1 / 30

ปรัชญา

ปรัชญาเบื้องต้น อ้างอิง : กีรติ บุญเจือ, ชุดปรัชญาและศาสนาเซนต์จอห์น เล่มห้า โยสไตน์ กอร์เดอร์, สายพิณ ศุพุทธมงคล แปล, โลกของโซฟี , โครงการจัดพิมพ์คบไฟ เพื่อดูภาพยนตร์เรื่องนี้ เข้า google หรือ youtube แล้วพิมพ์ Sophie’s world. ปรัชญา. Philo แปลว่าความรัก Sophia แปลว่าความปราดเปรื่อง

lela
Download Presentation

ปรัชญา

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ปรัชญาเบื้องต้นอ้างอิง: กีรติ บุญเจือ, ชุดปรัชญาและศาสนาเซนต์จอห์น เล่มห้าโยสไตน์ กอร์เดอร์, สายพิณ ศุพุทธมงคล แปล, โลกของโซฟี, โครงการจัดพิมพ์คบไฟ เพื่อดูภาพยนตร์เรื่องนี้ เข้าgoogleหรือ youtubeแล้วพิมพ์ Sophie’s world

  2. ปรัชญา • Philo แปลว่าความรัก • Sophia แปลว่าความปราดเปรื่อง • Philosophy แปลว่าความอยากรู้ อยากเรียน อยากฉลาด • ชญา แปลว่า รู้ เข้าใจ • ปร + ชญา แปลว่าความรอบรู้ • เรียนปรัชญาเพื่อให้รู้ปัญหาที่ยังแก้ไม่ตก • จงยกปัญหาที่ยังแก้ไม่ตก

  3. เนื้อหาของวิชาปรัชญา • อภิปรัชญา (metaphysics) พยายามค้นคว้าว่าความเป็นจริงคืออะไร • ญาณวิทยา (epistemology) พยายามตอบคำถามว่าเรารู้ความเป็นจริงได้อย่างไร • ตรรกวิทยา (logic) ช่วยให้รู้กฎเกณฑ์ของความคิด เพื่อนำไปคิดปัญหาปรัชญา • จริยศาสตร์ (ethics) คือวิชาว่าด้วยความประพฤติ พยายามตอบคำถามว่าความดีคืออะไร

  4. กระบวนทัศน์ • กระบวนทัศน์ (paradign) แปลว่า ชุดของทฤษฎี ชุดของแนวคิด ค่านิยมการรับรู้และการปฏิบัติ ที่คนกลุ่มหนึ่ง ในยุคสมัยหนึ่งมีร่วมกัน และได้ก่อตัวเป็นแบบแผนความคิดเกี่ยวกับความเป็นจริงของคนกลุ่มนั้น • ประวัติความคิดเชิงปรัชญาของมนุษย์ อาจสรุปได้เป็นกระบวนทัศน์ความคิดของมนุษย์

  5. 5กระบวนทัศน์ความคิดของมนุษย์5กระบวนทัศน์ความคิดของมนุษย์ 1. กระบวนทัศน์ดึกดำบรรพ์ มองว่าโลกไม่มีกฎ และอะไรก็ไม่มีกฎ ทุกอย่างเป็นไปตามน้ำพระทัยของเบื้องบน แต่น้ำพระทัยของเบื้องบนเองก็ไม่มีกฎ ผู้ถือกระบวนทัศน์แบบนี้หากมีคัมภีร์อ่านก็คงตีความตามตัวอักษร เฉพาะประโยค และเฉพาะตอน ซึ่งเบื้องบนอาจจะเปลี่ยนแปลงข้อความในคัมภีร์ได้ตามน้ำพระทัย ความหมายขัดแย้งไม่ถือว่าสำคัญสำหรับมนุษย์ดึกดำบรรพ์ เพราะมนุษย์ดึกดำบรรพ์จะเพ่งเล็งเฉพาะหน้าเท่านั้น ข้อความบางข้อความอาจจะมีมนต์ขลัง เป็นคาถาอาคมเฉพาะหน้าจนกว่าจะเสื่อมมนต์ขลัง ถ้าไม่มีคัมภีร์ก็ถือเรื่องผี หรือจิตวิญญาณ

  6. 5กระบวนทัศน์ความคิดของมนุษย์5กระบวนทัศน์ความคิดของมนุษย์ 2. กระบวนทัศน์โบราณ มองว่าเอกภพมีกฎตายตัว กฎทุกกฎของเอกภพเป็นกฎนิรันดร จึงตายตัว แต่ยังไม่รู้วิธีการวิทยาศาสตร์ จึงไม่มีใครกล้ายืนยันว่า ใคร ๆ ก็สามารถเข้าถึงกฎของเอกภพได้ด้วยตนเอง ในช่วงนี้จึงมีเจ้าสำนักเกิดขึ้นราวกับดอกเห็ด ใครอยากได้ความจริงต้องยึดเจ้าสำนักที่ตนพอใจเป็นหลัก และหันหลังให้เจ้าสำนักอื่น ๆ ทั้งหมดผู้ถือกระบวนทัศน์แบบนี้ หากมีคัมภีร์ให้ตีความ ก็จะยึดหลักการตีความของเจ้าสำนักเป็นหลัก และปฏิเสธการตีความของสำนักอื่นทั้งหมด ใครเป็นศิษย์หลายสำนักถือว่าเลวมาก ถูกตำหนิว่าเหยียบเรือสองแคม ชายหลายโบสถ์ คบไม่ได้

  7. 5กระบวนทัศน์ความคิดของมนุษย์5กระบวนทัศน์ความคิดของมนุษย์ 3. กระบวนทัศน์ยุคกลาง มองว่าเอกภพมีกฎตายตัวก็จริง แต่ให้เพียงความสุขเจือความทุกข์ จึงเชื่อตามศาสดาที่ยืนยันว่า ความสุขในโลกหน้าเท่านั้นที่เที่ยงแท้ถาวร และยินดีทำทุกอย่างเพื่อได้ความสุขในโลกหน้าตามที่ศาสดาสอนผู้ถือกระบวนทัศน์แบบนี้ หากมีคัมภีร์ให้ตีความ ก็จะตีความให้เข้าล็อคดังกล่าว มิฉะนั้นก็ไม่สนใจ และถือว่าเป็นประเด็นย่อยส่งเสริมประเด็นหลัก ถ้ามองไม่เห็นก็ทิ้งไว้ก่อนจนกว่าจะเห็น

  8. 5กระบวนทัศน์ความคิดของมนุษย์5กระบวนทัศน์ความคิดของมนุษย์ 4. กระบวนทัศน์นวยุค มองว่าเอกภพมีกฎประสานกันเป็นระบบเครือข่ายที่รู้ได้ด้วยวิธีการวิทยาศาสตร์และเหตุผลผู้ถือกระบวนทัศน์แบบนี้ หากมีคัมภีร์ต้องตีความ ก็จะตีความให้สอดคล้องกับการค้นพบของนักวิทยาศาสตร์ เป็นส่วนหนึ่งของระบบเครือข่ายของความจริง หากเรื่องใดตีความให้สอดคล้องกับวิทยาศาสตร์ไม่ได้จริง ๆ ก็จะอธิบายว่าเป็นเรื่องที่พระเจ้าแทรกไว้ในคัมภีร์เพื่อทดลองความเชื่อ ความวางใจ และความรักของผู้มีศรัทธาในพระองค์ เพื่อเป็นมาตรการคัดสรรมิให้ผู้ขึ้นสวรรค์มีมากนัก

  9. 5กระบวนทัศน์ความคิดของมนุษย์5กระบวนทัศน์ความคิดของมนุษย์ 5. กระบวนทัศน์หลังนวยุค มองว่าเอกภพมีกฎเป็นระบบเครือข่ายที่ประกอบด้วยปมข่าย ใยข่าย และตาข่าย - ปมข่าย (netpoint) รู้ได้ด้วยวิธีการวิทยาศาสตร์ - ใยข่าย (netline) รู้ได้ด้วยกฎตรรกะและกฎคณิตศาสตร์ - ตาข่าย (neteye) รู้ได้ด้วยการหยั่งรู้ เพ่งฌาณ หรือวิวรณ์(revelation)ผู้ถือกระบวนทัศน์นี้ หากมีคัมภีร์ต้องตีความ ก็มีแนวโน้มที่จะตีความแบบพหุนิยม (pluralism) ไม่ยึดมั่นถือมั่น ไม่สนใจเจตนาของผู้เขียนเท่ากับเจตนาขององค์การศาสนาที่เลือกเอาตัวบทนั้นมาเป็นคัมภีร์ของตน และตนเองก็มีหน้าที่เข้าใจและตีความให้ได้คุณภาพชีวิตสูงสุดตามเป้าหมายของศาสนาโดยรวม คือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างดีที่สุด อีกทั้งยึดถือนโยบาย Reread all, Reject none

  10. กระบวนทัศน์ทับซ้อน • ความคิดของสังคมไทยประกอบไปด้วย กระบวนทัศน์ซึ่งผสมผสานกันบ้าง ขัดแย้งกันบ้าง กล่าวคือมีกระบวนทัศน์ดึกดำบรรพ์ที่ถือผีถือโชคลาง กระบวนทัศน์ที่เชื่อว่ามีกฎเกณฑ์ทางโลก และที่เชื่อในกฎเกณฑ์ทางธรรม กระบวนทัศน์วิทยาศาสตร์ และกระบวนทัศน์พหุนิยมตามหลักกาลามสูตรก็ปนเปกันไป • ความไม่ลงตัวเท่าที่ควรทางกระบวนทัศน์ทำให้สังคมไทยเป็นสังคมหลวม ๆ หลายมาตรฐาน • ความขัดแย้งในเรื่องความคิดความเชื่อ ทำให้ระบบการเมืองการปกครองขาดเสถียรภาพ สังคมขาดสันติธรรม

  11. คำถามมูลฐาน • ทุกอย่างที่มีอยู่ต้องมีจุดเริ่มต้นหรือไม่ • โลกมาจากไหน • พระเจ้ามีจริงไหม • มนุษย์คืออะไร • เราคือใคร เกิดมาทำไม มีอะไรเป็นเป้าหมายหรือไม่ • มีชีวิตหลังความตายหรือไม่

  12. ตำนานทวยเทพ • อะไรคือความหมายของตำนานทวยเทพ • ตำนานทวยเทพอิงปรากฏการณ์ธรรมชาติหรืออิงจินตนาการของมนุษย์ • การเชื่อตำนานเป็นเพราะมนุษย์ในบุพกาลเชื่อว่าทวยเทพจัดระเบียบโลก หรือเชื่อว่าโลกไร้ระเบียบ (คล้ายกลีภพ) • ทำไมมนูษย์ในบุพกาลจึงประกอบพิธีกรรมโดยอิงตำนาน • ถ้าไม่พึ่งพิงตำนาน จะใช้อะไรดีในการอธิบายกระบวนการธรรมชาติ

  13. นักปรัชญาธรรมชาติ • ถ้าสรรพสิ่งไม่อาจเกิดจากความว่างเปล่า บางอย่างเปลี่ยนจากธาตุมาเป็นสิ่งมีชีวิตได้อย่างไร • อะไรคือปฐมธาตุที่เป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่ง • ไม่มีอะไรที่สามารถเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ หรือทุกอย่างเลื่อนไหลเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา • จริงหรือที่ทุกอย่างมีอยู่ในส่วนเล็ก ๆ ทุกส่วน • จริงหรือที่ธรรมชาติประกอบด้วยอะตอมนานาชนิด ที่คงอยู่ตลอดไปและไม่อาจแยกย่อยลงไปได้อีก

  14. นักปรัชญาเหตุผลนิยมรุ่นแรกนักปรัชญาเหตุผลนิยมรุ่นแรก • มโนธรรมที่คอยบอกว่าอะไรคือสิ่งถูกมีจริงไหม • จริงหรือไม่ว่าผู้ที่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ดีย่อมทำในสิ่งที่ดี • อะไรคือความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่เที่ยงแท้ไม่เปลี่ยนแปลงกับสิ่งที่เลื่อนไหล • ความจริง ความงาม ความดีที่เที่ยงแท้มีอยู่ไหม • รูปแบบที่เที่ยงแท้มีอยู่ไหม

  15. รัฐของเพลโต รัฐที่ดีขึ้นอยู่กับการปกครองด้วยเหตุผล รัฐดีรองลงมาปกครองด้วยกฎหมาย

  16. คำถามของอริสโตเติล • อะไรมาก่อน ไก่ หรือรูปแบบของไก่ • ต้นไม้ สัตว์ และคนแตกต่างกันอย่างไร • ทำไมฝนจึงตก • ทำอย่างไรจึงจะมีชีวิตที่ดี

  17. Causa Efficiens-Materialis-Formalis-Finalis and War & Peace

  18. Causa Efficiens-Materialis-Formalis-Finalis and War & Peace

  19. Causa Efficiens-Materialis-Formalis-Finalis and War & Peace

  20. สองวัฒนธรรม • ยุโรปมีสองวัฒนธรรมคือ - วัฒนธรรมอินโด-ยูโรป (เน้นการมอง) - วัฒนธรรมเซไมต์ (เน้นการฟัง)

  21. สามวัฒนธรรม • ในยุคกลาง อาณาจักรโรมันค่อย ๆ แตกออกเป็นสามวัฒนธรรม - วัฒนธรรมคริสต์แบบลาติน มีโรมเป็นศูนย์กลาง - วัฒนธรรมคริสต์แบบกรีก มีไบแซนติอุมเป็นศูนย์กลาง - วัฒนธรรมมุสลิม/อาหรับ ในแอฟริกาเหนือและเอเซียตะวันออกกลาง

  22. นักบุญออกัสติน/นักบุญอไควนัสนักบุญออกัสติน/นักบุญอไควนัส • เวลาพระเจ้าสร้างโลก พระองค์มี “รูปแบบ” อยู่ในใจหรือไม่ • พระเจ้าตัดสินใจได้อย่างไรว่า มนุษย์คนไหนควรรอดพ้นจากนรก • ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า มนุษย์จะมีเจตจำนงเสรีได้อย่างไร • จริงหรือที่ประวัติศาสตร์คือการต่อสู้ระหว่าง “อาณาจักรของพระเจ้า” และ “อาณาจักรทางโลก” และพระเจ้ากำหนดประวัติศาสตร์ของมนุษย์ไว้หมดแล้ว • จริงหรือที่หลักศรัทธาในศาสนาไม่ขัดกับหลักเหตุผล

  23. ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ • วัฒนธรรมอะไรช่วยทำให้เกิดการฟื้นฟูศิลปวิทยาการ • อะไรคือสิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยให้สังคมยุโรปออกจากยุคกลาง • ตลอดยุคกลางจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งคือพระเจ้า จุดเริ่มต้นเปลี่ยนมาเป็นอะไรในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ • ท่านคิดอย่างไรเกี่ยวกับคำกล่าวที่ว่า “วัดทุกอย่างที่วัดได้ และทำทุกอย่างที่วัดไม่ได้ให้วัดได้”

  24. ยุคเหตุผลในฝรั่งเศส: เดส์การ์ต • ท่านคิดอย่างไรกับคำกล่าวที่ว่า “ฉันคิด ดังนั้นฉันจึงมีอยู่” (หลักญาณทัสนะ) • ควรหรือไม่ที่จะแยกปัญหาเป็นหลายส่วนเพื่อให้ง่ายต่อการเฉลย (หลักการวิเคราะห์) • ควรหรือไม่ที่จะจัดระบบความคิดเริ่มจากง่ายไปหาความซับซ้อน (หลักนิรนัย) • ควรหรือไม่ที่จะทบทวนทุกสิ่งให้ครบถ้วน เพื่อให้ได้ภาพรวม (หลักการสังเคราะห์)

  25. ยุคประจักษ์นิยมในอังกฤษยุคประจักษ์นิยมในอังกฤษ • จริงหรือที่ว่า “ไม่มีอะไรในจิตของเรา นอกจากสิ่งที่เรารับรู้ผ่านประสาทสัมผัส” • เราสามารถเชื่อถือสิ่งที่ประสาทสัมผัสบอกเราได้หรือไม่ • จริงหรือที่เราชอบสร้างมโนภาพเชิงซ้อนซึ่งไม่มีความเชื่อมโยงกับวัตถุในโลกที่เป็นจริง • จริงหรือที่ไม่มี “ฉัน” หรือตัวตนที่ถาวรไม่เปลี่ยนแปลง

  26. ยุคภูมิปัญญาของฝรั่งเศสยุคภูมิปัญญาของฝรั่งเศส • การคัดค้านอำนาจที่ครอบงำอยู่ • เหตุผลนิยม • ขบวนการในยุคภูมิปัญญา (สารานุกรม) • การมองโลกในแง่ดีทางวัฒนธรรม (การพัฒนานำไปสู่สิ่งที่ดี) • การหวนคืนสู่ธรรมชาติ (มนุษย์ดีงามอยู่แล้ว) • ศาสนาธรรมชาติ (เทวัสนิยมหรือ deism) • สิทธิมนุษยชน

  27. คานต์ • “ประสาทสัมผัส” หรือ “เหตุผล” มีบทบาทสำคัญต่อการรับรู้เกี่ยวกับโลกของเราเพียงใด • การใช้เหตุผลจะบอกเราว่าพระเจ้ามีอยู่จริงได้หรือไม่ • การมีอยู่ของพระเจ้า และเจตจำนงเสรี มี “มูลบท” (สมมุติฐานที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้) ซึ่งสมเหตุสมผลในทางปฏิบัติหรือไม่ • สมมุติฐานว่าพระเจ้ามีอยู่เป็นความจำเป็นทางศีลธรรมหรือไม่ • กฎทางศีลธรรมต้องตายตัวและเป็นกฎสากลหรือไม่

  28. เฮเกล • ความคิดใดความคิดหนึ่งถูกตลอดกาล หรือถูก ณ จุดที่เรายืนอยู่ • ท่านคิดว่าความก้าวหน้าทางความคิดเกิดแบบวิภาษวิธี โดยมีสามขั้นตอนคือ ภาวะพื้นฐาน ภาวะแย้ง ภาวะสังเคราะห์ หรือไม่ • ท่านเชื่อไหมว่าประวัติศาสตร์จะตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิด สิ่งที่ถูกต้องจะอยู่รอดได้

  29. คีรเกกอรด์ • ท่านคิดอย่างไรกับคำกล่าวที่ว่า “เรารับรู้การมีอยู่ของเรา เมื่อเราลงมือกระทำ หรือเมื่อเราตัดสินใจครั้งสำคัญ ๆ “ และ “ความจริงขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล” • คีรเกกอร์ดคิดว่าคนเรามีชีวิตในสามรูปแบบ คือขั้นสุนทรียะ ขั้นจริยะ และขั้นศาสนา • ส่วนจะใช้ชีวิตอย่างไรขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเรา

  30. ชีวิตมีสารัตถะไหม • สารัตถะ (essence) มีอยู่จริงหรือ หรือว่ามีแต่การมีอยู่ของชีวิต (existence) • มนุษย์ต้องสร้างสารัตถะของเขา เพราะสิ่งนี้ไม่ได้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าจริงหรือ • จริงหรือที่มนุษย์รู้สึกแปลกแยกในโลกที่ปราศจากความหมาย • จริงหรือที่มนุษยถูกสาปให้มีเสรีภาพ • จริงหรือที่กลุ่มสังคมจะสร้างวาทกรรมเพื่อกำหนดสิ่งที่ตนรับรู้ว่าสำคัญให้แก่คนอื่น โดยหวังให้เป็นกระบวนทัศน์ครอบงำ • จริงหรือว่า เพื่อให้หลุดพ้นจากการครอบงำ เราจึงต้องรื้อและประกอบสร้างความคิด ความเชื่ออย่างรู้เท่าทันใหม่ตลอดเวลา

More Related