1 / 64

การผสมพันธุ์พืชผสมตัวเอง

การผสมพันธุ์พืชผสมตัวเอง. การคัดเลือกภายหลังการผสมพันธุ์พืช. การผสมพันธุ์พืชผสมตัวเอง. การผสมพันธุ์ * เพื่อสร้างความ ปรวน แปรทางพันธุกรรมในหมู่พืชหรือเพื่อถ่ายเทลักษณะ * คือการผสมระหว่างพืชที่มี genotypes ต่างกัน. การผสมพันธุ์พืชผสมตัวเอง. AA x aa. AA. แดง ขาว. Aa. F 1.

mura
Download Presentation

การผสมพันธุ์พืชผสมตัวเอง

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การผสมพันธุ์พืชผสมตัวเองการผสมพันธุ์พืชผสมตัวเอง การคัดเลือกภายหลังการผสมพันธุ์พืช

  2. การผสมพันธุ์พืชผสมตัวเองการผสมพันธุ์พืชผสมตัวเอง การผสมพันธุ์ * เพื่อสร้างความปรวนแปรทางพันธุกรรมในหมู่พืชหรือเพื่อถ่ายเทลักษณะ * คือการผสมระหว่างพืชที่มีgenotypesต่างกัน

  3. การผสมพันธุ์พืชผสมตัวเองการผสมพันธุ์พืชผสมตัวเอง AAxaa AA แดง ขาว Aa F1 Incomplete dominant ชมพู Aa ผสมตัวเอง F2 AAAaaa aa

  4. การผสมพันธุ์พืชผสมตัวเองการผสมพันธุ์พืชผสมตัวเอง ความสำเร็จของการปรับปรุงพันธุ์ขึ้นอยู่กับ - การคัดเลือกพันธุ์พ่อแม่ - จำนวนยีนที่ควบคุมลักษณะ - อัตราพันธุกรรม - เทคนิคในการคัดเลือก

  5. การผสมพันธุ์พืชผสมตัวเองการผสมพันธุ์พืชผสมตัวเอง Dr. Norman Borlaug (1970 Nobel Peace Prize) *สำหรับการปฏิวัติเขียว (Green Revolution) * เพิ่มผลผลิตของข้าวสาลี 40-400% โดยการใช้ข้าวสาลี semi-dwarf ที่ให้ผลผลิตสูง

  6. ชนิดของการผสมพันธุ์ 1. ผสมระหว่างพันธุ์ต่าง ๆ ที่อยู่ในspeciesเดียวกัน (Intraspecific Hybridization) พืชที่นำมาผสมกันมีลักษณะที่ต้องการคัดเลือกต่างกัน ลักษณะเหล่านี้มักจะเสริมกัน

  7. 1. ผสมระหว่างพันธุ์ต่าง ๆ ที่อยู่ในspeciesเดียวกัน A.ผสมระหว่าง 2 พันธุ์ คุณสมบัติของพันธุ์ที่ใช้เป็นพ่อแม่ ก. แต่ละพันธุ์มีลักษณะดีคนละแบบ ลักษณะที่มีอยู่ในแต่ละ พันธุ์จะสนับสนุนซึ่งกันและกัน ข. เป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกหรือปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใน ท้องถิ่นนั้นได้ดี อย่างน้อย 1 พันธุ์

  8. AAbb x aaBB Ab aB AaBb AB aB Ab ab 1. ผสมระหว่างพันธุ์ต่าง ๆ ที่อยู่ใน species เดียวกัน B. ผสมระหว่างหลายพันธุ์ ทำให้เกิดชุดของ genotypesมากมาย ผสมรวมหลายลักษณะในครั้งเดียว ข้อเสีย ก. ในการผสมชุดหลัง ๆ ถ้าผสมน้อยคู่จะไม่สามารถรวบรวมยีนพ่อแม่ได้ทุกยีน เพราะ F1ที่ใช้ผสมผลิตgameteได้หลายgenotypes

  9. 1. ผสมระหว่างพันธุ์ต่าง ๆ ที่อยู่ใน species เดียวกัน B. ผสมระหว่างหลายพันธุ์ พันธุ์ที่ใช้ผสม รอบของการผสม A B C D E F G H 1 A x B C x D E x F G x H 2 AB x CD EF x GH 3 ABCD x EFGH 4 ABCDEFGH

  10. 1. ผสมระหว่างพันธุ์ต่าง ๆ ที่อยู่ใน species เดียวกัน ข. ถ้าใช้พันธุ์มากเกินไป พันธุ์บางพันธุ์อาจไม่ดีพอ แก้ไขโดยนำพันธุ์ต่างถิ่นแต่ละพันธุ์ไปผสมกับพันธุ์ท้องถิ่น (1 พันธุ์) เสียก่อนที่จะนำมาผสมกันเป็นคู่ ๆ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของยีนจากพันธุ์ท้องถิ่น

  11. 1. ผสมระหว่างพันธุ์ต่าง ๆ ที่อยู่ใน species เดียวกัน พันธุ์ท้องถิ่น 1 พันธุ์ (Y)และต่างถิ่น 8 พันธุ์ พันธุ์ที่ใช้ผสม รอบของการผสม A B C D E F G H A x Y B x Y C x Y D x Y E x Y F x Y G x Y H x Y 1 AY x BY CY x DY EY x FY GY x HY 2 AYBY x CYDY EYFY x GYHY 3 AYBYCYDY x EYFYGYHY 4 AYBYCYDYEYFYGYHY

  12. 2.ผสมระหว่างspecies (Interspecific Hybridization) จำเป็นเมื่อไม่สามารถหาลักษณะที่ต้องการจากพืชพันธุ์ที่ใช้ปลูก มักมีอุปสรรคเช่น ผสมยาก ไม่ค่อยติด ลูก F1 อาจเป็นหมัน (Cartage, 2004)

  13. 3.ผสมระหว่างgenus (Intergeneric Hybridization)  ข้าวสาลี(Triticum aestivum) ข้าวไรย์(Secale cerele) จำนวน 14 โครโมโซม จำนวน 42 โครโมโซม ชนิด RR ชนิด AABBDD ABDR(เป็นหมัน) เพิ่มจำนวนโครโมโซมเป็น 2 เท่า AABBDDRR (Triticale) เพื่อถ่ายทอดลักษณะที่ต้องการ หรือสร้างพืชชนิดใหม่

  14. 4.ผสมแบบintrogression (Introgressive Hybridization) เกิดขึ้นในธรรมชาติ xB A A A A A A A A A A A x x พันธุ์ใหม่ที่คล้ายพันธุ์ Aมากกว่า

  15. n = 2, independent = 9/16 = 3/16 = 3/16 = 1/16 อัตราส่วน phenotypes การเปลี่ยนแปลงภายหลังการผสมพันธุ์ 1. จำนวนgenotypesและphenotypesของF2 AAbb aaBB x selfing AaBb F1 AABB AaBB aaBB 1/16 2/16 1/16 AABb AaBb aaBb F2 2/16 4/16 2/16 Aabb AAbb aabb 1/16 2/16 1/16

  16. การเปลี่ยนแปลงภายหลังการผสมพันธุ์การเปลี่ยนแปลงภายหลังการผสมพันธุ์ จำนวนgenotypesสูงสุด= 3 n = 3 2 = 9 Complete dominant:จำนวนphenotypes= 2 n = 2 2 = 4 จำนวนลูกผสมน้อยที่สุดโดยมีgenotypesครบตามอัตราส่วน = 4 n = 4 2 = 16 จำนวนgametes= 2 n = 2 2 = 4

  17. การเปลี่ยนแปลงภายหลังการผสมพันธุ์การเปลี่ยนแปลงภายหลังการผสมพันธุ์ *โครโมโซมเป็นที่ตั้งของยีนจำนวนมาก ยีนที่อยู่บนโครโมโซมเดียวกันจะ linkกัน (linkage) * ยีนที่ linkกัน จะแยกตัวจากกันในระหว่าง meiosisอย่างไม่เป็นอิสระ ยกเว้นกรณีที่เกิด crossing over Linkage Animation (Orme, 2001)

  18. Ab aB Ab aB การเปลี่ยนแปลงภายหลังการผสมพันธุ์ ถ้ายีนตั้งอยู่บนโครโมโซมเดียวกัน( linkage) *จำนวน genotypes, phenotypesเท่ากับที่กล่าวแล้ว ยกเว้นไม่มีการ แลกเปลี่ยนส่วนของโครโมโซม(complete linkage) *แต่อัตราส่วนgenotypes, phenotypesขึ้นกับระยะห่างระหว่างยีน 1/2 Ab 1/2Ab 1/2 aB 1/2 Ab 1/2aB 1/2 aB AAbb AaBb aaBB F2 1/4 2/4 1/4 Linkage Animation

  19. 2. การเปลี่ยนแปลงภายหลังF2 A. อัตราส่วนหรือความถี่ของยีน(Gene Frequency) ไม่เปลี่ยนแปลงยกเว้น มีการคัดเลือก หรือการกลายพันธุ์

  20. 2.การเปลี่ยนแปลงภายหลังF22.การเปลี่ยนแปลงภายหลังF2 B. อัตราส่วนของgenotypes และ phenotypes เปลี่ยนไป - พวกพันธุ์แท้ (Homozygous) เพิ่มขึ้น - พวกพันธุ์ทาง (Heterozygous) ลดลง *** พันธุ์แท้เพิ่มขึ้นทุก ๆ ชั่ว ในอัตราส่วนที่ช้ากว่าเดิม ครึ่งหนึ่งเสมอ

  21. 2.การเปลี่ยนแปลงภายหลังF22.การเปลี่ยนแปลงภายหลังF2 B.อัตราส่วนของgenotypesและphenotypes เปลี่ยนไป aa AA  Aa aa AA Aa 25% 25% 50% AA 25% Aa aa aa AA 25% 25% 12.5% 12.5% Aa AA AA aa aa 12.5% 37.5% 6.25% 6.25% 37.5% 12.5% 43.75% 43.75%

  22. 2.การเปลี่ยนแปลงภายหลังF22.การเปลี่ยนแปลงภายหลังF2 m % Homozygosity (เช่น AA + aa) เมื่อมียีน 1 คู่ 1 F2 50 2 F3 75 3 F4 87.5 4 F5 93.75 5 F6 96.88 6 F7 98.44 7 F8 99.32 8 F9 99.66

  23. 2.การเปลี่ยนแปลงภายหลังF22.การเปลี่ยนแปลงภายหลังF2 อัตราส่วนพันธุ์แท้(เช่น AA + aa) = [ (2 m - 1) / 2m] n m = จำนวนครั้งของการผสมตัวเอง n =จำนวนคู่ของยีน

  24. 2.การเปลี่ยนแปลงภายหลังF22.การเปลี่ยนแปลงภายหลังF2 การคำนวณหาจำนวนพืชที่เป็นพันธุ์แท้ในยีน nคู่ [(1+(2m-1)]n m = จำนวนครั้งของการผสมตัวเอง n = จำนวนคู่ของยีน

  25. Ex.ในชั่วF2ยีน 2 คู่ ( m = 1, n = 2 ) [ (1 + (2 1-1) ]2 = (1 + 1) 2 (a + b)2 = a2 +2ab + b2 = 12 + 2(1)(1) + 12 = 4 ใน F2นั้น จากพืช 4 ต้น มีอัตราส่วนดังนี้ 12 = 1, มีพืช 1 ต้นที่มี genotypeเป็น heterozygous ในยีนทั้ง 2 คู่ (AaBb) (4/16 = 1/4) 2(1)(1) = 2 มีพืช 2 ต้น ที่มี genotypeเป็น heterozygous ใน ยีน 1 คู่ และเป็น homozygous ในยีน 1 คู่ (AABb, Aabb, AaBB,aaBb) (8/16 =2/4)

  26. 12 = 1, มีพืช 1 ต้นที่มี genotype เป็น homozygous ในยีนทั้ง 2 คู่(AABB, AAbb,aaBB, aabb) (4/16 = 1/4) Ex.ในชั่ว F5 ยีน 3 คู่ (m = 4, n = 3) [ (1 + (24-1) ]3 = (1 + 15)3 (a + b)3= a3 + 3a2b + 3ab2 + b3 = 13+ 3(1)2(15) + 3(1)(15)2+ 153

  27. ความก้าวหน้าในการคัดเลือก (Genetic Gain) การสนองตอบต่อการคัดเลือก(Response to Selection) *การเพิ่มของลักษณะจากประชากรเดิม ซึ่งเป็นผลมา จากการคัดเลือก *ความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยของประชากรใหม่และ ค่าเฉลี่ยของประชากรเดิมในแง่ของพันธุกรรม

  28. ความก้าวหน้าในการคัดเลือกความก้าวหน้าในการคัดเลือก (Genetic Gain) *Gs = X2 - X1 Gs = S.h2 (h2ในรูปอัตราส่วน) h2= อัตราพันธุกรรม (heritability) คือ อัตราส่วนของ ความปรวนแปรที่เกิดจากผลของยีน S= ความแตกต่างเนื่องจากการคัดเลือก X1 =ค่าเฉลี่ยของประชากรเดิม X2 =ค่าเฉลี่ยของประชากรใหม่

  29. ความก้าวหน้าในการคัดเลือก (Genetic Gain) X1 = ค่าเฉลี่ยของประชากรเดิม Xp= ค่าเฉลี่ยของพืชที่เลือกไว้ 24 25 Xp 20 X1 S S (Selection differential) = ความแตกต่างเนื่องจากการคัดเลือก

  30. ความก้าวหน้าในการคัดเลือก (Genetic Gain) ประชากรใหม่ซึ่งปลูกจากพืชคัดเลือกที่มีค่าเฉลี่ยในชั่วก่อน = Xp ประชากรเดิม X1 ----- Gs -----X2 Gs = X2 -X1 = ความก้าวหน้าในการคัดเลือก

  31. ความก้าวหน้าในการคัดเลือกความก้าวหน้าในการคัดเลือก (Genetic Gain) Selection gain Frequency Xs Xp X1 X2 Selection differential Forage yield

  32. ความก้าวหน้าในการคัดเลือกความก้าวหน้าในการคัดเลือก (Genetic Gain) ถ้าประชากรเดิมมีการกระจายแบบปกติ Gs/ = S.h2/  ถ้าS/  = k , k=ความเข้มข้นของการคัดเลือก Gs/  = k.h2 Gs = k..h2  =ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

  33. ความก้าวหน้าในการคัดเลือกความก้าวหน้าในการคัดเลือก (Genetic Gain) Ex. ต้องการเพิ่มขนาดเมล็ดจากX1 = 20 g/100เมล็ด, =2 g/100โดยเก็บเกี่ยวมาเฉพาะต้นที่ให้เมล็ดโตซึ่งมีXp= 25 g/100,ถ้าh2 = 0.4 S = 25- 20 = 5 , k = S/ = 5/2 = 2.5 ***Gs = k..h2= (2.5)(2)(0.4) = 2 g/100 เมล็ด

  34. ความก้าวหน้าในการคัดเลือกความก้าวหน้าในการคัดเลือก (Genetic Gain) ถ้าพืชมีการกระจายแบบปกติ k เป็น ค่าคงที่ %เลือกไว้50 30 20 10 5 2 k 0.80 1.16 1.40 1.76 2.06 2.42 Ex. ถ้าคัดพืชไว้5%, h2 = 0.4 Gs = k.. h2 = 2.06 x 2 x 0.4 = 1.65 g/100เมล็ด

  35. การคัดเลือกพันธุ์พ่อแม่เข้าผสมพันธุ์การคัดเลือกพันธุ์พ่อแม่เข้าผสมพันธุ์ 1. วิธีที่ปฏิบัติทั่วไป พันธุ์ที่เข้าผสมพันธุ์ใดพันธุ์หนึ่งต้องเป็นพันธุ์ที่ปรับตัวได้ดีในแหล่งนั้น อีกพันธุ์หนึ่งควรมีลักษณะที่เสริมลักษณะที่ขาด

  36. การคัดเลือกพันธุ์พ่อแม่เข้าผสมพันธุ์การคัดเลือกพันธุ์พ่อแม่เข้าผสมพันธุ์ 2. เลือกพันธุ์ที่มีแหล่งที่มาต่างกัน พืชที่มีแหล่งที่มาต่างกัน ย่อมมียีนแตกต่างกัน เราเรียกว่าเป็นความหลากหลายทางพันธุกรรม เมื่อนำมาผสมกันก็จะได้ genotypes ใหม่ ๆ มาก และเมื่อยีนจัดกลุ่มกันแล้วก็จะได้สายพันธุ์ที่ดี ๆ มาก

  37. การคัดเลือกภายหลังการผสมพันธุ์พืชผสมตัวเองการคัดเลือกภายหลังการผสมพันธุ์พืชผสมตัวเอง

  38. การคัดเลือกแบบบันทึกประวัติการคัดเลือกแบบบันทึกประวัติ (Pedigree Method of Selection) เป็นการคัดเลือกที่มีการบันทึกสายประวัติของพืชทุกต้น หรือทุกแถว (สายพันธุ์) ที่ปลูกคัดเลือก และมีการจดรายละเอียดต่าง ๆ ของพืชที่คัดเลือกทุกต้น เพื่อช่วยในการตัดสินใจว่าจะเลือกหรือคัดทิ้งสายพันธุ์ใด อาจคัดกลุ่มที่ใกล้ชิดกับกลุ่มอื่นทิ้งไป แล้วเก็บกลุ่มที่ไม่สัมพันธ์กันไว้

  39. การคัดเลือกแบบบันทึกประวัติการคัดเลือกแบบบันทึกประวัติ (Pedigree Method of Selection) • -ในชั่วต้น ๆ พืชมีอัตราการเป็นHeterozygousสูง จึงใช้ วิธีการคัดเลือกเป็นรายต้น • - ในชั่วหลัง ๆ พืชมีอัตราการเป็นHomozygousสูง จึงใช้วิธีการคัดเลือกเป็นสายพันธุ์

  40. การคัดเลือกแบบบันทึกประวัติการคัดเลือกแบบบันทึกประวัติ (Pedigree Method of Selection) F1 F2 F3 F4 เลือกรายต้น F5

  41. การคัดเลือกแบบบันทึกประวัติการคัดเลือกแบบบันทึกประวัติ (Pedigree Method of Selection) F6 F7 F8-F10 F11-F12

  42. การคัดเลือกแบบบันทึกประวัติการคัดเลือกแบบบันทึกประวัติ (Pedigree Method of Selection) (ดัดแปลงจากรูป11.3, BriggsและKnowles, 1967)

  43. การคัดเลือกแบบบันทึกประวัติการคัดเลือกแบบบันทึกประวัติ (Pedigree Method of Selection) ข้อดี ข้อดี และข้อเสีย 1. ขจัดพืชที่ไม่ต้องการทิ้งได้อย่างรวดเร็ว เพราะเริ่ม คัดเลือกลักษณะบางลักษณะได้ทันทีเมื่อเริ่มโครงการ 2. การคัดเลือกสะดวกเพราะอาจใช้ข้อมูลต่าง ๆ ที่บันทึกไว้ เป็นเครื่องตัดสินใจ

  44. การคัดเลือกแบบบันทึกประวัติการคัดเลือกแบบบันทึกประวัติ (Pedigree Method of Selection) ข้อดี ข้อดี และข้อเสีย 3. สายพันธุ์ที่ได้จะดีเด่น 4. สามารถปรับปรุงลักษณะบางชนิดเช่น qualitative trait ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5. นักปรับปรุงพันธุ์อาจใช้ความชำนาญ ความสามารถและ เทคนิคเข้าช่วยในการปรับปรุงพันธุ์ได้มากที่สุด

  45. การคัดเลือกแบบบันทึกประวัติการคัดเลือกแบบบันทึกประวัติ (Pedigree Method of Selection) ข้อเสีย ข้อดี และข้อเสีย 1. ขจัดพืชบางส่วนทิ้งเร็วเกินไปก่อนที่จะเป็นhomozygousก่อนที่จะมีrecombinationที่ดี ๆ เกิดขึ้น การคัดทิ้งโดยใช้ลักษณะบางชนิด เช่น ความสูงเป็นจำนวนมากอาจลดความปรวนแปรสำหรับผลผลิต 2. มีงานมากต้องบันทึกหลายลักษณะ ใช้เวลา แรงงาน และทุนสูง * เหมาะสำหรับพืชที่มีระยะปลูกกว้าง ๆ ตรวจดูแต่ละต้นได้ทั่งถึง

  46. การคัดเลือกแบบบันทึกประวัติการคัดเลือกแบบบันทึกประวัติ (Pedigree Method of Selection) ข้อเสีย ข้อดี และข้อเสีย * การคัดเลือกลักษณะยาก ๆ เช่น quantitative trait ใน ชั่วต้น ๆ ไม่ได้ผลเนื่องจาก 1. พืชยังไม่เป็นพันธุ์แท้อย่างเพียงพอ จะให้ลูกหลานที่ต่างไปจากพ่อ แม่ 2. ไม่มีวิธีการขจัดอิทธิพลของสภาพแวดล้อม ในชั่วต้น ๆ ปลูกแถวเดียว หรือแปลงเล็ก ๆ ทดลองในที่เดียว และฤดูเดียว

  47. การคัดเลือกแบบบันทึกประวัติการคัดเลือกแบบบันทึกประวัติ (Pedigree Method of Selection) ข้อดี และข้อเสีย * เป็นระบบที่ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกยีนต้านทานแบบ vertical resistance (ควบคุมด้วยยีนน้อยคู่) ซึ่งไม่คงทน ต่างจาก horizontalresistance (ควบคุมด้วย minor genesหลายคู่) ที่มีความคงทนมากว่า

  48. การคัดเลือกแบบบันทึกประวัติการคัดเลือกแบบบันทึกประวัติ (Pedigree Method of Selection) ข้อดีและข้อเสีย * นิยมใช้กับพืชสวนโดยเฉพาะกับqualitative traitsเช่น มะเขือเทศ แตงกวา ผักกาด ซึ่งคุณภาพมีความสำคัญเท่ากับหรือมากกว่าผลผลิต

  49. มข26094 (Orba x Clark 63) ผสมที่ม.ขอนแก่น ปี2526 ลูกผสมชุดที่ 94 การคัดเลือกแบบบันทึกประวัติ (Pedigree Method of Selection) วิธีทำประวัติสายพันธุ์ เข้าใจง่าย ใช้เวลาน้อย และไม่มีรายละเอียดมากเกินไป 1. พ่อแม่ในการผสมพันธุ์ให้ชื่อพันธุ์แม่นำหน้า Orba x Clark 63 (แม่) (พ่อ) อาจใช้เป็นรหัสตัวเลข ระบุปีที่ผสมและสถานที่

  50. การคัดเลือกแบบบันทึกประวัติการคัดเลือกแบบบันทึกประวัติ (Pedigree Method of Selection) วิธีทำประวัติสายพันธุ์ 2. ลูกในชั่วหลัง ๆต้องแสดงตัวพืชทุกต้นที่คัดเลือกในชั่วต่าง ๆ มข26094 - 7 - 12 - 9 จากต้นที่ 12 ใน F2 จากต้นที่ 7 ใน F1 จากต้นที่ 9 ใน F3 จากการเก็บรวมในF3 มข26094 - 7 - 12 - B * ในกรณีคัดเลือกแบบเก็บรวม จะไม่มีตัวเลขเพิ่มในรหัสพันธุ์จนกว่า พืชมีความเป็นhomozygous พอเพียง และเริ่มคัดเลือกสายพันธุ์

More Related