1 / 32

แนวทางการควบคุมยาสูบในประเทศไทย บทบาทการควบคุมยาสูบของ สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคเขต

แนวทางการควบคุมยาสูบในประเทศไทย บทบาทการควบคุมยาสูบของ สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคเขต และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด. สถานการณ์ปัญหายาสูบ และแนวทางการแก้ปัญหา. การประชุมซัมมิทผู้นำประเทศ UN เรื่อง “การควบคุมโรคไม่ติดต่อ”. กันยายน 2554 ในปี พ.ศ.2551 ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตปีละ 57 ล้านคน

Download Presentation

แนวทางการควบคุมยาสูบในประเทศไทย บทบาทการควบคุมยาสูบของ สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคเขต

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. แนวทางการควบคุมยาสูบในประเทศไทยแนวทางการควบคุมยาสูบในประเทศไทย บทบาทการควบคุมยาสูบของ สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคเขต และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด

  2. สถานการณ์ปัญหายาสูบและแนวทางการแก้ปัญหาสถานการณ์ปัญหายาสูบและแนวทางการแก้ปัญหา

  3. การประชุมซัมมิทผู้นำประเทศ UN เรื่อง “การควบคุมโรคไม่ติดต่อ” กันยายน 2554 ในปี พ.ศ.2551 ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตปีละ 57 ล้านคน 35 ล้านคนมาจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง 80%จากโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง โรคปอดเรื้อรัง และเบาหวาน โดย 9 ล้านคนเสียชีวิตก่อนอายุ 60 ปี 3

  4. การเสียชีวิตของคนไทยจากโรคไม่ติดต่อหลัก 4 โรคพ.ศ.2552 คณะทำงานภาระโรคฯ กสธ. 2554 โรคมะเร็ง = 80,711 คน โรคเส้นเลือดสมอง = 50,829 คน โรคเส้นเลือดหัวใจ = 34,384 คน โรคเบาหวาน = 26,380 คน ถุงลมโป่งพอง = 18,660 คน รวม = 210,964 คน เสียชีวิตก่อนอายุ 60 ปี = 56,960 = 27% จำนวนผู้เสียชีวิตจากทุกสาเหตุ = 415,900 คน 4

  5. ปัจจัยเสี่ยงโรคไม่ติดต่อหลัก 4 โรค 5

  6. ผลการศึกษาภาระโรคในประเทศไทย 2552 ปัจจัยเสี่ยง * * ที่มา Bundhamcharoen et al, Economic Burden From Smoking Related Diseases in Thailand in 2009 6

  7. เสียชีวิตก่อนอายุ 60 ปี = 15,831 = 31.2% แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาดัชนีประเมินภาระโรคและสุขภาพของประชากรไทย สำนักพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2554 7

  8. ความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ พ.ศ.2553 ค่ารักษาพยาบาล 10,137 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายทางอ้อม 1,063 ล้านบาท การสูญเสียผลิตภาพ 40,981 ล้านบาท รวม = 52,200 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ GDP = 0.5% โครงการศึกษาภาระโรคและปัจจัยเสี่ยงกระทรวงสาธารณสุข 8

  9. อัตราการสูบบุหรี่ของประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป แบ่งตามเพศ 9

  10. อนุสัญญาควบคุมยาสูบ องค์การอนามัยโลกFramework Convention on Tobacco Control (FCTC)พ.ศ.2548 ปัจจุบันมี 177 ประเทศเป็นรัฐภาคี มีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตาม ข้อกำหนดของอนุสัญญาฯ [เป็นอนุสัญญาเดียวของโลกที่เกี่ยวกับสุขภาพ] 10

  11. มาตรา 5.3 - การป้องกันการแทรกแซงนโยบายสาธารณะ โดยธุรกิจยาสูบ มาตรา 6 - การควบคุมยาสูบด้วยมาตรการทาง ภาษี และราคา มาตรา 8 - การคุ้มครองจากควันบุหรี่ มาตรา 9-10 - การรายงานแลเปิดเผยส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ มาตรา 11 - การเตือนภัยบนซองบุหรี่ มาตรา 12 - การให้สุขศึกษา 11

  12. มาตรา 13 - การห้ามโฆษณา/ส่งเสริมการขาย/ทุนอุปถัมภ์ มาตรา 14 - การช่วยให้เลิกสูบบุหรี่ มาตรา 15 - การควบคมผลิตภัณฑ์ยาสูบผิด กฎหมาย มาตรา 16 - การห้ามขายแก่เด็ก/ห้ามเด็กขาย มาตรา 17 - การปลูกพืชทดแทนยาสูบ มาตรา 19 - การละเมิดของธุรกิจ มาตรา 26 - การสนับสนุนงบประมาณเพื่อควบคุม ยาสูบ 12

  13. จุดอ่อนของการควบคุมยาสูบของประเทศไทยจุดอ่อนของการควบคุมยาสูบของประเทศไทย บังคับใช้กฎหมายควบคุมยาสูบขาดประสิทธิภาพ ระบบการช่วยให้เลิกบุหรี่ขาดประสิทธิภาพ ระบบภาษียาสูบยังมีปัญหา หน่วยงาน/กลไกควบคุมยาสูบระดับพื้นที่อ่อนแอ ไม่สามารถควบคุมการตลาดของบริษัทบุหรี่ได้ดี การระบาดของยาสูบผิดกฎหมาย (บุหรี่ไฟฟ้า บารากู่) การคัดค้านนโยบายสาธารณะโดยบริษัทบุหรี่ 13

  14. ต้องการเลิก แต่ทำไม่ได้ การสำรวจการสูบบุหรี่ระดับโลก 14

  15. ผู้สูบบุหรี่ที่พยายามเลิกในปี พ.ศ.2554 = 4.7 ล้านคน การสำรวจการสูบบุหรี่ระดับโลก พ.ศ.2554 15

  16. คณะรัฐมนตรี เห็นชอบมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ : มาตรการควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพด้านยาสูบ วันที่ 17 เมษายน 2555 อนุมัติแผนยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติ 2555-2557 วันที่ 12 มิถุนายน 2555 - ลดอัตราการสูบบุหรี่ลง 10%จากปี 2552 - ควบคุมการบริโภคยาสูบชนิดอื่นไม่ให้เพิ่มขึ้น 16

  17. ความเป็นมาของโครงการจังหวัดปลอดบุหรี่ - สถานการณ์ระบาดวิทยาของการบริโภคยาสูบ และสถานการณ์การดำเนินการและประสิทธิผลในการควบคุมยาสูบ ทำให้ต้องหากลยุทธใหม่ - แนวคิดและทิศทางการควบคุมยาสูบของประเทศ เน้นการใช้พื้นที่เป็น ฐาน โดยใช้โครงการจังหวัดปลอดบุหรี่ - โครงการจังหวัดปลอดบุหรี่ กลยุทธเชิงรุกเพื่อการควบคุมยาสูบแบบ บูรณาการที่มุ่งสู่ความสำเร็จในการควบคุมสถานการณ์ทางระบาดวิทยา

  18. แนวคิดโครงการจังหวัดปลอดบุหรี่แนวคิดโครงการจังหวัดปลอดบุหรี่ ดำเนินการควบคุมยาสูบอย่างเป็นระบบ ครบถ้วนตามมาตรการและยุทธศาสตร์สำคัญของการควบคุมยาสูบอย่างบูรณาการในแต่ละพื้นที่ ตามบริบทเขตเมืองและชนบท เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ใช้ทุนทางสังคมและกระบวนการควบคุมทางสังคมของพื้นที่ ขยายพื้นที่ดำเนินการต่อไปให้เต็มในจังหวัด และเพิ่มจำนวนจังหวัดต่อไปจนทั่วประเทศต่อไป

  19. โครงการจังหวัดปลอดบุหรี่ไม่เป็นโครงการวิจัย แต่เน้นการขับเคลื่อนการดำเนินการควบคุมยาสูบ อย่างจริงจังให้เห็นผล

  20. การควบคุมยาสูบต้องทำให้ครอบคลุมกิจกรรมตามมาตรการหลักของยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบ ที่สำคัญคือ - การป้องกันเยาวชนจากการเป็นนักสูบหน้าใหม่ - ช่วยคนสูบให้เลิกสูบให้ได้ และ - ทำให้ทุกพื้นที่ที่กฏหมายกำหนดปลอดบุหรี่

  21. หลักการควบคุมยาสูบ: ดำเนินการครอบคลุมตามยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบ WHO : MPOWER Strategy 1. Monitoring tobacco control - monitor สถานการณ์ระบาดวิทยาและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกลยุทธของธุรกิจยาสูบ - monitor สถานการณ์การควบคุมยาสูบ การบริหารจัดการและการดำเนินการ 2.Protect people from tobacco smoke ทำให้ไม่มีการสูบในที่ห้ามสูบตาม กฏหมาย 3. Offer help to quit smoking บริการช่วยผู้สูบให้เลิกสูบ ทุกกลุ่มประชากรผู้สูบ 4. Warning people about harmful effect of tobacco use - การมีภาพคำเตือนบนซองยาสูบ - การสื่อสารทุกรูปแบบเพื่อเตือนประชาชน 5.Enforce ban on advertising, promotion and sponsorship & CSR ทุกรูปแบบ 6.Raise tax on tobacco product

  22. ยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติ 8 ยุทธศาสตร์ 1. ป้องกันนักสูบหน้าใหม่ 2. บริการช่วยเลิกสูบ 3.ลดพิษภัยของผลิตภัณฑ์ยาสูบ 4. สร้างสิ่งแวดล้อมปลอดบุหรี่ 5. เสริมสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาขีดความสามารถในการ ดำเนินการควบคุมยาสูบ 6. ควบคุมยาสูบผิดกฎหมาย 7. มาตรการทางภาษี 8. เฝ้าระวังอุตสาหกรรมยาสูบ

  23. กลุ่มเป้าหมาย - กลุ่มประชากร ประชากรทุกกลุ่มอายุ เน้นเยาวชนและสตรี กลุ่ม แรงงาน - พื้นที่ : - พื้นที่ต้นแบบ/นำร่องระยะสั้นในโครงการ - พื้นที่ทั้งจังหวัดในระยะยาว - ครอบคลุมพื้นที่: - พื้นที่เฉพาะที่ต้องปลอดบุหรี่ตามกฏหมาย - พื้นที่ชุมชนชนบทและเขตเมือง อำเภอ จังหวัด

  24. - มีส่วนร่วมโดยทุกภาคส่วน - ภาคีเครือข่ายสนับสนุนการบริหารจัดการและการดำเนินการ - องค์กรและสมาชิกในชุมชน - มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบที่ มุ่งสู่ความสำเร็จ ต่อเนื่อง ยั่งยืน - มีจุดจัดการที่มีพลัง และมุ่งมั่น - มีกลไกการจัดการ เช่นกรรมการระดับจังหวัด อำเภอ และชุมชน - มีระบบและกระบวนการบริหารจัดการที่ดี โปร่งใส - มีแผนและการดำเนินการตามแผนที่มีคุณภาพในทุกระดับ

  25. ดำเนินการให้ครบถ้วนในแต่ละพื้นที่ เขตเมือง และชนบท ครอบคลุมองค์ประกอบของชุมชน คือ สถานที่ราชการ สถานประกอบการต่างๆ ตลาด ร้านอาหาร โรงแรม สถานบันเทิง ขนส่ง วัด โรงเรียนระดับอาชีวศึกษา มัธยม ประถมศึกษา สถานบริการสุขภาพ และร้านค้าบุหรี่ เป็นต้น ตามบริบทของแต่ละพื้นที่

  26. ดำเนินการโดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในพื้นที่ • องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นมีบทบาทร่วมที่สำคัญ • ใช้งบประมาณที่มีในท้องถิ่นสนับสนุนการดำเนินการ เช่นใช้งบกองทุนสุขภาพตำบล • ใช้ทุนทางสังคม และกลไกการควบคุมทางสังคม

  27. การป้องกันวัยรุ่นและเยาวชนไม่ให้เป็นนักสูบหน้าใหม่ • เป็น KPI ใหม่ของกระทรวงสาธารณสุข • ให้โรงเรียนทำโครงการโรงเรียนปลอดบุหรี่อย่างเป็นระบบและต่อเนื่องโดยครู นักเรียน ผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วม

  28. สถานพยาบาลปลอดบุหรี่เป็น KPI ใหม่ของกระทรวง • ปลอดบุหรี่ตามกฏหมาย • ต้องมีบริการช่วยเลิกบุหรี่ การอบรมและจัดตั้งคลีนิคอย่างเดียวไม่ได้ผล เพราะมีผู้ใช้บริการน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนผู้สูบในพื้นที่ • ต้องทำเชิงรุกทั้งในโรงพยาบาลโดยscreen ผู้สูบตั้งแต่ลงทะเบียนผู้ป่วยนอก และทุกคลีนิคตรวจโรคในโรงพยาบาลต้องให้คำแนะนำให้เลิกสูบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวข้อง เช่น DM HT โรคปอด หัวใจ TB เป็นต้น • อาจให้คำแนะนำและช่วยการเลิกในคลีนิคเหล่านั้นเองหรือส่งต่อไปให้คลีนิคช่วยเลิกบุหรี่ • มีการจัดบริการแนะนำขั้นต้นในชุมชนโดยอสม.และรพสต. • ให้บริการทางโทรศัพท์ • เชื่อมโยงทุกระดับ

  29. การสื่อสารเพื่อสร้างกระแสความตระหนักและสร้างค่านิยมและบรรทัดฐานการไม่สูบบุหรี่ ใช้สื่อทุกประเภท เครือข่ายสื่อมวลชน • วิทยุชุมชนมีอยู่จำนวนมาก สามารถใช้ได้ในทุกพื้นที่โครงการหรือเต็มพื้นที่จังหวัดโดยเครือข่ายวิทยุชุมชน

  30. ที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้โครงการสำเร็จได้คือการบริหารจัดการโครงการที่เป็นระบบ จริงจัง และมีประสิทธิภาพ

  31. แนวทางการสนับสนุนการบริหารจัดการและดำเนินการโครงการแนวทางการสนับสนุนการบริหารจัดการและดำเนินการโครงการ - การหารือผู้บริหารหรือหัวหน้าหน่วยจัดการเกี่ยวกับนโยบายและการสนับสนุน - การพิจารณากำหนดจุดจัดการและผู้จัดการโครงการ - การจัดทำ/พัฒนาโครงการ - การจัดตั้งและกำหนดบทบาทหน้าที่ และแผนการบริหารโครงการของกรรมการและ ผู้จัดการ - การเตรียมกรรมการก่อนเริ่มโครงการ Advocacy & capacity building - การสร้างเครือข่ายพหุภาคีและการเตรียมภาคี Advocacy & capacity building - การจัดทำแผนปฏิบัติการโครงการแบบมีส่วนร่วม - ขั้นตอนสำคัญในกระบวนการดำเนินการตามแผน เช่นการจัดทำแผนชุมชน และ ดำเนินการตามแผนโดยการมีส่วนร่วม - การกำกับ ติดตามการดำเนินการ และประเมินผลภายในโครงการ - การกำกับ ติดตามการดำเนินการ และประเมินผลจากองค์กรสนับสนุนโครงการ สสส. ศจย.

  32. บทบาทการควบคุมยาสูบ และบทบาทในโครงการจังหวัดปลอดบุหรี่ ของ • สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคเขต • สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด

More Related