1 / 36

บทที่ 3 กระบวนการแสวงหาและการนำเสนอสารสนเทศ

บทที่ 3 กระบวนการแสวงหาและการนำเสนอสารสนเทศ. 3.1 การตั้งประเด็นปัญหา สิ่งที่ต้องการค้นคว้า 3.2 วิธีการแสวงหาข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ 3.2.1 แบบทั่วไป (เลขเรียกหนังสือและการจัดเรียงหนังสือบนชั้น). วัตถุประสงค์การเรียนรู้. 1. สามารถทราบขั้นตอนการแสวงหาสารสนเทศได้

macon-knapp
Download Presentation

บทที่ 3 กระบวนการแสวงหาและการนำเสนอสารสนเทศ

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. บทที่ 3 กระบวนการแสวงหาและการนำเสนอสารสนเทศ 3.1 การตั้งประเด็นปัญหา สิ่งที่ต้องการค้นคว้า 3.2 วิธีการแสวงหาข้อมูล ข่าวสาร ความรู้3.2.1 แบบทั่วไป (เลขเรียกหนังสือและการจัดเรียงหนังสือบนชั้น)

  2. วัตถุประสงค์การเรียนรู้วัตถุประสงค์การเรียนรู้ 1. สามารถทราบขั้นตอนการแสวงหาสารสนเทศได้ 2. สามารถกำหนดขอบเขตของปัญหาได้

  3. 3.1 การตั้งประเด็นปัญหา สิ่งที่ต้องการค้นคว้า ทำไม..กระบวนการแสวงหาสารสนเทศ???

  4. กระบวนการแสวงหาสารสนเทศกระบวนการแสวงหาสารสนเทศ - กระบวนการ -->แบบแผน, วิธีการ + - แสวงหา --> การค้นหา, การเสาะหา, การเที่ยวหา + - สารสนเทศ --> ข้อมูลผ่านการสังเคราะห์, วิเคราะห์ แล้วนำมาใช้ประโยชน์ได้

  5. การแสวงหาสารสนเทศ: คำจำกัดความ = กิจกรรมหรือปฏิสัมพันธ์ที่บุคคลกระทำเพื่อแสวงหาสารสนเทศอย่างมีจุดมุ่งหมาย เพื่อตอบสนองความต้องการบางประการของผู้แสวงหา = มีลักษณะเป็นสหวิทยาการ ผสมผสานแนวคิด ทฤษฎีและศาสตร์จากสาขาต่าง ๆ เช่น การสื่อสาร จิตวิทยา การศึกษา สารสนเทศศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ผลการศึกษาวิจัยนำไปสู่การพัฒนาระบบสารสนเทศที่เอื้อต่อการค้นหาสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพ = รูปแบบหนึ่งของการแสวงหาสารสนเทศ ซึ่งผู้ค้นต้องปฏิสัมพันธ์กับระบบการค้นคืนในสภาพแวดล้อมของสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์

  6. แหล่งสารสนเทศที่ค้นได้ ก่อให้เกิดกระบวนการแสวงหาสารสนเทศ • แหล่งสารสนเทศเบื้องต้น 2. แหล่งสารสนเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เอกสารจากแหล่งอื่น ๆ

  7. ประเภทของการแสวงหาสารสนเทศประเภทของการแสวงหาสารสนเทศ 1. แสวงหาสารสนเทศที่ทราบอยู่แล้ว 2. แสวงหาข้อเท็จจริงที่มีอยู่ 3. แสวงหาเนื้อหาหรือความรู้ในด้านต่างๆ ตามความต้องการของตน หรือเรื่องที่ตนสนใจ

  8. อุปสรรคและปัญหา 1. ตัวผู้แสวงหาสารสนเทศ 2. วิธีการ และกระบวนการแสวงหาสารสนเทศ

  9. การกำหนดขอบเขตของหัวข้อปัญหาการกำหนดขอบเขตของหัวข้อปัญหา การระบุขอบเขตของปัญหาขึ้นอยู่กับความรู้ ความเข้าใจ ประสบการณ์ และวัตถุประสงค์ของแต่ละบุคคล สิ่งสำคัญจะต้องเข้าใจความต้องการของตนเองก่อน ว่าต้องการคำตอบเพื่อสนองความต้องการหรือวัตถุประสงค์ใดและวิธีการได้มาซึ่งคำตอบนั้น มีวิธีการอย่างไร เช่น การกำหนดคำค้น วิธีการค้น กลยุทธ์ในการค้น และระบบที่จะใช้ค้นหา

  10. การระบุขอบเขตของปัญหาการระบุขอบเขตของปัญหา การกำหนดคำค้น วิธีการค้น กลยุทธ์ในการค้น ระบบที่จะใช้ค้นหา การกำหนดขอบเขตของหัวข้อปัญหา

  11. วิธีการกำหนดขอบเขตของปัญหา (ขั้นตอนการแสวงหาสารสนเทศ) 1. การตระหนักและยอมรับปัญหา 2. การระบุและเข้าใจปัญหา 3. การเลือกระบบค้นหา 4. การกำหนดข้อคำถาม 5. การดำเนินการค้นหา 6. การตรวจสอบผลลัพธ์ 7. การพิจารณาข้อมูลที่ได้ (การพิจารณา/ค้นหาซ้ำ/ยุติการค้นหา)

  12. 3.2 วิธีการแสวงหาข้อมูล ข่าวสาร ความรู้3.2.1 แบบทั่วไป (เลขเรียกหนังสือและการจัดเรียงหนังสือบนชั้น) ห้องสมุด – ระบบการจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศ 1. ระบบทศนิยมดิวอี้ (Dewey Decimal Classification System --DDC) 2. ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน (Library of Congress ClassificationSystem --LC ) 3.ระบบอื่น ๆ เช่น 3.1 แบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา(NLM) 3.2 แบบทศนิยมสากล (UDC)

  13. ระบบทศนิยมดิวอี้ (DDC) ผู้คิดระบบนี้คือ เมลวิล ดิวอี้(Melvil Dewey), 2394-3474 สัญลัษณ์ที่ใช้ ได้แก่ ตัวเลขอารบิค 3 ตัว เป็นสัญลักษณ์แสดงแทนเนื้อหา

  14. ระบบทศนิยมดิวอี้ (DDC) การแบ่งครั้งที่ 1 แบ่งออกเป็น 10 หมวดใหญ่ (000-900) การแบ่งครั้งที่ 2 ภายในหมวดใหญ่ แบ่งออกเป็นหมวดย่อย 10 หมวดย่อย (310-390) การแบ่งครั้งที่ 3 ภายใต้หมวดย่อย สามารถแยกเป็นหมวดย่อย โดยการเพิ่มตัวเลขอีก 10 หมวดย่อย (371-379) การแบ่งครั้งที่ 4 การแบ่งแยกหมวดย่อยให้มีเนื้อหาเฉพาะเจาะจง ยิ่งขึ้น โดยการเติมจุดทศนิยม (371.1-371.9) ตัวอย่างเลขเรียกหนังสือในระบบ DDC

  15. ระบบทศนิยมดิวอี้ (DDC): การแบ่งครั้งที่ 1 การแบ่งครั้งที่ 1 แบ่งออกเป็น 10 หมวดใหญ่ (000-900)000Generalities (ความรู้ทั่วไป)100Philosophy (ปรัชญา)200Religion (ศาสนา)300 Social sciences (สังคมศาสตร์)400Languages (ภาษาศาสตร์)500 Pure sciences (วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์)600 Technology(Applied sciences) (เทคโนโลยีหรือวิทยาศาสตร์ประยุกต์)700 The Arts (ศิลปะ)800 Literature (วรรณคดี)900 General Geography and History (ภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ทั่วไป)

  16. ระบบทศนิยมดิวอี้ (DDC): การแบ่งครั้งที่ 2 การแบ่งครั้งที่ 2ภายในหมวดใหญ่ แบ่งออกเป็นหมวดย่อย 10 หมวดย่อย 300Social sciences (สังคมศาสตร์) 310 สถิติ 320 รัฐศาสตร์ 330 เศรษฐศาสตร์ 340 กฎหมาย 350 รัฐประศาสนศาสตร์ 360 สังคมสงเคราะห์และบริการสังคม370 การศึกษา380 การพาณิชย์390 ขนบธรรมเนียมประเพณีและคติชาวบ้าน

  17. ระบบทศนิยมดิวอี้ (DDC): การแบ่งครั้งที่ 3 การแบ่งครั้งที่ 3 ภายใต้หมวดย่อย สามารถแยกเป็นหมวดย่อย โดยการเพิ่มตัวเลขอีกหมวดละ 10 หมวดย่อย หมวด370 การศึกษา แบ่งย่อยเนื้อหาเพื่อให้เฉพาะเจาะจง 371 โรงเรียน 372 ประถมศึกษา 373 มัธยมศึกษา 374 การศึกษาผู้ใหญ่ 375 หลักสูตรวิชาที่เรียน 376 การศึกษาของสตรี 377 โรงเรียนและศาสนา 378 การศึกษาขั้นสูง 379 การศึกษาและรัฐ

  18. ระบบทศนิยมดิวอี้ (DDC): การแบ่งครั้งที่ 4 การแบ่งครั้งที่ 4 การแบ่งแยกหมวดย่อยให้มีเนื้อหาเฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น โดยการเติมจุดทศนิยม หมวด370 การศึกษา 371 โรงเรียน 371.1 การสอนและบุคลากร 371.11 ลักษณะและคุณสมบัติของครู 371.12 คุณสมบัติทางวิชาชีพครู 371.2 การบริหารการศึกษา 371.21 การรับนักเรียน 371.216 กระบวนการรับสมัคร

  19. ระบบทศนิยมดิวอี้ (DDC): ตัวอย่างที่ 1 551.5 ส247อ 2543 เลขหมู่แทนเนื้อหาวิชา เลขผู้แต่ง ส หมายถึง อักษรตัวแรกของชื่อผู้แต่งอ หมายถึง อักษรตัวแรกของชื่อเรื่อง ปีพ.ศ. ที่จัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้

  20. ระบบทศนิยมดิวอี้ (DDC): ตัวอย่างที่ 2 Ref 420 T20M2003 The ก123อ 2541 Ann ธ322ร 2541 วิทยานิพนธ์ รายงานประจำปี หนังสืออ้างอิงภาษาอังกฤษ

  21. ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน (LC) ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน(Library of CongressClassificationSystem - -LC ) - ผู้คิดค้นระบบนี้คือเฮอร์เบิร์ตพุตนัม (Herbert Putnum)- มีการกำหนดสัญลักษณ์เป็นตัวอักษรโรมัน 20 หมวดใช้อักษร A – Z โดยใช้ตัวเลขอารบิค 1 - 9999 และจุดทศนิยมเข้ามากำหนดเป็นสัญลักษณ์แทนการแบ่งหมวดหมู่ย่อย ** ยกเว้น I O W X Y **

  22. ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน (LC) การแบ่งครั้งที่ 1 แบ่งออกเป็น 20 หมวดใหญ่ (A-Z) การแบ่งครั้งที่ 2 ภายในหมวดใหญ่ ยังแบ่งเป็นหมวดย่อยจำนวนมากน้อยต่างๆกันไป และยังคงใช้สัญลักษณ์อักษร ยกเว้น E-F และ Z ไม่มีการแบ่งหมวดหมู่ครั้งต่อมา การแบ่งครั้งที่ 3 ภายในหมวดย่อย สามารถจำแนกให้เนื้อหาละเอียดยิ่งขึ้น โดยการเพิ่มเลขอารบิกผสมเข้าไป 1-9999 กับทศนิยมได้อีกไม่จำกัดตำแหน่ง (ดังนั้นเลขหมู่ของระบบ LC จึงมีสั้น-ยาวแตกต่างกันไป ตัวอย่างเลขเรียกหนังสือในระบบ LC

  23. ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน (LC): การแบ่งครั้งที่ 1 การแบ่งครั้งที่ 1 แบ่งออกเป็น 20 หมวดใหม่ (A-Z) A = General work (เรื่องทั่วไปความรู้ทั่วไป)B = Philosophy, Psychology , Religion (ปรัชญาจิตวิทยาและศาสนา)C = Auxiliary science of History (general) ประวัติศาสตร์การศึกษาD = History : Generaland old world (ประวัติศาสตร์ : และประวัติ ศาสตร์โลกสมัยเก่าซีกโลกตะวันออกได้แก่ยุโรปเอเชียและแอฟริกา)E - F = History : America(Western hemisphere ) (ประวัติศาสตร์ : อเมริกา ซีกโลกตะวันตกได้แก่อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้)G = Geography , maps, anthropology, recrention ( ภูมิศาสตร์แผนที่ มานุษยวิทยานันทนาการ)

  24. ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน (LC): การแบ่งครั้งที่ 1 การแบ่งครั้งที่ 1 แบ่งออกเป็น 20 หมวดใหม่ (A-Z) (ต่อ) H = Social science( สังคมศาสตร์)J = Politcal science (รัฐศาสตร์)K = Law (กฎหมาย) L = Education (การศึกษา) M = Music and books on music ( ดนตรีและหนังสือเกี่ยวกับดนตรี) N = Fine Arts (วิจิตรศิลป์) P = Philology and literatures (ภาษาศาสตร์และวรรณคดี) Q = Sciences (วิทยาศาสตร์) R = Medicine (การแพทย์)

  25. ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน (LC): การแบ่งครั้งที่ 1 การแบ่งครั้งที่ 1 แบ่งออกเป็น 20 หมวดใหม่ (A-Z) (ต่อ) S = Agriculture (การเกษตร) T = Technology (เทคโนโลยี) U = Military science (การทหาร) V = Naval science (นาวิกศาสตร์) Z = Bibliography, Library science (บรรณานุกรมบรรณารักษ์ สารสนเทศศาสตร์)

  26. ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน (LC): การแบ่งครั้งที่ 2 การแบ่งครั้งที่ 2 ภายในหมวดใหญ่ ยังแบ่งเป็นหมวดย่อยจำนวนมากน้อยต่างกันไป และยังคงใช้สัญลักษณ์อักษร ยกเว้น E-F และ Z ไม่มีการ แบ่งหมวดหมู่ครั้งต่อมา ตัวอย่าง เช่น หมวด Q วิทยาศาสตร์ทั่วไป คณิตศาสตร์QA คณิตศาสตร์QB ดาราศาสตร์QD เคมีQE ธรณีวิทยาQH ชีววิทยาQK พฤษศาสตร์QL สัตววิทยาQM กายภาคศาสตร์QP สรีรศาสตร์QR จุลชีววิทยา

  27. ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน (LC): การแบ่งครั้งที่ 3 การแบ่งครั้งที่ 3 ภายในหมวดย่อย สามารถจำแนกให้เนื้อหาละเอียดยิ่งขึ้น โดยการเพิ่ม เลขอารบิกผสมเข้าไป 1-9999 กับทศนิยมได้อีกไม่จำกัดตำแหน่ง (ดังนั้นเลขหมู่ของระบบ LC จึงมีสั้น-ยาวแตกต่างกันไป ตัวอย่าง เช่น หมวด HA สถิติ สามารถแบ่งย่อยได้อีก เช่น HA19 ประวัติสถิติ HA35.15 ปัญหาการเรียนการสอนวิชาสถิติ HA1107 ข้อมูลสถิติทั่วไปเกี่ยวกับยุโรป HA4011.5 ข้อมูลสถิติเกี่ยวกับประเทศตาฮิติ

  28. ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน (LC): ตัวอย่าง RefPL4187C3422003 LB305ก342ส2547 1 Theส432ก2549 2 1 3 4 3 4 2 3 5 5 5 1 = สัญลักษณ์พิเศษ 2 = เลขหมู่หนังสือ 3 = เลขผู้แต่ง 4 = อักษรชื่อเรื่อง 5 = ปีพิมพ์

  29. เลขเรียกหนังสือ(Call Number) เลขเรียกหนังสือ (Call Number)ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 4 ส่วน 1. เลขหมู่หนังสือ = แสดงเนื้อหาหรือวิธีประพันธ์ของหนังสือ 2. เลขผู้แต่ง = ประกอบด้วยอักษรและตัวเลข 3. อักษรชื่อเรื่อง = เป็นพยัญชนะตัวแรกของชื่อหนังสือ4. ปี พ.ศ. ที่พิมพ์ = แสดงปีที่พิมพ์ของเนื้อหา

  30. การจัดหมวดหมู่และการจัดเรียงหนังสือบนชั้นการจัดหมวดหมู่และการจัดเรียงหนังสือบนชั้น หนังสือที่ห้องสมุดไม่นิยมกำหนดเลขหมู่ หนังสือที่ใช้อ่านเพื่อความเพลิดเพลินมากกว่าเพื่อประโยชน์ เช่น นวนิยาย รวมเรื่องสั้น และหนังสือสำหรับเด็ก การเรียงหนังสือบนชั้น

  31. สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ Ref แทนหนังสืออ้างอิง นวแทนหนังสือนวนิยายภาษาไทย Fic แทนหนังสือนวนิยายภาษาต่างประเทศ รส แทนเรื่องสั้น Ann แทนรายงานประจำปี The แทนวิทยานิพนธ์ Gov แทนสิ่งพิมพ์รัฐบาล

  32. ประเภทของสารสนเทศลักษณะพิเศษ 8 ประการ • สิ่งพิมพ์รัฐบาล • วารสาร • หนังสือพิมพ์ • จุลสาร • กฤตภาค • สื่อโสตทัศน์ • วัสดุย่อส่วน • วัสดุอิเล็กทรอนิกส์

  33. ลักษณะการจัดเก็บ • สิ่งพิมพ์รัฐบาล จัดเก็บได้ 2 แบบ คือ จัดรวมกับหนังสือในห้องสมุด หรือจัดแยกออกจากหนังสือและทรัพยากรสารสนเทศอื่นๆ • 2. วารสาร การจัดเก็บแบ่งเป็น วารสารฉบับใหม่ และฉบับย้อนหลัง • 3. หนังสือพิมพ์ หนังสือพิมพ์ฉบับใหม่ จะใส่ไม้แขวนไว้บริการที่ชั้นวางหนังสือพิมพ์ และหนังสือพิมพ์ฉบับเก่าหรือฉบับย้อนหลัง นิยมเก็บแยกต่างหาก • 4. จุลสาร เก็บได้ 2 แบบคือ จัดเก็บโดยการใช้ระบบการจัดหมู่ หรือจัดเก็บโดยการกำหนดหัวเรื่อง (Subject) โดยแบ่งหัวเรื่องออกเป็นเรื่องๆ ตามลำดับ ก-ฮ • 5. สื่อโสตทัศน์ จัดหมวดหมู่ตามระบบ LC และผสมสัญลักษณ์แทนประเภทวัสดุ

  34. สื่อโสตทัศน์ (Audio-visual materials) จัดหมวดหมู่ตามระบบ LC และผสมสัญลักษณ์แทนประเภทวัสดุ สัญลักษณ์ที่ใช้มีดังนี้ ซีดีรอม CD ซีดีรอมบันทึกเสียง Audio-cd วีซีดี VCD วิดีโอ VT เทปคลาสเซ็ต TC สไลด์ SL หมวดภาพยนตร์ VCDM

  35. จงเรียงหนังสือจากเลขหมู่ต่อไปนี้จงเรียงหนังสือจากเลขหมู่ต่อไปนี้ QA58 T15P 2006 P401 J306M 2005 K39 F29R 2004 HF412 B61M 2007 HF431 B61M 2008 2 3 4 5 1 310 ท41บ 2519 658.03 ร289ษ 2548 420 ก28ส 2541 808.19 ด410ร 2543 658.03 ร289ษ 2549 3 1 2 5 4

More Related