1 / 31

การประเมินความเสี่ยง การป้องกัน และการควบคุมอันตราย

การประเมินความเสี่ยง การป้องกัน และการควบคุมอันตราย. 230-334 Safety in Chemical Operations. การประเมินความเสี่ยงในงานอุตสาหกรรม. ( Industrial Risk Assessment ). ทำไมถึงต้องจัดให้มีการประเมินความเสี่ยง. เพราะ....เป็นหนึ่งหน้าที่หนึ่งของ จป.วิชาชีพ.

micol
Download Presentation

การประเมินความเสี่ยง การป้องกัน และการควบคุมอันตราย

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การประเมินความเสี่ยง การป้องกัน และการควบคุมอันตราย 230-334 Safety in Chemical Operations

  2. การประเมินความเสี่ยงในงานอุตสาหกรรมการประเมินความเสี่ยงในงานอุตสาหกรรม (Industrial Risk Assessment)

  3. ทำไมถึงต้องจัดให้มีการประเมินความเสี่ยงทำไมถึงต้องจัดให้มีการประเมินความเสี่ยง เพราะ....เป็นหนึ่งหน้าที่หนึ่งของ จป.วิชาชีพ เพราะ....ใช้ประกอบการขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานหรือใบอนุญาตขยายโรงงาน

  4. เทคนิคในการประเมินความเสี่ยงเทคนิคในการประเมินความเสี่ยง

  5. มีเครื่องมือให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับงานมีเครื่องมือให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับงาน 1.การจัดตั้งคณะทำงาน 2.การรวบรวมเอกสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง 3.การจัดทำบัญชีรายการสิ่งที่เป็นความเสี่ยงและอันตราย 4.การบ่งชี้อันตรายและการประเมินความเสี่ยง 5.การจัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยง 6.การสรุปผลการวิเคราะห์ความเสี่ยง

  6. ชี้บ่งความเป็นอันตรายและความเสี่ยงชี้บ่งความเป็นอันตรายและความเสี่ยง Identify all Hazards & Loss Exposures Evaluate the Risk ประเมินความเสี่ยง Develop Controls กำหนดวิธีควบคุม Implement Controls นำไปปฏิบัติ Review ทบทวน

  7. 1.Check List • เป็นวิธีการบ่งชี้อันตราย โดยการนำแบบตรวจไปใช้ในการตรวจสอบเพื่อค้นหาอันตราย • แบบตรวจประกอบด้วยหัวข้อคำถามที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานต่างๆ • นำผลการตรวจมาทำการชี้บ่งอันตราย

  8. ตัวอย่าง Check List ระบบป้องกันอัคคีภัย

  9. ตัวอย่าง Check List ระบบป้องกันอัคคีภัย

  10. ตัวอย่าง Check List ระบบป้องกันอัคคีภัย

  11. ผลการการศึกษา วิเคราะห์ และทบทวนการดำเนินงานในโรงงานเพื่อการชี้บ่งอันตรายและประเมินความเสี่ยงด้วยวิธี Checklist Analysis • 1. ผลจากการทำ Checklist • จำนวนตู้สายฉีดน้ำดับเพลิง • ติดตั้งไม่ครอบคลุมพื้นที่ • 2. อันตรายหรือผลที่เกิดขึ้นตามมา • 3. มาตรการป้องกัน / ควบคุมอันตราย • 4. ข้อเสนอแนะ

  12. ผลการการศึกษา วิเคราะห์ และทบทวนการดำเนินงานในโรงงานเพื่อการชี้บ่งอันตรายและประเมินความเสี่ยงด้วยวิธี Checklist Analysis • 1. ผลจากการทำ Checklist • จำนวนตู้สายฉีดน้ำดับเพลิง ติดตั้งไม่ครอบคลุมพื้นที่ • ไม่มีระบบดับเพลิงอัตโนมัติ

  13. ผลการการศึกษา วิเคราะห์ และทบทวนการดำเนินงานในโรงงานเพื่อการชี้บ่งอันตรายและประเมินความเสี่ยงด้วยวิธี Checklist Analysis • 2. อันตรายหรือผลที่เกิดขึ้นตามมา • ไม่สามารถระงับเหตุในกรณีเกิดเพลิงไหม้ได้ทัน • อาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ลุกลามใหญ่โตได้ถ้าไม่มีคนมาพบเห็น

  14. ผลการการศึกษา วิเคราะห์ และทบทวนการดำเนินงานในโรงงานเพื่อการชี้บ่งอันตรายและประเมินความเสี่ยงด้วยวิธี Checklist Analysis • 3. มาตรการป้องกัน / ควบคุมอันตราย ยังไม่มี • 4. ข้อเสนอแนะ • ติดตั้งตู้สายฉีดน้ำดับเพลิงครอบคลุม • ติดตั้งระบบดับเพลิงอัตโนมัติเพิ่มเติม

  15. ผลการการศึกษา วิเคราะห์ และทบทวนการดำเนินงานในโรงงานเพื่อการชี้บ่งอันตรายและประเมินความเสี่ยงด้วยวิธี Checklist Analysis

  16. 2.What-If Analysis • เป็นการศึกษา วิเคราะห์ ทบทวน เพื่อชี้บ่งอันตรายโดยการตั้งคำถาม • “อะไรจะเกิดขึ้น....ถ้า....” • เพื่อหาคำตอบเพื่อชี้บ่งอันตรายพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะในการป้องกัน • มักจะใช้ระหว่างการออกแบบระบบหรือแม้แต่การเดินระบบแล้วเพื่อป้องกันการเกิดเหตุที่รุนแรง

  17. ตัวอย่าง คำถามการใช้ What - If Analysis 1.จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพนักงานไม่สวมใส่แว่นตากันสะเก็ด 2.จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีสารไวไฟอยู่ใกล้ๆบริเวณที่เจียร 3.จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่มีการปิดบังสะเก็ดเจียร 4.จะเกิดอะไรขึ้นถ้าจับหินเจียรมือไม่แน่น

  18. 3.Hazard and Operability Studied (HAZOP) • เป็นการศึกษา วิเคราะห์ ทบทวน เพื่อชี้บ่งอันตรายและค้นหาปัญหาแล้วประเมินระดับอันตรายหรือปัญหาของระบบต่างๆที่อาจเกิดจากการออกแบบไม่สมบูรณ์หรือไม่ตั้งใจ • ด้วยการตั้งคำถามสมมติสถานการณ์ของการผลิตในภาวะต่างๆที่อาจเกิดขึ้น โดยการใช้ HAZOP GUIDE WORDS • เป็นวิธีการชี้บ่งอันตรายที่มีประสิทธิภาพสูง มีกระบวนการบ่งชี้ที่เป็นระบบ สามารถใช้ได้กับ ระบบท่อ รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง

  19. การประเมินผลทางสถิติของอุบัติเหตุการประเมินผลทางสถิติของอุบัติเหตุ (Accident: Statistical Evaluation)

  20. การประเมินผลทางสถิติของอุบัติเหตุการประเมินผลทางสถิติของอุบัติเหตุ • การเกิดอุบัติเหตุในโรงงานทุกครั้ง นอกจากจะต้องบันทึกและรายงานแล้ว ยังต้องมีการสอบสวนวิเคราะห์หาสาเหตุของอุบัติเหตุด้วย เพื่อจะได้แก้ไขป้องกันมิให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีก

  21. การประเมินผลทางสถิติของอุบัติเหตุการประเมินผลทางสถิติของอุบัติเหตุ • นอกจากนี้ เพื่อให้การป้องกันอุบัติเหตุมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โรงงานจะต้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูลทางอุบัติเหตุในรูปของสถิติพร้อมการวิเคราะห์ประเมินผล • เพื่อให้รู้ว่าเกิดอุบัติเหตุมากน้อยเพียงใด และอุบัติเหตุนั้นร้ายแรงขนาดไหน เพื่อจะได้กำหนดนโยบายในการบริหารความปลอดภัยได้ถูกต้องเหมาะสม ต่อไป ทั้งยั้งอาจสามารถพยากรณ์แนวโน้มในอนาคตได้ด้วย

  22. วัตถุประสงค์และประโยชน์ของการจัดทำสถิติอุบัติเหตุวัตถุประสงค์และประโยชน์ของการจัดทำสถิติอุบัติเหตุ • เพื่อทราบจำนวนการเกิดอุบัติเหตุและความสูญเสียที่เกิดขึ้นในแต่ละปีรวมทั้งรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ลักษณะการประสบอันตราย สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ ส่วนของร่างกายที่ประสบอันตราย ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการวางแผน และเตรียมการหาวิธีป้องกันอุบัติเหตุในอุตสาหกรรมและเป็นแนวทางในการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขวิธีการทำงาน และสภาพการทำงานให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น

  23. วัตถุประสงค์และประโยชน์ของการจัดทำสถิติอุบัติเหตุวัตถุประสงค์และประโยชน์ของการจัดทำสถิติอุบัติเหตุ • เพื่อนทราบถึงอัตราความร้ายแรงและความถี่ของการประสบอันตรายตามแนวสากลซึ่งสามารถนำไปเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างโรงงานต่อโรงงาน หน่วยงานต่อหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกประเทศได้

  24. วัตถุประสงค์และประโยชน์ของการจัดทำสถิติอุบัติเหตุวัตถุประสงค์และประโยชน์ของการจัดทำสถิติอุบัติเหตุ • เพื่อประเมินการประสบอันตรายที่เกิดขึ้นในแต่ละแผนก ในหน่วยงานหรือโรงงาน ถ้าแผนกใดหรือหน่วยงานใดมีอัตราการประสบอันตรายสูงกว่าปกติ ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร หรือฝ่ายความปลอดภัยจะต้องหาทางพิจารณาป้องกัน

  25. วัตถุประสงค์และประโยชน์ของการจัดทำสถิติอุบัติเหตุวัตถุประสงค์และประโยชน์ของการจัดทำสถิติอุบัติเหตุ • เพื่อเป็นแนวทางสำหรับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (Safety Officer) .ในการปรับปรุงหรือวางแผนการตรวจความปลอดภัย โดยพิจารณาจากข้อมูลของสถิติการประสบอันตรายนี้ เช่น โรงงานหรือกิจการใดที่มีการประสบอันตรายมาก อาจวางแผนการตรวจเป็นพิเศษ หรือจัดอันดับการตรวจไว้ก่อน เป็นต้น

  26. การคำนวณอัตราการเกิดอุบัติเหตุการคำนวณอัตราการเกิดอุบัติเหตุ • เพื่อให้การเปรียบเทียบสถิติของอุบัติเหตุในโรงงานประเภทต่าง ๆ หรือหน่วยงานต่าง ๆ ในโรงงานเดียวกันเป็นไปได้อย่างถูกต้อง จึงต้องมีการกำหนดให้มีมาตรฐานอย่างเดียวกัน • โดยคิดเป็นจำนวณตรั้งหรือความร้ายแรงของอุบัติเหตุภายใน 1,000,000 ชั่วโมงคนงาน (Man-hours) • อัตราที่นิยมใช้ในการคำนวณเกี่ยวกับสถิติอุบัติเหตุ ได้แก่ อัตราความถี่ของอุบัติเหตุ และอัตราความร้ายแรงของอุบัติเหตุ

  27. โดยจำนวนชั่งโมงทำงานของคนงาน ประมาณว่าปีหนึ่ง คนงานคนหนึ่งทำงานได้ 50 สัปดาห์ สัปดาห์หนึ่งทำงาน 48ชั่วโมง หรือวันละ 8 ชั่วโมง ปีหนึ่งจึงมีชั่วโมงทำงานประมาณ 2,400ชั่วโมง

  28. อัตราความร้ายแรงของอุบัติเหตุ (Severity rate) คือการคำนวนหาความร้ายแรงของการเกิดอุบัติเหตุโดยวัดจากเวลาทำงานที่เสียไปเนื่องจากการเกิดอุบัติเหตุต่อชั่วโมงทำงาน 1,000,000 ชั่วโมง กำหนดเป็นสูตรคำนวณได้ดังนี้

  29. กรณีพิการ วันทำงานที่จะเสียไปพิจารณาวันทำงานที่จะเสีบไปแยกตามส่วนของร่างกายที่ประสบอันตราย สำหรับการทำงานไม่ได้ชั่วคราว ในที่นี้จะประมาณวันทำงานที่เสียไปเฉลี่ย ดังนี้

  30. การทำงานไม่ได้ชั่วคราวแบ่งเป็น การหยุดงานเกิน 3 วัน และหยุดงานไม่เกิน 3 วัน • ผู้ประสบอันตรายที่หยุดงานไม่เกิน 3 วัน ส่วนใหญ่หยุดงานประมาณ 2 วัน มีประมาณ 17,427 คน • ผู้ที่หยุดงานเกิน 3 วัน ส่วนใหญ่หยุดงานประมาณ 7 วัน มีประมาณ 21,649 คน • ดังนั้นวันทำงานที่จะเสียไปโดยเฉลี่ยเท่ากับผลรวมของผลคูณระหว่างจำนวณวันทำงานที่เสียไปกับโอกาศที่จะเกิดอุบัติเหตุจนต้องสูญเสียวันทำงานนี้

  31. สูตร โดยที่ X คือ วันทำงานที่จะเสียไป F(X) คือ โอกาสที่ผู้ประสบอันตรายจะมีวันทำงานที่เสียไป X วัน ดังนั้น วันทำงานที่เสียไปโดยเฉลี่ย = 4.77ประมาณ 5วัน และอัตราความร้ายแรงนี้เป็นประมาณที่ใกล้เคียงเท่านั้น

More Related