1 / 20

ความขัดแย้งโครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และแนวทางแก้ปัญหา

ความขัดแย้งโครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และแนวทางแก้ปัญหา. ศาสตราจารย์ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ การประชุมวิชาการประจำปี คณะเศรษฐศาสตร์ มธ. วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๓. ความขัดแย้งด้านสิ่งแวดล้อม.

oshin
Download Presentation

ความขัดแย้งโครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และแนวทางแก้ปัญหา

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ความขัดแย้งโครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และแนวทางแก้ปัญหา ศาสตราจารย์ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ การประชุมวิชาการประจำปี คณะเศรษฐศาสตร์ มธ. วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๓ TU Economic Symposium

  2. ความขัดแย้งด้านสิ่งแวดล้อมความขัดแย้งด้านสิ่งแวดล้อม • ความขัดแย้ง—เป็นปรากฎการณ์ตามปรกติในสังคม เพียงแต่ว่าความรุนแรงต่างกัน บริบทและเนื้อหาแตกต่างกันไปตามยุคสมัย • หลังปฏิวัติอุตสาหกรรม ความขัดแย้งระหว่างนายทุนกับแรงงานรุนแรงและเข้มข้น ทฤษฎีของคาร์ล ม๊ากรซ์ และนวนิยายหลายเรื่องนำประเด็นความขัดแย้งมาเป็นภูมิหลังหรือเป็นตัวเดินเรื่อง • แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน ภายใต้การจัดการที่ดีระหว่างนายทุนและแรงงานก็ไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้งเสมอไป อยู่ร่วมกันกันได้ ปรองดองกันด้วยดี • ความขัดแย้งด้านสิ่งแวดล้อม และโลกาภิวัตน์ มีข่าวคราวเนืองๆและบางครั้งรุนแรง ประท้วงการประชุม WTO และเวทีประชุมนานาชาติ TU Economic Symposium

  3. ขอบเขตของงานวิจัยนี้ • วิเคราะห์ความขัดแย้งภายในประเทศไทย ที่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ • ผู้เขียนใช้เศรษฐศาสตร์สถาบันและการวิเคราะห์เชิงวิวัฒนาการในการทำความเข้าใจระบบสถาบัน (ตัวละคร) อคติหรือจุดอ่อนจุดแข็งของละคร และปัญหาข้อบกพร่องโดยรวม • เชิงประจักษ์ ใช้กรณีศึกษา • เสนอแนะทางแก้ไข ป้องกันความเสี่ยง หาข้อยุติโดยเร็ว (เมื่อเกิดความขัดแย้ง) เครื่องมือเศรษฐศาสตร์ และการชดเชยที่เหมาะสม TU Economic Symposium

  4. กรณีศึกษาเชิงประจักษ์กรณีศึกษาเชิงประจักษ์ • กรณีศึกษา ๒ ประเภท • การปนเปื้อนของสารเคมีในดินน้ำและสิ่งแวดล้อม (เหตุการณ์สำคัญคือ การปนเปื้อนของแคดเมียม แม่ตาว อ.แม่สอด) • กรณีความขัดแย้งระหว่างโรงงานอุตสาหกรรมกับชุมชน (มาบตาพุด จ.ระยอง) • ไม่ได้เน้นใครถูกใครผิด--แต่ต้องการเข้าใจสถาบันที่เกี่ยวข้อง • หาบทเรียนจากความบกพร่องของตัวละคร พร้อมกับเสนอแนะแนวทางแก้ไข TU Economic Symposium

  5. การวิเคราะห์เชิงสถาบันและวิวัฒนาการการวิเคราะห์เชิงสถาบันและวิวัฒนาการ • ตัวละคร 5 ที่เกี่ยวข้องในนวนิยายความขัดแย้ง • หน่วยงานวางแผนสังคม คือ รัฐบาล สภาพัฒน์ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม ฯลฯ • ภาคการผลิตอุตสาหกรรม โรงงานอุตสาหกรรม • ภาคครัวเรือนและชุมชน • หน่วยงานกำกับระดับพื้นที่ เช่น สำนักงานเขตสิ่งแวดล้อม • ศาลและการตุลาการ ส่วนหนึ่งของความขัดแย้งถูกส่งให้ศาลตัดสิน หรือบางส่วนนอกระบบ (ดำรงอยู่อย่างไม่เป็นข่าว เป็นอริกัน ฯลฯ) TU Economic Symposium

  6. ผู้วางแผนสังคม • ผู้วางแผนสังคม (social planner) : หมายรวมถึงรัฐบาล สภาพัฒน์ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ... • มีอำนาจกำหนดนโยบาย แผนยุทธศาสตร์ หนึ่งในยุทธศาสตร์คือการพัฒนาอุตสาหกรรม • จัดสรรงบประมาณก้อนใหญ่เพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน • ให้การยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีสำหรับโครงการลงทุน (ส่วนใหญ่คือภาคอุตสาหกรรม) TU Economic Symposium

  7. หลักคิดและวิธีปฏิบัติของผู้วางแผนสังคมหลักคิดและวิธีปฏิบัติของผู้วางแผนสังคม • ผู้วางแผนสังคม (social planner) : • แผนพัฒนาคำนึงถึงสวัสดิการสังคมสูงสุด คำนึงถึงตัวแปรต่างๆคือ GDP, exports, income per capita .. สมการที่หนึ่ง • วิเคราะห์ระดับแผนการ สภาพัฒน์ฯ คำนึงถึงผลประโยชน์ (B) และต้นทุน (C = cost + externality) สมการที่สอง • อคติ – จุดอ่อน คำนึงมิติเศรษฐกิจ แต่ว่าละเลยด้านสิ่งแวดล้อม หรือประมาท ผลักว่าปัญหามี-ความเสี่ยง—แต่เป็นอนาคต หรือ “ถ้าหากมีปัญหาก็แก้ไขได้ด้วยเทคโนโลยี” เป็นการใช้เทคนิคภาษาที่คลุมเครือ TU Economic Symposium

  8. ภาคการผลิต • ทำอะไร? • ผลิตสินค้าและบริการ เพื่อสนองความต้องการประชาชนและกำไร • ฟังก์ชันการผลิต แต่ว่าเรามักจะละเลย “ผลพลอยเสีย” (by-products) และความเสี่ยง (อุบัติเหตุต่างๆที่ไม่แน่นอน ไม่ตั้งใจ • เกิดผลเสียหาย โดยไม่มีระบบป้องกันที่ดี การชดเชยที่เหมาะสม sorry, it’s an accident จ่ายได้แค่นี้--ถ้าไม่พอใจไปฟ้องศาล • ต้องมีมโนทัศน์ใหม่ว่าด้วย การป้องกัน มีหลักประกันภัย จ่ายค่าพรีเมียม มีกองทุนให้การชดเชยเมื่อเสียหาย (พันธบัตรสิ่งแวดล้อม) TU Economic Symposium

  9. อคติ ความขัดแย้งในตัวเอง • มลพิษหรือความเสี่ยงเป็นสิ่งที่จัดการได้ โดยใช้เทคนิคต่างๆ abatement measures แต่ว่ามีค่าใช้จ่ายและต้นทุน • ความขัดแย้งหรือ trade-off ระหว่างกำไรมาก กับ กำไรน้อย • อคติ กำไรมากดีกว่ากำไรน้อย ปัญหาความเสี่ยง (อุบัติเหตุ) ยังไม่เกิดขึ้น ถ้าเกิดก็ไปว่ากันข้างหน้า กรณีพิพาท (ถ้ามี) มีทางจัดการได้ “เสียปรียบ” ถ้าเราทำดีต่อสิ่งแวดล้อม—แต่ว่าบริษัทคู่แข่งไม่หลบเลียงกฎหมาย อคติ race to the bottom TU Economic Symposium

  10. ภาคครัวเรือนและชุมชน • ครัวเรือนและชุมชนไม่ได้เป็นอริกับโรงงานเสมอไป แต่ต้องยอมรับว่ามี “ผู้ได้” และในขณะเดียวกันมี “ผู้เสีย” • พลวัต และ ความไม่คงเส้นคงวา (time-inconsistency) รักได้-เกลียดได้ ต้อนรับ-และขับไล่ ตอนแรกต้อนรับอุตสาหกรรมเพราะคิดว่าดี ได้เงิน มีงานทำ ต่อมาเมื่อโรงงานขยายตัว –ขอร้องให้หยุดขยาย พอแล้ว ไม่ต้องการแล้ว • เราไม่สามารถสรุปอย่างแน่นอนว่า จะต้องขัดแย้ง ต้องอาศัยการวิเคราะห์เป็นรายๆ • สะท้อนในตัวแปรสี่ตัว ผลได้ WL + S และ ผลเสีย D + U TU Economic Symposium

  11. หน่วยงานกำกับระดับพื้นที่หน่วยงานกำกับระดับพื้นที่ • น่าเห็นใจที่สุด “หนังหน้าไฟ” “รับเผือกร้อน” กล่าวคือได้รับภารกิจการดูแลตามกฎหมาย (นับสิบนับร้อยฉบับ) • กำลังคนจำกัด • ความรู้จำกัด (อำนาจไม่มีจริง) • เผชิญความขัดแย้งอย่างแท้จริง (ประท้วง) • ความขัดแย้ง (ภายใน) เช่น อยากจะเปิดเผยข้อมูล—แต่หน่วยเหนือสั่งว่าห้ามให้สัมภาษณ์ เพราะว่าเป็น “ผู้น้อย” • minimize complaint { D, U } ---(6) • ข้อจำกัดขององค์กร capability <= capability* ---(7) TU Economic Symposium

  12. ข้อบกพร่องเชิงระบบ ข้อบกพร่องเชิงระบบ • PF1…. PF8 (policy failure) • PF1 อคติที่เน้นมิติเศรษฐกิจ คือ GDP, การส่งออก ละเลยการทำ Green GDP ประมาท ไม่มีภูมิคุ้มกัน อ้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไม่ชัดเจน หรือถ้าหาก “มีปัญหาก็สามารถแก้ไขได้” เป็นการใช้ลูกไม้การใช้ภาษาที่คลุมเครือ ไม่ได้แสดงว่ารับผิดชอบ (policy commitment) • measure TU Economic Symposium

  13. ข้อบกพร่องเชิงระบบ (ต่อ) • PF2 การขาดข้อมูลและความรู้ ไม่เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ หมายถึงไม่มีความรู้เฉพาะ (ไม่ใช่ความรู้กว้างๆว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยรวมเป็นเท่าใด หรือ GDP เฉลี่ยเท่าใด แต่ต้องการความรู้เฉพาะพื้นที่) หลักฐานเชิงประจักษ์คือ ขาดการศึกษา ศักยภาพการรองรับมลพิษ (carrying capacity) ของพื้นที่มาบตาพุด ว่าหากโรงงานทั้งหมดเดินเครื่อง ปริมาณมลพิษเท่ากับเท่าใด? เกินกว่าความมาตรฐานหรือยัง คำนวณได้โดยใช้แบบจำลองคณิตศาสตร์ ไม่ใช่รอคอยให้เกิดปัญหา” TU Economic Symposium

  14. ข้อบกพร่องเชิงระบบ (ต่อ) • เป็นมีความรู้และสร้างภูมิคุ้มกัน หมายถึงมีมาตรการป้องกัน precautionary measures ป้องกันแล้ว—ถ้าอุบัติเหตุเกิดขึ้น ใครจะแก้ไข (ในเวลารวดเร็ว) จะชดเชย (บ้านพัง คนตาย บาดเจ็บ) กันอย่างไร มากกว่าคำกล่าว “ขอโทษ ไม่ตั้งใจ” “ระเบียบของบริษัทชดเชยได้แค่นี้ ถ้าหากไม่พอใจฟ้องศาล” • สังคมแห่งการเรียนรู้ ควรจะหมายถึงหน่วยงานราชการต้องเปิดเผยข้อมูล สร้างวัฒนธรรมการบันทึกเป็นลายลักษณ์ • การไม่เปิดเผย ซึ่งเป็นเทคนิคของส่วนราชการนิยมใช้เกิดทัศคติทางลบต่อราชการ “ไม่ไว้วางใจ” “ไม่เชื่อถือ” “เอียงข้างธุรกิจ” TU Economic Symposium

  15. ข้อบกพร่องเชิงระบบ (ต่อ) • PF3 ความทับซ้อนของผลประโยชน์ (COI, conflict of interest) ผู้ตัดสินใจนโยบายของชาติ เช่น ประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมควรเป็นกลาง ไม่มีปัญหาทับซ้อนผลประโยชน์ทั้งรูปแบบและโดยเนื้อหา COI ในรูปแบบ และ COI ในเนื้อหา • PF4 การไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย “เกียร์ว่าง” หลักฐานเชิงประจักษ์มีมาก เช่น ควรจะประกาศเป็นเขตควบคุมมลพิษ—แต่ว่าไม่ดำเนินการ ควรจะออกระเบียบ (กฎกระทรวง การรายงานข้อมูลตามมาตรา ๘๐ แต่ปล่อยให้เวลาผ่านไปนับสิบปี) • บางเรื่องยอมรับว่า ยาก ซับซ้อนของปัญหา (สีเท่า ไม่ใช่ขาว ดำ) TU Economic Symposium

  16. ข้อบกพร่องเชิงระบบ (ต่อ) • PF5-PF8 เกี่ยวกับข้อบกพร่องของภาครัฐและระบบราชการ • ประการสำคัญคือ ควรจะมี “กระบวนการกึ่งศาล” เพื่อหาข้อยุติ โดยเร็ว ลดภาระการฟ้องร้องต่อศาลตัดสิน ลดการเผชิญหน้าหรือความเป็นอริ หรือการ “จัดการนอกระบบ” • การชดเชย (เมื่อเกิดความเสียหาย) ไม่เหมาะสมหรือไม่เป็นธรรม โรงงานผิด –แต่การฟ้องร้องจากหน่วยงานของรัฐ การชดเชยความเสียหายโดยภาษี ไม่มี polluter pays principle, แย่ไปกว่านั้นคือ victim pays TU Economic Symposium

  17. ข้อบกพร่องเชิงระบบ (ต่อ) • การยึดกุมอำนาจกำกับดูแลในส่วนกลาง (centralized regulatory power) ไม่ทันเหตุการณ์ ไม่อิงหลักการมีส่วนร่วมของประชาชน • การมอบอำนาจหรือกระจายอำนาจกำกับดูแลให้ท้องถิ่น ในบางเรื่องบางมิติอาจจะให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า จริงอยู่ เราอาจจะวิจารณ์ว่าหน่วยงานท้องถิ่นไม่พร้อม technically incompetent แต่เราควรจะให้เวลาปรับตัว “ไม่เก่ง”ในตอนแรกเมื่อทำไปๆซ้อมหนักก็ “เก่งได้” • แต่การกระจายหรือมอบอำนาจ ไม่มีทางเกิดขึ้นเองโดยหน่วยงานเจ้าของอำนาจ—ต้องมาจาก external force เช่นกฎหมายหรือมติคณะรัฐมนตรี TU Economic Symposium

  18. บทเรียน ทางออกและข้อเสนอ • ไม่อิงเป้าหมายเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว คุณภาพชีวิตของประชาชนขึ้นอยู่กับมิติเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม รายได้สูง--แต่ว่าสิ่งแวดล้อมเสื่อมคงไม่ใช่เป้าประสงค์ที่ต้องการ • ยึดหลักป้องกันไว้ก่อน หรือภูมิคุ้มกัน • ใช้ความรู้ในการกำหนดนโยบาย จำเพาะเจาะคงคือ ควรจะมี Green GDP , การศึกษา carrying capacity ในพื้นที่เสี่ยง ...ไม่ต้องรอให้เกิดปัญหา • ให้ประชาชนมีส่วนร่วมการตัดสินใจ (การพัฒนาโครงการขนาดใหญ่) TU Economic Symposium

  19. แนวทางออกและข้อเสนอแนะ แนวทางออกและข้อเสนอแนะ • กรณีมาบตาพุด เพิ่มพื้นที่กันชนระหว่างนิคมอุตสาหกรรมและชุมชน (ความจริงคือทำให้พื้นที่กันชนที่หายไป—กลับคืนมา) • นำเครื่องมือเศรษฐศาสตร์เพิ่มจัดการสิ่งแวดล้อม (ภาษีสิ่งแวดล้อม กองทุนสิ่งแวดล้อม พันธบัตรสิ่งแวดล้อม...) ซึ่งมีการยกร่างกฎหมาย –การทำวิจัยและออกแบบระบบไปก่อนหน้านั้นแล้ว มีตัวอย่างในประเทศอื่นๆที่เป็นบทเรียนสำหรับไทยได้ • การกำหนดให้มีองค์กรกึ่งศาล เพื่อหาข้อยุติโดยเร็ว ดีกว่านั่งทับปัญหาถ่วงเวลา หรือเกียร์ว่าง เพราะลดภาระการทำงานของศาล เพื่อป้องกันการแก้ปัญหาแบบนอกระบบ เผาโรงานแทนทาลัม ยิงผู้นำการประท้วง ความรู้เป็นอริ ฯลฯ TU Economic Symposium

  20. สิ่งแวดล้อมดีขึ้นได้ ควบคู่กับเศรษฐกิจ • เส้นตัว U-คว่ำ Environmental Kuznet Curve • สะท้อนถึงวิวัฒนาการของระบบเศรษฐกิจและสภาพสิ่งแวดล้อม • สิ่งแวดล้อมเลวลงในระยะแรกของการพัฒนา – แต่ก็ปรับให้ดีขึ้นได้เพราะการพัฒนา ทั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เกิดโดยอัตโนมัติ เป็นความจริงที่ประจักษ์ได้ในหลายประเทศ • การพัฒนาก้าวต่อไป สังคมไทยก็สามารถจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตและคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี ทำได้แน่นอน (ด้วยความคาดหวังและศรัทธา—แต่ต้องให้กาลเวลาพิสูจน์) TU Economic Symposium

More Related