100 likes | 251 Views
บทที่ 12 วันที่ 21 ธันวาคม 2013. ความขัดแย้งแห่งจักรวาล สำแดงพระลักษณะของพระเจ้า.
E N D
บทที่12 วันที่ 21 ธันวาคม2013 ความขัดแย้งแห่งจักรวาลสำแดงพระลักษณะของพระเจ้า
“ถ้าสิ่งที่มนุษย์มองไม่เห็นนั้นถูกเปิดเผยออกมาให้โลกนี้สามารถมองเห็นได้ และประชากรของพระเจ้าจะสามารถมองเห็นถึงความขัดแย้งอันยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นในจักรวาลนี้ ซึ่งกำลังดำเนินไปโดยพระคริสต์กับทูตสวรรค์ของพระองค์ และซาตานกับทูตสวรรค์อันชั่วร้ายของมัน ที่กำลังต่อสู้ขับเคี่ยวกันเพื่อความรอดของมนุษยชาติ; ถ้าพวกเขาสามารถเข้าใจภารกิจอันมหัศจรรย์ของพระเจ้าเพื่อช่วยให้มนุษย์ได้พ้นจากการตกเป็นทาสของความบาป และพระองค์ได้ทรงใช้ฤทธานุภาพของพระองค์ปกป้องประชากรของพระองค์ให้พ้นจากผู้ช่วยร้าย, พวกเขามีความเข้าใจมากขึ้นในการเตรียมตัวที่จะต่อสู้กับซาตาน จิตใจของพวกเขาจะเข้าใจและให้ความสำคัญต่อแผนการณ์แห่งความรอดของพระเจ้าอย่างจริงใจ และตั้งใจยิ่งก่อนการเสด็จกลับมาของพระคริสต์ พวกเขาจะถ่อมตัวลง และให้ความสนใจอย่างมากต่อภารกิจแห่งความรอดที่กำลังกระทำอยู่ในสวรรค์” E.G.W. (Counsels for the Church, cp. 65, pg. 350) • ความขัดแย้งอันยิ่งใหญ่ • การก่อกบฎของลูซีเฟอร์ • พระเจ้าถูกกล่าวหา • พระเจ้าทรงพิสูจน์พระองค์ • พระองค์ทรงพิสูจน์พระองค์ที่กางเขน • พระองค์ทรงพิสูจน์พระองค์ด้วยการพิพากษา • การเป็นพยานถึงความขัดแย้งนี้
การก่อกบฎของลูซีเฟอร์การก่อกบฎของลูซีเฟอร์ เอเศเคียล18:12-17 และอิสยาห์14:12-15 ได้บรรยายถึงการกบฎของลูซิเฟอร์ที่บนสวรรค์ พระเจ้าทรงสร้างลูซีเฟอร์ให้เป็นทูตสวรรค์อันบริสุทธิ์และสมบูรณ์แบบ ลูซิเฟอร์มีความงามพร้อมและเป็นเป็นนักตรีที่เยี่ยมยอด เขามีหน้าที่พิเศษในสวรรค์สถานกับพวก เครูป ต่างๆ ต่อหน้าบัลลังก์ของพระเจ้า และลูซิเฟอร์มีหน้าที่ในการนำการสรรเสริญพระเจ้า
การก่อกบฎของลูซีเฟอร์การก่อกบฎของลูซีเฟอร์ ความต้องการอย่างซ่อนเร้นของลูซีเฟอร์คือ การเป็นเหมือนพระผู้สร้าง และได้รับสถานะเดียวกันกับพระองค์ในการปกครองอาณาจักรแห่งสวรรค์ พระเจ้าทรงขับไล่ลูซีเฟอร์ออกจากหน้าบัลลังก์ของพระองค์ และเหวี่ยงมันออกจากสวรรค์ ลูซิเฟอร์ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงเพราะความบาปของมันเอง
พระเจ้าทรงถูกกล่าวหา ซาตาน (“ผู้เป็นปฎิปักษ์”) ได้กล่าวหาพระเจ้าว่าไม่ยุติธรรมกล่าวโจมตีกฎเกณฑ์ที่บัญญัติเอาไว้ในสวรรค์ และการกล่าวหานี้ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ซาตานใช้กล่าวร้ายพระเจ้าในทุกวันนี้บนโลกเช่นกัน • ในสวนเอเดน (ปฐก. 3:1-5) • ซาตานกล่าวหาพระเจ้าว่า กฏหมายของพระองค์เป็นสิ่งที่ไม่สามารถมีมนุษย์คนใดจะปฏิบัติตามได้ • กรณีของโยบ (โยบ1:6-12; 2:1-7) • ซาตานกล่าวหาพระเจ้าว่าทำให้มนุษย์เชื่อฟังพระองค์เพราะเขาได้ประโยชน์จากพระองค์ ไม่ใช่เพราะเขารักพระองค์ • กรณีของโยชูวา (ศคย. 3:1-2) • ซาตานกล่าวหาพระเจ้าไม่ยุติธรรม เพราะพระองค์อภัยความบาปของมนุษย์ ภาพทั้งสองที่ปรากฎคือ มหาปุโรหิตโยชูวา และการฟื้นคืนชีพของโมเสส, พระเยซูมิได้ตอบโต้ใดๆ ต่อการกล่าวหาของซาตาน พระองค์เพียงตรัสว่า “พระเจ้าทรงตำหนิเจ้า!”(ยูดา9) พระเจ้ามิได้แก้ตัวจากข้อกล่าวหานั้น แต่พระองค์รอคอยจนถึงเวลาที่เหมาะสมที่พระองค์จะพิสูจน์พระองค์เอง
พระเจ้าพิสูจน์พระองค์เองที่กางเขนพระเจ้าพิสูจน์พระองค์เองที่กางเขน การพิสูจน์ที่ชัดเจนจากการกล่าวหา, การโจมตี, การกล่าวร้าย ฯลฯ ซึ่งเป็นหลักฐานที่เด่นชัดก็คือการนำให้ผู้ที่หลงหายหรือถูกทำลายด้วยความบาปกลับคืนมา หลักฐานแรกคือ การสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์บนกางขน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความรักและความยุติธรรมของพระองค์ “พระยาห์เวห์ทรงชอบธรรมในพระมรรคาทั้งสิ้นของพระองค์ และทรงเอ็นดูในการกระทำทั้งสิ้นของพระองค์”(สดุดี 145:17) “ในความเป็นจริงนั้นมีเพียงพระบุตรของพระเจ้าที่จะทรงประทานพระองค์เองเท่านั้น เพราะการล่วงละเมิดของมนุษย์ จึงจะสามารถสำแดงถึงความยุติธรรมและความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อบทบัญญัติของพระองค์, ซึ่งจะเป็นกฎเกณฑ์ถาวรในจิตใจของประชากรของพระองค์ การถวายบูชาอันยิ่งใหญ่นี้จะเป็นการยกชูผู้คนที่ตกลงในความบาปให้หลุดพ้นจากมลทินนั้น พระคริสต์ได้ทรงถวายพระองค์เองเพื่อคนบาป และผ่านทางความเชื่อในพระองค์ความบาปของเราก็จะได้รับการอภัย” E.G.W. (Fundamentals of Christian Education, cp. 45, pg. 369)
“แต่กระนั้นแผนการณ์แห่งการไถ่ให้รอดก็ยังคงมีความลึกล้ำเกินกว่าความเข้าใจที่มนุษย์จะเข้าใจได้อย่างถ่องแท้และลึกซึ้ง การเสด็จลงมายังโลกนี้ของพระคริสต์มิได้มีวัตถุประสงค์เพียงเรื่องความรอดนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นการพิสูจน์ว่าด้วยโลกเล็กๆ ใบนี้ สามารถดำเนินตามกฏเกณฑ์ของพระเจ้า และยกชูพระบัญญัติของพระองค์ขึ้นมาได้; ซึ่งเป็นหลักฐานสำหรับจักรวาลนี้ที่จะพิสูจน์ให้เห็นถึงพระลักษณะของพระเจ้า ด้วยเหตุผลนี้การถวายบูชาอันยิ่งใหญ่จึงส่งผลกระทบต่ออาณาจักรทั้งหลายในโลกอื่นๆ เหมือนกับที่ได้บังเกิดกับมนุษย์ในโลกนี้ด้วย ก่อนที่องค์พระผุ้ช่วยให้รอดจะทรงถูกตรึงกางเขนพระองค์ได้ตรัสว่า “เดี๋ยวนี้การพิพากษามาถึงโลกนี้แล้ว เดี๋ยวนี้ผู้ครองโลกนี้จะถูกกำจัดออกไป เมื่อเราถูกยกขึ้นจากแผ่นดินโลกแล้ว เราจะชักนำทุกคนให้มาหาเรา” ยอห์น12:31, 32. การสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์มิใช่เพียงเพื่อช่วยให้มนุษย์ได้รับความรอดและเปิดทางให้สวรรค์ยอมรับมนุษย์เท่านั้น แต่ต่อหน้าอาณาจักรทั้งปวงแห่งสวรรค์พระเจ้าและพระบุตรของพระองค์ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการทรยศของซาตาน พระองได้สถาปนากฏหมายที่เป็นนิรันดร์ และผลที่บังเกิดขึ้นของความบาป” E.G.W. (Patriarchs and Prophets, cp. 4 “The Plan of Redemption”, pg. 68)
พระเจ้าพิสูจน์พระองค์ด้วยการพิพากษาพระเจ้าพิสูจน์พระองค์ด้วยการพิพากษา “ขอพระองค์อย่าทรงคิดทำเช่นนี้เลย อย่าทรงคิดที่จะฆ่าคนชอบธรรมพร้อมกับคนอธรรม ทำกับคนชอบธรรมอย่างเดียวกับคนอธรรม ขอพระองค์อย่าทรงทำเช่นนั้นเลย พระองค์ผู้พิพากษาสากลโลกจะไม่ทรงทำสิ่งที่ยุติธรรมหรือ?” (ปฐกาล18:25) พระคัมภีร์ได้กล่าวว่า พระเจ้าทรงยุติธรรมเมื่อพระองค์พิพากษา (สดด. 96:10; 2 ทธ. 4:8; วว. 19:2). นั่นคือส่วนของพระลักษณะของพระเจ้า (สดด. 98:14) การเรียนรู้เพียงว่าจะเดินทางไปสู่ความรอดได้อย่างไร ไม่ใช่เป้าหมายทั้งหมดของการพิพากษา เพราะการพิสูจน์ถึงพระลักษณะของพระเจ้าด้วยการพิพากษานั้น จะทำให้พระนามของพระองค์บริสุทธิ์สะอาด ปราศจากการโจมตีกล่าวร้ายของซาตานได้อีกต่อไป
คำพยานถึงความขัดแย้งอันยิ่งใหญ่คำพยานถึงความขัดแย้งอันยิ่งใหญ่ “และเราจะสำแดงความศักดิ์สิทธิ์ของนามยิ่งใหญ่ของเราซึ่งถูกลบหลู่ท่ามกลางประชาชาติ คือนามที่เจ้าทำให้เสื่อมเกียรติท่ามกลางพวกเขา แล้วประชาชาติทั้งหลายจะรู้ว่า เราคือยาห์เวห์ พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้ เมื่อเราสำแดงความศักดิ์สิทธิ์ของเราท่ามกลางพวกเจ้าต่อหน้าต่อตาเขาทั้งหลาย” (อสค36:23) พระเจ้าทรงประกาศถึงการพิพากษา “เรามีชีวิตอยู่ตราบใด ทุกคนจะคุกเข่ากราบเรา และทุกลิ้นจะสรรเสริญพระเจ้า” (โรม14:11) ระหว่างการพิจารณาพิพากษานี้, สวรรค์สถานทุกแห่ง (เหล่าทูตสวรรค์และโลกที่ไม่ได้ตกลงในความบาป) จะยอมรับความยุติธรรมของพระเจ้า และได้รับการพิสูจน์ถึงพระลักษณะของพระองค์ ระหว่างระยะเวลาหนึ่งพันปี เหล่าผู้ที่ได้รับความรอดจะร่วมกันทำการตรวจสอบการพิพากษาของพระเจ้า และยอมรับความยุติธรรมและพระลักษณะของพระเจ้า และหลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งพันปี ซาตานและเหล่าทูตของมันรวมทั้งผู้ที่ไม่ยอมรับการช่วยให้รอดของพระเจ้า ก็จะยอมรับการพิพากษาของพระองค์ พระลักษณะของพระเจ้าจะได้รับการพิสูจน์ต่อหน้าบรรดาสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างทั้งมวล
“ซาตานได้มองเห็นแล้วว่าการก่อกบฎนั้นทำให้ไม่เหมาะสมที่จะอยู่บนสวรรค์ มันก็ทำให้เกิดการสงครามและต่อต้านพระเจ้า ในสถานที่อันบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ที่มีแต่ความสงบสุช ได้กลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและเลวร้าย ซาตานาได้ต่อต้านพระเมตตาและพระกรุณาคุณของพระเจ้า แต่สิ่งซาตานกระทำนั้นได้ย้อนกลับมาสู่ตัวตนของมันเอง พระยาเวห์ได้ทรงประทานพระเมตตาอย่างที่สุด จนในที่สุดซาตานก็จะต้องคุกเข่าลงและยอมรับการพิพากษาของพระองค์” E.G.W. (The Great Controversy, cp. 42 “The Controversy Ended, pg. 670) “การไม่ดำเนินการใดๆ ต่อฆาตกรคนแรกของจักรวาลนั้น, พระเจ้าได้สำแดงให้เห็นต่อหน้าจักรวาลทั้งมวลให้เห็นถึงความขัดแย้งอันยิ่งใหญ่....นั่นคือพระประสงค์ของพระองค์ , ไม่ใช่เพียงแค่สำแดงพระเมตตาต่อผู้กบฏต่อพระองค์เท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างที่แสดงให้จักรวาลทั้งมวลได้เห็นและเข้าใจถึงการกบฎว่าส่งผลเช่นไร....อาณาจักรแห่งโลกอื่นๆ ที่บริสุทธิ์ และปราศจากความบาปต่างเฝ้าดูโลกของเรานี้ด้วยความสนใจอย่างยิ่ง... การสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์เพื่อความรอดของมนุษยชาติในโลกนี้มิใช่เพียงเปิดทางให้สวรรค์สถานยอมรับมนุษย์เท่านั้น, แต่เป็นการเปิดเผยให้เห็นถึงผลแห่งการทรยศของซาตาน และความยุติธรรมการพิพากษาของพระองค์ต่อหน้าจักรวาลทั้งมวล จักรวาลนี้ต่างเฝ้าดูฉากสุดท้ายแห่งการจบลงของความขัดแย้งนี้อย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งเป็นการต่อสู้กันระหว่างความดี และความชั่ว และโลกใบเล็กๆ ของเรานี้กลายเป็นบทเรียนชิ้นสำคัญของจักรวาลทั้งมวล” E.G.W. (Last Day Events, cp. 2, pg. 29)