630 likes | 1.49k Views
มัลติมิเตอร์. อ.วัฒนะ รัมมะเอ็ด. มัลติมิเตอร์ แบบดิจิตอล. มัลติมิเตอร์แบบอนาลอก. ส่วนประกอบสำคัญในการใช้มัลติมิเตอร์ข้างต้นวัดปริมาณทางไฟฟ้า (ซึ่งแสดงหมายเลขไว้แล้ว ). สายวัดมิเตอร์(โพรบ) สีแดงบวก(+) สีดำลบ(-). 1. ที่ปรับการชี้ศูนย์ ใช้สำหรับการปรับให้เข็มชี้ก่อนใช้ทำการวัด
E N D
มัลติมิเตอร์ อ.วัฒนะ รัมมะเอ็ด
มัลติมิเตอร์แบบดิจิตอลมัลติมิเตอร์แบบดิจิตอล มัลติมิเตอร์แบบอนาลอก
ส่วนประกอบสำคัญในการใช้มัลติมิเตอร์ข้างต้นวัดปริมาณทางไฟฟ้า (ซึ่งแสดงหมายเลขไว้แล้ว )
สายวัดมิเตอร์(โพรบ) สีแดงบวก(+) สีดำลบ(-)
1. ที่ปรับการชี้ศูนย์ ใช้สำหรับการปรับให้เข็มชี้ก่อนใช้ทำการวัด 2. ปุ่มเลือกปริมาณที่จะวัดและระดับขนาด เป็นปุ่มที่ผู้ใช้จะต้องบิดเลือกว่าจะใช้เครื่องวัดปริมาณใดซึ่งมีทั้งหมด 4 ปริมาณ แต่ละปริมาณมีช่วงการวัดให้เลือกดังนี้ - ACV :0-10 V , 0-50V , 0-250V , และ 0-1000V สำหรับวัดความต่างศักย์ไฟฟ้ากระแสสลับ 4 ช่วง - DCV :0-0.2 V , 0-0.5V ,0-2.5V,0-10V , 0-50V , 0-250V และ 0-1000V สำหรับวัดความต่างศักย์ไฟฟ้ากระแสตรง 7 ช่วงการวัด
- DCA :0-50A , 0-2.5mA , 0-25m Aและ 0-0.25A สำหรับวัด กระแสตรง 4 ช่วงการวัด _ : 1 สำหรับวัดความต้านทาน อ่านค่าได้ 0-2k 10 สำหรับวัดความต้านทาน อ่านค่าได้ 0-20k 1k สำหรับวัดความต้านทาน อ่านค่าได้ 0-2000k หรือ 2 M 10k สำหรับวัดความต้านทาน อ่านค่าได้ 0-20M
3. ช่องเสียบสายวัดขั้วบวก 4. ช่องเสียบสายวัดขั้วลบ 5. ช่องเสียบสายวัดขั้วบวกกรณีวัดกำลังออก (out put) ของสัญญาณความถี่เสียง 6. ปุ่มปรับแก้ศูนย์โอห์ม (0 adjust knob ) ใช้เพื่อปรับให้เข็มชี้โอห์มเมื่อนำปลายวัดทั้งคู่มาแตะกันก่อนทำการวัดความต้านทานในแต่ละช่วงการวัด 7. แผงหน้าปัด 8.เข็มชี้ 9. สายวัด ประกอบด้วยสาย 2 เส้น (สีแดงสำหรับขั้วบวกและสีดำสำหรับขั้วลบ) แต่ละเส้นต่อปลายเสียบเครื่องวัด (ปลายสั้น) และปลายสำหรับวัด (test probe) ซึ่งเป็นปลายยาว
สเกลการวัด บนหน้าปัดของมัลติมิเตอร์มีสเกลเรียงลำดับจากบนลงล่างดังนี้ (ดูจากเครื่องวัดประกอบด้วย)
1. สเกลวัดความต้านทาน () ด้านล่างของสเกลมีกระจกเงาเพื่อช่วยแก้ความคลาดเคลื่อนในการอ่านเนื่องจากแพรัลแลกซ์ (parallax) 2. สเกลวัดความต่างศักย์กระแสตรง (DCV) และกระแสตรง(DCA) 3.สเกลวัดความต่างศักย์กระแสสลับ(ACV) 4.สเกลวัดกระแสสลับ(ACA)(มัลติมิเตอร์ที่ไม่สามารถวัดกระแสสลับได้จะไม่มีสเกลนี้) 5. สเกลวัดการขยายกระแสตรงของทรานซิสเตอร์(hFE) 6.สเกลวัดกระแสรั่วของทรานซิสเตอร์ (LEAK , ICEO , LI) 7. สเกลวัดความต่างศักย์ระหว่างปลายขณะวัดความต้านทาน (LV) 8.สเกลวัดกำลังออกของสัญญาณความถี่เสียง(dB)
การเตรียมการก่อนทำการวัดการเตรียมการก่อนทำการวัด การปรับแก้การชี้ศูนย์ของเข็มชี้ ให้ดำเนินการดังนี้ - วางเครื่องวัดบนพื้นโต๊ะให้อยู่ในแนวราบ - ยังไม่ต้องต่อสายเสียบใดๆกับเครื่องวัด - ดูที่เข็มชี้ว่าอยู่ในแนวทับกับขีดศูนย์ - ถ้าเข็มชี้ตรงขีดศูนย์พอดี(ดังภาพ) เครื่องวัดพร้อมที่จะใช้งานได้ - แต่ถ้าเข็มชี้ไม่ตรงขีดศูนย์ จะต้องใช้ไขควงปลายแบนหมุนที่ปรับ การชี้ศูนย์
การวัดความต่างศักย์กระแสตรง (DC Voltage) วัดความต่างศักย์ระว่างขั้วของเซลล์ไฟฟ้า - ให้แน่ใจว่าเมื่อเริ่มต้นเข็มชี้อยู่ที่ศูนย์ของสเกล - บิดปุ่มเลือกปริมาณที่วัดไปที่ DCV ในช่วงสเกลที่เหมาะสม เช่น 0-10 V สำหรับถ่านไฟฉาย , 0-50 V สำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ - เสียบสายวัดสีแดงเข้าที่ช่องเสียบสายวัดขั้วบวก (+) และเสียบสายวัดสีดำเข้าที่ช่องเสียบสายวัดขั้วลบ (-) - นำปลายวัดขั้วบวกแตะกับขั้วบวกของเซลล์ไฟฟ้า และนำปลายวัดขั้วลบแตะกับขั้วลบของเซลล์ไฟฟ้า ดังภาพ - อ่านค่าความต่างศักย์ระหว่างขั้วเซลล์ไฟฟ้าจากสเกลการวัด(DCV)
การวัดความต่างศักย์กระแสสลับ (AV Voltage) 1.วัดความต่างศักย์กระแสสลับจากหม้อแปลงโวลต์ต่ำ - เสียบเต้าเสียบ (plug) ของหม้อแปลงโวลต์ต่ำเข้ากับเต้ารับ (outlet) แล้วเปิดสวิตซ์ให้ทำงาน - ตั้งปุ่มเลือกปริมาณที่จะวัดของเครื่องวัดไปที่ ACV ในช่วงที่มีค่า สูงกว่า 12 V - แตะปลายวัดทั้งสองเข้ากับขั้ว 0 และขั้ว 12 V ของหม้อแปลงโวลต์ต่ำ โดยไม่คำนึงถึงขั้วบวก-ลบ -บันทึกค่าที่วัดได้ -เปลี่ยนไปวัด ACV ระหว่างขั้ว 0 กับ 12 , 0 กับ 8 , 0 กับ 5 , 0 กับ 2 , 2 กับ 5 , 5 กับ 12 , 2 กับ 12 ตามลำดับ บันทึกค่าในตาราง
วัดความต่างศักย์กระแสสลับโวลต์สูงวัดความต่างศักย์กระแสสลับโวลต์สูง - ตั้งปุ่มเลือกปริมาณที่จะวัดของเครื่องวัดไปที่ ACV ในช่วง 250 V - ตรวจสอบดูว่าสายวัด ปลายวัดส่วนที่เป็นฉนวนไฟฟ้า มีรอยฉีกขาด หรือแตกร้าวชำรุดที่ใดหรือไม่ ถ้ามีให้เปลี่ยนใช้สายวัดที่ไม่ชำรุด - ใช้มือจับปลายเฉพาะส่วนที่เป็นฉนวนให้ห่างจากส่วนที่เป็นโลหะเป็นระยะพอสมควร - นำปลายวักแต่ละปลายสัมผัสแต่ละปลายสัมผัสกับขั้วไฟฟ้าในเต้ารับไฟฟ้า 220 โวลต์ - บันทึกผลค่าที่อ่านได้ ลองสลับขั้วปลายสายวัดดูว่าผลที่อ่านได้จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่
การวัดปริมาณกระแสตรง (DC ) - ต่อวงจรไฟฟ้า โดยใช้ความต่างศักย์จากแบตเตอรี่เท่ากับ 6 V - ถ้าต้องการวัดปริมาณกะแสที่ผ่านตัวต้านทานนี้ ต้องดำเนินการดังนี้ 1. ตั้งปุ่มเลือกปริมาณที่จะวัดไปที่ DC (ในช่วงที่มีค่าสูงสุดก่อน คือ 0.25 A) 2. ต่อปลายวัดทั้งสองปลายเข้าเป็นส่วนหนึ่งของวงจรที่เรียกว่า อนุกรมกับวงจร เพื่อให้กระแสที่ผ่านตัวต้านทานผ่านเครื่องวัดด้วย ดังภาพ โดยต่อขั้วบวก-ลบให้ถูกต้องด้วย 3. ถ้าเข็มชี้เพียงเล็กน้อย ควรปรับเลือกสเกลการวัดให้เป็นช่วงค่าต่ำลงหนึ่งขั้น คือ 25 mA แล้วบันทึกค่าที่วัดได้ 4. ลองเปลี่ยนความต่างศักย์ที่จ่ายออกจากแบตเตอรี่เป็น 4.5 V , 3 V , 1.5 V ตามลำดับ แล้วบันทึกผล
การวัดค่าความต้านทาน โดยอ่านค่าบนสเกลความต้านทานมีลำดับการปฏิบัติดังนี้ 1. จะต้องตั้งย่านวัดหรือตั้งเรนจ์ของการวัดความต้านทาน - เรนจ์ความต้านทานของมัลติมิเตอร์มี 4 เรนจ์ คือ x1, x10, x1K และ x10K ดังรูป จากรูปเป็นการแสดงการตั้งสวิตช์เลือกเรนจ์ของมิเตอร์ไว้ที่เรนจ์ X1ถ้าบิดสวิตช์ขึ้นเป็นการตั้งเรนจ์ X10, X1K และX10K ตามลำดับ ส่วนค่ามิลลิแอมป์ (mA) และค่าไมโครแอมป์ ที่กำกับอยู่ที่เรนจ์ x1, X10 และ X1K เป็นค่าของกระแสสูงสุดของเรนจ์ เช่น x1, 150 mA หมายความว่า ที่เรนจ์ x1 เกิดกระแสสูงสุดขณะวัดสูงสุด 150 มิลลิแอมป์
ตารางการตั้งย่านวัดให้เหมาะสม เรนจ์ ค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดที่ใช้วัดได้ ค่าที่ควรใช้วัด X1 0.2-2K โอห์ม 0-50 โอห์ม X10 2-20K โอห์ม 50-2K โอห์ม X1K 200-2M โอห์ม 2K-50Kโอห์ม X10K 200K-20M โอห์ม 50K-20M โอห์ม - ก่อนวัดจะต้องตั้งเรนจ์ให้เหมาะสมกับค่าความต้านทานของจุดวัด จะทำให้ค่าที่อ่านได้จาการวัดมีความเที่ยวตรง หรือมีความแม่นยำสูง ดังแสดงในตาราง - ถ้าเป็นจุดวัดที่ไม่ทราบว่าค่าความต้านทานประมาณเท่าไร ให้ตั้งเรนจ์ X1 วัดก่อน ถ้าวัดแล้วเข็มมิเตอร์ไม่ขึ้นหรือขึ้นน้อย ก็ค่อยเปลี่ยนไปใช้เรนจ์ที่สูงขึ้นไป พยายามให้เข็มมิเตอร์อยู่กลางหน้าปัด
การวัดค่าความต้านทาน - นำสายวัดสีแดงเสียบแจ็ก + และสายวัดสีดำเสียบแจ็ก - ของมิเตอร์ - ถ้าเป็นการวัดที่ต้องการทราบค่าความต้านทานที่ถูกต้องแน่นอน จะต้องทำการปรับซีโร่ห์โอห์มก่อน โดยการนำปลายสายวัดทั้งสองมาแตะกัน จะทำให้เข็มมิเตอร์ขึ้นไปประมาณสุดสเกลด้านขวามือแล้วให้ทำการปรับปุ่ม 0 โอห์มแอดจัส (ADJ) จนเข็มมิเตอร์ชี้ไปที่ตำแหน่ง 0 โอห์มในสเกลโอห์มพอดี และในระหว่างการวัด เมื่อจำเป็นต้องเปลี่ยนเรนจ์ความต้านทานที่สูงขึ้นหรือต่ำลง เพื่อให้เหมาะสมกับค่าความต้านทานของจุดวัดนั้น ต้องทำการปรับซีโร่ห์โอห์มก่อนทำการวัดทุกครั้ง เพื่อให้ค่าความต้านทานที่ถูกต้อง - ถ้าเป็นการวัดที่ต้องการเพียงทราบค่าความต้านทานโดยประมาณจะไม่ทำการปรับซีโร่ห์โอห์มก็ได้