1 / 27

การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน

การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน. ลักษณะ การทำงานของภาษาซี. ลักษณะการทำงานของภาษาซี

macha
Download Presentation

การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐานการเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน

  2. ลักษณะการทำงานของภาษาซีลักษณะการทำงานของภาษาซี ลักษณะการทำงานของภาษาซี ภาษาซีเป็นภาษาที่มีการพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง  ภาษาซีรุ่นแรกทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการคอส (cos) ปัจจุบันทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์  (Windows)  ภาษาซีใช้วิธีแปลรหัสคำสั่งให้เป็นเลขฐานสองเรียกว่า  คอมไพเลอร์  การศึกษาภูมิหลังการเป็นมาของภาษาซีและกระบวนการแปลภาษาจะช่วยให้ผู้ใช้ภาษาซีในรุ่นและบริษัทผู้ผลิตแตกต่างกัน  สามารถใช้ภาษาได้อย่างเข้าใจมากขึ้น

  3. ความเป็นมาของภาษาซี ภาษาซีได้รับการพัฒนาเมื่อปี ค.ศ.1972  โดยนายเดนนิสริตซี่  ตั้งชื่อว่าซีเพราะ พัฒนามาจากภาษา BCLP และภาษา B ในช่วงแรกใช้ทดลองเขียนคำสั่งควบคุม ในห้องปฏิบัติการเบลเท่านั้น เมื่อปี ค.ศ.1978 นายไบรอัน  เคอร์นิกฮัน และ นายเดนนิสริตซี่ ร่วมกันกำหนดนิยามรายละเอียดของภาษาซี 

  4. การทำงานของตอมไพเลอร์ภาษาซีการทำงานของตอมไพเลอร์ภาษาซี คอมไพเลอร์เป็นโปรแกรมที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อแปลลภาษาคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่งมักใช้กับโปรแกรมเชิงโครงสร้าง  ลักษณะการแปลจะอ่านรหัสคำสั่งทั้งโปรแกรมตั้งแต่บรรทัดคำสั่งแรกถึงบรรทัดสุดท้าย  หากมีข้อผิดพลาดจะรายงานทุกตำแหน่งคำสั่งที่ใช้ผิดกฎไวยากรณ์ของภาษา  กระบวนการคอมไพเลอร์โปรแกรมคำสั่งของภาษาซี มีดังนี้

  5. 1.จัดทำโปรแกรมต้นฉบับ (Source Program) หลังจากพิมพ์คำสั่งงาน  ตามโครงสร้างภาษาที่สมบูรณ์แล้วทุกส่วนประกอบ ให้บันทึกโดยกำหนดชนิดงานเป็น .c  เช่น  work.c 2.การแปลรหัสคำสั่งเป็นภาษาเครื่อง (Compile) หรือการบิวด์ (Build) เครื่องจะตรวจสอบคำสั่งทีละคำสั่ง  เพื่อวิเคราะห์ว่าใช้งานได้ถูกต้องตามรูปแบบไวยากรณ์ที่ภาษาซีกำหนดไว้หรือหากมีข้อผิดพลาดจะแจ้งให้ทราบ  หากไม่มีข้อผิดพลาดจะไปกระบวนการ

  6. 3.การเชื่อมโยงโปรแกรม (Link) ภาษาซีมีฟังก์ชันมาตรฐานให้ใช้งาน เช่น printf() ซึ่งจัดเก็บไว้ในเฮดเดอร์ไพล์  หรือเรียกว่า  ไลบรารี ในตำแหน่งที่กำหนดชื่อแตกต่างกันไป ผู้ใช้ต้องศึกษาและเรียกใช้เฮดเดอร์ไฟล์กับฟังก์ชันให้สัมพันธ์เรียกว่าเชื่อมโยงกับไลบรารี กระบวนการนี้ได้ผลลัพธ์เป็นไฟล์ชนิด .exe

  7. ส่วนประกอบโครงสร้างภาษาซีส่วนประกอบโครงสร้างภาษาซี ส่วนประกอบโครงสร้างภาษาซี สำหรับโครงสร้างของภาษาซีในเบื้องต้นนี้จะกล่าวถึงเฉพาะรายละเอียดที่นำไปใช้ในการเขียนคำสั่งควบคุมระดับพื้นฐาน  ผู้สร้างงานโปรแกรมจะใช้งานส่วนประกอบในภาษาซีเพียง2ส่วน คือ ส่วนหัวและส่วนฟังก์ชันหลัก  ดังนี้

  8. ส่วนหัวของโปรแกรม(Header File) หรือเรียกว่าฟรีโปรเซสเซอร์ไดเรกที  ใช้ระบุชื่อเฮดเดอร์  ควบคุมการทำงานของฟังก์ชันมาตรฐานที่ถูกเรียกใช้งานในส่วน main( ) เฮดเดอร์ไฟล์มีชนิดเป็น h. จัดเก็บในไลบรารีฟังก์ชัน  ผู้เขียนคำสั่งต้องศึกษาว่าฟังก์ชันที่ใช้งานอยู่นั้นอยู่ในเฮดเดอร์ไฟล์ชื่ออะไร  จึงจะเรียกใช้งานได้ถูกต้อง นิยมใช้รูปแบบคำสั่งดังนี้ อธิบายheader_nameชื่อเฮดเดอร์ไฟล์ควบคุมฟังก์ชันมาตรฐาน เช่นฟังก์ชันprintfใช้ควบคุมการแสดงผล จัดเก็บในไลบรารี ชื่อ #include <stdio.h>

  9. ส่วนฟังก์ชันหลัก (Main Function) เป็นส่วนเขียนคำสั่งควบคุมการทำงานภายในขอบเขตเครื่องหมาย{ }ของฟังก์ชันหลักคือ main( ) ต้องเขียนคำสั่งตามลำดับขั้นตอนจากกระบวนการวิเคราะห์ระบบงานเบื้องต้นและขั้นวางแผนลำดับการทำงานที่ได้จัดทำไว้ล่วงหน้า เช่น ลำดับการทำงานด้วยแผนผังโปรแกรมเพื่อลดข้อผิดพลาดในขั้นตอนลำดับคำสั่งควบคุมงาน ในส่วนนี้พึงระมัดระวังเรื่องเดียวคือต้องใช้งานคำสั่งตามรูปแบบไวยากรณ์ของภาษาซีที่กำหนดไว้

  10. การพิมพ์คำสั่งควบคุมงานในโครงสร้างภาษาซีการพิมพ์คำสั่งควบคุมงานในโครงสร้างภาษาซี คำแนะนำในการพิมพ์คำสั่งงาน ซึ่งภาษาซีเรียกว่า ฟังก์ชัน (ต่อไปนี้จะเรียกว่า คำสั่งตามที่นิยมทั่วไป) ในส่วนประกอบภายในโครงสร้างภาษาซีมีแนวทางปฏิบัติดังนี้ 1.คำสั่งที่ใช้ควบคุมการประมวลผมตามลำดับที่วิเคราะห์ไว้ ต้องเขียนภายในเครื่องหมาย { } ที่อยู่ภายใต้การควบคุมงานของฟังก์ชันหลักชื่อ main {} 2.ปกติคำสั่งควบคุมงานเป็นตัวอักษรพิมพ์เล็ก ยกเว้นบางคำสั่งที่ภาษากำหนดว่าต้องเป็นอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ ต้องปฏิบัติตามนั้น เพราะภาษาซีมีความแตกต่างเรื่องตัวอักษร 3.เมื่อสิ้นสุดคำสั่งงาน ต้องพิมพ์โคลอน(:)

  11. คำสั่งจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจำคำสั่งจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจำ การจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจำคอมพิวเตอร์ ภาษากำหนดให้ดำเนินการผ่านซื้อ (identifier) ที่ผู้สร้างงานโปรแกรมเป็นผู้กำหนดเอง ระบบคอมพิวเตอร์จะจัดเก็บชื่อและตำแหน่งที่อยู่ (address) ในหน่วยความจำ เพื่ออ้างอิงนำข้อมูลที่จัดเก็บนั้นมาใช้งาน การกำหนดชื่อที่ใช้เก็บข้อมูลต้องทำภายใต้กฎเกณฑ์ และต้องศึกษาวิธีกำหนดลักษณะการจัดเก็บข้อมูลที่ภาษากำหนดไว้ ลักษณะการจัดเก็บข้อมูลมี 2 แบบคือ แบบค่าคงที่และแบบตัวแปร ทั้งนี้ก่อนที่จะเขียนคำสั่งกำหนดการจัดเก็บข้อมูล ควรมีความรู้ในเรื่องชนิดข้อมูลก่อน

  12. คำสั่งจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจำคำสั่งจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจำ 3.1 ชนิดข้อมูลแบบพื้นฐาน การจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจำทั้งแบบค่าคงที่หรือแบบตัวแปร ต้องกำหนดชนิดข้อมูลให้ระบบรับทราบ ในที่นี้กล่าวถึงชนิดข้อมูลแบบพื้นฐาน 3 กลุ่มหลักเท่านั้น 3.2 คำสั่งจัดเก็บข้อมูลแบบค่าคงที่ ประสิทธิภาพคำสั่ง : ลักษณะการจัดเก็บข้อมูลในหน่วยความจำไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ รูปแบบ อธิบาย data_typeคือที่ชนิดข้อมูลแบบพื้นฐาน Varคือชื่อหน่วยความจำที่ผู้ใช้ต้องกำหนดตามกฎการตั้งชื่อ Data คือข้อมูลทีกำหนดเป็นค่าคงที่

  13. คำสั่งจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจำคำสั่งจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจำ 3.3คำสั่งจัดเก็บข้อมูลตัวแปร ประสิทธิภาพคำสั่ง :ลักษณะการจัดเก็บข้อมูลในหน่วยความจำสามารถเปลี่ยนแปลงได้ รูปแบบ 1 รูปแบบ 2 อธิบาย var_typeคือหน่วยชนิดข้อมุลแบบพืนฐาน Varname คือชื่อหน่วยความจำที่ผู้ใช้ต้องกำหนดตามกฎการตั้งชื่อ Data คือข้อมูลที่กำหนดเป็นค่าเริ่มต้น (อาจมีหรือไม่มีก็ได้)

  14. คำสั่งควบคุมการทำงานขั้นพื้นฐานคำสั่งควบคุมการทำงานขั้นพื้นฐาน คำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานขั้นพื้นฐาน มี3 กลุ่มใหญ่คือ คำสั่งรับข้อมูลจากแป้นพิมพ์แล้ว นำไปจัดเก็บหน่วยความจำ (input) การเขียนสมการคำนวณโดยใช้นิพจน์ทางคณิตศาสตร์ (process) และคำสั่งแสดงผลข้อมูล หรือข้อมูลที่จัดเก็บในหน่วยความจำ (output) 4.1 คำสั่งแสดงผล printf ( ) ประสิทธิภาพคำสั่ง : ใช้แสดงผลสิ่งต่อไปนี้เช่น ข้อความ ข้อมูลจากค่าคงที่ หรือตัวแปลที่จอภาพ

  15. คำสั่งควบคุมการทำงานขั้นพื้นฐานคำสั่งควบคุมการทำงานขั้นพื้นฐาน 4.2 คำสั่งรับข้อมูล : รับข้อมูลจากแป้นพิมพ์ แล้วจัดเก็บลงหน่วยความจำ ของตัวแปล รูปแบบ อธิบาย String _format คือรูปแบบของการแสดงผลข้อมูลเท่านั้น เช่น %d Address_listคือการระบุตำแหน่งที่อยู่ในหน่วยความจำ ต้อใช้สัญลักษณ์ & (Ampersand) นำหน้าชื่อตัวแปลเสมอ

  16. คำสั่งควบคุมการทำงานขั้นพื้นฐานคำสั่งควบคุมการทำงานขั้นพื้นฐาน 4.3 คำสั่งประมวลผล : expreeion ประสิทธิภาพคำสั่ง : เขียนคำสั่งแบบนิพจน์เพื่อประมวลผล แล้วนำข้อมูลทีได้ไปจัดเก็บ ในหน่วยความจำของตัวแปล ที่ต้องกำหนดชื่อและชนิดข้อมูลไว้แล้ว รูปแบบ อธิบาย varคือ ชื่อหน่วยความจำชนิดตัวแปร expreeionคือสมการนิพจน์ เช่น สูตรคำนวณทางคณิตศาสตร์

  17. คำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพาะอักขระคำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพาะอักขระ ภาษาซีมีคำสั่งแสดงผลและรับข้อมูลเฉพาะข้อมูลประเภท 1 อักขระ (char)ดังนี้ 5.1 คำสั่ง putchar ( )5.2 คำสั่ง getchar ( ) 5.3คำสั่ง getch ( )5.4คำสั่ง getche ( ) 5.1 คำสั่ง  putchar ( ) แสดงข้อมูลจากหน่อยความจำของตัวแปร ทางจอภาพครั้งละ1อักขระเท่านั้น อธิบายPutchar_argumentคือข้อมูลชนิดอักขระ

  18. คำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพาะอักขระคำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพาะอักขระ • แนวคิดในการเขียนคำสั่งควบคุมการทำงาน •    1.กำหนดค่า ‘A’เก็บในตัวแปรประเภท char ชื้อ word1และกำหนดค่า ‘1’ เก็บในตัวแปรชื่อ  word2 ด้วยคำสั่ง char word1=‘A’ , word2=‘1’ •   2.เขียนคำสั่งควบคุมการแสดงผลทีละ 1 อักขระโดยไม่ต้องใช้สัญลักษณ์ขึ้นบรรทัดใหม่ ด้วย คำสั่ง putchar(word1);   putchar(word2); จึงพิมพ์คำว่า A1 ที่จอภาพ

  19. คำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพาะอักขระคำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพาะอักขระ • 5.2 คำสั่ง getchar ( ) • รับข้อมูลจากแป้นพิมพ์ครั้งละ 1 อักขระ และแสดงอักขระที่จอภาพ จากนั้นต้องกดแป้นพิมพ์ที่ Enterเพื่อนำข้อมูลบันทึกลงหน่วยความจำด้วย • รูปแบบที่1 ไม่นำข้อมูลจัดเก็บลงหน่วยความจำตัวแปร • รูปแบบที่2 นำข้อมูลจัดเก็บลงหน่วยความจำของตัวแปร

  20. คำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพาะอักขระคำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพาะอักขระ ตัวอย่างโปรแกรมที่2.3 แสดงประสิทธิภาพคำสั่ง getchar () แนวคิดในการเขียนคำสั่งควบคุมการทำงาน 1.เขียนคำสั่งควบคุมการป้อนข้อมูลประเภทอักขระด้วยคำสั่ง Printf (“Key 1 Character=”) ; Word = getchar ( ) ; หมายถึงป้อนอักขระ 1 ตัว เช่น a จะแสดงค่าให้เห็นที่หน้าจอด้วย แล้วต้องกดแป้น Enter เพื่อนำข้อมูลบันทึกลงหน่วยความจำตัวแปรประเภท char ชื่อ word

  21. คำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพาะอักขระคำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพาะอักขระ  2.เขียนคำสั่งควบคุมการแสดงผลจากหน่วยความจำ wordจึงเห็นค่า a (แทนที่word) Printf (“You key Character is =%c\n”,word) ; 5.3 คำสั่ง getch ( ) รับข้อมูลจากแป้นพิมพ์ครั้งละ 1 อักขระ แต่ไม่ปรากฏอักษรบนจอภาพและไม่ต้องกดแป้น Enter รูปแบบ 1 ไม่นำข้อมูลจัดเก็บลงหน่วยความจำตัวแปร รูปแบบ 2 นำข้อมูลจัดเก็บลงหน่วยความจำตัวแปร

  22. คำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพาะอักขระคำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพาะอักขระ • ตัวอย่างโปรแกรมที่ 2.4 แสดงประสิทธิภาพคำสั่ง getch () • แนวคิดในการเขียนคำสั่งควบคุมการทำงาน •  1.เขียนคำสั่งควบคุมการป้อนข้อมูลประเภทอักขระด้วยคำสั่ง • printf (“Key 1 Character =” ) ; • word = getch ( ) ; • หมายถึงป้อนค่าใดทางแป้นพิมพ์เป็นอักขระ 1 ตัว เช่น a จะไม่แสดงค่าให้เห็นที่หน้าจอ ไม่ต้องกดแป้น Enter เพื่อนำข้อมูลบันทึกลงหน่วยความจำตัวแปรประเภท char ชื่อ word

  23. คำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพาะอักขระคำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพาะอักขระ • 2.เขียนคำสั่งควบคุมการแสดงผลจากหน่วยความจำ word จึงเห็นค่า a (แทนที่word) • printf (“Key 1 Character =%c\n”,word ) ; • 5.4คำสั่ง getche ( ) • รับข้อมูลจากแป้นพิมพ์ครั้งละ 1 อักขระ และแสดงอักษรบนจอภาพ และไม่ต้องกดแป้น Enter • รูปแบบ1 ไม่นำข้อมูลจัดเก็บลงหน่วยความจำของตัวแปร • รูปแบบ2 นำข้อมุลจัดเก็บลงหน่วยความจำของตัวแปร

  24. คำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพาะอักขระคำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพาะอักขระ • ตัวอย่างโปรแกรมที่ 2.5 แสดงประสิทธิภาพคำสั่ง getche ( ) • แนวคิดในการเขียนคำสั่งควบคุมการทำงาน • 1.เขียนคำสั่งควบคุมการป้อนข้อมูลประเภทอักขระด้วยคำสั่ง • printf (“Key 1 Character =” ) ; • word = getcher ( ) ; • หมายถึงการป้อนค่าใดทางแป้นพิมพ์เป็นอักขระ 1 ตัว เช่น a จะแสดงค่าให้เห็นที่หน้าจอ และไม่ต้องกดแป้น Enter เพื่อนำข้อมูลบันทึกลงหน่วยความจำตัวแปรประเภท char ชื่อ word • 2.เขียนคำสั่งควบคุมการแสดงผลเพื่อแสดงค่าจากหน่วยความจำ word จึงเห็นค่า a (แทนที่word)

  25. คำสั่งแสดงผล-เฉพาะข้อมูล เฉพาะข้อความคำสั่งแสดงผล-เฉพาะข้อมูล เฉพาะข้อความ ภาษาซีมีคำสั่งใช้ในดารรับข้อมูลเฉพาะประเภทข้อความ (String) ในภาษาซีคือชนิดข้อมูล char[n] จัดเก็บในหน่วยความจำ และแสดงผลข้อมูลประเภทข้อความเท่านั้น มีรายละเอียดดังนี้ 6.1 คำสั่ง puts()แสดงผลเฉพาะประเภทข้อความทางจอภาพครั้งละ 1 ข้อความ ตัวอย่างโปรแกรมที่ 2.6 แสดงประสิทธิภาพคำสั่ง puts() แนวคิดในการเขียนคำสั่งควบคุมการทำงาน 1.เขียนคำสั่งกำหนดค่าข้อความในตัวแปรชื่อ word Char word [15] = “*Example*”; 2.เขียนคำสั่งควบคุมการแสดงผลในลักษณะข้อความด้วย puts Puts (word) ; Puts (“*************”);

  26. คำสั่งแสดงผล-เฉพาะข้อมูล เฉพาะข้อความคำสั่งแสดงผล-เฉพาะข้อมูล เฉพาะข้อความ • 6.2 คำสั่ง gets( )รับข้อมูล ข้อความจากแป้นพิมพ์และต้องกดแป้น Enter • รูปแบบ 1ไม่นำข้อมูลจัดเก็บลงหน่วยความจำของตัวแปร • รูปแบบ 2 นำข้อมูลจัดเก็บลงหน่วยความจำของตัวแปร • ตัวอย่างโปรแกรมที่ 2.7 แสดงประสิทธิภาพคำสั่ง get ( ) • แนวคิดในการเขียนคำสั่งควบคุมกาทำงาน • 1.เขียนคำสั่งให้รับข้อมูลนิดข้อความจากแป้นพิมพ์และต้องกดแป้น Enter เพื่อนนำข้อความบันทึกลงตัวแปรชนิดข้อความด้วยคำสั่ง gets (word); • 2.เขียนคำสั่งควบคุมให้แสดงผลลักษณะข้อความด้วย printf (You name is = %s\n”,word) ;

  27. จัดทำโดย นาย วะตะ ถ้ำทอง เลขที่ 7 นาย วสุพล นันทิพัฒ์ปัญญา เลขที่ 11 นางสาว กัญจน์พิชชา บุญเรืองยศศิริ เลขที่ 22 นางสาว ปิยะธิดา ทิพย์ประดิษฐ์ เลขที่ 27 นางสาว พรรณวดี ทวีระวงษ์ เลขที่ 29 นางสาว เสาวลักษณ์ ภุมรินทร์ เลขที่ 31

More Related