1 / 42

สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3. น. สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ. สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ. สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ. ปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ. การใช้สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ อย่างยั่งยืน. สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ. สิ่งแวดล้อม.

Download Presentation

สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. หน่วยการเรียนรู้ที่3 น สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ

  2. สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ • ปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ • การใช้สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ • อย่างยั่งยืน

  3. สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ

  4. สิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อม คือ สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา ซึ่งรวมกันเป็นองค์ประกอบที่เรียกว่า สภาพแวดล้อม โดยอาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต ทั้งที่สามารถมองเห็นได้และมองเห็นไม่ได้ สิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งจะมีความสัมพันธ์และอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมอื่น เช่น พืช สัตว์ อากาศ แร่ธาตุ ดิน น้ำ มนุษย์

  5. สิ่งแวดล้อมที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ สิ่งที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ เพื่อใช้อำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิต โดยอาจเกิดจากการประดิษฐ์คิดค้นหรือดัดแปลงสิ่งที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ ซึ่งสามารถจับหรือสัมผัสได้ เช่น เรือ รถยนต์ บ้าน ของใช้ต่างๆ หรือบางสิ่งอาจจะสัมผัสไม่ได้ เช่น ศาสนา ระเบียบ ประเพณี ข้อบังคับ เป็นต้น

  6. ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ ซึ่งมนุษย์นำมาใช้ประโยชน์เพื่อตอบสนองความต้องการ ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้ไม่หมด ทรัพยากรที่มีอยู่มากเกินความต้องการ ใช้ไม่มีวันหมด เพราะธรรมชาติจะผลิตออกมาได้อย่างรวดเร็วและปริมาณมาก เช่น อากาศ ทราย เป็นต้น ทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถสร้างทดแทนขึ้นมาใหม่ได้ ทรัพยากรธรรมชาติที่นำมาใช้แล้วธรรมชาติสามารถสร้างทดแทนได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร เช่น ดิน น้ำ ป่าไม้ สัตว์ป่า เป็นต้น

  7. ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดไปทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดไป ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด เมื่อนำมาใช้แล้วจะหมดไป ไม่สามารถสร้างทดแทนใหม่ได้ หรือต้องใช้ระยะเวลานานมากกว่าที่ธรรมชาติจะสร้างขึ้นมาได้ใหม่ เช่น แร่ธาตุ ถ่านหิน น้ำมัน แก๊สธรรมชาติ เป็นต้น

  8. ความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ • ดิน • ดินในแต่ละภูมิประเทศจะมีสมบัติและลักษณะที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัตถุต้นกำเนิดดินหรือองค์ประกอบต่างๆ ในดิน • ดินเป็นแหล่งของน้ำและแร่ธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช • มนุษย์ใช้ประโยชน์จากดินหลายด้าน เช่น ใช้เป็นแหล่งเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ สร้างที่อยู่อาศัย ตลอดจนสาธารณูปโภคต่างๆ

  9. น้ำ • เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีการหมุนเวียนได้ไม่มีวันหมด • เป็นแหล่งกำเนิดของสิ่งมีชีวิตต่างๆ • มนุษย์ใช้ประโยชน์จากน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค ใช้ในการเกษตรกรรม ใช้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ใช้เป็นเส้นทางคมนาคมขนส่ง และใช้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ

  10. อากาศ • สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องใช้ออกซิเจนจากอากาศในการหายใจเพื่อเผาผลาญสารอาหารให้เป็นพลังงาน • พืชนำแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง • ช่วยปรับอุณหภูมิของโลกให้เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต • ช่วยป้องกันรังสีและอนุภาคต่างๆ จากนอกโลกไม่ให้ตกสู่พื้นผิวโลก

  11. ป่าไม้ • เป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์ รวมทั้งจุลินทรีย์ • ป่าไม้มีประโยชน์ต่อมนุษย์ในทางตรงได้แก่ การนำวัตถุดิบจากป่ามาทำเป็นอาหาร สมุนไพรรักษาโรค ทำเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ก่อสร้างบ้านเรือน เป็นต้น

  12. ประโยชน์ทางอ้อมจากป่าไม้ ได้แก่ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ช่วยป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดิน ป้องกันน้ำท่วมเฉียบพลัน รักษาดุลยภาพของระบบนิเวศ • เป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น

  13. สัตว์ป่า • สัตว์ก่อให้เกิดสมดุลตามธรรมชาติของระบบนิเวศ • ใช้เป็นดัชนีวัดค่าความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรป่าไม้ • มนุษย์นำมาใช้ประโยชน์ในด้านอาหาร เช่น หมูป่า ไก่ป่า เป็นต้น ใช้เป็นยารักษาโรค เช่น น้ำมันเลียงผา ใช้ขนหรือหนังมาทำเครื่องนุ่งห่ม นำมาใช้งานหรือเป็นพาหนะ

  14. สัตว์ป่าคุ้มครอง คือ สัตว์ป่าที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ห้ามล่าหรือมีซากไว้ในครอบครอง เว้นแต่เพื่อประโยชน์ทางวิชาการ โดยต้องขออนุญาตจากกรมป่าไม้ก่อน เช่น นกเงือก ค้างคาวกิตติ กระรอกบิน ชะมด นกยูง ปลาบึก เป็นต้น ค้างคาวกิตติ นกเงือก ปลาบึก นกยูง แมวดาว ปลาเสือตอ

  15. สัตว์ป่าสงวน คือ สัตว์ป่าหายากหรือกำลังจะสูญพันธุ์ สัตว์ป่าประเภทนี้ห้ามมิให้ล่าหรือมีไว้ในครอบครอง ทั้งที่ยังมีชีวิตหรือซาก ยกเว้นเพื่อการวิจัยหรือกิจการสวนสัตว์สาธารณะ ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้เป็นกรณีพิเศษ โดยมีทั้งหมด 15 ชนิด ควายป่า กูปรี กระซู่ เลียงผา แรด สมเสร็จ

  16. ละองหรือละมั่ง เก้งหม้อ กวางผา สมันหรือเนื้อสมัน แมวลายหินอ่อน นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร นกแต้วแร้วท้องดำ นกกระเรียน พะยูนหรือหมูน้ำ

  17. ปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ

  18. สาเหตุของปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติสาเหตุของปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ • สาเหตุจากธรรมชาติ • ไฟป่า • ทำลายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติอย่างมหาศาล • ทำให้ป่าไม้หยุดการเจริญเติบโต ดินสูญเสียสมบัติในการอุ้มน้ำ และดุลยภาพของสิ่งแวดล้อมเสียไป • ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศจากเถ้าถ่าน ฝุ่นละออง และแก๊สพิษ ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบหายใจของสิ่งมีชีวิต

  19. น้ำท่วม • ทำให้พื้นที่มีสภาพไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช • ทำให้พื้นที่นั้นเสียสมดุลธรรมชาติ เนื่องจากเกิดภาวะเสื่อมสภาพของดิน

  20. ภูเขาไฟปะทุ • การปะทุของภูเขาไฟ ทำให้ลาวาที่มีความร้อนสูงไหลออกมาทำลายสิ่งแวดล้อมต่างๆ • เมื่อลาวาเย็นตัวจะกลายเป็นหินแข็งทำให้สภาพแวดล้อมบริเวณนั้นเปลี่ยนแปลงไป • ไอระเหยและควันที่เกิดขึ้นจะมีกำมะถันปนอยู่มาก ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบหายใจของสิ่งมีชีวิต • หากเกิดใต้ทะเลหรือมหาสมุทร จะทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าสู่ฝั่ง

  21. แผ่นดินไหว • แผ่นดินไหวขนาด 5.0 ริกเตอร์ขึ้นไป ก่อให้เกิดความเสียหายกับสิ่งก่อสร้าง ภูเขาถล่ม แผ่นดินทรุด ต้นไม้หักโค่น แผ่นดินมีรอยแยก • ส่งผลให้สภาพแวดล้อมในบริเวณนั้นเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

  22. สาเหตุจากมนุษย์ • การเพิ่มขึ้นของประชากร • จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแบบทวีคูณ แต่ทรัพยากรธรรมชาติกลับเพิ่มได้ช้า และบางอย่างลดลง ทำให้ขาดความสมดุล มีผลให้ทรัพยากรธรรมชาติไม่เพียงพอต่อความต้องการ

  23. การขยายตัวทางเศรษฐกิจการขยายตัวทางเศรษฐกิจ • การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรทำให้ความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคมีมากขึ้นตามมา • ทำให้ต้องมีการเพิ่มปริมาณการนำทรัพยากรธรรมชาติมาผลิตสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการ • เป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาขยะล้นเมือง ปัญหาน้ำเสีย ปัญหาอากาศเป็นพิษ เป็นต้น

  24. ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี • การใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในการเพิ่มผลผลิต มีส่วนทำลายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งโซ่อาหารในระบบนิเวศด้วย • ตัวอย่างเช่น การใช้เลื่อยโซ่สายพานแทนการใช้ขวานตัดต้นไม้ ทำให้ป่าไม้ถูกทำลายได้ง่าย การใช้สารเคมีในการเกษตรก่อให้เกิดการสะสมสารพิษในธรรมชาติ

  25. ขาดความรู้ในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกวิธีขาดความรู้ในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกวิธี • ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติถูกใช้ไปอย่างไม่คุ้มค่า และใช้อย่างฟุ่มเฟือย • บางอย่างถูกทำลายไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของมนุษย์ เช่น การบุกรุกทำลายพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อทำฟาร์มเลี้ยงกุ้ง

  26. การกำกับดูแลที่ด้อยประสิทธิภาพจากหน่วยงานของรัฐการกำกับดูแลที่ด้อยประสิทธิภาพจากหน่วยงานของรัฐ • การขาดแคลนเครื่องมือ เครื่องใช้ ตลอดจนบุคลากรที่จะมาปฏิบัติงาน • ปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติมีความซับซ้อน และเกิดขึ้นทั่วทุกพื้นที่ การแก้ปัญหาจึงทำได้ยากลำบาก • การขาดจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม • ชีวิตประจำวันที่เร่งรีบอาจทำให้หลายๆ คนมองข้ามความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ • การคิดว่าปัญหาต่างๆ มีผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว • การคิดว่าตนเองทำลายทรัพยากรไปเล็กน้อยคงไม่มีผลอะไรตามมา

  27. มลพิษทางสิ่งแวดล้อม ปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ มี 2 ลักษณะ คือ ปัญหาการขาดแคลน และปัญหาการเสื่อมคุณภาพหรือการเกิดมลพิษ • มลพิษทางดิน • สภาวะที่ดินมีคุณภาพเสื่อมลงไปจากเดิม มีสมบัติเปลี่ยนแปลงไป มีสารมลพิษอยู่มาก • ไม่สามารถนำใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ และไม่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืชและสัตว์ • มีสาเหตุมาจากการตัดไม้ทำลายป่า การใช้สารปราบศัตรูพืชและยาฆ่าแมลง และการทำไร่เลื่อนลอย

  28. มลพิษทางน้ำ • น้ำที่มีคุณภาพเสื่อมโทรมหรือมีสมบัติเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ทั้งลักษณะที่เห็นได้ชัดเจน เช่น สี ความขุ่น และสภาพที่ไม่สามารถวัดได้ด้วยตาเปล่า เช่น ปริมาณแร่ธาตุ โลหะหนัก แก๊สออกซิเจน เป็นต้น • สาเหตุที่ทำให้เกิดมลพิษทางน้ำ ได้แก่ • สารมลพิษทางเคมี เช่น น้ำมัน ฟีนอล ยาฆ่าแมลง คลอรีน ซัลเฟต เป็นต้น • สารมลพิษทางชีวภาพ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส สาหร่าย เป็นต้น • สารมลพิษทางกายภาพ เช่น สารแขวนลอย ขยะ และสิ่งปฏิกูล เป็นต้น

  29. มลพิษทางอากาศ • สภาพอากาศที่มีสารเจือปนในปริมาณที่สูงกว่าระดับปกติ หรือมีสัดส่วนองค์ประกอบเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ • ทำให้เกิดผลเสียด้านสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ พืช และทรัพย์สินต่างๆ • อาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น หมอกควันจากไฟป่า ฝุ่นละอองจากลมพายุ เถ้าถ่านจากภูเขาไฟปะทุ เป็นต้น • เกิดจากสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น มลพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรม ยาฆ่าแมลง หรือสารกำจัดศัตรูพืช เป็นต้น

  30. มลพิษทางเสียง • สภาวะที่มีเสียงดังมากกว่าปกติหรือดังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะรบกวนและก่อความรำคาญแก่ผู้ได้ยิน • การรับฟังเสียงดังต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จะทำให้เกิดผลเสียต่อสภาพร่างกายและจิตใจ เกิดภาวะเครียด และส่งผลเสียต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในระบบการได้ยิน • มลพิษทางเสียงมักเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมในเมืองขนาดใหญ่ ที่มีการจราจรหนาแน่น เครื่องมือก่อสร้าง เครื่องจักร และเครื่องขยายเสียงต่างๆ

  31. การใช้สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนการใช้สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

  32. การอนุรักษ์ • การสำรวจข้อมูล • การจะอนุรักษ์สิ่งใด ควรทำความเข้าใจในสิ่งนั้นให้มากที่สุด เช่น แหล่งที่มา ปริมาณ คุณลักษณะหรือคุณสมบัติ วิธีการนำมาใช้ ผลกระทบของการสูญเสีย สาเหตุของการขาดแคลนหรือการเสื่อมคุณภาพ เป็นต้น • การป้องกันรักษา • การพยายามทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับทรัพยากรธรรมชาติน้อยที่สุด หรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย • วิธีการป้องกัน เช่น การจับกุมผู้กระทำผิด การให้ความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ การรณรงค์และปลูกจิตสำนึกให้แก่เยาวชน เป็นต้น

  33. การจัดการ • การฟื้นฟูและปรับปรุงคุณภาพ • การฟื้นฟูและปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้นจะทำให้สามารถนำทรัพยากรกลับมาใช้ได้อีกครั้ง • ตัวอย่างเช่น การบำบัดน้ำเสีย การใส่ปุ๋ยบำรุงดิน การปลูกพืชหมุนเวียน เป็นต้น

  34. การใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด • การเลือกใช้ทรัพยากรต่างๆ ให้ถูกประเภทและถูกวิธี จะทำให้ได้ประโยชน์เต็มที่ และอาจก่อให้เกิดผลพลอยได้ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกแทนที่จะทิ้งไป • ตัวอย่างเช่น การนำขี้เลื่อยมาอัดเป็นก้อนหรือแท่ง เพื่อนำไปทำถ่านหรือเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

  35. การใช้ซ้ำ • ทรัพยากรธรรมชาติบางชนิดใช้ประโยชน์แล้วแต่ไม่เปลี่ยนรูปร่างไปจึงสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ • การใช้ซ้ำจะเป็นการใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า และช่วยลดปริมาณของเสียที่เกิดจากการใช้เพียงครั้งเดียว

  36. การนำกลับมาใช้ใหม่ • ทรัพยากรที่เปลี่ยนสภาพไปอยู่ในรูปอื่นที่ไม่ต้องการ เรียกว่า ขยะ • การนำขยะบางอย่างกลับมาใช้ใหม่โดยการผ่านกระบวนการแปรสภาพ จะเป็นการช่วยลดปัญหาการขาดแคลนทรัพยากร • ลดปัญหาขยะล้นเมือง • ลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะและยังช่วยเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง

  37. ลดการใช้ • เป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้ยังคงมีอยู่ต่อไปได้ โดยใช้ในปริมาณจำกัดเท่าที่จำเป็น หรือใช้สิ่งอื่นทดแทน • ตัวอย่างเช่น การใช้หินผสมปูนในการก่อสร้างในปริมาณเท่าที่จำเป็น ซึ่งหากใช้ปริมาณมากจะทำให้คอนกรีตไม่มีความแข็งแรง และเกิดความสิ้นเปลืองอีกด้วย • การใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดเติม • เป็นการช่วยลดบรรจุภัณฑ์ ซึ่งส่งผลให้มีการลดการผลิตบรรจุภัณฑ์ต่างๆ การใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดเติมเป็นการช่วยลดบรรจุภัณฑ์ ซึ่งส่งผลให้มีการลดการผลิตบรรจุภัณฑ์ต่างๆ

  38. การหาสิ่งอื่นมาทดแทน • เป็นทางเลือกหนึ่งในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญให้คงอยู่ เนื่องจากทรัพยากรธรรมชาติบางชนิดเริ่มมีปริมาณลดลง • ตัวอย่างเช่น ใช้เส้นใยสังเคราะห์แทนขนสัตว์ ใช้พลาสติกแข็งแทนไม้ ใช้แก๊สโซฮอล์แทนน้ำมันเบนซิน เป็นต้น

  39. ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาที่ชี้และเน้นถึงแนวทางการดำรงชีวิต หรือ การปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ให้เป็นไปตามทางสายกลาง และมีความ พอเพียง

  40. ใช้ทรัพยากรอย่างพอเพียงได้อย่างไรใช้ทรัพยากรอย่างพอเพียงได้อย่างไร • ยึดทางสายกลาง • ใช้ทรัพยากรในปริมาณที่ไม่มากหรือน้อยเกินไป หากใช้ทรัพยากรในปริมาณมากเกินไป จะเป็นการใช้อย่างสิ้นเปลืองและไม่คุ้มค่า แต่หากใช้ทรัพยากรในปริมาณน้อยและไม่เหมาะสม ก็จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ตามความต้องการ • ไม่ประมาท • ควบคุมปริมาณการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสม ไม่ใช้เกินความจำเป็น และต้องมีการสร้างขึ้นมาทดแทน • พิจารณาความเหมาะสมในการนำทรัพยากรมาใช้งาน และพิจารณาว่าหากไม่ใช้ทรัพยากรนี้ จะสามารถใช้สิ่งอื่นทดแทนได้หรือไม่

  41. พอประมาณ • ประเมินปริมาณการนำทรัพยากรมาใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม โดยไม่ใช้ในปริมาณมากเกินความจำเป็น หรือขาดการควบคุม • มีเหตุผล • ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีเหตุผล โดยไม่ใช้อย่างสิ้นเปลืองเกินความจำเป็น ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีทรัพยากรไว้ใช้อย่างยั่งยืน • เตรียมความพร้อมรับความเปลี่ยนแปลง • สนับสนุนและส่งเสริมให้ชุมชนใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นสำหรับการผลิตและการใช้ประโยชน์มากที่สุด โดยพึ่งพาทรัพยากรจากภายนอกน้อยที่สุด

  42. สรุปทบทวนประจำหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 • สิ่งแวดล้อม คือสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา มีทั้งสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต • ทรัพยากรธรรมชาติ คือ สิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติ ซึ่งมนุษย์สามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อการดำรงชีวิต • ปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ เป็นปัญหาด้านความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายให้แก่สิ่งมีชีวิต โดยสาเหตุเกิดได้จากธรรมชาติเอง และจากการกระทำของมนุษย์ • การใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จะต้องมีแนวทางในการดำเนินการโดยการอนุรักษ์และการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ • ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติได้ ซึ่งประกอบด้วยหลักการความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน โดยอยู่บนเงื่อนไขความรู้และคุณธรรม เพื่อให้ประเทศไทยมีสิ่งแวดล้อมที่ดี มีทรัพยากรธรรมชาติให้ใช้อย่างยั่งยืน

More Related