1 / 21

มาตรฐานธนาคารเลือดและงานบริการโลหิต

มาตรฐานธนาคารเลือดและงานบริการโลหิต. การทดสอบการเข้ากันได้ของโลหิตและการเลือกใช้ส่วนประกอบโลหิต ตัวอย่างโลหิตและใบขอ (Samples and Requests) ต้องมีข้อมูลที่ชี้บ่งที่จำเป็น ดังนี้ . ชื่อ นามสกุล . วัน เดือน ปีเกิด หรือ อายุ . เพศ . HN . หอผู้ป่วย . ชื่อผู้เจาะเลือด

pearl
Download Presentation

มาตรฐานธนาคารเลือดและงานบริการโลหิต

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. มาตรฐานธนาคารเลือดและงานบริการโลหิตมาตรฐานธนาคารเลือดและงานบริการโลหิต

  2. การทดสอบการเข้ากันได้ของโลหิตและการเลือกใช้ส่วนประกอบโลหิตการทดสอบการเข้ากันได้ของโลหิตและการเลือกใช้ส่วนประกอบโลหิต • ตัวอย่างโลหิตและใบขอ (Samples and Requests) ต้องมีข้อมูลที่ชี้บ่งที่จำเป็น ดังนี้ . ชื่อ นามสกุล . วัน เดือน ปีเกิด หรือ อายุ . เพศ . HN . หอผู้ป่วย . ชื่อผู้เจาะเลือด Samples tube • ต้องติดฉลากที่มีข้อมูลตรงกับใบ Request และข้อมูลต้องอ่านได้ชัดเจน

  3. ข้อมูลที่ใช้ชี้บ่ง (Identifying information) . ก่อนการตรวจวิเคราะห์ทางธนาคารเลือด เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจวิเคราะห์ ต้องตรวจยืนยันข้อมูลทั้งหมดในใบ Request และ บนฉลากของหลอดตัวอย่างเลือดผู้ป่วย ต้องตรงกัน ถ้าไม่ตรงกันหรือมีข้อสงสัยต้องแจ้งให้หอผู้ป่วยดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง หรือเจาะเลือดผู้ป่วยส่งใหม่ ถ้าจำเป็น . ควรตรวจสอบประวัติเดิมทางธนาคารเลือดของผู้ป่วย . ให้เก็บตัวอย่างเลือดผู้ป่วย และผู้บริจาคโลหิต ไว้ 7 วัน เพื่อทวนสอบ กรณีมีปัญหา

  4. การตรวจวิเคราะห์ . การตรวจหมู่โลหิต .การตรวจหมู่โลหิตจากถุงเลือด ต้องตรวจยืนยันหมู่โลหิต ABO,Rh จากสายถุงเลือด (Cell grouping)ด้วย วิธี Tube test หรือ Column Agglutination test กรณี ที่ Rh Negative ที่อุณหภูมิห้อง ต้องตรวจหา weak D หรือตรวจหมู่โลหิต ABO จากสายถุง FFP (Serum grouping) . การตรวจหมู่โลหิต ABO ให้ผู้ป่วย ต้องตรวจทั้ง Cell grouping และ Serum grouping ส่วน Rh ตรวจเฉพาะ Cell grouping กรณีที่ให้ผล Negative ที่อุณหภูมิห้อง ไม่จำเป็นต้องตรวจหา weak D

  5. ทดสอบเข้ากันได้ของโลหิต (Crossmatch) .ใช้PlasmaหรือSerumของผู้ป่วย . ตรวจABO,Rh grouping . ตรวจ Screening Antibody . Cross matching ด้วยวิธีSaline AHGโดยอ่านผลที่ อุณหภูมิห้อง , 370ซ และ IAT หรือ วิธี column agglutination โดยใช้ Plasma หรือSerumของผู้ป่วยและRed cell ผู้บริจาค . FFP ไม่ต้องcrossmatch แต่ต้องตรวจหาหมู่โลหิตABO ให้ถูกต้องทั้งของผู้ป่วยและผู้บริจาค (ถุงFFP)ร่วมกับทำAntibody screening ของ พลาสมาทุกยูนิต ซึ่งต้องให้ผลNegative ก่อนนำไปใช้ให้ผู้ป่วย โดยให้หมู่โลหิตที่ตรงกัน หรือABO compatible

  6. การเลือกโลหิตและส่วนประกอบโลหิตที่เข้ากันได้เพื่อให้ผู้ป่วยการเลือกโลหิตและส่วนประกอบโลหิตที่เข้ากันได้เพื่อให้ผู้ป่วย . ผู้ป่วยต้องได้รับโลหิตที่มีหมู่โลหิต ABO ตรงกัน เป็นอันดับแรก . กรณีที่ไม่มีหมู่โลหิต ABO ตรงกัน และผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับโลหิตเร่งด่วน สามารถ ให้ PRC หรือ LPRC group O แก่ผู้ป่วยได้ . กรณีที่ผู้ป่วยเป็น Group Rh negative ต้องได้รับโลหิตที่เป็น Rh negative เท่านั้น . แพทย์ และ งานธนาคารเลือด ต้องกำหนดนโยบายร่วมกันในกรณีที่จำเป็นต้องใช้โลหิตที่เป็น Rh positiveให้แก่ผู้ป่วยที่ Rh negative ดังนี้ . ในกรณีฉุกเฉินที่เป็นอันตรายต่อชีวิตหากไม่ได้รับโลหิตทันที และต้องเป็นผู้ป่วยที่ตรวจแล้วไม่พบ Anti-D และการทดสอบ compatibilityให้ผลลบ

  7. การตรวจสอบโลหิตและส่วนประกอบโลหิตก่อนจ่ายการตรวจสอบโลหิตและส่วนประกอบโลหิตก่อนจ่าย . ต้องตรวจการติดฉลากของโลหิตสำหรับผู้ป่วยหรือใบคล้อง 1. ชื่อ นามสกุล HN หอผู้ป่วย หมู่โลหิต 2.วัน เดือน ปี และชื่อผู้ทำcross-match 3.หมายเลข หมู่โลหิตABO , Rhของยูนิต 4.ผลการทำcross-match

  8. การจ่ายโลหิตและส่วนประกอบโลหิตการจ่ายโลหิตและส่วนประกอบโลหิต • ในขณะที่จะจ่ายโลหิต ต้องมีการตรวจสอบใบขอ บันทึกผล ใบคล้องและฉลากที่ติดบนถุงโลหิตและส่วนประกอบโลหิตทุกยูนิต ให้มีความถูกต้องตรงกันในข้อมูลต่างๆ ดังนี้ • ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัว หอผู้ป่วย หมู่โลหิต ABO,Rh ของผู้ป่วย • หมายเลข หมู่โลหิต ABO,Rh ของยูนิต • การแปรผลของcrossmatch รวมทั้ง การตรวจสอบสภาพโลหิตทั่วไป ได้แก่ สภาพถุงบรรจุโลหิต สี ความขุ่นและตะกอนของโลหิตและส่วนประกอบโลหิต • ชนิดของโลหิต จำนวนที่เบิก • วัน เวลา เบิก ชื่อผู้เบิก และชื่อผู้จ่ายโลหิต ถ้ามีข้อขัดแย้ง ต้องแก่ไขปัญหาให้ได้เสียก่อนจ่ายโลหิตออกไป

  9. การขอใช้โลหิตและส่วนประกอบโลหิตในกรณีฉุกเฉินการขอใช้โลหิตและส่วนประกอบโลหิตในกรณีฉุกเฉิน . งานธนาคารเลือดหรืองานบริการโลหิต ต้องมีระเบียบปฏิบัติในการใช้โลหิตและส่วนประกอบโลหิตในกรณีฉุกเฉิน ดังนี้ • กรณีด่วนมาก ต้องการใช้โลหิตทันที ไม่สามารถตรวจหมู่โลหิตได้ทัน ให้ใช้ PRC หรือ LPRC group O ( ขอด่วน Group O un-crossmatch ประกันเวลา 5 นาที ) • กรณีด่วน - สามารถตรวจหมู่โลหิต ABO,Rhได้ แต่ไม่สามารถคอยผลทำ crossmatch ได้ (ขอด่วน หมู่โลหิตตรงกัน ประกันเวลา 10 นาที หรือ ขอด่วน stepแรก room temp. ประกันเวลา 15นาที) ซึ่งการขอด่วนทั้ง 2 กรณีต้องมีลายเซ็นแพทย์ • ใบคล้องถุงโลหิตหรือฉลาก ต้องชี้บ่งให้ชัดเจนว่า ขณะที่จ่ายโลหิตนั้น ยัง crossmatch ไม่เสร็จ • ต้องทำการ crossmatch ต่อให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็ว

  10. การขอโลหิตแบบType and Screen สามารถทำได้ ในรายที่ได้รับการขอจากแพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วย ต้องจัดทำเป็นระบบ มีการประชุมตกลงและประสานงานระหว่าง แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ธนาคารเลือด . เกณฑ์การพิจารณาเลือกผู้ป่วย 1. ต้องเป็นการผ่าตัดที่ไม่รีบด่วน (elective case) และมีโอกาสน้อยที่จะใช้โลหิต 2. ห้ามทำในผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกง่าย 3. ผู้ป่วยต้องไม่ใช่หมู่โลหิตRh negative หรือมีหมู่โลหิตหายากชนิดอื่นๆ 4. ผู้ป่วยไม่เคยมีประวัติตรวจพบ antibody มาก่อน รวมทั้งตรวจไม่พบ antibody ในครั้งนี้ด้วย . ข้อปฏิบัติของธนาคารเลือด 1. ธนาคารเลือดต้องมีโลหิตสำรองเพียงพอสำหรับผู้ป่วยในโครงการType and Screen 2. ต้องทำการตรวจหมู่โลหิตABO,Rh ของผู้ป่วย และต้องตรวจกรองantibody โดยใช้Screening cellที่ได้มาตรฐานสามารถตรวจพบantibody ที่มีความสำคัญทางคลินิก 3. เมื่อแพทย์สั่งใช้โลหิต ต้องทำcrossmatch ทันที ถ้าอ่านผลที่อุณหภูมิห้องประกันเวลา10 นาทีแล้วทำต่อจนถึงAHG test แต่ถ้าต้องการครบทุกstep ประกันเวลา30 นาที

  11. การให้โลหิตและส่วนประกอบโลหิตการให้โลหิตและส่วนประกอบโลหิต 1. การชี้บ่งผู้ป่วยให้ถูกคน 2. การตรวจข้อมูลของโลหิตหรือส่วนประกอบโลหิตบนใบคล้อง ฉลากบนถุงโลหิต กับตัวผู้ป่วยว่าถูกต้องตรงกันทุกข้อมูลขณะที่จะให้โลหิตแก่ผู้ป่วย 3. ใบคล้องต้องติดอยู่กับยูนิตของโลหิต จนกระทั่งให้โลหิตเสร็จ 4. การสั่งการและการให้โลหิต ต้องอยู่ภายในการควบคุมดูแลของแพทย์ 5. การบันทึกทางการแพทย์ของผู้ป่วย ต้องครอบคลุมถึงชนิดของโลหิตหรือส่วนประกอบโลหิต หมายเลขยูนิต วันเวลาที่ให้ สัญญาณชีพก่อน เมื่อเริ่มให้ไปแล้ว ภายใน 15 นาที และหลังการให้โลหิตหมดถุง ปริมาณโลหิตที่ให้ ชื่อผู้ให้ และปฏิกิริยาจากการรับโลหิต 6. ต้องเฝ้าสังเกตอาการผู้ป่วย ระหว่างและหลังการให้โลหิตในระยะเวลาที่เหมาะสมเพื่อดูอาการที่ไม่พึงประสงค์ 7. ต้องให้โลหิตและส่วนประกอบโลหิตโดยผ่านชุดให้โลหิตต้องเปลี่ยนชุดให้ทุก1-2 ยูนิต หรือเมื่อเกิน 4ชม. 8. ห้ามเติมยาและสารละลายต่างๆในโลหิตหรือส่วนประกอบโลหิตนอกจากน้ำเกลือ 0.9%

  12. การอุ่นโลหิต โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องอุ่นโลหิตก่อนให้ การอุ่นโลหิตอาจจำเป็นในกรณี ต่อไปนี้ • การให้โลหิตอย่างรวดเร็ว คือ ให้โลหิตในปริมาณ 50 มล./กก./ชม. ในผู้ใหญ่ และ 15 มล./กก./ชม. ในเด็กเล็ก • การเปลี่ยนถ่ายโลหิต (Exchange transfusion) • กรณีผู้ป่วยมีภาวะ Cold Agglutinin การอุ่นโลหิตจะต้องไม่ให้เกิดการแตกทำลายของเม็ดเลือด ต้องควบคุมอุณหภูมิไม่ให้เกิน 380 ซ. ห้ามนำโลหิตที่อุ่นแล้วกลับมาเก็บเพื่อใช้อีก *การให้ FFP ต้องละลาย FFP ที่ 370 ซ. เมื่อละลายแล้วสามารถเก็บที่ 40 ซ. ได้ 24 ชม. * การให้ Cryoprecipitate ต้องละลาย ที่ 370 ซ.หลังละลายห้ามเก็บในตู้เย็น

  13. ปฏิกิริยาอันไม่พึงประสงค์จากการให้เลือด (Transfusion Reactions) 1. Acute Hemolytic Transfusion Reaction (AHTR) อาการ – ไข้ขึ้น หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดบริเวณกระเบนเหน็บ คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก ปวดแสบปวดร้อนไปตามแนวหลอดเลือด มี Hemoglobinuria , Hemoglobinemia ภาวะไตวาย หรือเลือดออกทั่วไป จาก DIC ซึ่งอาการที่เกิดไม่จำเป็นต้องครบทุกแบบที่กล่าว สาเหตุ – เกิดจากการให้โลหิตหมู่ ABO เข้ากันไม่ได้ มักเกิดอาการรุนแรง 2. Febrile non-hemolytic transfusion reaction อาการ – ไข้ขึ้น หนาวสั่น อาจเกิดร่วมกับปฏิกิริยาการให้เลือดหลายอาการ แต่ไม่มีเม็ดเลือดแดงแตก สาเหตุ – เกิดจากปฏิกิริยาแอนติเจนกับแอนติบอดีของเม็ดเลือดขาว 3. ปฏิกิริยาภูมิแพ้ (Allergic reaction) อาการ – ผื่นแดง คัน สาเหตุ - แพ้โปรตีนในพลาสม่า

  14. Transfusion Reaction ขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติที่หอผู้ป่วย 1. ต้องหยุดการให้โลหิตและประเมินสถานการณ์ ให้การรักษาทันที บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร 2. ตรวจสอบฉลากติดถุงโลหิต และบันทึกต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อค้นหาความผิดพลาดในการชี้บ่ง 3. ต้องเจาะโลหิตผู้ป่วยส่งใหม่พร้อมทั้งติดฉลากอย่างถูกต้องสมบูรณ์ โดยระวังการแตกทำลายของเม็ดเลือดจากการเจาะเก็บ แล้วนำส่งธนาคารเลือดทันที พร้อมส่งถุงโลหิตที่ให้แก่ผู้ป่วยและชุดให้โลหิตที่ติดอยู่ ขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติที่ธนาคารเลือด 1. ต้องตรวจดูสีของพลาสมาหรือซีรัมผู้ป่วยหลังเกิดปฏิกิริยา 2. ต้องนำตัวอย่างโลหิตผู้ป่วยทั้งก่อนและหลังเกิดปฏิกิริยา มาทดสอบ DAT ตรวจหมู่โลหิต ABO,Rh และ Antibody screening 3. ตรวจดูสีของพลาสมาในยูนิตที่ให้ นำตัวอย่างในยูนิตที่ให้มาตรวจหมู่โลหิต ABO,Rh และทำ crossmatch กับตัวอย่างโลหิตผู้ป่วยทั้งก่อนและหลังเกิดปฏิกิริยา 4. ต้องส่งตัวอย่างโลหิตที่เหลือในยูนิต ตรวจย้อมเชื้อและเพาะเชื้อแบคทีเรีย 5. ต้องรายงานผลการตรวจแก่แพทย์ผู้รักษาทันทีและจะต้องบันทึกลงในเวชระเบียนผู้ป่วย

  15. ทั้งนี้การจะบรรลุเป้าหมายเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยและเพื่อให้การบริการมีคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุดต่อชีวิตผู้ป่วย สิ่งสำคัญที่ต้องทำควบคู่ไปกับการอบรมให้ความรู้คือการควบคุมกำกับและประเมินผลในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่โดยหัวหน้างาน

  16. THANK YOU

More Related