1 / 188

เอกสารประกอบการสอนรายวิชา 100302

เอกสารประกอบการสอนรายวิชา 100302. STATISTICS FOR AGRICULTURAL RESEARCH สถิติเพื่อการวิจัยทางการเกษตร. อ.ดร. พัชริน ส่งศรี ภาควิชาพืชศาสตร์และทรัพยากรการเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น . บทที่ 4 การวางแผนการทดลองเบื้องต้น - องค์ประกอบของงานทดลอง

mina
Download Presentation

เอกสารประกอบการสอนรายวิชา 100302

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. เอกสารประกอบการสอนรายวิชา 100302 STATISTICS FOR AGRICULTURAL RESEARCH สถิติเพื่อการวิจัยทางการเกษตร อ.ดร. พัชริน ส่งศรี ภาควิชาพืชศาสตร์และทรัพยากรการเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

  2. บทที่ 4 การวางแผนการทดลองเบื้องต้น - องค์ประกอบของงานทดลอง - แผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ (CRD) - การวิเคราะห์ความแปรปรวน - การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยเบื้องต้น

  3. การทดลอง (experiment) • การแสวงหาคำตอบตามที่ได้วางแผนไว้ • เพื่อค้นหาความจริงใหม่ๆ • หรือ ทดสอบผลที่ได้ทำมาแล้วว่าเป็นจริงหรือไม่

  4. การวิจัยและการทดลอง • ความหมายคล้ายกัน • แต่การทดลองเป็นระเบียบวิธีวิจัยประเภทหนึ่งในหลายประเภท • การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์ • การวิจัยเชิงพรรณนา • การวิจัยเชิงทดลอง

  5. สถิติกับการวิจัย

  6. สถิติกับการวิจัย • วิจัยเป็นการแสวงหาความรู้ใหม่โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ • สถิติเป็นกระบวนการแสวงหาความรู้ใหม่ ที่เกี่ยวกับ • การวางแผนการทดลอง • การเก็บข้อมูล • การวิเคราะห์ข้อมูล • การแปรผลข้อมูล • ซึ่งจะทำให้ผลการทดลองหรือ ผลการวิจัยมีความน่าเชื่อถือ

  7. ผลการทดลองไม่น่าเชื่อถือถ้าหาก ผลการทดลองไม่น่าเชื่อถือถ้าหาก • การทดลองขาดการวางแผนการทดลองที่ดี • และขาดการเก็บข้อมูลที่ดี • ขาดความสมบูรณ์ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ

  8. ดังนั้นนักวิจัยต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสถิติ ก่อนที่จะทำงานวิจัยเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

  9. หลักการวางแผนการทดลองหลักการวางแผนการทดลอง • นักวิจัยทำงานทดลอง • เพื่อให้ได้ความรู้ใหม่ๆ • และนำความรู้นั้น ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ เช่น การพัฒนาพันธุ์พืช และ สัตว์ การจัดการดินและน้ำเพื่อเพิ่มผลผลิต

  10. หลักการวางแผนการทดลองหลักการวางแผนการทดลอง ส่วนประกอบในงานทดลอง ทรีตเมนต์ (treatment)คือ สิ่งหรือวิธีการที่นำมาทดลองเปรียบเทียบกัน หน่วยทดลอง (experimental unit)คือ กลุ่มหรือวัตถุทดลองที่ได้รับทรีตเมนต์ใดทรีตเมนต์หนึ่ง

  11. ส่วนประกอบในการทดลอง • ทรีตเมนต์ (treatment) คือ สิ่งทดลองหรือวิธีการ ที่นำมาทดลองเปรียบเทียบกัน เช่น

  12. ทรีตเมนต์ (treatment) • วิธีการกำจัดแมลง N0

  13. ทรีตเมนต์ (treatment) • พันธุ์พืชที่นำมาทดลองเปรียบเทียบ

  14. ทรีตเมนต์ (treatment) • การใช้ปุ๋ยในอัตราต่างๆ

  15. 2. หน่วยทดลอง (experiment unit) คือกลุ่มของวัตถุทดลองที่ได้รับทรีตเมนต์ใดทรีตเมนต์หนึ่ง เช่น

  16. การทดสอบการเปรียบเทียบปุ๋ยสูตรต่างๆ กับต้นหน้าวัวในกระถาง

  17. การทดสอบการเปรียบเทียบปุ๋ยสูตรต่างๆ กับต้นหน้าวัวในกระถาง • ปุ๋ยสูตรต่างๆ เป็น tmt • กระถาง ต้นหน้าวัวเป็นหน่วยทดลอง

  18. การทดลองเปรียบเทียบสูตรอาหารหมูการทดลองเปรียบเทียบสูตรอาหารหมู

  19. การทดลองเปรียบเทียบสูตรอาหารหมูการทดลองเปรียบเทียบสูตรอาหารหมู • อาหารสูตรต่างๆ เป็น tmt • หมูในคอกคือ หน่วยการทดลอง

  20. หลักการวางแผนการทดลองหลักการวางแผนการทดลอง ความคลาดเคลื่อนของการทดลอง (Experimental error) ความแตกต่างระหว่างหน่วยทดลองที่ได้รับอิทธิพลของทรีตเมนต์เดียวกัน

  21. สาเหตุของความคลาดเคลื่อนของการทดลองสาเหตุของความคลาดเคลื่อนของการทดลอง • ความแตกต่างที่มีอยู่ในวัตถุทดลองก่อนการทดลอง (inherent variability)

  22. สาเหตุของความคลาดเคลื่อของการทดลองสาเหตุของความคลาดเคลื่อของการทดลอง 1. ความแตกต่างที่มีอยู่ในวัตถุทดลองก่อนการทดลอง (inherent variability) เช่นการทดลองสูตรอาหารต่างๆ กับการเลี้ยงสุกร ปัญหา พันธุกรรมสุกร

  23. สาเหตุของความคลาดเคลื่อนของการทดลองสาเหตุของความคลาดเคลื่อนของการทดลอง 2. ความแตกต่างเนื่องมาจากสิ่งภายนอก(extraneous variability)

  24. สาเหตุของความคลาดเคลื่อนของการทดลองสาเหตุของความคลาดเคลื่อนของการทดลอง 2. ความแตกต่างเนื่องมาจากสิ่งภายนอก(extraneous variability) เช่น อิทธิพลของสภาพแวดล้อม การทดลองในสภาพแปลง

  25. การทดลองที่มีประสิทธิภาพดีการทดลองที่มีประสิทธิภาพดี • ต้องมีความคลาดเคลื่อนของการทดลองน้อยที่สุด เท่าที่จะทำได้

  26. การลดความคลาดเคลื่อนของการทดลองอันเนื่องมาจากความแตกต่างของวัตถุทดลองการลดความคลาดเคลื่อนของการทดลองอันเนื่องมาจากความแตกต่างของวัตถุทดลอง • ทำได้โดยการเลือกวัตถุทดลองให้มีความสม่ำเสมอ หรือเลือกใช้แผนการทดลองที่เหมาะสม

  27. สำหรับการลดความคลาดเคลื่อนของการทดลองจากสิ่งภายนอกสำหรับการลดความคลาดเคลื่อนของการทดลองจากสิ่งภายนอก • โดยทดลองอย่างละมัดระวัง • พิถีพิถันในการดูแลงานทดลอง • มีความแม่นยำในการใช้เทคนิคในการเก็บข้อมูล • มีความรอบคอบในการบันทึกข้อมูล

  28. การทำซ้ำ (replication) • คือ การที่ให้ทรีตเมนต์หนึ่งๆ กับหน่วยทดลองอย่างน้อย 2 หน่วยทดลอง • เช่น • การทดสอบเปรียบเทียบปุ๋ยสองระดับได้แก่ 25 กก./ไร่ กับ 50 กก./ไร่ • ปลูกทดสอบทั้งหมด 8 แปลง • ทรีตเมนต์ละ 4 แปลง (4 ซ้ำ)

  29. การทำซ้ำนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการทำงานทดลองการทำซ้ำนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการทำงานทดลอง • เพราะซ้ำนั้น มีบทบาทสำคัญในการทดลองหลายประการ คือ

  30. การทำซ้ำ • ทำให้ประมาณค่าความคลาดเคลื่อนของการทดลองได้ • ความคลาดเคลื่อนของการทดลอง คือความแตกต่างกันของหน่วยทดลองที่ได้รับอิทธิพลของ tmtเดียวกัน • ดังนั้นอย่างน้อยต้องมี 2 หน่วยทดลองที่ได้รับอิทธิพลของ tmtเดียวกัน จึงจะประมาณหาค่าความคลาดเคลื่อนของการทดลองได้

  31. การทำซ้ำ 2. ทำให้การทดลองมีความเที่ยงตรงมากขึ้นโดยทำให้ standard error ของ treatment mean ลดลงซึ่งแสดงให้เห็นได้จากสูตร

  32. สูตร SE = S2/r เมื่อ SE = standard error ของ treatment mean S2 = experimental error และ r = จำนวนซ้ำของการทดลอง

  33. การทำซ้ำ 3. เป็นการควบคุมความคลาดเคลื่อนของการทดลองได้

  34. การทดลองหนึ่ง ๆ จะมีจำนวนซ้ำเท่าใด ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ได้แก่ • 1. ความแปรปรวนของลักษณะที่ศึกษา • ถ้าความแปรปรวนมาก ควรมีซ้ำมาก • แปรปรวนน้อย ซ้ำน้อย • 2. จำนวนทรีตเมนต์ • - Tmtน้อย ซ้ำมาก เนื่องจากต้องให้มี dfของ error ไม่ควรน้อยกว่า 9 และในช่วงที่เหมาะสมควรจะเป็น 10-12

  35. 3. ขนาดของความแตกต่าง หมายถึงความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยของทรีตเมนต์ • ถ้าขนาดความแตกต่างของ tmtมีมาก ไม่ต้องทำซ้ำมาก • เช่น การทดสอบวิธีกำจัดวัชพืชกับผลผลิตของข้าวโพดสองการทดลอง • 1 เปรียบเทียบวิธีการกำจัดด้วยมือ กับไม่ดายหญ้า • 2 เปรียบเทียบวิธีการกำจัดวัชพืชด้วยมือกับสารเคมี 5 สาร • การทดลองที่หนึ่งควรมีซ้ำน้อยกว่า

  36. การสุ่ม (randomization) • หมายถึง การจัดให้ทรีตเมนต์มีโอกาสที่จะถูกกำหนดให้กับหน่วยทดลองใดเท่าๆ กัน • เพื่อที่จะทำให้ทรีตเมนต์อยู่ในหน่วยทดลองใด โดยไม่ลำเอียง (bias) • การสุ่มจะทำให้ประมาณค่าความคลาดเคลื่อนของการทดลองได้อย่างถูกต้อง • ทำให้การหาค่าเฉลี่ยอิทธิพลของทรีตเมนต์มีความถูกต้อง • ทำให้การเปรียบเทียบทรีตเมนต์อยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรม

  37. ขั้นตอนและสิ่งที่ควรพิจารณาในการวางแผนทำการทดลองขั้นตอนและสิ่งที่ควรพิจารณาในการวางแผนทำการทดลอง

  38. ขั้นตอนและสิ่งที่ควรพิจารณาในการวางแผนทำการทดลองขั้นตอนและสิ่งที่ควรพิจารณาในการวางแผนทำการทดลอง • ขั้นศึกษาปัญหาและวิเคราะห์ปัญหา • ขั้นตั้งวัตถุประสงค์ของการทดลอง • ขั้นการเลือกทรีตเมนต์ • ขั้นการเลือกวัตถุทดลอง • ขั้นการเลือกขนาดการทดลอง • ขั้นการเลือกเทคนิคหรือวิธีการทดลองที่เหมาะสม • ขั้นการเลือกแผนการทดลอง • ขั้นการเลือกลักษณะที่ศึกษา และลักษณะประกอบอื่น ๆ

  39. 1. ขั้นศึกษาปัญหาและวิเคราะห์ปัญหา เช่น การปลูกข้าวโพดมีปัญหาเรื่องโรคทำให้โตไม่ดี • การปลูกข้าวมีปัญหาเรื่องดิน • การป้องกันการชะช้างของดิน • การจะตอบคำถามเหล่านี้ได้จะต้องมีการทดลองเพื่อแก้ปัญหา

  40. 2. ตั้งวัตถุประสงค์ของการทดลอง • ชัดเจนและเจาะจงว่าจะตอบคำถามอะไร หรือทดสอบสมมุติฐานอะไร • ที่สำคัญต้องระบุว่าจะใช้กับประชากรกลุ่มป้าหมายประชากรใด • เช่น งานทดลองหนึ่ง มีวัตถุประสงค์เพื่อหาอัตราปุ๋ยที่เหมาะสมต่อการปลูกข้าวนาปรังในเขตชลประทานภาคกลาง • ดังนั้นงานทดลองนี้ใช้ได้กับเฉพาะที่ทดลองเท่านั้น

  41. 3. การเลือกทรีตเมนต์ ต้องพิจารณาว่า tmtที่เลือกนั้น สามารถทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการทดลองหรือสามารถตอบคำถามที่ตั้งเอาไว้ได้ เช่น ปัญหา ข้าวผลผลิตต่ำ นักวิจัยจึงตั้งสมมุติฐานสองอัน ดังนี้ วัชพืช? หากเป็นวัชพืชหามีวิธีการกำจัดอย่างไร 1. tmtควรเป็น กำจัดวัชพืช กับ ไม่กำจัด 2. tmtควรมีหลายวิธี เช่นใช้แรงงานคนกับสารเคมี

  42. 4. การเลือกวัตถุทดลอง • วัตถุทดลองควรมีความสม่ำเสมอหรือมีความแปรปรวนน้อย เพราะจะทำให้ความคลาดเคลื่อนของการทดลองน้อยด้วย

  43. 5. การเลือกขนาดการทดลอง • เล็กใหญ่ ขึ้นกับ tmt ซ้ำ และขนาดของหน่วยทดลอง • จำนวน tmt ขึ้นกับ วัตถุประสงค์ของการทดลองด้วย • จำนวนซ้ำ ขึ้นกับ • ความแปรปรวนของลักษณะที่ศึกษา • จำนวน tmt • ขนาดของความแตกต่างของ tmt

  44. 6. ขั้นการเลือกเทคนิคหรือวิธีการทดลองที่เหมาะสม • ควรควบคุมอิทธิพลจากภายนอกเพียงพอให้ tmt แสดงอิทธิพลได้ในสภาพที่เหมือนกัน 7. ขั้นเลือกแผนการทดลอง 8. เลือกลักษณะที่ศึกษา

  45. แผนการทดลองแบบCompletely Randomized Design (CRD)

  46. ใช้ในกรณีที่หน่วยทดลองมีความสม่ำเสมอเหมือนกัน • สามารถที่จะควบคุมสภาพแวดล้อมให้หน่วยทดลองมีความเหมือนกันได้

  47. งานทดลองในกระถาง

  48. งานทดลองในห้องปฏิบัติการงานทดลองในห้องปฏิบัติการ

  49. การสุ่ม (randomization) • คือการสุ่มทรีตเมนต์สำหรับหน่วยทดลอง • เป็นลักษณะของการสุ่มแบบสมบูรณ์ • ทุกๆ หน่วยทดลองมีโอกาสที่จะได้รับทรีตเมนต์ใดทรีตเมนต์หนึ่งอย่างยุติธรรม

More Related