1 / 85

ความรู้เรื่องวัณโรค

ความรู้เรื่องวัณโรค. ธัญลักษณ์ บริรักษ์ นักวิชาการสาธารณสุข กลุ่มงานเวชกรรมสังคม รพ.โพ ธาราม. วัณโรค เป็นปัญหาสาธารณสุขของทั่วโลก. องค์การอนามัยโลก ประกาศให้วัณโรคอยู่ใน ภาวะฉุกเฉินสากล ตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๓๖ ซึ่งต้องการการร่วมกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน

luke
Download Presentation

ความรู้เรื่องวัณโรค

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ความรู้เรื่องวัณโรค ธัญลักษณ์ บริรักษ์ นักวิชาการสาธารณสุข กลุ่มงานเวชกรรมสังคม รพ.โพธาราม

  2. วัณโรค เป็นปัญหาสาธารณสุขของทั่วโลก • องค์การอนามัยโลก ประกาศให้วัณโรคอยู่ในภาวะฉุกเฉินสากล ตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๓๖ ซึ่งต้องการการร่วมกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน • ปัจจุบันมีผู้ป่วยด้วยวัณโรคเสียชีวิตมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา แม้แต่ในช่วงที่ยังไม่มียารักษา • คาดว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิตวันละประมาณ ๕๐๐๐ คน ต่อวัน หรืออาจกล่าวได้ว่า มีผู้เสียชีวิตทุกๆ ๑๐ วินาที

  3. 2.การแพร่ระบาดของเอชไอวี2.การแพร่ระบาดของเอชไอวี - จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น, ตาย (มีโรคฉวยโอกาสอื่นๆร่วมด้วย) 1.ผู้ป่วยมารักษาช้า - แพร่เชื้อ, ตาย 3.ผู้ป่วยกินยาไม่ครบ - แพร่เชื้อ, ดื้อยา, ตาย ปัญหา 4.ผู้ป่วยฐานะยากจน ไม่มีคนดูแลการกินยา 6.ชุมชนรังเกียจ 5.ผู้ป่วยสูงอายุ แพ้ยารักษาวัณโรค

  4. วัณโรค.....คืออะไร

  5. วัณโรค • เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ชื่อมัยโคแบคทีเรียม ทูเบอร์คูโลซีส • เป็นได้กับอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย • เป็นมากที่ปอด • ติดต่อโดยการสูดละอองฝอยที่ฟุ้งกระจายในอากาศ ที่เกิดจากการไอจามจากผู้ป่วยวัณโรคปอดในระยะแพร่เชื้อ

  6. - คนเราติดเชื้อวัณโรคแล้วประมาณ 1 ใน 3 คน - ถ้าติดเชื้อแล้วมีโอกาสป่วยร้อยละ 10-15 คน ในช่วง 1-2 ปีแรก - ถ้าร่างกายอ่อนแอก็ทำให้ป่วยเป็นวัณโรคได้ - เชื้อเข้าทางเดินหายใจแล้วไปฝังตัวที่ถุงลม เกาะกินปอดทำให้เป็นแผล ไอ ไข้ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย น้ำหนักลด

  7. วัณโรคเป็นโรคติดต่อเกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อมัยโคแบคทีเรียม ทูเบอร์คูโลซิส(Mycobacterium tuberculosis)

  8. Mycobacterium tuberculosis • เป็นเชื้อแบคทีเรียที่มีขนาดเล็กมาก ประมาณ 1 – 5 ไมครอน

  9. เชื้อมีผนังหนามาก สามารถทนทานต่อสิ่งแวดล้อมได้ • เจริญได้ดีในที่ซึ่งมี ph 6.0 – 7.6 • ที่อุณหภูมิ 37 องศา • มีระยะฟักตัว 4 – 5 สัปดาห์

  10. เชื้อวัณโรคจะถูกทำลายได้ในน้ำเดือด 2 นาที • เชื้อนี้ทนทานต่อความแห้งแล้ง มีชีวิตอยู่ได้ 4 ชั่วโมง – 5 วัน • ถ้าอยู่ในห้องมืด จะมีชีวิตอยู่ได้นานอย่างน้อย 40 วัน และอาจอยู่ได้นานถึง 6 เดือน • แสงอาทิตย์ทำลายเชื้อวัณโรคได้ภายใน 5 นาที

  11. วัณโรค สามารถเป็นได้กับอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย เช่นต่อมน้ำเหลือง ลำไส้ ตับ ม้าม เยื่อหุ้มสมอง

  12. แต่ที่พบบ่อย และเป็นปัญหามากในปัจจุบัน คือ วัณโรคปอด

  13. การติดต่อ • เชื้อวัณโรคติดต่อโดยการแพร่กระจายเชื้อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งผ่านทางอากาศ • โดยผู้ป่วยวัณโรคปอดเมื่อไอหรือจามแรงๆเชื้อจะปนเปื้อนมากับ ละอองเสมหะ

  14. เมื่อมีผู้สูดหายใจเอาเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ละอองเสมหะขนาด 1-3 ไมโครเมตร จะเข้าสู่หลอดลมส่วนปลายจนถึงถุงลมเล็กๆในเนื้อปอด • เชื้อวัณโรคจะเจริญเติบโตและแบ่งจำนวนอย่างรวดเร็วจนทำให้เกิดเป็นแผลในเนื้อปอดและป่วยเป็นวัณโรค

  15. แหล่งแพร่เชื้อ.... • แหล่งแพร่เชื้อ คือ ผู้ป่วยวัณโรคระยะแพร่เชื้อ ซึ่งได้แก่ - ผู้ป่วยก่อนการรักษา - ผู้ป่วยที่ยังไม่รักษา - ผู้ป่วยที่กำลังรักษายังไม่ถึง 2 สัปดาห์

  16. การแพร่เชื้อ • พูด 1 นาที = 600 droplet nuclei • ไอ = 3,000 droplet nuclei • จาม = 40,000 droplet nuclei

  17. การติดเชื้อวัณโรคและการป่วยแตกต่างกันอย่างไรการติดเชื้อวัณโรคและการป่วยแตกต่างกันอย่างไร

  18. การติดเชื้อวัณโรคและการป่วยแตกต่างกันอย่างไรการติดเชื้อวัณโรคและการป่วยแตกต่างกันอย่างไร

  19. เราแบ่งผู้ป่วยวัณโรคเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ กี่กลุ่ม อะไรบ้าง แบ่งผู้ป่วยวัณโรคได้ 2 กลุ่ม คือ • วัณโรคปอด • วัณโรคนอกปอด

  20. ผู้มีอาการสงสัย

  21. อาการที่น่าสงสัยว่าเป็น “วัณโรค” • ไอเรื้อรัง >2 wk (เสมหะขาวขุ่น เขียวข้น) • อาการที่อาจพบด้วย..... • เจ็บหน้าอกหอบ/เหนื่อย •  มีไข้ตอนเย็น •  เหงื่อออกกลางคืน •  เบื่ออาหาร/นน.ลด •  อ่อนเพลีย .

  22. รู้ได้อย่างไรว่าเป็น....วัณโรคปอดรู้ได้อย่างไรว่าเป็น....วัณโรคปอด • ตรวจเสมหะ 3 ครั้ง • การเอกเรย์ปอด

  23. 3. การเก็บเสมหะเพื่อส่งตรวจมีกี่วิธี อะไรบ้าง * ลักษณะการเก็บ มี 2 วิธี 1. Spot Sputum : หมายถึง เสมหะที่เก็บในวันที่ผู้ป่วยมาตรวจ 2. Early morning specimen = Collected sputum : หมายถึง เสมหะที่ผู้ป่วยเก็บได้ในตอนเช้าหลังตื่นนอน * การตรวจเสมหะ 3 ครั้ง อาจเป็น 1. Spot วันแรก Collected วันที่ 2 และ Spot วันที่ 2 หรือ 2. Spot วันแรก Collected วันที่ 2 และ 3 * ต้องส่งตรวจภายใน 7 วัน

  24. ข้อควรทราบ Spot Sputum : ต้องบ้วนปากก่อนทุกครั้ง เพื่อง่าย ต่อการอ่านผลป้องกันการผิดพลาด Collect Sputum :เก็บตอนตื่นนอนตอนเช้า ไม่ต้องแปรงฟัน

  25. วิธีการเก็บเสมหะให้ได้คุณภาพวิธีการเก็บเสมหะให้ได้คุณภาพ Collect Sputum : ก่อนลุกจากที่นอนให้ผู้ป่วยนอนคว่ำใช้หมอนหนุนหน้าอก ศีรษะห้อยลง ใช้ฝ่ามือเคาะด้านหลังเบาๆ : หายใจ เข้า-ออก 2-3 ครั้ง แล้วกลั้นหายใจ ไอลึกๆ : ถ้ายังไม่ได้ ให้พักพอสมควร/ดื่มน้ำมากๆ รอสักครู่ *** ต้องไม่มีคนอยู่ใกล้***

  26. การรักษา • วัณโรค รักษาหายได้ • โดยการกินยาต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ใช้เวลาเพียง 6-8 เดือนเท่านั้น • ใช้ยาอย่างน้อย 4 ขนาน หากได้รับการรักษาไม่ถูกต้อง ขาดยา หรือกินยาไม่ต่อเนื่องจะทำให้เชื้อดื้อยา ทำให้ยากต่อการรักษา

  27. กลุ่มเสี่ยง • ผู้สัมผัสผู้ป่วยวัณโรค • ผู้ติดเชื้อ เอชไอวี • เด็กอายุต่ำกว่า 0-15 ปี • ผู้สูงอายุ • ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง • นักโทษในเรือนจำ • ผู้ที่เคยป่วยเป็นวัณโรค

  28. การรักษา - ต้องรีบรักษาให้หายในการป่วยครั้งแรกเพื่อป้องกันการดื้อยาและโรคแทรกซ้อน - รักษานาน 6-8 เดือน ถ้ากินยาครบถ้วนทุกขนาด/ขนาน ตรงเวลา เพียง 6 เดือน - ถ้ามีอาการผิดปกติหลังจากการทานยาให้บอกเจ้าหน้าที่

  29. กินยาอย่างน้อย 6 เดือน TB Photo Voice

  30. ยารักษาวัณโรค 1. Isoniazid = H 2. Rifampicin = R 3. Pyrazinamide = Z 4. Ethambutol = E 5. Streptomycin = S

  31. หน้าที่ของท่านในการดูแลผู้ป่วยวัณโรคมีอะไรบ้าง ???

  32. ความสำคัญของการกินยาวัณโรคความสำคัญของการกินยาวัณโรค • จุดประสงค์หลักในการรักษาวัณโรค • กำจัดเชื้อวัณโรคอย่างรวดเร็ว • ลดการเกิดการดื้อยา • ป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรค • หลักในการรักษาวัณโรคให้ได้ผล • กินยาวัณโรคอย่างน้อย 6-8 เดือน • ต้องมีพี่เลี้ยงในการดูแลกำกับการกินยาทุกวัน “คุณหายเราปลอดภัย”

  33. สาเหตุของการกินยาไม่ต่อเนื่องสาเหตุของการกินยาไม่ต่อเนื่อง จำนวนเม็ดยาที่ต้องกินมีจำนวนมาก มีอาการแพ้ยาซึ่งเกิดบ่อยโดยเฉพาะ 2 เดือนแรก ระยะเวลาในการรักษานาน ผู้ป่วยต้องกินยาอย่างน้อย 6-8 เดือน เมื่อผู้ป่วยกินยาประมาณ 2 เดือน ผู้ป่วยจะรู้สึกดีขึ้นมากจนคิดว่าตัวเองหายแล้ว และเลิกกินยาเอง ทำให้เกิดการเสี่ยงต่อเชื้อดื้อยาวัณโรคได้ วัณโรครักษาด้วยยาได้ แต่การให้กำลังใจไม่ทอดทิ้ง สำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด

  34. เกิดอะไรขึ้นเมื่อกินยาไม่สม่ำเสมอเกิดอะไรขึ้นเมื่อกินยาไม่สม่ำเสมอ มีระยะเวลาในการแพร่เชื้อให้คนอื่น ๆ ในชุมชนได้นานขึ้น มีอาการรุนแรงขึ้น และอาจตายจากการป่วยเรื้อรังได้ เชื้อวัณโรคจะกลายเป็นชนิดดื้อยา ทำให้ยากต่อการรักษาและควบคุมวัณโรค

  35. ทำอย่างไรให้กินยาต่อเนื่องทำอย่างไรให้กินยาต่อเนื่อง ใช้หลักการปฏิบัติตัว 3 ต. ต่อต้านวัณโรค ต. ที่หนึ่ง…...ต้อง กินยาต่อหน้าต. ที่สอง…...ต้อง รักษาต่อเนื่องต. ที่สาม…...ติ๊ก บัตรหลังกินยา

  36. หลักการให้ยาวัณโรค • หยิบยาให้กิน • ดูเขากลืนยา • เสร็จแล้วบันทึก

  37. ความสำคัญของการบันทึกการกินยาความสำคัญของการบันทึกการกินยา • สามารถตรวจสอบการกินยา ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าได้รับยาถูกต้อง • รู้ผลข้างเคียงที่เกิดจากการกินยา • ในกรณีที่พี่เลี้ยงมีการเปลี่ยนเวร พี่เลี้ยงที่มารับเวรต่อสามารถทราบข้อมูลที่ได้มีการบันทึกไว้ก่อนหน้านี้ได้อย่างต่อเนื่อง

  38. มารู้จักกับยาวัณโรคกันเถอะ 10-12 เม็ดครั้งเดียว

  39. อาการที่สามารถสังเกตได้ด้วยตาอาการที่สามารถสังเกตได้ด้วยตา อาการที่ต้องซักถามจากตัวผู้ป่วย หรือคนรอบข้าง อาการอะไรบ้างที่พบได้ขณะกินยาที่ต้องแจ้งพยาบาล • ปัสสาวะสีส้มแดง • ตัวเหลือง ตาเหลือง • ผื่นคันเล็กน้อย หรือมีจ้ำเลือด • คลื่นไส้ อาเจียนมาก • ช็อก • ปวดข้อ • ชาตามปลายมือปลายเท้า • ปวดศีรษะ อาการคล้ายไข้หวัด • เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย • ปวดท้อง

  40. เมื่อเกิดอาการผิดปกติจากยาแล้วต้องแจ้งพยาบาลเพื่ออะไร?เมื่อเกิดอาการผิดปกติจากยาแล้วต้องแจ้งพยาบาลเพื่ออะไร? • อาการไม่รุนแรง • พยาบาลพิจารณาให้ยารักษาตามอาการ เช่น คลื่นไส้มาก ให้ยาแก้คลื่นไส้ เป็นต้น • อาการรุนแรง • พยาบาลพิจารณาพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันที

  41. การเก็บรักษายาวัณโรค • ไม่แกะยาจากแผงยา • ไม่เก็บยาในที่ชื้น ร้อนหรือแสงแดดจัด

  42. อาการข้างเคียงของยารักษาวัณโรค มักพบในช่วง 2 เดือนแรกของการกินยา อาการที่ไม่ต้องหยุดยา แต่ต้องพบแพทย์ หรือ พยาบาล • เบื่ออาหาร (ทุกตัว) • คลื่นไส้ (H R Z) • ปัสสาวะสีส้ม (R) • ปวดข้อ ปวดเข่า (Z) • ผื่นคันไม่รุนแรง (H) (พบประมาณ 20-30%) อาการที่ต้องหยุดยา และ พบแพทย์ • ผื่นแพ้ ผิวหนังลอก (SEHR) • หูอื้อ ตามัว มึนงง อาเจียน (S) • ตัวเหลือง ตาเหลือง (RZH) (พบประมาณ 15-20%)

  43. ควรปฏิบัติตัวอย่างไรขณะ....ป่วยและรักษาควรปฏิบัติตัวอย่างไรขณะ....ป่วยและรักษา • ใช้ผ้าปิดปากและจมูก เวลาไอ จาม • กินยาตามแพทย์สั่ง ต่อเนื่อง สม่ำเสมอและมาตามนัด • กินอาหารได้ทุกชนิดที่มีประโยชน์และพักผ่อนให้เพียงพอ

  44. งดเหล้า บุหรี่ สิ่งเสพติด • ควรตรวจผู้สัมผัสร่วมบ้าน โดยเฉพาะเด็ก • บ้วนเสมหะลงภาชนะ เทลงในส้วม ฝังดิน หรือนำไปเผา • จัดที่พักให้อากาศถ่ายเทสะดวก แสงแดดส่องถึง

  45. การป้องกันการแพร่เชื้อการป้องกันการแพร่เชื้อ - เมื่อกินยาไปแล้ว 2 อาทิตย์ เชื้อลดจำนวนลงมากสามารถลดการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ - การแยกของใช้ นอนร่วมกัน 2 สัปดาห์ - บ้วนเสมหะใส่ภาชนะที่มีน้ำยากำจัด - ไอจามทุกครั้งต้องใช้ผ้าหรือกระดาษปิดปาก ปิดจมูก หรือใช้ผ้าคล้องคอ - อย่าถ่มน้ำลายลงพื้นทั่วๆไป - สังเกตบุคคลในครอบครัวถ้าไอเกิน 2 สัปดาห์ให้รีบไป ตรวจวินิจฉัย

More Related