หัวข้อในการบรรยาย

1. หัวข้อในการบรรยาย เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ Information Technology

2. ประวัติการศึกษาผู้บรรยายประวัติการศึกษาผู้บรรยาย ระดับ ปวช. – ปวส. พณิชยการพระนคร ระดับ ปริญญาตรี หลักสูตรพิเศษ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ระดับ ปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาเอก ระบบสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยี ราชมงคล

3. ประวัติการทำงาน บริษัท หนังสือพิมพ์ มติชน จำกัด บริษัท IBM จำกัด ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด ภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย โรงเรียนสอนคอมพิวเตอร์ธุรกิจ BCC Computer โรงเรียนสอนคอมพิวเตอร์ธุรกิจ SIAM Computer มหาวิทยาลัย ธุรกิจบัณฑิตย์ โรงเรียน บดินทร์เดชา โรงเรียน เทคนิคมีนบุรี

4. งานในปัจจุบัน อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัย เกษมบัณฑิต อาจารย์พิเศษ โรงเรียนเกษมโปลีเทคนิค วิทยากร วิทยาลัยการปกครอง วิทยากร กรมข่าวทหารอากาศ กองทัพอากาศ

5. เดชรัตน์ ไตรโภค (โอ๋) โทร. 081-441-5721 วิทยากรผู้บรรยาย

6. เทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไรInformation Technology ?

7. เทคโนโลยีสารสนเทศประกอบด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศประกอบด้วย เทคโนโลยีสำคัญ สอง สาขาคือ 1. เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์(Computer Technology) 2. เทคโนโลยี สื่อสารโทรคมนาคม(Communication Technology)

8. เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ • คือ การใช้คอมพิวเตอร์ (Computer) จัดเก็บ บันทึก และประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และถูกต้อง

9. เทคโนโลยี สื่อสารโทรคมนาคม • คือ การส่งผลลัพธ์ของการใช้งานคอมพิวเตอร์ ไปให้ผู้ใช้ที่อยู่ ห่างไกล ได้อย่างสะดวก และ รวดเร็ว

10. แนวคิดในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศแนวคิดในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การพัฒนายุคเศรษฐกิจใหม่ (Digital Economy หรือ New Economy) พึ่งพาข้อมูลข่าวสาร เอกสารสิ่งพิมพ์เป็นแบบดิจิตอล โดยระบบเศรษฐกิจดิจิตอลจะเป็นยุคของ E - Electronic ได้แก่ E-Business - การทำธุระกรรม การแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ E-Mail - การส่งจดหมายผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ E-Commerce - การค้าขายผ่านเครือข่าย E-Cash - การเบิกเงินสดผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (ATM) E-Payment - การจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (เคาน์เตอร์เซอร์วิส) E-Book - การหาหนังสือต่าง ๆ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ E-Library - การใช้ห้องสมุดในระบบอิเล็กทรอนิกส์ E-Classroom - การศึกษา เล่าเรียน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ E-Learning - การเรียนรู้ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ E-Journal - การทำระบบบัญชีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ E-Government - การติดต่อข้อมูล กับ ทางราชการ

11. แนวคิดในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศแนวคิดในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ • เพื่อให้ได้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องเป็นปัจจุบัน • เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงาน • เพื่อเพิ่มศักยะภาพในการให้บริการประชาชน • เพื่อลดขั้นตอนและขนาดองค์กร

12. เปรียบเทียบโลกยุค Analog กับ Digital • Analogเป็นโลกยุคเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ จะใช้คลื่นความถี่ เช่น วิทยุ , ทีวี , โทรศัพท์ เป็นต้น ซึ่งวงจรที่ใช้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจำพวกนี้ ก็คือหลอดสูญญากาศ ซึ่งจะมีความร้อนสูงความแม่นยำในการส่งข้อมูลต่ำ เสียง่าย • Digitalเป็นโลกยุคปัจจุบัน เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ จะใช้สัญญาณดิจิตอลในการส่งข้อมูล (เลขฐานสอง) เช่น วิทยุ , ทีวี , โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น ซึ่งการส่งข้อมูลจะมีความแม่นยำสูงมาก และวงจรที่ใช้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าเหล่านี้คือ วงจรที่เราเรียกว่า ไอซี (IC)

13. เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย • เครื่องคอมพิวเตอร์ (Computer) • เครื่องพิมพ์ (Printer) • เครื่อง รับ – ส่ง เอกสาร (Fax) • เครื่องลอกรูปภาพ , ข้อมูล (Scanner) • กล้องที่ไม่ต้องใช้ฟิลม์ (Digital Camera) • กล้อง วีดีโอ (VDO Camera) • เครื่องฉายภาพ (Projector)

14. เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ (Micro Computer) หรือ เราเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า PC Computer (Personal Computer) คอมพิวเตอร์บุคคล

15. คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค (Notebook)

16. เครื่องพิมพ์ มีให้เลือก 3 แบบ Ink jet (น้ำหมึกพ่น) Dot Matrix (หัวเข็ม) Laser (แบบลูกกลิ้ง)

17. เครื่อง รับ – ส่ง เอกสาร (Fax)

18. เครื่องลอก รูปภาพ ,ข้อมูล (Scanner)

19. กล้องที่ไม่ต้องใช้ฟิลม์ (Digital Camera)

20. กล้อง วีดีโอ (VDO Camera)

21. เครื่องฉายภาพ (Projector)

22. เทคโนโลยี สื่อสาร และโทรคมนาคม ประกอบด้วย

23. ระบบแลน (LAN)(Local Area Network) • คือ การเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ ในที่ทำงานที่มีอยู่หลาย ๆ เครื่อง เข้าด้วยกัน เพื่อให้สามารถ ดึง ข้อมูล จากเครื่องหนึ่ง ไปยัง อีกเครื่องหนึ่งได้ นอกจากนั้น ยังสามารถใช้อุปกรณ์ ร่วมกันได้ เช่น ใช้เครื่องพิมพ์ร่วมกัน , ใช้เครื่องแฟ็กร่วมกัน , ใช้อินเตอร์เนตร่วมกัน เป็นต้น (ค่าใช้จ่ายในการต่อแลน เครื่องละประมาณไม่เกิน 1,000 บาท)

25. สายแลน (LAN Cable)

26. ตัวขยายสัญญาณ (HUB)

27. การเชื่อมต่ออินเตอร์เนต (Internet) • ในปัจจุบัน อินเตอร์เนต (Internet) ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ องค์กรต่าง ๆ เพราะนอกจากจะเข้าไปดูข้อมูลยังเว็ปไซด์ต่าง ๆ (Web Site) แล้ว เรายังสามารถเชื่อมต่อไปยังองค์กรต่าง ๆ ผ่านระบบอินเตอร์เนตได้ด้วย • การใช้อินเตอร์เนตจะต้องอาศัยการเชื่อมต่อด้วยสายโทรศัพท์ แต่สายโทรศัพท์ เป็นสัญญาณเสียง ดังนั้นจึงต้องมีโมเด็ม (Modem) ในการแปลงสัญญาณด้วย

28. ความเร็วของอินเตอร์เนตความเร็วของอินเตอร์เนต • ถ้าใช้สายโทรศัพท์ ธรรมดา ความเร็วจะไม่เกิน 56 Kbps (56,000 บิทต่อวินาที) Kilo bit per second • ถ้าใช้ ADSL ความเร็วสูงสุด 2 Mbps (2,000,000 บิทต่อวินาที) Mega bit per second • ถ้าใช้ Lease Line ความเร็วสูงสุด 2 Gbps (2,000,000,000 บิทต่อวินาที) Giga bit per second • ถ้าใช้สายใยแก้วนำแสง Fiber Optical ความเร็วสูงสุด 100 Gbps (100,000,000,000 บิทต่อวินาที) Giga bit per second

29. ระบบ ADSL • ADSL เป็นคำย่อมาจาก Asymmetric Digital Subscriber Line, ADSL เป็นการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงผ่านสายทองแดงธรรมดาสามารถดาวน์โหลดข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุดถึง 2 เมกกะบิทต่อวินาทีและอัพโหลดข้อมูลได้สูงสุดถึง 512 กิโลบิทต่อวินาที (จึงเรียกว่า asymmetric.) เทคโนโลยีนี้จึงเหมาะกับการใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงต่างๆไม่ว่าจะเป็น Voice Over IP, MRP, VPN

31. Router Modem คือ อุปกรณ์ ที่ ทำหน้าที่เป็น โมเด็ม ที่ใช้กับ อินเตอร์เนต ความเร็วสูง ADSL อีกทั้งยังเป็นตัวขยาย การใช้อินเตอร์เนต ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ หลาย ๆ เครื่อง

32. Wireless LAN แลน ไร้สาย

33. ข้อดีของ ADSL • พร้อมเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลาที่ต้องการ • ท่านสามารถใช้อินเตอร์เน็ตพร้อมๆกับสามารถใช้โทรศัพท์พูดคุยได้ตามปกติ • ความเร็วสูงกว่าโมเด็มปกติอย่างมาก (2000 Kbps กับ 56Kbps) • ใช้สายโทรศัพท์เดิมที่ท่านมีอยู่ไม่ต้องขอติดตั้งใหม่ • ไม่เสียค่าโทรศัพท์ ข้อเสียของ ADSL • มีขีดจำกัดที่ระยะทางจากชุมสายต้องอยู่ใกล้ชุมสายจึงจะใช้งานได้ดี • พื้นที่สามารถใช้บริการจำกัดขึ้นอยู่กับระยะห่างกับชุมสาย • การส่งข้อมูลไม่ได้เท่ากับการรับข้อมูล • ไม่มีการรับประกันความเร็วขั้นต่ำหากมีผู้ใช้รายอื่นใช้พร้อมๆกับเราความเร็วการเชื่อมต่ออาจไม่ได้เต็มที่

34. ข้อดีในการใช้อินเตอร์เนต (Internet) • ช่วยให้ทำงานที่ไหนก็ได้ • ช่วยให้ทันข่าวสารต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว • ช่วยในการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ • ช่วยในการส่งข้อมูลต่าง ๆ ภายในเวลาไม่กี่นาที • ช่วยโฆษณาสินค้า โดยไม่ต้องลงทุนอะไรมาก • ช่วยในการชำระค่าสาธารณูปโภค ได้สะดวกขึ้น • และอื่น ๆ ที่จะตามมาอีกมากมาย ครับ

35. ตัวอย่างโทรศัพท์มือถือตัวอย่างโทรศัพท์มือถือ • Analogใช้ระบบ 470 MHz , 800 MHz , 900 MHz ซึ่งเวลาโทร.ออกจะมีเสียงคล้าย ๆ เสียงเครื่อง Fax และโอกาสสายหลุดง่ายมาก • Digitalในปัจจุบัน ใช้ระบบ 1800 Digital , 900 GSM , 1900 Digital ซึ่งเวลาโทร.ออกจะใช้ระบบเลขฐานสองส่งออกไปเป็นสัญญาณตัวเลข ไม่มีเสียง ส่งสัญญาณเป็นระบบดิจิตอล แล้วจึงแปลงเป็นสัญญาณเสียงอีกที โอกาสสายหลุดน้อยมาก

36. ขอดูอีมี่โค๊ดของมือถือ IMEI Codeกด *#06# • IMEI (อีมี่) หรือ International Mobile Station Equipment Identity นั้นคือหมายเลขที่เป็นรหัสประจำตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งจะมี IMEI (อีมี่) หมายเลขเดียวที่ไม่ซ้ำกับ IMEI (อีมี่) ของโทรศัพท์มือถือเครื่องอื่นๆใดเลย IMEI (อีมี่) จะถูกกำหนดมาจากโรงงานของผู้ผลิตเครื่องโทรศัพท์มือถือและจะถูกลงทะเบียนไว้ในโครงข่ายของผู้ให้บริการ

37. วิธีการนำแบตมือถือที่เสื่อมกลับมาใช้ใหม่(ประจุไฟจะกลับมาได้ประมาณ 80%) • นำแบตเตอรี่มาห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ประมาณ 3 ชั้น คลุมด้วยถุงพลาสติค (ถุงเย็น) มัดหนังยางให้แน่น เพื่อไม่ให้ความชื้นเข้าไป • นำแบตเตอรี่ที่ห่อเรียบร้อยแล้ว เข้าตู้เย็นช่องแช่แข็ง (ช่องฟิต) ทิ้งไว้ 3 วันเต็ม • ครบ 3 วัน นำออกจากตู้เย็น แกะที่ห่อไว้ออกหมด แล้วนำแบตเตอรี่ ทิ้งไว้อุณหภูมิปกติอีก 3 วัน • นำแบตเตอรี่กลับมาชาร์ทได้ตามปกติ (ไม่ต้องชาร์ท 16 ชม.) กลับ

38. E-Mail : oho888 @ gmail.comPassWord : ohoohooho