ้าสิ่งที่มนุษย์มองไม่เห็นนั้นถูกเปิดเผยออกมาให้โลกนี้สามารถมองเห็นได้ และประชากรของพระเจ้าจะสามารถมองเห็นถึงความขัดแย้งอันยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นในจักรวาลนี้ ซึ่งกำลังดำเนินไปโดยพระคริสต์กับทูตสวรรค์ของพระองค์ และซาตานกับทูตสวรรค์อันชั่วร้ายของมัน ที่กำลังต่อสู้ขับเคี่ยวกันเพื่อความรอดของมนุษยชาติ; ถ้าพวกเขาสามารถเข้าใจภารกิจอันมหัศจรรย์ของพระเจ้าเพื่อช่วยให้มนุษย์ได้พ้นจากการตกเป็นทาสของความบาป และพระองค์ได้ทรงใช้ฤทธานุภาพของพระองค์ปกป้องประชากรของพระองค์ให้พ้นจากผู้ช่วยร้าย, พวกเขามีความเข้าใจมากขึ้นในการเตรียมตัวที่จะต่อสู้กับซาตาน จิตใจของพวกเขาจะเข้าใจและให้ความสำคัญต่อแผนการณ์แห่งความรอดของพระเจ้าอย่างจริงใจ และตั้งใจยิ่งก่อนการเสด็จกลับมาของพระคริสต์ พวกเขาจะถ่อมตัวลง และให้ความสนใจอย่างมากต่อภารกิจแห่งความรอดที่กำลังกระทำอยู่ในสวรรค์” E.G.W. (Counsels for the Church, cp. 65, pg. 350) • ความขัดแย้งอันยิ่งใหญ่ • การก่อกบฎของลูซีเฟอร์ • พระเจ้าถูกกล่าวหา • พระเจ้าทรงพิสูจน์พระองค์ • พระองค์ทรงพิสูจน์พระองค์ที่กางเขน • พระองค์ทรงพิสูจน์พระองค์ด้วยการพิพากษา • การเป็นพยานถึงความขัดแย้งนี้

  3. การก่อกบฎของลูซีเฟอร์การก่อกบฎของลูซีเฟอร์ เอเศเคียล18:12-17 และอิสยาห์14:12-15 ได้บรรยายถึงการกบฎของลูซิเฟอร์ที่บนสวรรค์ พระเจ้าทรงสร้างลูซีเฟอร์ให้เป็นทูตสวรรค์อันบริสุทธิ์และสมบูรณ์แบบ ลูซิเฟอร์มีความงามพร้อมและเป็นเป็นนักตรีที่เยี่ยมยอด เขามีหน้าที่พิเศษในสวรรค์สถานกับพวก เครูป ต่างๆ ต่อหน้าบัลลังก์ของพระเจ้า และลูซิเฟอร์มีหน้าที่ในการนำการสรรเสริญพระเจ้า

  4. การก่อกบฎของลูซีเฟอร์การก่อกบฎของลูซีเฟอร์ ความต้องการอย่างซ่อนเร้นของลูซีเฟอร์คือ การเป็นเหมือนพระผู้สร้าง และได้รับสถานะเดียวกันกับพระองค์ในการปกครองอาณาจักรแห่งสวรรค์ พระเจ้าทรงขับไล่ลูซีเฟอร์ออกจากหน้าบัลลังก์ของพระองค์ และเหวี่ยงมันออกจากสวรรค์ ลูซิเฟอร์ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงเพราะความบาปของมันเอง

  5. พระเจ้าทรงถูกกล่าวหา ซาตาน (“ผู้เป็นปฎิปักษ์”) ได้กล่าวหาพระเจ้าว่าไม่ยุติธรรมกล่าวโจมตีกฎเกณฑ์ที่บัญญัติเอาไว้ในสวรรค์ และการกล่าวหานี้ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ซาตานใช้กล่าวร้ายพระเจ้าในทุกวันนี้บนโลกเช่นกัน • ในสวนเอเดน (ปฐก. 3:1-5) • ซาตานกล่าวหาพระเจ้าว่า กฏหมายของพระองค์เป็นสิ่งที่ไม่สามารถมีมนุษย์คนใดจะปฏิบัติตามได้ • กรณีของโยบ (โยบ1:6-12; 2:1-7) • ซาตานกล่าวหาพระเจ้าว่าทำให้มนุษย์เชื่อฟังพระองค์เพราะเขาได้ประโยชน์จากพระองค์ ไม่ใช่เพราะเขารักพระองค์ • กรณีของโยชูวา (ศคย. 3:1-2) • ซาตานกล่าวหาพระเจ้าไม่ยุติธรรม เพราะพระองค์อภัยความบาปของมนุษย์ ภาพทั้งสองที่ปรากฎคือ มหาปุโรหิตโยชูวา และการฟื้นคืนชีพของโมเสส, พระเยซูมิได้ตอบโต้ใดๆ ต่อการกล่าวหาของซาตาน พระองค์เพียงตรัสว่า “พระเจ้าทรงตำหนิเจ้า!”(ยูดา9) พระเจ้ามิได้แก้ตัวจากข้อกล่าวหานั้น แต่พระองค์รอคอยจนถึงเวลาที่เหมาะสมที่พระองค์จะพิสูจน์พระองค์เอง

  6. พระเจ้าพิสูจน์พระองค์เองที่กางเขนพระเจ้าพิสูจน์พระองค์เองที่กางเขน การพิสูจน์ที่ชัดเจนจากการกล่าวหา, การโจมตี, การกล่าวร้าย ฯลฯ ซึ่งเป็นหลักฐานที่เด่นชัดก็คือการนำให้ผู้ที่หลงหายหรือถูกทำลายด้วยความบาปกลับคืนมา หลักฐานแรกคือ การสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์บนกางขน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความรักและความยุติธรรมของพระองค์ “พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​ชอบ​ธรรม​ใน​พระ​มรร​คาทั้ง​สิ้น​ของ​พระ​องค์ และ​ทรง​เอ็น​ดู​ใน​การ​กระ​ทำ​ทั้ง​สิ้น​ของ​พระ​องค์”(สดุดี 145:17) “ในความเป็นจริงนั้นมีเพียงพระบุตรของพระเจ้าที่จะทรงประทานพระองค์เองเท่านั้น เพราะการล่วงละเมิดของมนุษย์ จึงจะสามารถสำแดงถึงความยุติธรรมและความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อบทบัญญัติของพระองค์, ซึ่งจะเป็นกฎเกณฑ์ถาวรในจิตใจของประชากรของพระองค์ การถวายบูชาอันยิ่งใหญ่นี้จะเป็นการยกชูผู้คนที่ตกลงในความบาปให้หลุดพ้นจากมลทินนั้น พระคริสต์ได้ทรงถวายพระองค์เองเพื่อคนบาป และผ่านทางความเชื่อในพระองค์ความบาปของเราก็จะได้รับการอภัย” E.G.W. (Fundamentals of Christian Education, cp. 45, pg. 369)

  7. “แต่กระนั้นแผนการณ์แห่งการไถ่ให้รอดก็ยังคงมีความลึกล้ำเกินกว่าความเข้าใจที่มนุษย์จะเข้าใจได้อย่างถ่องแท้และลึกซึ้ง การเสด็จลงมายังโลกนี้ของพระคริสต์มิได้มีวัตถุประสงค์เพียงเรื่องความรอดนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นการพิสูจน์ว่าด้วยโลกเล็กๆ ใบนี้ สามารถดำเนินตามกฏเกณฑ์ของพระเจ้า และยกชูพระบัญญัติของพระองค์ขึ้นมาได้; ซึ่งเป็นหลักฐานสำหรับจักรวาลนี้ที่จะพิสูจน์ให้เห็นถึงพระลักษณะของพระเจ้า ด้วยเหตุผลนี้การถวายบูชาอันยิ่งใหญ่จึงส่งผลกระทบต่ออาณาจักรทั้งหลายในโลกอื่นๆ เหมือนกับที่ได้บังเกิดกับมนุษย์ในโลกนี้ด้วย ก่อนที่องค์พระผุ้ช่วยให้รอดจะทรงถูกตรึงกางเขนพระองค์ได้ตรัสว่า “เดี๋ยว​นี้​การ​พิ​พาก​ษา​มา​ถึง​โลก​นี้​แล้ว เดี๋ยว​นี้​ผู้​ครอง​โลก​นี้​จะ​ถูก​กำ​จัด​ออก​ไป เมื่อ​เรา​ถูก​ยก​ขึ้น​จาก​แผ่น​ดิน​โลก​แล้ว เรา​จะ​ชัก​นำ​ทุก​คน​ให้​มา​หา​เรา” ยอห์น12:31, 32. การสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์มิใช่เพียงเพื่อช่วยให้มนุษย์ได้รับความรอดและเปิดทางให้สวรรค์ยอมรับมนุษย์เท่านั้น แต่ต่อหน้าอาณาจักรทั้งปวงแห่งสวรรค์พระเจ้าและพระบุตรของพระองค์ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการทรยศของซาตาน พระองได้สถาปนากฏหมายที่เป็นนิรันดร์ และผลที่บังเกิดขึ้นของความบาป” E.G.W. (Patriarchs and Prophets, cp. 4 “The Plan of Redemption”, pg. 68)

  8. พระเจ้าพิสูจน์พระองค์ด้วยการพิพากษาพระเจ้าพิสูจน์พระองค์ด้วยการพิพากษา “ขอ​พระ​องค์​อย่า​ทรง​คิด​ทำ​เช่น​นี้​เลย อย่า​ทรง​คิด​ที่​จะ​ฆ่า​คน​ชอบ​ธรรม​พร้อม​กับ​คน​อธรรม ทำ​กับ​คน​ชอบ​ธรรม​อย่าง​เดียว​กับ​คน​อธรรม ขอ​พระ​องค์​อย่า​ทรง​ทำ​เช่น​นั้น​เลย พระ​องค์​ผู้​พิพาก​ษา​สากล​โลก​จะ​ไม่​ทรง​ทำ​สิ่ง​ที่​ยุติ​ธรรม​หรือ?” (ปฐกาล18:25) พระคัมภีร์ได้กล่าวว่า พระเจ้าทรงยุติธรรมเมื่อพระองค์พิพากษา (สดด. 96:10; 2 ทธ. 4:8; วว. 19:2). นั่นคือส่วนของพระลักษณะของพระเจ้า (สดด. 98:14) การเรียนรู้เพียงว่าจะเดินทางไปสู่ความรอดได้อย่างไร ไม่ใช่เป้าหมายทั้งหมดของการพิพากษา เพราะการพิสูจน์ถึงพระลักษณะของพระเจ้าด้วยการพิพากษานั้น จะทำให้พระนามของพระองค์บริสุทธิ์สะอาด ปราศจากการโจมตีกล่าวร้ายของซาตานได้อีกต่อไป

  9. คำพยานถึงความขัดแย้งอันยิ่งใหญ่คำพยานถึงความขัดแย้งอันยิ่งใหญ่ “และ​เรา​จะ​สำ​แดง​ความ​ศักดิ์​สิทธิ์​ของ​นาม​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​เรา​ซึ่ง​ถูก​ลบ​หลู่​ท่าม​กลาง​ประ​ชา​ชาติ คือ​นาม​ที่​เจ้า​ทำ​ให้​เสื่อม​เกียรติ​ท่าม​กลาง​พวก​เขา แล้ว​ประ​ชา​ชาติ​ทั้ง​หลาย​จะ​รู้​ว่า เรา​คือ​ยาห์​เวห์ พระ​ยาห์​เวห์​องค์​เจ้า​นาย​ตรัส​ดัง​นี้ เมื่อ​เรา​สำ​แดง​ความ​ศักดิ์​สิทธิ์​ของ​เรา​ท่าม​กลาง​พวก​เจ้า​ต่อ​หน้า​ต่อ​ตา​เขา​ทั้ง​หลาย” (อสค36:23) พระเจ้าทรงประกาศถึงการพิพากษา “เรา​มี​ชีวิต​อยู่​ตราบ​ใด ทุก​คน​จะ​คุก​เข่า​กราบ​เรา และ​ทุก​ลิ้น​จะ​สรร​เสริญพระ​เจ้า” (โรม14:11) ระหว่างการพิจารณาพิพากษานี้, สวรรค์สถานทุกแห่ง (เหล่าทูตสวรรค์และโลกที่ไม่ได้ตกลงในความบาป) จะยอมรับความยุติธรรมของพระเจ้า และได้รับการพิสูจน์ถึงพระลักษณะของพระองค์ ระหว่างระยะเวลาหนึ่งพันปี เหล่าผู้ที่ได้รับความรอดจะร่วมกันทำการตรวจสอบการพิพากษาของพระเจ้า และยอมรับความยุติธรรมและพระลักษณะของพระเจ้า และหลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งพันปี ซาตานและเหล่าทูตของมันรวมทั้งผู้ที่ไม่ยอมรับการช่วยให้รอดของพระเจ้า ก็จะยอมรับการพิพากษาของพระองค์ พระลักษณะของพระเจ้าจะได้รับการพิสูจน์ต่อหน้าบรรดาสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างทั้งมวล

  10. “ซาตานได้มองเห็นแล้วว่าการก่อกบฎนั้นทำให้ไม่เหมาะสมที่จะอยู่บนสวรรค์ มันก็ทำให้เกิดการสงครามและต่อต้านพระเจ้า ในสถานที่อันบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ที่มีแต่ความสงบสุช ได้กลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและเลวร้าย ซาตานาได้ต่อต้านพระเมตตาและพระกรุณาคุณของพระเจ้า แต่สิ่งซาตานกระทำนั้นได้ย้อนกลับมาสู่ตัวตนของมันเอง พระยาเวห์ได้ทรงประทานพระเมตตาอย่างที่สุด จนในที่สุดซาตานก็จะต้องคุกเข่าลงและยอมรับการพิพากษาของพระองค์” E.G.W. (The Great Controversy, cp. 42 “The Controversy Ended, pg. 670) “การไม่ดำเนินการใดๆ ต่อฆาตกรคนแรกของจักรวาลนั้น, พระเจ้าได้สำแดงให้เห็นต่อหน้าจักรวาลทั้งมวลให้เห็นถึงความขัดแย้งอันยิ่งใหญ่....นั่นคือพระประสงค์ของพระองค์ , ไม่ใช่เพียงแค่สำแดงพระเมตตาต่อผู้กบฏต่อพระองค์เท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างที่แสดงให้จักรวาลทั้งมวลได้เห็นและเข้าใจถึงการกบฎว่าส่งผลเช่นไร....อาณาจักรแห่งโลกอื่นๆ ที่บริสุทธิ์ และปราศจากความบาปต่างเฝ้าดูโลกของเรานี้ด้วยความสนใจอย่างยิ่ง... การสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์เพื่อความรอดของมนุษยชาติในโลกนี้มิใช่เพียงเปิดทางให้สวรรค์สถานยอมรับมนุษย์เท่านั้น, แต่เป็นการเปิดเผยให้เห็นถึงผลแห่งการทรยศของซาตาน และความยุติธรรมการพิพากษาของพระองค์ต่อหน้าจักรวาลทั้งมวล จักรวาลนี้ต่างเฝ้าดูฉากสุดท้ายแห่งการจบลงของความขัดแย้งนี้อย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งเป็นการต่อสู้กันระหว่างความดี และความชั่ว และโลกใบเล็กๆ ของเรานี้กลายเป็นบทเรียนชิ้นสำคัญของจักรวาลทั้งมวล” E.G.W. (Last Day Events, cp. 2, pg. 29)

More Related