เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้

1. เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ 4000108 โปรแกรมวิชาคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

2. บทที่ 4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 4.1 การสื่อสารข้อมูลและเทคโนโลยีการสื่อสาร 4.2 การสื่อสารข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ 4.3 ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

3. แนวคิด ในปัจจุบันนี้ถือได้ว่าเป็นโลกของข้อมูลข่าวสาร หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นยุคของโลกไร้พรมแดน คนที่อยู่คนละซีกโลกกันสามารถสื่อสารข้อมูลกันได้ การสื่อสารข้อมูลมีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน การสื่อสารข้อมูลนั้นมีทั้งแบบใช้สายสัญญาณ เป็นนำข้อมูลออกไปและส่งไปให้ยังเครื่องรับปลายทาง และนอกจากนี้ยังมีการสื่อสารข้อมูลโดยที่ไม่ต้องใช้สายสัญญาณ เช่น การสื่อสารข้อมูลผ่านดาวเทียม มีความจำเป็นมากขึ้นที่เราควรจะทราบหลักเกณฑ์พื้นฐานของการสื่อสารข้อมูล ประเภท และประโยชน์ที่เราจะได้รับจากการสื่อสารข้อมูลประเภทต่างๆ บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

4. การสื่อสารข้อมูล (Data Communication) องค์ประกอบพื้นฐานของการสื่อสารจะประกอบด้วย • ผู้ส่ง (Sender) • ตัวกลาง (Media) • ข้อมูล (Message) • ผู้รับปลายทาง(Receiver) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

5. การสื่อสารข้อมูลทางคอมพิวเตอร์การสื่อสารข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ องค์ประกอบพื้นฐานของการสื่อสารข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์จะประกอบด้วย • ผู้ส่ง (Sender) • ตัวกลาง (Media) • ข้อมูล (Message) • ผู้รับปลายทาง(Receiver) • โปรโตคอล (Network Protocol) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

6. โปรโตคอล(Protocol) • กฏเกณฑ์ที่ใช้เป็นทางการที่ใช้ในการสื่อสาร • วิธีการส่ง ( Transmission ) • การอินเตอร์เฟส (Interface) • การเข้ารหัส ( Coding ) • วิธีการตรวจสอบในกรณีที่ข้อมูลที่รับและส่งมีปัญหาให้เป็นรูปแบบเดียวกัน • สามารถแปลงให้เป็นรูปแบบเดียวกันได้ • เพื่อความเป็นระเบียบและความสะดวกแก่ผู้ผลิตและผู้ใช้ • สามารถติดต่อสื่อสารข้อมูลกันเป็น แบบระบบเปิด (Open System ) • ตัวอย่างโปรโตคอล เช่น TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) โปรโตคอล X25 โปรโตคอล BSC ฯลฯ บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

7. การสื่อสารข้อมูลทางคอมพิวเตอร์การสื่อสารข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

8. ตัวอย่างการสื่อสารข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ตัวอย่างการสื่อสารข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

9. ชนิดของสัญญาณการสื่อสารข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ชนิดของสัญญาณการสื่อสารข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ 1. การส่งสัญญาณแบบอนาล็อก (Analog) 2.การส่งสัญญาณแบบดิจิตอล (Digital) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

10. ทิศทางของการสื่อสารข้อมูลทิศทางของการสื่อสารข้อมูล • แบบทิศทางเดียว (Simplex หรือ One-Way) ข้อมูลจะถูกส่งจากทิศทางหนึ่งไปยังอีกทิศทางหนึ่ง โดยไม่สามารถส่งย้อนกับมาได้ เช่น ระบบวิทยุหรือโทรทัศน์ • แบบกึ่งสองทิศทาง (Half Duplex) ข้อมูลสามารถส่งสลับกันได้ทั้ง 2 ทิศทางโดยต้องผลัดกันส่งครั้งละทิศทางเท่านั้น ตัวอย่างเช่น วิทยุสื่อสาร แบบผลัดกันพูด • แบบสองทิศทาง (Full Duplex หรือ Both-Way) ข้อมูลสามารถส่งพร้อม ๆ กันได้ทั้ง 2 ทิศทางอย่างอิสระ ตัวอย่างเช่น ระบบโทรศัพท์ บางครั้งเราเรียกการสื่อสารแบบสองทิศทางว่า Four-Wire-Line บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

11. แบบทางเดียว (Simplex) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

12. แบบครึ่งทาง(Half Duplex) Sender & Reciever Sender & Reciever บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

13. แบบสองทิศทาง (Full Duplex หรือ Both-Way) NetworkSystem Computer B Computer A บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

14. สื่อกลางที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์สื่อกลางที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ สื่อกลางที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้ • สื่อกลางที่เป็นสายสัญญาณ (Wire) • สายเกลียวคู่ (Twisted pair Cable) • สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) • เส้นใยแก้วนำแสง หรือ ไฟเบอร์ออฟติกส์ (Fiber Optic Cable) • สื่อกลางที่ไม่ใช้สายสัญญาณ (Wireless) • ระบบไมโครเวฟ  (Microware System) • การสื่อสารด้วยดาวเทียม  (Satellite Transmission) • ระบบที่ใช้คลื่นวิทยุเป็นพาหะ (Radio Carrier) • ระบบที่ใช้คลื่นแสงเป็นพาหะ (Light Carrier) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

15. สายเกลียวคู่ (Twisted pair Cable) • ประกอบด้วยสายลวดทองแดง2เส้น • มีฉนวนหุ้มพันกันเป็นเกลียว • สามารถลดการรบกวนจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าได้แต่ไม่สามารถป้องกันการสูญเสียพลังงานจากการแผ่รังสีความร้อน • ราคาถูก • ตัวอย่าง เช่นสายโทรศัพท์ สายUTP ,สาย STP และสายที่เชื่อมต่อระบบเครือข่ายแบบLAN บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

16. สายเคเบิลแบบโคแอกเชียลหรือ "สายโคแอก" เป็นสายสื่อสารที่มีคุณภาพดีกว่าและราคาแพงกว่า สายเกลียวคู่ สายส่งข้อมูลจะอยู่ตรงกลางเป็นลวดทองแดงมีชั้นของตัวเหนี่ยวนำหุ้มอยู่2ชั้น ชั้นในเป็นฟั่นเกลียวหรือชั้นแข็ง ชั้นนอกเป็นฟั่นเกลียว คั่นระหว่างชั้นด้วยฉนวนหนาเปลือกชั้นนอกสุดเป็นฉนวน ตัวอย่าง เช่น สายเคเบิลทีวีสายโทรศัพท์ทางไกล (อนาล็อก) สายส่งข้อมูลในระบบเครือข่ายท้องถิ่นหรือLAN (ดิจิตอล) หรือใช้ในการเชื่อมโยงสั้น ๆ ระหว่างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

17. ลักษณะทั่วไปของ Fiber Optic ทำจากแก้วหรือพลาสติก สายไฟเบอร์ออปติกเปลี่ยนสัญญาณ (ข้อมูล) ไฟฟ้าให้เป็นคลื่นแสงก่อน ลำแสงที่ส่งออกไปเป็นพัลส์นั้นจะสะท้อนกลับไปมาที่ผิวของสายชั้นในจนถึงปลายทาง มีแบนด์วิดท์(BW)ได้กว้างถึง3 จิกะเฮิรตซ์(1จิกะ = 109) มีอัตราเร็วในการส่งข้อมูลได้ถึง1จิกะบิตต่อวินาทีภายในระยะทาง100 กม. มีช่องทางสื่อสารได้มากถึง20,000-60,000ช่องทาง ลักษณะการส่งข้อมูลของ Fiber Optic ส่งสัญญาณข้อมูล มอดูเลตสัญญาณ ไดโอด เปลี่ยนสัญญาณมอดูเลตให้เป็นลำแสง ลำแสงถูกส่งออกไปตามสายไฟเบอร์ โฟโต้ไดโอด(Photo Diode)รับลำแสงเพื่อเปลี่ยนสัญญาณแสงให้กลับไปเป็นสัญญาณมอดูเลต ดีมอดูเลตให้เหลือแต่สัญญาณข้อมูลที่ต้องการ เส้นใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Cable) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

18. ส่งสัญญาณข้อมูลแบบรับช่วงต่อๆ กันจากหอ ส่ง-รับสัญญาณหนึ่งไปยังอีกหอหนึ่ง ครอบคลุมพื้นที่รับสัญญาณประมาณ 30-50 กม.  ใช้ในกรณีที่การติดตั้งสายเคเบิลทำได้ไม่สะดวก เช่น ในเขตเมืองใหญ่ ๆ หรือในเขตที่ป่าเขา ไมโครเวฟเป็นคลื่นย่านความถี่สูง(2-10GHz.) สัญญาณอาจจะอ่อนลงหรือหักเหได้ในที่มีอากาศร้อนจัดพายุหรือฝน การติดตั้งจาน ส่ง-รับสัญญาณจึงต้องให้หันหน้าของจานตรงกันและหอยิ่งสูงยิ่งส่งสัญญาณได้ไกล ระบบไมโครเวฟ  (Microwave System) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

19. ดาวเทียมทำหน้าที่ขยายและทบทวนสัญญาณข้อมูลรับและส่งสัญญาณข้อมูลกับสถานีดาวเทียมที่อยู่บนพื้นโลกดาวเทียมทำหน้าที่ขยายและทบทวนสัญญาณข้อมูลรับและส่งสัญญาณข้อมูลกับสถานีดาวเทียมที่อยู่บนพื้นโลก สถานีดาวเทียมภาคพื้นจะทำการส่งสัญญาณข้อมูล ไปยังดาวเทียม (Up-link) ดาวเทียมจะทำการทบทวนสัญญาณ และตรวจสอบตำแหน่งของสถานีปลายทาง  (Down-link) ดาวเทียมส่งสัญญาณข้อมูลไปด้วยความถี่ในอีกความถี่หนึ่งลงไปยังสถานีปลายทาง ลักษณะของการรับส่งสัญญาณข้อมูลอาจจะเป็นแบบจุดต่อจุด (Point-to-Point)  หรือแบบแพร่สัญญาณ (Broadcast)  การสื่อสารด้วยดาวเทียม(Satellite Transmission) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

20. คลื่นวิทยุเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีการแพร่กระจายพลังงานคลื่นจากสายอากาศด้านผู้ส่ง เมื่อคลื่นเดินทางมาถึงสายอากาศด้านผู้รับ จะเกิดค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าจำนวนน้อยๆ ค่าหนึ่ง ซึ่งถ้าหากมีการขยายและแปลงสัญญาณที่มีการส่งมาก็จะได้สัญญาณเดิมกลับมา ข้อมูลเสียงนั้นสามารถพูดรวมไปกับสัญญาณคลื่นวิทยุที่เป็นสื่อ ระบบที่ใช้คลื่นวิทยุเป็นพาหะ (Radio Carrier) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

21. ส่วนประกอบทั่วๆไปของระบบที่ใช้คลื่นวิทยุส่วนประกอบทั่วๆไปของระบบที่ใช้คลื่นวิทยุ • เครื่องส่งสัญญาณคลื่นวิทยุ (Radio Transmitters) • เครื่องรับสัญญาณ (Communication Receiver) • สายส่งและสายอากาศ (Transmission and Antenna) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

22. ใช้แสงอินฟราเรดเป็นตัวกลางในการสื่อสาร ข้อดี คือ สามารถที่จะเคลื่อนที่ได้ง่าย ติดตั้งง่าย ไม่ต้องมีการขอใช้ความถี่และขออนุญาต ข้อเสีย คือ ไม่สามารถสื่อสารไปในระยะทางไกลๆ ได้ มีช่วงสัญญาณที่แคบ และถ้าเกิดฝนตกจะทำให้การส่งสัญญาณอ่อนลงด้วย เป็นระบบที่ใช้เทคโนโลยีเช่นเดียวกับ Remote Control ของเครื่องโทรทัศน์ มีข้อจำกัดที่ต้องใช้งานเป็นเส้นตรง ต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง หรือระบบสเปกตรัมแถบกว้าง (Spread Spectrum) ตัวอย่างเช่น Wireless LAN ระบบที่ใช้คลื่นแสงเป็นพาหะ (Light Carrier) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

23. เครือข่ายคอมพิวเตอร์(Computer Network) หมายถึงกลุ่มของคอมพิวเตอร์ที่ถูกนำมาเชื่อมต่อกัน เพื่อให้ผู้ใช้ในระบบเครือข่ายสามารถติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลและใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบเครือข่ายได้ บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

24. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

25. ประโยชน์ของระบบเครือข่ายประโยชน์ของระบบเครือข่าย • สามารถใช้อุปกรณ์ร่วมกัน (Peripheral sharing) • การใช้ซอฟต์แวร์ร่วมกัน (Software sharing) • การใช้ข้อมูลร่วมกัน (File sharing) • การสื่อสารระหว่างบุคคล (Electronic Communication) • ประหยัดค่าใช้จ่าย บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

26. ประเภทของระบบเครือข่ายประเภทของระบบเครือข่าย • ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระยะใกล้ (Local Area Network: LAN) • ระบบเครือข่ายเน็ตเวิร์กระยะกลาง (Metropolitan Area Network: MAN) • ระบบเครือข่ายระยะไกล (Wide Area Network: WAN) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

27. มีขนาดเล็ก ครอบคลุมพื้นที่จำกัด เชื่อมโยงกันในรัศมีใกล้ ๆ ตัวอย่างเช่น ในอาคารเดียวกัน ห้องเดียวกัน ภายในตึกเดียวกันหรือหลาย ตึกใกล้กัน ไม่ต้องเชื่อมการติดต่อกับองค์การโทรศัพท์หรือการสื่อสารแห่งประเทศไทย ระบบเครือข่ายระยะใกล้(Local Area Network : LAN) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

28. ระบบเครือข่ายเน็ตเวิร์กระยะกลาง(Metropolitan Area Network: MAN) • เป็นระบบเครือข่ายระดับเมือง คือมีการเชื่อมโยงกันในพื้นที่ที่กว้างไกลกว่าในระบบLAN • ตัวอย่างเช่น เชื่อมโยงกันภายในจังหวัด โดยจะต้องมีการใช้ระบบเครือข่ายขององค์การโทรศัพท์หรือองค์การสื่อสารแห่งประเทศไทย • การเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ที่มีระยะห่างไกลกันในช่วง5-40กิโลเมตร ผ่านสายสื่อสารประเภทต่าง ๆ เช่น เส้นใยแก้วนำแสง สายเคเบิลหรือสายโคแอกเชียล • ต้องการความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลสูง • โดยที่การสื่อสารนั้นจะจำกัดภายในบริเวณเขต ตัวเมืองหรือเขตมหานคร บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

29. ระบบเครือข่ายระยะไกล(Wide Area Network: WAN) • เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่อยู่ห่างไกลกันเข้าด้วยกัน • การติดต่อสื่อสารกันในระดับประเทศข้ามทวีปหรือทั่วโลก • มีการต่อเข้ากับระบบสื่อสารขององค์การโทรศัพท์ หรือการสื่อสารแห่งประเทศไทย • ตัวอย่างเช่น อินเทอร์เน็ตถือว่าเป็นเครือข่าย WAN ประเภทหนึ่ง แต่เป็นเครือข่ายสาธารณะที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของทั้งหมด บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

30. ระบบเครือข่าย LAN MAN และ WAN บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

31. ฮาร์ดแวร์ของระบบเครือข่ายฮาร์ดแวร์ของระบบเครือข่าย • คอมพิวเตอร์ • สายเคเบิล • ฮับ (Hub) • รีพีตเตอร์ (Repeater) • การ์ดเชื่อมต่อเครือข่าย (LAN Card) • บริดจ์ (Bridge) • สวิตซ์ (Switch) • เกทเวย์ (Gateway) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

32. ในระบบเครือข่ายมีคอมพิวเตอร์เป็นองค์ประกอบพื้นฐาน คอมพิวเตอร์ที่ต่อเชื่อมกัน สามารถที่จะนำคอมพิวเตอร์ต่างรุ่นกันมาเชื่อมต่อกันได้ไม่ว่าจะเป็นเครื่องพีซีแมคอินทอช ทรัพยากรอื่น ๆ ในเครือข่าย เช่น เครื่องพิมพ์ แฟกซ์หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูล เครื่องคอมพิวเตอร์(Computer) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

33. สายเคเบิล(Cable) • สายเคเบิลที่ใช้ในปัจจุบันมีหลายแบบด้วยกัน แต่ละแบบก็มีความเร็วในการรับส่ง ข้อมูล และราคาแตกต่างกันไป • การเลือกใช้สายเคเบิลอย่างไร ขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของเครือข่ายที่ใช้ บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

34. ฮับ(HUB) • ฮับ (HUB) อุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อสายเคเบิลในเครือข่าย • มีลักษณะเป็นช่องเสียบสายเคเบิลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์Serverกับเครื่องพีซีอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องไคลเอนต์ บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

35. เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเปลี่ยนตัวกลางนำสัญญาณจากตัวกลางหนึ่งไปยังอีกตัวกลางหนึ่ง เช่น จากไฟเบอร์ออปติกมายังโคแอกเชียล หรือการเชื่อมระหว่างตัวกลางเดียวกันก็ได้ การใช้รีพีตเตอร์จะทำให้เครือข่ายทั้งสอง เสมือนเชื่อมกัน โดยที่สัญญาณจะวิ่งทะลุถึงกันได้หมด รีพีตเตอร์จึงไม่มีการกันข้อมูล แต่จะมีประโยชน์ในการเชื่อมต่อความยาวให้เพิ่มขึ้น รีพีตเตอร์ (Repeater) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

36. อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมระหว่างคอมพิวเตอร์กับสายเคเบิล โดยเสียบลงบนเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์ ส่วนพอร์ตในการเชื่อมต่อกับสายเคเบิลจะอยู่ทางด้านหลังของเครื่องคอมพิวเตอร์ การ์ดเชื่อมต่อเครือข่าย (LAN Card) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

37. บริดจ์ (Bridge) • มักใช้ในการเชื่อมต่อวงแลน (LAN Segment) 2 วงเข้าด้วยกัน • ทำให้สามารถขยายขอบเขตของ LAN ออกไปเรื่อย ๆ • บริดจ์อาจเป็นได้ทั้งฮาร์ดแวร์เฉพาะ หรือ ซอฟต์แวร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่กำหนดให้เป็นบริดจ์ก็ได้ บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

38. สวิตซ์ (Switch) • สวิตซ์จะช่วยลดการจราจรระหว่างเครือข่ายที่ไม่จำเป็น • เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่าย ที่ไม่กระจายสัญญาณการส่งข้อมูลเหมือน HUB บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

39. เกทเวย์ (Gateway) • มีหน้าที่ในการเชื่อมต่อและแปลงข้อมูลระหว่าง เครือข่ายที่แตกต่างกันทั้งในส่วนของโปรโตคอล • LAN และ ระบบ Mainframe • SNA ของ IBM กับ DECNet ของ DEC • โดยปกติเกทเวย์มักเป็น Software Package ที่ใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง (ซึ่งทำให้เครื่องนั้นมีสถานะเกทเวย์) • มักใช้สำหรับเชื่อม Workstationเข้าสู่เครื่องที่เป็นเครื่องหลัก (Host) ทำให้เครื่องเป็น Workstation สามารถทำงานติดต่อกับเครื่องหลักได้ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับข้อแตกต่างของระบบเลย บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

40. เกทเวย์ (Gateway) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

41. เราท์เตอร์(Router) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

42. โมเด็ม (MODEM) Modulator - Demodulator • Modulator การแปลงสัญญาณจากแบบดิจิตอลไปเป็นแบบอะนาลอก • Demodulator การแปลงสัญญาณจากแบบอะนาลอกไปเป็นแบบดิจิตอล บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

43. โมเด็ม (MODEM) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

44. ซอฟต์แวร์สำหรับเครือข่ายซอฟต์แวร์สำหรับเครือข่าย • ระบบปฏิบัติการเครือข่าย(Network Operating System) • ไดรเวอร์สำหรับเครือข่าย • ซอฟต์แวร์ใช้งาน • ซอฟต์แวร์สำหรับบริหารเครือข่าย บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

45. รูปแบบของการเชื่อมโยงเครือข่าย หรือ โทโปโลยี รูปแบบของโทโปโลยีของเครือข่าย • เครือข่ายแบบดาว (Star Network) • เครือข่ายแบบบัส (Bus Network) • เครือข่ายแบบวงแหวน (Ring Network) • เครือข่ายแบบตาข่าย (Mesh Network) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

46. เครือข่ายแบบดาว (Star Network) • หลักการรับ-ส่งข้อมูล คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องในเครือข่ายจะต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เป็นศูนย์กลางที่เรียกว่าฮับ (Hub) • การติดตั้งคอมพิวเตอร์ควรให้ห่างอย่างน้อยไม่เกิน 100 เมตร • ฮับแต่ละตัวสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ตั้งแต่ 4, 8 ไปจนถึง 16 เครื่อง • ข้อดีการติดตั้งเครือข่ายและการดูแลรักษาทำได้ง่ายหากมีเครื่องใดเกิดความเสียหายก็สามารถตรวจสอบได้ง่ายและศูนย์กลางสามารถตัดเครื่องที่เสียหายนั้นออกจากการสื่อสารในเครือข่ายได้โดยไม่มีผลกระทบกับระบบเครือข่าย • ข้อเสียเสียค่าใช้จ่ายมาก การขยายระบบให้ใหญ่ขึ้นทำได้ยาก เพราะการขยายแต่ละครั้งจะต้องเกี่ยวเนื่องกับเครื่องอื่น ๆ ทั้งระบบ บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

47. เครือข่ายแบบดาว (Star Network) เป็นระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ เข้ากับอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์กลางของเครือข่าย บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

48. เครือข่ายแบบบัส (Bus Network) • หลักการรับ-ส่งข้อมูล ในการส่งข้อมูลนั้นจะมีเพียงคอมพิวเตอร์ตัวเดียวเท่านั้น ที่สามารถส่ง ข้อมูลได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ • คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์แต่ละชนิดเชื่อมต่อโดยสายเคเบิลเส้นเดียว • การขยายเพิ่มเติมระบบ การขยายเพิ่มเติมคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายแบบบัสค่อนข้างยุ่งยาก เพราะจะต้องมีการตัดและต่อสายเคเบิลเข้ากับ • ข้อดี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการวางสายสัญญาณมากนัก สามารถขยายระบบได้ง่าย เป็นแบบโทโปโลยีที่ได้รับความนิยมใช้กันมากที่สุด • ข้อเสีย อาจเกิดข้อผิดพลาดง่าย เนื่องจากทุกเครื่องคอมพิวเตอร์ต่ออยู่บนสายสัญญาณเพียง เส้นเดียว บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

49. เครือข่ายแบบบัส (Bus Network) บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

50. เครือข่ายแบบวงแหวน (Ring Network) • หลักการรับ-ส่งข้อมูล เมื่อคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งส่งข้อมูล มันจะส่งข้อมูลไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ตัวถัดไป ถ้าข้อมูลที่รับมาไม่ตรงตามที่คอมพิวเตอร์ต้นทางระบุ ข้อมูลก็จะถูกส่งผ่านไปให้คอมพิวเตอร์เครื่องถัดไป • การเซตอัพ เครือข่ายวงแหวนมักจะใช้ในองค์กรที่มีคอมพิวเตอร์วางอยู่ใกล้กัน คอมพิวเตอร์ ทุกตัวในเครือข่ายวงแหวนจะเชื่อมต่อด้วยสายเคเบิล เพียงเส้นเดียวต่อกันเป็นวงแหวน โดยไม่มีจุดเริ่มต้นหรือจุดปลายของเส้น • การขยายเพิ่มเติมระบบ การขยายเพิ่มเติมคอมพิวเตอร์เข้ามาในระบบนี้ค่อนข้างยุ่งยากกว่า เครือข่ายแบบอื่น • ข้อดี ผู้ส่งสามารถส่งข้อมูลไปยังผู้รับได้หลาย ๆ เครื่องพร้อม ๆ กัน • ข้อเสีย ถ้ามีเครื่องใดเครื่องหนึ่งในเครือข่ายเสียหาย ข้อมูลจะไม่สามารถผ่านไปยังเครื่องต่อ ๆ ไปได้ และจะทำให้เครือข่ายทั้งเครือข่ายหยุดชะงักได้ บทที่4 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์