1 / 44

ประวัติความเป็นมาของอาเซียน

ประวัติความเป็นมาของอาเซียน. จุดกำเนิดของอาเซียน.

paige
Download Presentation

ประวัติความเป็นมาของอาเซียน

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ประวัติความเป็นมาของอาเซียนประวัติความเป็นมาของอาเซียน

  2. จุดกำเนิดของอาเซียน อาเซียน หรือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Association of Southeast Asian Nations – ASEAN) เกิดขึ้นเมื่อปี 2510 ในยุคแห่งการเผชิญหน้าทางการเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บนความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ และมีนโยบายแข่งขันในการผลิต การส่งออก การตลาด การหาแหล่งทุนและเทคโนโลยี ทำให้การเจริญเติบโตขององค์กรเป็นไปอย่างช้า ๆ ปฏิญญาอาเซียนหรือปฏิญญากรุงเทพฯ ซึ่งเป็นปฏิญญาในการก่อตั้งอาเซียน ได้ระบุวัตถุประสงค์ของการรวมตัวกัน ดังนี้ เร่งรัดความ เจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ในภูมิภาคโดยอาศัย ความร่วมมือระหว่างกันส่งเสริม พื้นฐานและเสถียรภาพ ในภูมิภาค โดยยึดหลักยุติธรรมและกฎเกณฑ์ของกฎบัติ สหประชาชาติส่งเสริมความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในด้านต่างๆ ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคม 

  3. จุดเริ่มต้นของอาเซียนจุดเริ่มต้นของอาเซียน อาเซียนตระหนักดีว่า ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงของภูมิภาคดังนั้น นอกจากความร่วมมือทางการเมือง สังคม การศึกษา และวัฒนธรรม แล้วอาเซียนจึงมุ่งมั่นที่จะขยาย ความร่วมมือทาง เศรษฐกิจระหว่าง กันมา โดยตลอดอีกด้วยในปี 2520 รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้ลงนามในความตกลงว่าด้วยสิทธิพิเศษทางการค้าอาเซียน หรือ ASEAN PTA (Preferential Trading Arrangements: PTA) ซึ่งเป็นการ ให้สิทธิพิเศษโดยสมัครใจ และแลกเปลี่ยนสินค้ากับสินค้า สิทธิพิเศษส่วนใหญ่เป็น การลด ภาษี ศุลกากรขาเข้า และการผูกพันอัตราอากรขาเข้า ณ อัตราที่เรียกเก็บอยู่ หลังจากนั้นก็มีโครงการความร่วมมือต่างๆ ตามมา โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมมีถึง 4 โครงการ ได้แก่ โครงการอุตสาหกรรมอาเซียน (ASEAN Industrial Project: AIP) ปี 2523 โครงการ แบ่งผลิตทางอุตสาหกรรมอาเซียน (ASEAN Industrial Complementation: AIC) ปี 2524 โครงการร่วมลงทุนด้านอุตสาหกรรมของอาเซียน (ASEAN Industrial Joint Ventures: AIJV) ปี 2526 โครงการแบ่งผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ (Brand-to-Brand Complementation: BBC) ปี 2532

  4. วัตถุประสงค์ของอาเซียนวัตถุประสงค์ของอาเซียน อาเซียนได้พยายามศึกษาหาแนวทางและมาตรการที่จะขยายการค้าระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ การเปิดเสรีทางการค้าระหว่างกัน โดยใช้อัตราภาษีพิเศษที่เท่ากัน ( Common Effective Preferential Tariff: CEPT) สำหรับสินค้าของอาเซียน ที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 4 เมื่อเดือนมกราคม 2535 ณ ประเทศ สิงคโปร์ จึงได้มีมติเห็นชอบข้อเสนอของไทย โดยนายกรัฐมนตรี อานันท์ ปันยารชุน ในการเริ่มจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area: AFTA) ตามกรอบความตกลงแม่บทว่าด้วยการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจของอาเซียน (Framework Agreement on Enhancing ASEAN Economic Cooperation) และความตกลงว่าด้วยการใช้อัตราภาษีพิเศษที่เท่ากันสำหรับเขตการค้าเสรีอาเซียน [Agreement on the Common Effective Preferential Tariff (CEPT) Scheme for the ASEAN Free Trade Area (AFTA)]ประเทศสมาชิกอาเซียนซึ่งได้ร่วมก่อตั้งอาฟตาขึ้นในขณะนั้น มีเพียง 6 ประเทศ ได้แก่ บรูไน ดารุสซาลาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย ต่อมาภายหลังอาเซียนได้ขยายจำนวนสมาชิกเป็น 10 ประเทศ โดยเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนลำดับที่ 7 ในปี 2538 ลาวและพม่า เป็นสมาชิกลำดับที่ 8 และ 9 ในปี 2540 และกัมพูชาเป็นสมาชิกลำดับที่ 10 ในปี 2542 อาเซียนจึงเป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่กลุ่มหนึ่งของโลกมีประชากรรวมกันกว่า 500 ล้านคน

  5. บรูไน ลาว มาเลเซีย พม่า กัมพูชา อินโดนีเซีย  ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ประเทศไทย เวียดนาม

  6. ประเทศบรูไน ชื่อทางการ : เนการา บรูไน ดารุสซาลาม (Negara Brunei Darussalam แปลว่า ดินแดนแห่งความสงบสุข) ที่ตั้ง : ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะบอร์เนียว (ละติจูดที่ 5 เหนือเส้นศูนย์สูตร) แบ่งเป็นสี่เขต คือ เขต Brunei-Muaraเขต Belaitเขต Temburongและเขต Tutongพื้นที่ : 5,765 ตารางกิโลเมตร โดยพื้นที่ร้อยละ 70 เป็นป่าไม้เขตร้อน เมืองหลวง : บันดาร์ เสรี เบกาวัน (Bandar Seri Begawan) ประชากร : 370,00 คน (2548) ประกอบด้วย มาเลย์ (66%) จีน (11%) และอื่น ๆ (23%) มีอัตราการเพิ่มของประชากรปีละ 2 % ภูมิอากาศ : อากาศโดยทั่วไปค่อนข้างร้อนชื้น มีปริมาณฝนตกค่อนข้างมาก อุณหภูมิเฉลี่ย 28 องศาเซลเซียส ภาษา : ภาษามาเลย์ (Malay หรือ BahasaMelayu) เป็นภาษาราชการ รองลงมาเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน ศาสนา : ศาสนาประจำชาติ คือ ศาสนาอิสลาม (67%) ศาสนาอื่น ๆ ได้แก่ ศาสนาพุทธ (13%) ศาสนาคริสต์ (10%) และฮินดู  NEXT

  7. สกุลเงิน : ดอลลาร์บรูไน (Brunei Dollar : BND) อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ (ซื้อ) 22.9 บาท/ 1 ดอลลาร์บรูไน (ขาย) 23.5 บาท/ 1 ดอลลาร์บรูไน (มกราคม 2552) (ค่าเงินบรูไนมีความมั่นคงและใช้อัตราแลกเปลี่ยนเดียวกับเงินสิงคโปร์ และสามารถใช้เงินสิงคโปร์ในบรูไนได้ทั่วไป) ระบอบการปกครอง : สมบูรณาญาสิทธิราชย์ โดยมีสมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัลโบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ (His Majesty Sultan HajiHassanalBolkiahMu’izzaddinWaddaulah) ทรงเป็นองค์พระประมุขของประเทศตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2510 รัฐธรรมนูญฉบับวันที่ 1 มกราคม 2527 กำหนดให้สมเด็จพระราชาธิบดีทรงเป็นอธิปัตย์ คือ เป็นทั้งประมุขและนายกรัฐมนตรี สมเด็จพระราชาธิบดีองค์ปัจจุบันยังทรงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังด้วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นชาวบรูไนฯ เชื้อสายมาเลย์โดยกำเนิด และจะต้องนับถือศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่

  8. ประเทศกัมพูชา ชื่อทางการ : ราชอาณาจักรกัมพูชา (Kingdom of Cambodia) ที่ตั้ง : กัมพูชาตั้งอยู่กลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพรมแดนทิศเหนือติดกับประเทศไทย (จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์) และลาว (แขวง อัตตะปือและจำปาสัก) ทิศตะวันออกติด เวียดนาม (จังหวัดกอนทูม เปลกู ซาลาย ดั๊กลั๊ก ส่องแบ๋ เตยนิน ลองอาน ด่งท๊าบ อันซาง และเกียงซาง) ทิศตะวันตกติดประเทศไทย (จังหวัดสระแก้ว จันทบุรี และตราด) และทิศใต้ติดอ่าวไทย พื้นที่ : ขนาดกว้าง 500 กิโลเมตร ยาว 450 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 181,035 ตารางกิโลเมตร หรือมีขนาดประมาณ 1 ใน 3 ของประเทศไทย เส้นเขตแดนโดยรอบประเทศยาวประมาณ 2,000 กิโลเมตร โดยมีเส้นเขตแดนติดต่อกับประเทศไทยยาว 798 กิโลเมตร เมืองหลวง : กรุงพนมเปญ (Phnom Penh) ประชากร : 14.1 ล้านคน (ปี 2548) ประกอบด้วย ชาวเขมรร้อยละ 94 ชาวจีนร้อยละ 4 และอื่น ๆ อีกร้อยละ 2 มีอัตราการเพิ่มของประชากรเฉลี่ยร้อยละ 2 ต่อปี ภูมิอากาศ : ร้อนชื้น มีฤดูฝนยาวนาน อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 20 - 36 องศาเซลเซียส ภาษา : ภาษาเขมรเป็นภาษาราชการ ส่วนภาษาที่ใช้โดยทั่วไป ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส เวียดนาม จีน และไทย NEXT

  9. ศาสนา : ศาสนาประจำชาติ คือ ศาสนาพุทธ นิกายเถรวาท (แยกเป็น 2 นิกายย่อย คือ ธรรมยุตินิกายและมหานิกาย) และศาสนาอื่นๆ อาทิ ศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์ สกุลเงิน : เงินเรียล (Riel : KHR) อัตราแลกเปลี่ยน 4,000 เรียลเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 100 เรียล เท่ากับ 1 บาท ระบอบการปกครอง : ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ พระมหากษัตริย์ คือ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี (His Majesty Preah Bat SamdechPreahBoromneathNorodomSihamoni) เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อ วันที่ 14 ตุลาคม 2547 นายกรัฐมนตรี คือ สมเด็จฮุน เซน (Samdech Hun Sen)

  10. ประเทศอินโดนีเซีย ชื่อทางการ : สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Republic of Indonesia) ที่ตั้ง : อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตั้งอยู่บนเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรอินเดีย และเป็นสะพานเชื่อมระหว่างทวีปเอเชียกับออสเตรเลีย ทำให้อินโดนีเซียสามารถควบคุมเส้นทางการติดต่อระหว่างมหาสมุทรทั้งสอง ผ่านช่องแคบที่สำคัญต่างๆ เช่น ช่องแคบมะละกา ช่องแคบซุนดา และช่องแคบล็อมบอก ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางมายังประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก พื้นที่ : 1,890,754 ตารางกิโลเมตร เป็นประเทศหมู่เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อย กว่า 17,508 เกาะ รวมอยู่ในพื้นที่ 4 ส่วน คือ หมู่เกาะซุนดาใหญ่ ประกอบด้วย เกาะชวา สุมาตรา บอร์เนียว และสุลาเวสี หมู่เกาะซุนดาน้อย ประกอบด้วยเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกาะชวา มีเกาะบาหลี ลอมบอก ซุมบาวา ซุมบา ฟอลเรส และติมอร์ หมู่เกาะมาลุกุ หรือ หมู่เกาะเครื่องเทศ ตั้งอยู่ระหว่างสุลาเวสี กับอิเรียนจายาบนเกาะ นิวกีนี อีเรียนจายา อยู่ทางทิศตะวันตกของปาปัวนิวกินี เมืองหลวง : จาการ์ตา (Jakarta)  NEXT

  11. ประชากร : ประมาณ 220 ล้านคน ประกอบด้วย ชนพื้นเมืองหลากหลายกลุ่ม ซึ่งพูดภาษาต่างกันกว่า 583 ภาษา ร้อยละ 61 อาศัยอยู่บนเกาะชวา ภูมิอากาศ : มีอากาศร้อนชื้นแบบศูนย์สูตร ประกอบด้วย 2 ฤดู คือ ฤดูแล้ง (พฤษภาคม-ตุลาคม) และ ฤดูฝน (พฤศจิกายน-เมษายน) ภาษา : ภาษาราชการและภาษาประจำชาติ ได้แก่ ภาษาอินโดนีเซีย หรือ Bahasa Indonesiaศาสนา : ชาวอินโดนีเซียร้อยละ 87 นับถือศาสนาอิสลาม ร้อยละ 6 นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ ร้อยละ 3.5 นับถือศาสนาคริสต์นิกายแคทอลิก ร้อยละ 1.8 นับถือศาสนาฮินดู และร้อยละ 1.3 นับถือ ศาสนาพุทธ 4 สกุลเงิน : รูเปียห์ (Rupiah : IDR) อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ (ซื้อ) 2.87 บาท / 1,000 รูเปียห์ (ขาย) 3.32 บาท / 1,000 รูเปียห์ (มกราคม 2552) ระบอบการปกครอง : ประชาธิปไตย ที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุข และหัวหน้าฝ่ายบริหาร ประธานาธิบดี คือ ดร.ซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน (SusiloBambangYudhoyono) (ตุลาคม 2547)

  12. ประเทศลาว ชื่อทางการ : สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (The Lao People's Democratic Republic) ที่ตั้ง : เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล มีพรมแดนติดจีนและพม่าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดต่อกับเวียดนามทางทิศตะวันออก ติดต่อกับกัมพูชาทางทิศใต้ และติดต่อกับประเทศไทยทางทิศตะวันตก พื้นที่ : 236,800 ตารางกิโลเมตร (ประมาณครึ่งหนึ่งของประเทศไทย) แบ่งเป็น 16 แขวง และ 1 เขตปกครองพิเศษ (นครหลวงเวียงจันทน์) เมืองหลวง : นครเวียงจันทน์ (Vientiane) (เป็นเขตเมืองหลวงเหมือน กทม. ส่วนแขวงเวียงจันทน์เป็นอีกแขวงหนึ่งที่อยู่ติดกับนครหลวงเวียงจันทน์) ประชากร : 5.6 ล้านคน (ปี 2548) ประกอบด้วย ลาวลุ่มร้อยละ 68 ลาวเทิงร้อยละ 22 ลาวสูงร้อยละ 9 รวมประมาณ 68 ชนเผ่า ภูมิอากาศ : อุณหภูมิเฉลี่ย 29-33 องศา ต่ำสุด 10 องศา ปริมาณฝนตกเฉลี่ย 1,715 มม.ต่อปี ความชื้น 70-80 %  NEXT

  13. ภาษา : ภาษาลาวเป็นภาษาราชการ ศาสนา : ร้อยละ 75 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 16-17 นับถือผี ที่เหลือนับถือศาสนาคริสต์ (ประมาณ 100,000 คน) และอิสลาม (ประมาณ 300 คน) สกุลเงิน : กีบ (Kip) อัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท : 276 กีบ (พฤษภาคม 2551) ระบอบการปกครอง : ระบบการปกครองแบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ (ทางการลาวใช้คำว่า ระบอบประชาธิปไตยประชาชน) โดยพรรคการเมืองเดียวเป็นองค์กรชี้นำประเทศ คือพรรคประชาชนปฏิวัติลาว มีอำนาจสูงสุดตั้งแต่ลาวเริ่มปกครองในระบอบสังคมนิยม เมื่อ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2518 ประมุข-ประธานประเทศ (ในภาษาลาว หมายถึง ตำแหน่งประธานาธิบดี) คือ พลโท จูมมะลี ไชยะสอน (8 มิถุนายน พ.ศ. 2549) หัวหน้ารัฐบาล-นายกรัฐมนตรี คือ นายบัวสอน บุบผาวัน (8 มิถุนายน พ.ศ. 2549)

  14. 1.ประเทศบรูไนมีชื่อทางการว่าอะไร1.ประเทศบรูไนมีชื่อทางการว่าอะไร ก. เนการา บรูไ น ดารูสชาลาม ข. เนการา บรูไ น การุสกาลาม ค. เนการา บรูไ น กากุสชาลาม ง. เนการาSlide 16 บรูไ น คารุสกาลาม

  15. ดีมาก ทำข้อต่อไป

  16. ผิด กับไปทำใหม่

  17. 2.ประเทศบรูไนมีภาษาเรียกว่าอะไร2.ประเทศบรูไนมีภาษาเรียกว่าอะไร ก.ภาษามาเลย์ ข.ภาษาลาว ค.ภาษาไทย ง.ภาษาอังกฤษ

  18. ดีมาก ทำข้อต่อไป

  19. ผิด กับไปทำใหม่

  20. 3.ประเทศบรูไนสกุลเงินเขียนว่าอะไร3.ประเทศบรูไนสกุลเงินเขียนว่าอะไร ก.จีน ข.คอลลร์บรูไน ค.กาล ง.บาท

  21. ดีมาก ทำข้อต่อไป

  22. ผิด กับไปทำใหม่

  23. 4.ประเทศกัมพูชามีเมืองหลวงเรียกว่าอะไร4.ประเทศกัมพูชามีเมืองหลวงเรียกว่าอะไร ก.ทะเล ข.วัด ค.กรุงพบมาปญ ง.กรุงเทพ

  24. ดีมาก ทำข้อต่อไป

  25. ผิด กับไปทำใหม่

  26. 5.กัมพูชาชื่อของกลุนเงินเรียกว่าอะไร5.กัมพูชาชื่อของกลุนเงินเรียกว่าอะไร ก.เงินเรียล ข.บาท ค.บีน ง.คอลลร์บรุไน

  27. ดีมาก ทำข้อต่อไป

  28. ผิด กับไปทำใหม่

  29. 6.ประเทศอันโดนีเซียทีชื่อเมืองว่าอะไร6.ประเทศอันโดนีเซียทีชื่อเมืองว่าอะไร ก.ทะเล ข.วัด ค.กรุงเทพ ง.จาการ์ตา

  30. ดีมาก ทำข้อต่อไป

  31. ผิด กับไปทำใหม่

  32. 7.ประเทศอันโดนีเซียมีประชากรกี่คน7.ประเทศอันโดนีเซียมีประชากรกี่คน ก.220ล่านคน ข.1000ล่านคน ค.100ล่านคน ง.210ล่านคน

  33. ดีมาก ทำข้อต่อไป

  34. ผิด กับไปทำใหม่

  35. 8.สกุลเงินของประเทศอินโดนี้เซียว่าอะไร8.สกุลเงินของประเทศอินโดนี้เซียว่าอะไร ก.บาท ข.เงินเรียล ค.กาล ง.รูเปียห์

  36. ดีมาก ทำข้อต่อไป

  37. ผิด กับไปทำใหม่

  38. 9.ประเทศมีประชากรกี่คน9.ประเทศมีประชากรกี่คน ก.1.1ล้านคน ข.2.2ล้านคน ค.5.6ล้านคน ง.2.1ล้านคน

  39. ดีมาก ทำข้อต่อไป

  40. ผิด กับไปทำใหม่

  41. 10.ประเทศลาวเมืองหลวงมีชื่อว่าอะไร10.ประเทศลาวเมืองหลวงมีชื่อว่าอะไร ก.นครเวียงวจันทร์ ข.ทะเล ค.วัด ง.น้ำตก

  42. ดีมาก ทำข้อต่อไป

  43. ผิด กับไปทำใหม่

  44. คำนำ  ตั้งแต่สมาคมประชาชาติเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน (Association for South East Asia Nations: ASEAN) ได้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2510 ความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกในด้านต่างๆพัฒนาก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ  ในด้านเศรษฐกิจ เขตการค้าเสรีอาเซียนหรือ AFTA (ASEAN Free Trade Area) ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2510 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ ด้วยการอำนวยความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศสมาชิก ลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกันด้วยกลไกต่างๆ ตั้งแต่สมาคมประชาชาติเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน (Association for South East Asia Nations: ASEAN) ได้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2510 ความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกในด้านต่างๆ พัฒนาก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในเรื่องภาษี กฎระเบียบทางเทคนิค และกระบวนการปฏิบัติงานต่างๆปี พ.ศ.2546 ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือAEC (ASEAN Economic Community) ได้ถูกก่อตั้งขึ้น เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิก มีวัตถุประสงค์เพื่อการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก โดยมีตลาดและฐานการผลิตร่วมกัน และมีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน เงินทุน และแรงงานฝีมืออย่างเสรี ทั้งนี้ มีเป้าหมายให้ AEC แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ.2558 เพื่อรองรับพัฒนาการดังกล่าวข้างต้น “ความตกลงว่าด้วยการปรับระบบด้านกฎระเบียบและการควบคุมบริภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียน (Agreement on the ASEAN Harmonized Electrical and Electronic Equipment Regulatory Regime) หรือ AHEEERR ” ได้ถูกจัดทำขึ้นนำเสนอรัฐมนตรีเศรษฐกิจของอาเซียนทั้งสิบประเทศ (ASEAN Economic Ministers หรือAEM)  ลงนามเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2548  และจะมีผลใช้บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นไป ความตกลง AHEEERR มีผลผูกพันทางกฎหมาย (Legally Binding) ประเทศสมาชิกจึงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆของความตกลงดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งในแง่ได้รับประโยชน์และเสียประโยชน์ ดังนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องจึงควรศึกษาและทำความเข้าใจเพื่อเตรียมการรองรับผลกระทบดังกล่าว

More Related