1 / 46

ประสบการณ์เครือข่ายลูกรักฟันดี

ประสบการณ์เครือข่ายลูกรักฟันดี. ในการพัฒนาพื้นที่ให้มีทักษะการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้ปกครอง. ทพ. วุฒิกุล ธนากาญ จนภักดี รศ. ทพญ. ชุติมา ไตรรัตน์ วร กุล. แบบสอบถาม + ตรวจฟันผุ , Random Test 4 ตำบล Control 4 ตำบล . ผู้ปกครองเด็กอายุ 9 – 18 เดือน ในเขต อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น.

moshe
Download Presentation

ประสบการณ์เครือข่ายลูกรักฟันดี

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ประสบการณ์เครือข่ายลูกรักฟันดีประสบการณ์เครือข่ายลูกรักฟันดี ในการพัฒนาพื้นที่ให้มีทักษะการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้ปกครอง ทพ. วุฒิกุล ธนากาญจนภักดี รศ.ทพญ.ชุติมา ไตรรัตน์วรกุล

  2. แบบสอบถาม + ตรวจฟันผุ, Random Test 4 ตำบล Control 4 ตำบล ผู้ปกครองเด็กอายุ 9 – 18 เดือน ในเขต อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น • Interventions • การสอนแปรงฟัน • การออกเยี่ยมบ้าน 4เดือน เยี่ยมบ้าน + ประชุมกลุ่ม 4เดือน เยี่ยมบ้าน + ประชุมกลุ่ม 4เดือน แบบสอบถาม + ตรวจฟันผุ

  3. กิจกรรมในงานวิจัย • การฝึกอบรม อสม. แปรงฟัน เพื่อเป็นพี่เลี้ยงและเยี่ยมบ้าน • การสร้างแรงจูงใจให้ดูแลลูกไม่ให้ฟันผุ • การฝึกผู้ปกครองแปรงฟัน

  4. การฝึกอบรม อสม.

  5. การฝึกอบรม อสม. • เน้นความสำคัญของบทบาท อสม. • โรคฟันผุ ฟันผุระยะเริ่มต้น  ระยะเป็นรู • ผลเสีย ของการมีฟันผุ • การแปรงฟัน และการทดลองปฎิบัติจริง • การออกเยี่ยมบ้านเพื่อเป็นการสร้างเสริมแรงจูงใจและทักษะให้กับผู้ปกครอง

  6. การสร้างแรงจูงใจให้ดูแลลูกไม่ให้ฟันผุการสร้างแรงจูงใจให้ดูแลลูกไม่ให้ฟันผุ

  7. การสร้างแรงจูงใจให้ดูแลลูกไม่ให้ฟันผุการสร้างแรงจูงใจให้ดูแลลูกไม่ให้ฟันผุ • แลกเปลี่ยนเรื่องราวสุขภาพเด็กในชุมชน • เข้าสู่ฟันน้ำนมผุ • ให้แสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบของฟันน้ำนมผุ • ให้ข้อมูล • เด็กไม่สูง • ผอม • ศีรษะเล็ก

  8. หัวข้อหลักในการสอนแปรงฟันหัวข้อหลักในการสอนแปรงฟัน • เหตุใดจึงต้องแปรงฟัน • เราแปรงอะไรออกจากฟัน • ทราบได้อย่างไรว่าแปรงสะอาดแล้ว • หากฟันเริ่มผุจะสังเกตได้อย่างไร

  9. ฟันผุเกิดได้อย่างไร?? เชื้อโรคในปาก (คราบเหนียวติดฟัน) + น้ำตาล (จากนมที่คาปากเด็ก) กรด ฟันเสียแร่ธาตุ รอยขาวขุ่น

  10. หากแปรงฟันด้วยยาสีฟันฟลูออไรด์ก็จะยับยั้งรอยขุ่นขาวได้หากแปรงฟันด้วยยาสีฟันฟลูออไรด์ก็จะยับยั้งรอยขุ่นขาวได้ หากไม่ได้แปรงจะลุกลามต่อไปเป็นรู ใหญ่ขึ้น จนเหลือแต่ตอในที่สุด

  11. ให้ผู้ปกครองร่วมแสดงความคิดเห็นว่าถ้าอยากให้ลูกหลานฉลาด โตไว แข็งแรง จะช่วยกันป้องกันฟันผุอย่างไร??

  12. ต้องการให้ลูกมีฟันแบบไหน??ต้องการให้ลูกมีฟันแบบไหน??

  13. การฝึกผู้ปกครองแปรงฟันการฝึกผู้ปกครองแปรงฟัน

  14. ผลของการศึกษา

  15. ตารางแสดงค่าเฉลี่ยผุถอนอุดที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองหลังการสอนแปรงฟันตารางแสดงค่าเฉลี่ยผุถอนอุดที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองหลังการสอนแปรงฟัน * แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< .05)

  16. ตารางแสดงค่าร้อยละของเด็กที่ปราศจากฟันผุตารางแสดงค่าร้อยละของเด็กที่ปราศจากฟันผุ

  17. ข้อเสนอแนะ • การติดตามผล การเดินทาง • จำนวนครั้ง/การให้ความสำคัญ • ช่วงเวลาในการจัดกิจกรรม ภูมิอากาศ วิถีชีวิต การเดินทางมาร่วมกิจกรรม ช่วงเวลานอนของเด็ก • การดำเนินการโดย อสม. • การทำกิจกรรมในวันที่มีการฉีดวัคซีน

  18. ข้อเสนอแนะ • การหายไปของกลุ่มตัวอย่าง • แรงจูงใจในการมาเข้าร่วมกิจกรรม • แรงจูงใจการในการเลี้ยงลูกไม่ให้ฟันผุ • การเห็นความสำคัญของคนในชุมชน • การเข้ากันได้กับวิถีชีวิต

  19. ข้อเสนอแนะ • การให้ความสำคัญคนในพื้นที่/นอกพื้นที่ • การแปรงฟันโดยผู้สูงอายุ

  20. บทสรุป

  21. จุดที่สำคัญที่เน้นในการแปรงฟันจุดที่สำคัญที่เน้นในการแปรงฟัน • มือข้างที่ไม่จับแปรงต้องแหวกริมฝีปากและแก้ม • บอกผู้ปกครองล่วงหน้าว่าเด็กจะร้องไห้ • เด็กร้องไห้, ไม่ร่วมมือ  เป็นธรรมดา • อาจมีเลือดออกที่เหงือก • ต้องมีการปฏิบัติในเด็กจริงอย่างถูกวิธี • ให้เด็กนอนในตำแหน่งที่ถูกต้อง 12 นาฬิกา • แปรงจนเกิดความชำนาญ

  22. จุดที่สำคัญที่เน้นในการแปรงฟันจุดที่สำคัญที่เน้นในการแปรงฟัน • ใช้ขาพาด หากต่อต้าน • แปรงก่อนอาบน้ำ เพื่อให้จำง่าย • แปรง 2 ครั้ง/วัน • แปรงที่ไหน??  ตามบริบทของชุมชนและครอบครัว • ย่า,ยาย เก่งมากๆ  ทำได้ • ชุมชนแออัด  ทำในพื้นห้อง (แฟลต) ไม่จำเป็นต้องเป็นห้องน้ำ  เปียก

  23. การแปรงฟันให้ลูก

  24. วิธีแปรงฟันเด็ก • นอนตำแหน่ง 12 นาฬิกา

  25. ขนาดยาสีฟัน

  26. ทราบได้อย่างไรว่าแปรงสะอาดแล้ว ?? ขูดด้วยหลอด ไม่มีคราบเหนียว พบคราบเหนียว

  27. ไม่ใช่การสอนทันตสุขศึกษาแบบทั่วไปไม่ใช่การสอนทันตสุขศึกษาแบบทั่วไป ไม่ใช่การให้คำแนะนำเป็นรายบุคคล ไม่ได้ทำที่ Well Baby Clinic แต่ทำในชุมชนซึ่ง ผู้ปกครองและ อสม.มีส่วนร่วม

  28. แรงจูงใจที่สำคัญ ผู้ปกครองเปลี่ยนพฤติกรรม การตระหนักถึงผลกระทบและความรุนแรงของโรคฟันผุในเด็กปฐมวัย น้ำหนัก ส่วนสูง และขนาดของศีรษะของเด็กที่มีฟันผุต่ำกว่าเด็กที่ไม่มีฟันผุ ตระหนักว่าลูกหลานมีความเสี่ยงโดย แสดงให้เห็นถึงคราบจุลินทรีย์ (ความเสี่ยงระดับที่ 1) และรอยผุจุดขาว (ความเสี่ยงระดับที่ 2)

  29. แรงจูงใจที่สำคัญ  ผู้ปกครองเปลี่ยนพฤติกรรม รอยขุ่นขาว (รอยผุระยะแรก)  เสี่ยงระดับ 2 พบคราบเหนียว รอยขาวขุ่น หากพบคราบเหนียว  เสี่ยงระดับ 1 • คราบจุลินทรีย์รอยผุจุดขาว รูผุ • แต่สามารถยับยั้งกระบวนการผุ โดยแปรงฟันให้ลูกหลานด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ผู้ปกครองที่พบว่าลูกมีคราบเหนียว และรอยผุระยะแรก  จะตื่นตัว

  30. การทำงานในลักษณะผ่านชุมชน ได้ผลเพราะทุกคนมีส่วนร่วม เกิดแรงขับเคลื่อน • ถ้าแม่คนอื่นทำได้ ฉันควรทำได้เหมือนกัน • ถ้าฉันทำไม่ได้ ฉันจะเรียนรู้ได้จากแม่คนอื่นๆ หรืออสม. • มีการแบ่งปันปัญหาและประสบการณ์ • การสร้างพลังในตนเอง(empowerment) ว่าสามารถจัดการกับปัญหาโรคฟันผุของลูกได้ • ถ้าทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วม จะมีโอกาสเกิดความยั่งยืนในการปฏิบัติ

  31. การเยี่ยมเยียนและส่งเสริมพฤติกรรมการเยี่ยมเยียนและส่งเสริมพฤติกรรม • การรับฟังปัญหาและแนะวิธีแก้ไข • การแบ่งปันโดยชุมชนเอง • การเยี่ยมเยียนโดย อสม. • ผู้วิจัยทำการส่งเสริมพฤติกรรมโดยพบปะกับ ผู้ปกครอง 4 เดือนครั้ง (รวมเป็นจำนวน 2 ครั้งใน 1 ปี)

  32. สังคมไทยขับเคลื่อนได้ดีที่สุดด้วยความสัมพันธ์สังคมไทยขับเคลื่อนได้ดีที่สุดด้วยความสัมพันธ์ THANK YOU

  33. กระบวนการศึกษา • การสุ่มกลุ่มศึกษาและกลุ่มควบคุม • สุ่มชุมชน เศรษฐานะ ความเป็นอยู่ที่ใกล้เคียงกัน  กลุ่มควบคุม/กลุ่มศึกษา • ไม่ควรอยู่ชิดกันมาก  สิ่งที่กลุ่มศึกษารับรู้อาจปนเปื้อนกลุ่มควบคุม • เด็กอายุ 9-18 เดือน จำนวนใกล้เคียงกัน

  34. การตรวจที่ไม่มีอคติ • ผู้ตรวจผ่านการฝึกฝนจนได้เกณฑ์ค่าร้อยละของความแม่นยำสูง • ไม่ทราบว่าเด็กที่ตรวจเป็นกลุ่มศึกษาหรือควบคุม

  35. ความแม่นยำในการตรวจ • ในเบื้องต้นมีการร่วมกันตรวจเด็กจำนวนหนึ่ง • สร้างมาตรฐานร่วมกัน  white lesion, non-cavitated, cavitated • ใช้แสงธรรมชาติ หรือ LED light ตกลงกันให้เป็นมาตรฐาน • สุ่ม 20% ของเด็กที่ตรวจทุกครั้งมาตรวจซ้ำ • นำผลบันทึกการตรวจ 2 ครั้งมาคำนวณค่าความตรงกัน(เป็นค่าร้อยละ)

  36. วิธีบันทึกการตรวจ • นับซี่ฟัน บันทึกว่ามีซี่ใดบ้าง กี่ซี่ที่ฟันหายไปตามธรรมชาติ, ซี่ไหนบ้างที่ถอน • บันทึกด้านที่ผุ  เป็นรู / ไม่เป็นรู (รอยผุจุดขาว)

  37. Calibration • รอยผุจุดขาวมีลักษณะต่างจาก Enamel hypoplasiaอย่างไร • รอยผุ : ใกล้ขอบเหงือก เป็นรูปร่างตามขอบเหงือก • Enamel hypoplasia: รอยขาวกลม รูปร่างไม่ชัดเจน มักอยู่เดี่ยวๆ อยู่ในตำแหน่งอื่น เช่น กึ่งกลางฟัน และมักพบทั้งซ้าย-ขวา

  38. Calibration • หากมีทั้งผุชนิดเป็นรูและไม่เป็นรูที่ด้านเดียวกัน  บันทึกว่าเป็นรู • รอยผุที่ไม่เป็นรู เมื่อเด็กโตขึ้นจะเคลื่อนมาอยู่บริเวณกึ่งกลางฟันมากขึ้น และจะมีลักษณะมันเงา

  39. Non-cavitated Cavitated Cavitated

  40. Non-cavitated Cavitated Cavitated

  41. Non-cavitated lesion

  42. แบบสอบถาม • ควรใช้ผู้สัมภาษณ์คนเดียวกัน ฝึกสัมภาษณ์จนเป็นมาตรฐาน และไม่ถามนำ • ใช้ภาษาท้องถิ่น ต้องปรับให้เข้าใจความหมาย • บันทึกก่อนและหลังการศึกษา เพื่อทราบถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป

  43. Question ???

More Related