การประชุมนักบัญชีทั่วประเทศ ครั้งที่ 19 ( NCoA 2013)

1. การประชุมนักบัญชีทั่วประเทศ ครั้งที่ 19 (NCoA 2013) 2020s…Where We Are….บทบาทของนักบัญชีในทศวรรษหน้า วันที่ 1-2 กันยายน 2557 ณ โรงแรม Centara Grand @ CentralWorld

2. หัวข้อเสวนา • P-4 นักบัญชีกับความสำเร็จของธุรกิจ (คุณสันติ วิลาสศักดานนท์ คุณกานต์ ตระกูลฮุน คุณอธิคม เติบศิริ คุณสุชาดา อิทธิจารุกุล) • C-1 Mega trend (คุณฐิตาภรณ์ ตู้จินดา และ คุณสาโรช คงคาประเสริฐสิน) • C-2 นวัตกรรมการบริหารองค์กรยุคใหม่ (รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์ และ คุณสุภศักดิ์ กฤษณามระ) • C-3 Fair Value (รศ.ดร.วรศักดิ์ ทุมมานนท์และคุณมนตรี ศรไพศาล) • C-4: นักบัญชีกับธุรกิจครอบครัว (คุณแน่งน้อย เจริญทวีทรัพย์ คุณทรงยศ คันธมานนท์ และ คุณสุภัค หมื่นนิกร)

3. หัวข้อเสวนา • P-5: การส่งเสริมและพัฒนานักบัญชียุคใหม่ (ศ.ดร. ศิริลักษณ์ โรจนกิจอำนวย คุณศิระ อินทรกำธรชัยและคุณปริศนา ประหารข้าศึก) • C-5 : DNA ของนักบัญชีรุ่นใหม่ ( คุณปัทมาวลัย รัตนพล และ ดร.ณัฐวุฒิ พงศ์สิริ ดร.ธานินทร์ สุวงศ์วาร • C-6 ปัญหาและอุปสรรคของการปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิชาชีพ (คุณชาลี คุณจงจิตต์ คุณสายฝน คุณพรรณี) • C-7 Current Research in Accounting(ผศ.ดร.เกรียงไกร ดร.ไพลิน ดร.สันสกฤต) • C-8: Integrated Reporting (รศ. คร. วัชนีพร ดร.ดิชพงศ์ และ คุณชาญชัย)

4. บอกเล่า เรื่องที่น่าสนใจจากการเสวนา • ในอนาคตจะมีการผลักดันให้ต่างชาติถือหุ้นบริษัทบัญชีในกลุ่มอาเซียนได้มากกว่า 50% หมายความว่าคนต่างชาติจะเข้ามาทำงานในไทยมากขึ้น และคนไทยสามารถออกไปลงทุนด้านธุรกิจบัญชีในต่างประเทศได้มากขึ้น ดังนั้นจึงต้องพัฒนาขีดความสามารถของตัวเองอย่างต่อเนื่อง • ขณะนี้อยู่ในช่วงเพิ่มความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ และสภาวิชาชีพบัญชีให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้ปฏิบัติงานในสายวิชาชีพบัญชี เช่น เรื่องของ E-accountant คือ การเชื่อมโยงฐานข้อมูลธุรกิจของกระทรวงพาณิชย์ และสภาฯเข้าหากัน • ระบบบัญชีในอนาคตจะมีการพัฒนาเป็นแบบ one solution คือเป็น package สำเร็จรูปในการบันทึกบัญชี ซึ่งอาจจะบันทึกบัญชีให้โดยอัตโนมัติ ดังนั้นนักบัญชีก็ต้องพัฒนาจากการเป็นเพียง book keeper ในปัจจุบันให้เป็นผู้ที่สามารถวิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูลที่ generate ออกมาจาก system ได้ด้วย ซึ่งจะทำเช่นนี้ได้ นักบัญชีต้องพัฒนาตัวเองให้หลุดออกจากกรอบเดิมๆก่อน

5. แนวโน้มของการรายงานทางการเงินในปัจจุบัน และอนาคต • เน้นความเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจมากขึ้น (Relevance) ดังนั้น การวัดมูลค่าและการแสดงรายการด้วยมูลค่ายุติธรรม จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ อย่างไรก็ตามต้องแลกมาด้วย Reliability ของข้อมูลที่ลดลง • ความเกี่ยวข้องต่อการตัดสินใจที่เพิ่มขึ้นจาก Fair value จะทำให้ Book value และ price มีค่าใกล้เคียงมากขึ้น ทำให้ข้อมูลทางการเงินสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของกิจการมากขึ้น • มาตรฐานการรายงานทางการเงินที่จะบังคับใช้ในปี 2558 จะกล่าวถึงมูลค่ายุติธรรมมากขึ้น • TFRS 13 เป็นมาตรฐานการรายงานทางการเงินที่รวบรวมแนวคิดเกี่ยวกับการรับรู้ด้วยมูลค่ายุติธรรม ซึ่งแต่เดิมกระจายอยู่ตามมาตรฐานการบัญชีฉบับต่าง ๆ ให้มารวมอยู่ในฉบับเดียว เพื่อให้อยู่บน framework เดียวกัน

6. การวัดมูลค่าสินทรัพย์จากเดิมเป็นการตกลงระหว่าง 2 ฝ่ายคือผู้ซื้อและผู้ขาย แต่ปัจจุบัน การวัดมูลค่ายุติธรรมมีลักษณะเป็น Market participation มากขึ้น • สิ่งที่นักบัญชีควรเตรียมความพร้อมในศาสตร์แขนงที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ศาสตร์ทางการเงิน ศาสตร์เชิงสถิติเพื่อนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการหาราคาตลาดที่เหมาะสม (เช่น ในเรื่ิองการหา bid-ask spread) การทำความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการประเมินราคายุติธรรมแบบต่าง ๆ (market approach, cost approach, income approach) • สำหรับบริษัทที่ปัจจุบันเป็น NPAE และเข้าเกณฑ์ที่จะถูกบังคับใช้ TFRS for SME ในปี 2560 ก็ควรเตรียมความพร้อมและทำความเข้าใจเกี่ยวกับ fair value ด้วย เนื่องจาก TFRS for SME จะมีการใช้หลักการ Fair value เพิ่มขึ้น

7. มุมมองของผู้ประกอบการ SMEs ต่อนักบัญชี • นักบัญชีต้องเข้าใจธุรกิจ,ผลกระทบของการจัดทำงบการเงิน, การบันทึกบัญชีที่ถูกต้อง, และบัญชีภาษี • นักบัญชีควรเป็นคู่คิดกับผู้บริหาร และให้ข้อมูลที่เหมาะสมต่อการตัดสินใจได้ • ข้อมูลทางบัญชีที่ผู้ประกอบการ SMEs ต้องการจากนักบัญชี • ข้อมูลทางบัญชีควรจัดทำอย่างรวดเร็ว และทันต่อการใช้งาน ข้อมูลทางบัญชี ช่วยเปลี่ยน business model ได้ • รายงานทางการเงินควรอยู่ในรูปแบบที่ใช้งานง่าย เข้าใจได้ อาทิเช่น ข้อมูลยอดขาย สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งมีประโยชน์ต่อฝ่ายการตลาดในการวิเคราะห์ลูกค้า • ผู้ประกอบการยังไม่เห็นว่านักบัญชีสามารถบริหารด้านการเงินได้ด้วย ดังนั้นนักบัญชีความแสดงให้ผู้ประกอบการเห็นว่านักบัญชีมีบทบาทสำคัญในกิจการ • นักบัญชีควรมีความสามารถในการจัดทำข้อมูลอย่างถูกต้อง และสามารถแปลผลหรือสื่อสารข้อมูลให้ผู้ใช้ได้

8. นักบัญชีควรมีคุณสมบัติอย่างไร เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตและความสำเร็จของธุรกิจ • บุคลิกภาพของนักบัญชีต้อง smart ดูมั่นใจ กล้าคิดกล้าแสดงออก • นักบัญชีต้องมีความสามารถในการสื่อสารทั้งในและนอกองค์กร โดยเฉพาะด้านภาษาที่จะมีส่วนสำคัญยิ่งขึ้น • นักบัญชีต้องสามารถใช้ Tools ต่างๆให้เป็น เพื่อนำมาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น ERP, Linear programming, IT ต่างๆ • นักบัญชีที่ดีต้องสามารถปรับตัวให้เข้ากับวิสัยทัศน์ขององค์กรได้เป็นอย่างดี • นักบัญชีต้องยึดมั่นในจริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ไม่ถูกครอบงำโดยเจ้าของกิจการ และต้องส่งเสริมระบบธรรมาภิบาล • นักบัญชีต้องไม่เป็นแค่ Back office ต้องมีการ present ตัวเองมากขึ้นทั้งในการประชุมต่างๆ และการมีตัวตนในที่ทำงาน เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง ทั้งเพื่อนร่วมงาน และฝ่ายบริหารระดับสูง

9. นักบัญชียุคใหม่จะต้องปรับตัว 2 ด้านหลักคือ Hard skill and Soft skill โดย Hard skill แบ่งเป็นสองเรื่องหลัก คือ Technical skill และ เชาว์ปัญญาทางด้านธุรกิจ ส่วน Soft skill แบ่งออกเป็นสองด้านคือ Leadership skill and relationship skill

10. ด้านการศึกษา • Skill ที่จะต้องได้รับการส่งเสริมอย่างมากในระดับอุดมศึกษาคือ เรื่องการพัฒนาด้านภาษา โดยเฉพาะ Writing และ Influence Skill คือทำอย่างไรให้คนอื่นเห็นความสำคัญของนักบัญชี มีความสามารถในการติดต่อสื่อสาร Communication Skill รวมถึงความรู้ด้าน IT • ด้านการศึกษา จะต้องมีการสร้าง Mind Set และควรเป็น Adaptable Mind Set ให้แก่บัณฑิตเพื่อให้ปรับตัวพร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ เช่น การนำเทคโนโลยีมาใช้คู่กับบัญชี เพื่อให้เรียนจบมาสามารถทำงานได้ มีความพร้อมในการทำงานในบริษัทระดับโลกและมีความรับผิดชอบต่อสังคม นอกจากนี้ควรสร้างให้บัณฑิตมี Love Skill ด้วย ซึ่งหมายถึงความรักต่อวิชาชีพด้วย • สถานศึกษาควรมีการสร้างพันธมิตรระหว่าสถานศึกษาและบริษัทชั้นนำเพื่อมาแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์

11. Integrated Reporting • External stakeholders มีบทบาทสำคัญมากขึ้นที่กดดันให้รายงานข้อมูลมากกว่าข้อมูลทางการเงิน เพื่อให้สามารถวิเคราะห์นโยบายและความเสี่ยงต่างๆได้ดีขึ้น และช่วยในการตัดสินใจได้ดีขึ้น ทำให้ต้องมีการทำรายงานที่ไม่ใช่ข้อมูลทางการเงินเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย • Integrated Report เน้นเรื่องการสื่อสารข้อมูลที่ไม่เป็นตัวเงินเป็นสำคัญ โดยเป็นข้อมูลเกี่ยวกับ Strategy, Governance, Performance และ Prospect ให้มองกว้างขึ้น ดูผลกระทบต่อภายนอก เพื่อสร้างคุณค่าให้แก่องค์กร สร้างกำไรสูงสุดและเสถียรภาพ โดยใช้ข้อมูลทั้งที่เป็นตัวเงินและไม่เป็นตัวเงิน ซึ่งจะมี Sustainability development มาเกี่ยวข้อง คือต้องพยายามเปลี่ยนมุมมองจากการทำกำไรสูงสุดเพียงอย่างเดียว มามองถึงความยั่งยืนในการร่วมธุรกิจ ยั่งยืนในการทำกำไร และยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม ชุมชุน