พุทธสาวกสมัยปัจจุบัน

1. พุทธสาวกสมัยปัจจุบัน

2. รายชื่อกลุ่ม • นายคริชณะ สิทธิพิบูลย์พงศ์ เลขที่5 ม.4/1 • นางสาวธนัชพร อึ้งสิทธิพูนพร เลขที่10 ม.4/1 • นางสาวนงกนก ศรีพันธุ์ เลขที่11 ม.4/1 • นางสาวปริชญา คมปรียารัตน์ เลขที่12 ม.4/1 • นางสาววรินทรกิตติธนะพันธ์ เลขที่34 ม.4/1 • นางสาวอนัญญาแซ่มเสือ เลขที่37 ม.4/1 • นางสาวสหฤทัย สื่อเฉย เลขที่39 ม.4/1

3. ประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต กำเนิดในสกุลแก่นแก้ว โดยนายคำด้วงเป็นบิดา นางจันทร์เป็นมารดา นับถือพระพุทธศาสนา ประจำสกุลตลอดมา เกิดวันพฤหัสบดี เดือนยี่ ปีมะแม วันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๑๓ ที่บ้านคำบง ตำบลโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี มีพี่น้องร่วมท้องกัน ๙ คน พออายุได้ ๒๒ ปี ท่านมีศรัทธาอยากบวชเป็นกำลังจึงได้ลาบิดามารดา ได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดเลียบในตัวเมืองอุบล มีท่านพระอริยกวีเป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านพระครูสีทาเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านพระครูประจักษ์อุบลคุณเป็นพระอนุศาสนาจารย์ เมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๓๖ พระอุปัชฌายะให้นามฉายาว่า ภูริทตฺโต เมื่ออุปสมบท แล้วได้มาอยู่ในสำนักวิปัสสนากับท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล วัดเลียบ เมืองอุบล

4. สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี ป.ธ.9) นามเดิมชื่อ เฮง หรือ กิมเฮง แซ่ฉั่ว เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2424 ณ บ้านท่าแร่ ต. สระแกกรัง อ.น้ำซึม จ.อุทัยธานีอายุย่างเข้า 12 ปีบรรพชาเป็นสามเณรและได้สึกจากสามเณรถึง 2 ครั้ง เพราะต้องเซ่นไหว้บรรบุรุษในเทศกาลตรุษจีนตามธรรมเนียมของจีนอายุย่างเข้า 13 ปี จึงบรรพชาเป็นสามเณรอีกและเรียนภาษาบาลีอยู่ในวัดทุ่งแก้วตลอดมา จนเรียนมูลกัจจายน์เรียนพระธรรมบทจนจบ และเรียนมงคลทีปนีอายุย่างเข้า 17 ปี จึงลงมาอยู่วัดมหาธาตุฯ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2440 และอยู่กับพระมหายิ้ม คณะเลข 23 สมัยนั้นสมเด็จพระวันรัต ดำรงสมณศักดิ์ที่พระพิมลธรรมเป็นเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุฯพ.ศ. 2447 สอบได้เปรียญ 9 ประโยค

5. พระธรรมโกศาจารย์(พุทธทาส)พระธรรมโกศาจารย์(พุทธทาส) ท่านอาจารย์พุทธทาส มีนามเดิมว่า เงื่อม นามสกุล พานิช เกิดเมื่อ วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ ในสกุลของพ่อค้าที่ตลาด พุมเรียง ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ท่านมีเชื้อสายจีน ประกอบอาชีพหลักคือ การค้าขายของชำ ท่านได้เรียนหนังสือเพียงแค่ชั้น ม.๓ แล้วต้องออกมาค้าขาย แทนบิดาซึ่งเสียชีวิต ครั้น อายุครบ ๒๐ ปี ก็ได้บวชเป็นพระ ตามคตินิยมของชายไทย ที่วัดโพธาราม ไชยา ได้รับฉายาว่า"อินทปัญโญ" แปลว่า ผู้มีปัญญา อันยิ่งใหญ่ เดิมท่านตั้งใจจะบวชเรียนตามประเพณี เพียง ๓ เดือน แต่ความสนใจ ความซาบซึ้ง ความรู้สึกเป็นสุข และสนุกในการศึกษาและเทศนแสดงธรรม ทำให้ท่านไม่อยากสึก เท่านเจ้าคณะอำเภอ ก็เลยไปคุยกับโยมแม่ของท่านว่า ท่านควรจะอยู่เป็นพระต่อไป ส่วนยี่เก้ย น้องชายของท่านนั้นไม่ต้องบวชก็ได้เพราะมีชีวิตเหมือนพระอยู่แล้ว คือเป็นคนมักน้อย สันโดษ การกินอยู่ก็เรียบง่าย ตัดผมสั้นเกรียน ตลอดเวลา นายยี่เก้ย ก็เลยไม่ได้บวช ให้พี่ชาย บวช แทน มาตลอด

6. พระปัญญานันทภิกขุ เดิมชื่อ ปั่น นามสกุล เสน่ห์เจริญ เกิดวันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม 2454 ตรงกับวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 6 ปีกุน ที่ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เป็นบุตรของ นายวัน นางคล้าย เสน่ห์เจริญ มีพี่น้อง 4 คน วัยเด็กจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แล้วไม่ได้ศึกษาต่อเพราะมีปัญหาทางบ้าน วัยหนุ่มพออายุได้ 18 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดอุปนันทาราม ตำบลเขานิเวศน์ จังหวัดระนอง อายุ 20 ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดนางลาด ตำบลเขาเจียก อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุงพ.ศ.2499 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระปัญญานันทมุนี พ.ศ.2514 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชนันทมุนี พ.ศ.2520 ได้รับรางวัล”สังข์เงิน”ในฐานะพระภิกษุผู้เผยแผ่ธรรมะยอดเยี่ยม พ.ศ.2549 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระพรหมมังคลาจารย์ พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ)

7. พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) เกิดเมื่อวันศุกร์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7 ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2461 ณ บ้านจิกก่อ หมู่ที่ 9 ต. ธาตุ อ.วารินชำราบ จ. อุบลราชธานี เมื่ออายุ 13 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรชา โชติช่วงดยมีท่านพระครูวิจิตรธรรมภาณี (พวง) เป็นอุปัชฌาย์สามเณรชา โชติช่วง ได้อยู่จำพรรษาและศึกษาพระปริยัติธรรมแล้วจึงได้ลาสิกขาบทมาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนา ตลอดจนอยู่ปฏิบัติครูอาจารย์ เป็นเวลา 3 ปี มื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้รับอนุญาตให้อุปสมบท เมื่อพ.ศ. 2497 ก็ได้ดำเนินการสร้างวัดหนองป่าพง

8. พระพรหมคุณาภรณ์ นามเดิม:ประยุทธ์ อารยางกูรเกิดเมื่อวันที่ 12 มกราคมพ.ศ. 2481 ที่อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรีท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 12 ปี เมื่อ ปีพ.ศ. 2494 และเข้ามาจำพรรษาที่วัดพระพิเรนทร์กรุงเทพมหานครจนสอบได้นักธรรมเอกและเปรียญธรรม ๙ ประโยคขณะยังเป็นสามเณรเป็นรูปที่สองในรัชกาลปัจจุบันและเป็นรูปที่สี่ในสมัยรัตนโกสินทร์โดยได้รับการอุปสมบทโดยเป็นนาคหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมพ.ศ. 2505 ณ พัทธสีมาวัดพระศรีรัตนศาสดารามโดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ)เป็นพระอุปัชฌาย์ท่านเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลการศึกษาเพื่อสันติภาพ จากองค์การยูเนสโก(UNESCO Prize for Peace Education)

9. คุณธรรม * เป็นผู้เคารพต่อพระรัตนตรัย * เป็นผู้มีความกตัญญูกตเวที * การบำเพ็ญสารานียธรรม คุณธรรม คุณธรรม สมเด็จพระวันรัต ผลงาน ผลงาน ผลงาน * เป็นพระภิกษุองค์แรกและองค์เดียวในจังหวัดอุทัยธานี * มีศีราจารวัตรเป็นที่น่าเลื่อมใส * เป็นสังฆนายกภาคีสมาชิกแห่งราชบัณฑิตยสถาน พระธรรมโกศาจารย์ * เป็นแบบอย่างในการศึกษาค้นคว้าหลักธรรมะ * ทรงแต่งตำราทางพระพุทธศาสนาไว้มากมาย * มีปณิธานที่จะให้มวลมนุษย์ได้เข้าใจหลักธรรมะที่ตนนับถือ พุทธสาวก * จัดตั้งสถานปฏิบัติธรรมสวนโมกขพลาราม และสวนโมกข์นานาชาติ * ออกหนังสือพิมพ์ พุทธศาสนา เล่มแรกของไทย * การพิมพ์หนังสือ ชุด ธรรมโฆษณ์ รวบรวมจากปาฐกถาธรรม พระพรหมมังคลาจารย์ * เป็นแบบอย่างในการศึกษาค้นคว้าหลักธรรมะให้เข้าใจอย่างแท้จริง * ทรงแต่งตำราทางพระพุทธศาสนาไว้มากมาย * เป็นแบบอย่างของชาวพุทธในการเผยแผ่ธรรมะให้แก่ชาวโลก * ประกาศธรรมแก่ชาวบ้านที่เชียงใหม่ * เป็นผู้ปฏิรูปพิธีกรรมของชาวพุทธไทย * เป็นผู้มีผลงานและเกียรติคุณด้านต่างๆมากมาย * ด้านการเผยแผ่ การปฏิบัติศาสนากิจในต่างประเทศ

10. คุณธรรม * อุทิศชีวิตเพื่อการปฏิบัติธรรม และเผยแพร่พุทธศาสนา ทั้งแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ * เกิดผลงานที่เป็นประโยชน์อเนกอนันต์แก่พระศาสนา ทั้งที่เป็นพระธรรมเทศนา และสำนักปฏิบัติธรรม คุณธรรม ผลงาน พระโพธิญาณเถร ผลงาน * เป็นพระวิปัสสนาจารย์ คือเป็นแบบอย่างของพระวิปัสสนา * ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ท่านได้เผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยัง ต่างประเทศ เช่น ยุโรป อเมริกา พุทธสาวก * เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ยิ่งใหญ่ด้านพระพุทธศาสนา * ได้รับยกย่องให้เป็น " เพชรน้ำเอกแห่งวงการสงฆ์ " และเป็น "ปราชญ์ผู้ทรงศีล " * ได้รับการน้อมถวายรางวัลการศึกษาเพื่อสันติภาพ จากองค์การยูเนสโก * มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก ถวายตำแหน่ง " เมธาจารย์" ในฐานะ นักปราชญ์ทางพระพุทธศาสนา สายเถรวาท พระพรหมคุณาภรณ์ * มีความกตัญญู * มีเมตตาธรรม * มีน้ำใจ ห่วงใย * มีปฏิสันถาร * การแยกแยะอย่างตรงไปตรงมา