340 likes | 1.09k Views
บทที่ 4 : การผลิตและต้นทุน. ต้นทุน รายรับ และกำไร. ต้นทุนการผลิต ต้นทุนในระยะสั้น ต้นทุนในระยะยาว รายรับ รายรับกรณีราคาคงที่ รายรับกรณีราคาเปลี่ยนแปลง กำไร. ต้นทุนการผลิต (Cost of Production). ต้นทุนในการผลิตสินค้าหรือบริการชนิดหนึ่ง ๆ หมายถึง มูลค่าทรัพยากรต่างๆ ที่สูญเสียไป
E N D
บทที่ 4 : การผลิตและต้นทุน
ต้นทุน รายรับ และกำไร • ต้นทุนการผลิต • ต้นทุนในระยะสั้น • ต้นทุนในระยะยาว • รายรับ • รายรับกรณีราคาคงที่ • รายรับกรณีราคาเปลี่ยนแปลง • กำไร
ต้นทุนการผลิต (Cost of Production) ต้นทุนในการผลิตสินค้าหรือบริการชนิดหนึ่ง ๆ หมายถึง มูลค่าทรัพยากรต่างๆ ที่สูญเสียไป จากการผลิตสินค้าหรือบริการชนิดนั้น
ต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ (Economic Cost) คือ ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) ซึ่งประกอบด้วย • ต้นทุนขัดแย้ง (Explicit Cost) • ต้นทุนแอบแผง (Implicit Cost)
ต้นทุนสังคม (Social Cost) คือ ต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ในบริบทของสังคมเป็นผลรวมของ • ต้นทุนเอกชน (Private Cost) • ต้นทุนภายนอก (External Cost)
ต้นทุนของหน่วยผลิต คิดจากต้นทุนเอกชนหรือต้นทุนส่วนตัวเท่านั้น • ต้นทุนในระยะสั้น • มีทั้งต้นทุนคงที่ และต้นทุนแปรผัน • ต้นทุนในระยะยาว • ไม่มีต้นทุนคงที่ มีเฉพาะต้นทุนแปรผัน
ต้นทุนระยะสั้น ประเภทต่างๆ ประเภทต้นทุนรวม (Total Cost) 1.ต้นทุนคงที่รวม (Total Fixed Cost : TFC) 2.ต้นทุนแปรผันรวม (Total Variable Cost : TVC) 3.ต้นทุนรวม (Total Cost : TC)
ประเภทต้นทุนเฉลี่ย (Average Cost) 1.ต้นทุนคงที่เฉลี่ย (Average Fixed Cost : AFC) AFC = TFC Q 2.ต้นทุนแปรผันเฉลี่ย (Average Variable Cost :AVC) AVC = TVC Q 3.ต้นทุนเฉลี่ยรวม (Average Total Cost : ATC) ATC = TC Q
ประเภทต้นทุนส่วนเพิ่มประเภทต้นทุนส่วนเพิ่ม ต้นทุนส่วนเพิ่ม (Marginal Cost : MC) ต้นที่เกิดจากจากการผลิตสินค้าหน่วยนั้นๆ เพิ่มขึ้นจากเดิม MC = TC Q = dTC Q
การประหยัดจากขนาด(Economies of Scale) การลดลงของต้นทุนเฉลี่ย อันเป็นมาจากการผลิตเพิ่ม ปริมาณการผลิต หรือ การขยายขนาดของการผลิตให้มากกว่าเดิม - เทคโนโลยี - การแบ่งกันทำงาน - ราคาปัจจัยการผลิต เมื่อขยายขนาด อาจเกิดผลในทางตรงข้าม คือ การไม่ประหยัดจากขนาด (Diseconomies of Scale)
การผลิตสินค้าหรือบริการหลายชนิด : Economies of Scope • การประหยัดขอบข่าย • การประหยัดจากการประกอบกิจการหลายอย่างพร้อมกัน ผลผลิตร่วมที่ผลิตโดยหน่วยผลิตหนึ่ง ๆ มากกว่าผลรวม ของผลผลิตที่แต่ละหน่วยผลิตแยกผลิตคนละอย่าง ด้วยปัจจัยที่เท่ากัน
รายรับ (Revenue) รายรับรวม (Total Revenue : TR) TR = P Q P คือ ราคาสินค้า Q คือ ปริมาณสินค้า รายรับเฉลี่ย (Average Revenue : AR) AR = TR = P Q รายรับส่วนเพิ่ม (Marginal Revenue : MR) MR = TR Q (P Q)
กำไร (Profit) กำไร = รายรับ – ต้นทุน ¶= TR – TC กำไรสูงสุด (Maximum Profit) เมื่อ ¶มีค่าเป็นบวกสูงสุด แต่ถ้าเป็นลบ ต้องลบน้อยที่สุด
กำไรปกติ (Normal Profit) • ภาวะที่ต้นทุนรวมเท่ากับรายรับรวมพอดี กำไรทางเศรษฐศาสตร์เป็นศูนย์ • กำไรเกินปกติ (Abnormal Profit) • หรือ กำไรส่วนเกิน (Excess Profit) ภาวะที่ต้นทุนน้อยกว่ารายรับ กำไรทางเศรษฐกิจเป็นบวก
การผลิต (Production) การนำเอาปัจจัยต่าง ๆ มาผสมผสานกัน เพื่อให้เกิดเป็นสินค้าหรือบริการ กระบวนการในการแปลงปัจจัยการผลิต ให้เป็นสินค้าหรือบริการ
ปัจจัยการผลิตและค่าตอบแทนปัจจัยการผลิตและค่าตอบแทน 1.ที่ดิน (Land) ค่าเช่า 2.แรงงาน (Labor) ค่าจ้าง 3.ทุน (Capital) ดอกเบี้ย 4.ผู้ประกอบการ กำไร (Entrepreneur)
ประเภทของปัจจัยการผลิต(แบ่งตามความสามารถในการเปลี่ยนขนาดใช้)ประเภทของปัจจัยการผลิต(แบ่งตามความสามารถในการเปลี่ยนขนาดใช้) • ปัจจัยคงที่ (Fixed Factors) ปัจจัยที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามจำนวนผลิต ไม่ว่าผลผลิตมากหรือน้อย ยังใช้เท่าเดิม • ปัจจัยแปรผัน (Variable Factors) ปัจจัยที่แปรผันตามจำนวนผลผลิต ผลิตมากใช้มาก ผลิตน้อยใช้น้อย
ประเภทของการผลิต(แบ่งตามสัดส่วนของปัจจัยที่ใช้)ประเภทของการผลิต(แบ่งตามสัดส่วนของปัจจัยที่ใช้) • การผลิตที่ใช้ปัจจัยในสัดส่วนคงที่ (Fixed Proportion Production) • การผลิตที่ใช้ปัจจัยในสัดส่วนที่ไม่คงที่ (Variable Proportion Production)
หน่วยผลิต (Firms) องค์กรธุรกิจที่ประกอบด้วยบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ร่วมตกลงทำงานกันเป็นทีมเพื่อผลิตสินค้าและบริการ องค์การธุรกิจที่ทำหน้าที่ ในการผลิตสินค้าหรือบริการ
ประเภทของหน่วยผลิต 1.หน่วยผลิตส่วนบุคคล (Individual proprietorship) 2.ห้างหุ้นส่วน (Partnership or Profit-sharing Firm) 3.บริษัท หรือ บรรษัท (Company or Corporation)
เป้าหมายของหน่วยผลิต • การแสวงหากำไรสูงสุด (Profit Maximization) • การแสวงหายอดขายสูงสุด (Sales Maximization) • การแสวงหาจำนวนพนักงานสูงสุด (Staff Maximization) • การขยายตัวของกิจการสูงสุด (Growth Maximization)
ฟังก์ชันการผลิต(Production Function) คือ ความสัมพันธ์ระหว่าง ผลผลิตที่ได้กับ ปัจจัยการผลิตต่าง ๆ ที่ใช้ในการผลิต Q = f (K,L,E,M, ….) Q = f (K,L)
การผลิตในระยะสั้นและระยะยาว การผลิตในระยะสั้นและระยะยาว • ระยะสั้น (Short-run) หมายถึง ระยะการผลิตที่หน่วยผลิตไม่สามารถเปลี่ยนแปลง ปัจจัยการผลิตบางชนิดตามที่ต้องการได้ • ระยะยาว (Long-run) หมายถึง ระยะการผลิตที่หน่วยผลิตสามารถเปลี่ยนแปลง จำนวนปัจจัยการผลิตทุกชนิดได้ตามต้องการ
ทฤษฎีการผลิตในระยะสั้นทฤษฎีการผลิตในระยะสั้น เป็นการอธิบายความสัมพันธ์ทางการผลิต อันเป็นผลมาจากการใช้ปัจจัยแปรผันชนิดใดชนิดหนึ่ง โดยที่ปัจจัยอื่นๆ เป็นปัจจัยคงที่ ตัวอย่างเช่น : ในการผลิตสินค้าชนิดหนึ่ง ใช้ปัจจัยการผลิตเพียงสองชนิด คือ ปัจจัยทุน (K) ซึ่งเป็นปัจจัยคงที่ และแรงงาน (L) ซึ่งเป็นปัจจัยแปรผัน
ผลผลิตในระยะสั้น 1.ผลผลิตรวม (Total Product : TP) ปริมาณผลผลิตทั้งหมดที่ได้จากการใช้แปรผัน จำนวนหนึ่ง ๆ ซึ่งใช้ร่วมกับปัจจัยคงที่ที่มีอยู่ในขณะนั้น 2.ผลผลิตเฉลี่ย (Average Product : AP) ปริมาณผลผลิตที่ได้ ต่อปัจจัยแปรผันหนึ่งหน่วย APL = TP L
ผลผลิตระยะสั้น 3. ผลผลิตส่วนเพิ่ม (Marginal Product : MP) ปริมาณผลผลิตที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อได้เปลี่ยนแปลง การใช้ปัจจัยแปรผันไปจากเดิมอีกหนึ่งหน่วย APL = TP L
ฟังก์ชันการผลิตในระยะสั้นฟังก์ชันการผลิตในระยะสั้น L K TP AP MP 0 5 0 - 1 5 3 3 3 2 5 8 4 5 3 5 12 4 4 4 5 14 3.5 2 5 5 14 2.8 0 6 5 12 2 -2
ลักษณะของผลผลิตชนิดต่างๆลักษณะของผลผลิตชนิดต่างๆ • ผลผลิตรวม (TP) ช่วงแรกๆ ของการใช้ปัจจัยแปรผัน TP จะเพิ่มขึ้นในอัตราที่เพิ่มขึ้น แต่ต่อมาจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง และเมื่อเพิ่มขึ้นสูงสุดแล้ว หากเพิ่มปัจจัย ฯ เข้าไปอีก TP จะลง • ผลผลิตเฉลี่ย (AP) ช่วงแรก ๆ AP จะเพิ่มขึ้น แต่ว่าช่วงหลังๆ AP จะลดลงเรื่อยๆ • ผลผลิตส่วนเพิ่ม (MP) ช่วงแรก ๆ MP จะเพิ่มขึ้น แต่ช่วงหลัง ๆ MP จะลดลงเรื่อยๆ
ความสัมพันธ์ระหว่าง TP กับ MPณ ระดับการใช้ปัจจัยแปรผัน (L) ใดๆ 1. ถ้า MP มีค่าเป็นบวก จะทำให้ TP เพิ่มขึ้น 2. ถ้า MP มีค่าเป็นศูนย์ จะทำให้ TP มีค่าสูงสุด 3. ถ้า MP มีค่าติดลบ จะทำให้ TP มีค่าลดลง
ความสัมพันธ์ระหว่าง AP กับ MPณ ระดับการใช้ปัจจัยแปรผัน (L) ใดๆ 1. หาก MP มากกว่า AP จะทำให้ AP มีค่าสูงขึ้น 2. หาก MP น้อยกว่า AP จะทำให้ AP มีค่าลดลง 3. หาก MP เท่ากับ AP จะทำให้ AP มีค่าสูงสุด
กฎแห่งการลดน้อยถอยลงของผลได้(Law of Diminishing Returns) เมื่อเพิ่มปัจจัยแปรผันชนิดหนึ่ง ขึ้นเรื่อยๆโดยที่ปัจจัยชนิดอื่นยังคงที่ ผลผลิตที่ได้จากปัจจัยแปรผันหน่วยต่างๆ จะค่อยๆ ลดน้อย ถอยลงตามลำดับ จนกระทั่งเท่ากับศูนย์ และติดลบในที่สุด
การผลิตในระยะยาว(Long Run Production) การผลิตสินค้าหรือบริการ ที่หน่วยผลิตสามารถ เปลี่ยนแปลงปริมาณของปัจจัยการผลิตทุกชนิดได้ ตามความต้องการ
ผลได้จากขนาด(Returns to Scale) หากเพิ่มปัจจัยการผลิตทุกชนิดในสัดส่วนเดียวกัน ผลผลิตที่ได้อาจเป็นลักษณะใดลักษณะหนึ่ง ดังนี้ 1. ผลได้ต่อขนาดเพิ่มขึ้น (Increasing Returns to Scale) 2. ผลได้ต่อขนาดคงที่ (Constant Returns to Scale) 3. ผลได้ต่อขนาดลดลง (Decreasing Returns to Scale)