1 / 70

การสังเคราะห์ด้วยแสง

การสังเคราะห์ด้วยแสง. การสังเคราะห์ด้วยแสง. CO 2 +H 2 O C 6 H 12 O 6 + O 2. การหายใจระดับเซลล์. การสังเคราะห์ด้วยแสง โครงสร้างที่ใช้ใน การสังเคราะห์ด้วยแสง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง. - ปฏิกิริยาใช้แสง (Light reaction) - ปฏิกิริยามืด ( Dark reaction ). โครงสร้างที่ใช้ใน

leal
Download Presentation

การสังเคราะห์ด้วยแสง

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การสังเคราะห์ด้วยแสง

  2. การสังเคราะห์ด้วยแสง CO2 +H2O C6H12O6+ O2 การหายใจระดับเซลล์

  3. การสังเคราะห์ด้วยแสง โครงสร้างที่ใช้ใน การสังเคราะห์ด้วยแสง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง - ปฏิกิริยาใช้แสง (Light reaction) - ปฏิกิริยามืด (Dark reaction)

  4. โครงสร้างที่ใช้ใน การสังเคราะห์ด้วยแสง

  5. Epidermis Mesophyll Vascular bundle

  6. H2O CO2 LIGHT NADP+ ADP CALVIN CYCLE LIGHT REACTOR ATP NADPH STROMA (Low H+ concentration) O2 [CH2O] (sugar) Cytochrome complex Photosystem II Photosystem I NADP+ reductase Light 2 H+ 3 NADP+ + 2H+ Fd NADPH + H+ Pq Pc 2 H2O 1⁄2 O2 THYLAKOID SPACE (High H+ concentration) 1 2 H+ +2 H+ To Calvin cycle ATP synthase Thylakoid membrane STROMA (Low H+ concentration) ADP ATP P H+ Let’s go to

  7. Different pigments absorb light differently

  8. Different pigments absorb light differently

  9. ตารางแสดงรงควัตถุที่ใช้ในกระบวนการตารางแสดงรงควัตถุที่ใช้ในกระบวนการ สังเคราะห์ด้วยแสงในสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ

  10. อิเล็กตรอนที่มีพลังงานสูงขึ้นอิเล็กตรอนที่มีพลังงานสูงขึ้น ปล่อยพลังงานออกไป รับพลังงานเข้ามา อิเล็กตรอนที่มีพลังงานลดลง นิวเคลียสของอะตอม

  11. ปฏิกิริยาใช้แสง (Light reaction) 1.การถ่ายทอดอิเล็กตรอนแบบไม่เป็นวัฎจักรNon-cyclic e- transfer 2.การถ่ายทอดอิเล็กตรอนแบบเป็นวัฎจักร cyclic e- transfer

  12. พืชได้รับพลังงานแสงและตกกระทบที่รงควัตถุโดยอาจตกกระทบที่ • chlorophyll a ซึ่งเป็น reaction center • กลุ่มรงควัตถุอื่นๆ (antenna complex) แล้วมีการถ่ายทอดพลังงานต่อให้ chl. a ปฏิกิริยาใช้แสง (Light reaction)

  13. ระบบของ Photosynthetic pigment Antenna complex Carotenoids Accessory pigment Chlorophyll b Chlorophyll a Essential pigment e- Reaction center Chlorophyll a

  14. Non-cyclic e- transfer Fd = Ferridoxin Pc = Plastocyanin Pq = Plastoquinone

  15. Fd = Ferridoxin Pc = Plastocyanin Pq = Plastoquinone

  16. Fd = Ferridoxin Pc = Plastocyanin Pq = Plastoquinone

  17. Fd = Ferridoxin Pc = Plastocyanin Pq = Plastoquinone

  18. Fd = Ferridoxin Pc = Plastocyanin Pq = Plastoquinone

  19. Fd = Ferridoxin Pc = Plastocyanin Pq = Plastoquinone

  20. Non-cyclic electron transfer: ได้ ATP, NADPH

  21. Cyclic e- transfer: ได้ ATP Fd = Ferridoxin Pc = Plastocyanin Pq = Plastoquinone

  22. สรุปการสังเคราะห์ด้วยแสงสรุปการสังเคราะห์ด้วยแสง

  23. ปฏิกิริยาการตรึงคาร์บอนไดออกไซด์ปฏิกิริยาการตรึงคาร์บอนไดออกไซด์ การทดลองของเมลวิน คัลวิน(Melvin Calvin) เทอร์โมมิเตอร์ เติม CO2ในรูปของ H14CO3- คลอเรลลา แสง ลิ้นควบคุมการปิดเปิด

  24. เมื่อเวลาผ่านไป 1 นาที ตรวจสารประกอบแล้วพบ 14C ใน สารประกอบหลายชนิดรวมทั้งน้ำตาลกลูโคส (สาร C 3,C5,C6) เช่น (สาร C 3 = PGA ,C5 = RuBP,C6= กลูโคส)

  25. แต่เมื่อให้การสังเคราะห์แสงในระยะเวลาสั้นลง ประมาณ 2 วินาทีตรวจพบ 14C อยู่ในสสาร ประกอบที่มีคาร์บอน 3 อะตอม (PGA)

  26. คัลวินและคณะคิดว่า C C C O O สารประกอบ C 2 + CO2 =จะได้สาร C3 (PGA) แต่จากการทดลองไม่พบสารประกอบ C2 อยู่เลย แต่ พบว่ามีสารประกอบ C5 เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ การสังเคราะห์แสงจะเกิดขึ้นเป็นเวลานาน

  27. ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์จึงได้ตั้งสมมติฐานขึ้นว่า สาร C 5 คงจะรวมกับ CO2ได้สารประกอบชนิด ใหม่ เป็นสาร C6เพราะ RuBP(สาร C5 รวมกับ สาร C 1 (CO2) แต่สารนี้ไม่อยู่ตัวจะสลายต่อให้ สารประกอบ C3 คือ PGA 2 โมเลกุล ดังที่จะได้ศึกษาวัฏจักรของคัลวิน

  28. The step of Calvin cycle • Carbon fixation • Reduction • Regeneration

  29. Ribuosebisphosphate CarboxylaseOxygenase Ribulosebisphosphate 3-Phosphoglyceric acid (3PG) (PGA) • ปฏิกิริยาขั้นที่ 1: • การตรึง CO2(Carbon fixation หรือ Carboxylation)

  30. 3 CO2 P P P P P P P P 3 RuBP 6 PGA P P P P

  31. 1,3-BisPhosphoglyceric acid (BPGA) ปฏิกิริยาขั้นที่ 2: การรีดิวซ์PGA ให้เป็น PGAL(Reduction) Glyceraldehyde3phosphate (G3P)

  32. P P P P P P P P P P P P P P P P P P P P P P P P 6 PGA 5 G3P,PGAL 6 G3P,PGAL 6 BPGA 6 6 P P P Sugar

  33. ปฏิกิริยาขั้นที่ 3: Regenerationการสร้างRuBPขึ้นใหม่

  34. P P P P P P P P P P P 3 RuBP 5 G3P,PGAL

  35. ข้อสังเกตของวัฏจักรคาลวินข้อสังเกตของวัฏจักรคาลวิน 1.โดยปกติวัฏจักรคาลวินจะต้องเกิด 2 รอบจึงจะได้ PGAL 2 โมเลกุลซึ่ง เพียงพอต่อการสร้างกลูโคส (6C) 1 โมเลกุล (เนื่องจากในความเป็นจริง การเกิด 1 รอบจะให้ PGAL อิสระ ออกมา 1 โมเลกุลเท่านั้น)

  36. 2.ในพืชทั่วๆไป สารชนิดแรกที่คงตัวที่ได้จากการตรึง CO2คือ PGA ซึ่งมี 3C จึงเรียกการตรึง CO2แบบนี้ว่า C3-pathwayและเรียกว่าพืช C-3 ซึ่งก็คือพืชใบเลี้ยงคู่และใบเลี้ยงเดี่ยวทั่วๆ ไป (ข้าวสาลี,ถั่วเหลือง)

  37. Photorespiration การตรึง CO2 ของRuBPต้องใช้เอนไซม์ Rubiscoซึ่งอยู่ในสโตรมาของคลอโรพลาสต์ เอนไซม์นี้นอกจากกระตุ้นให้ RuBP ตรึง CO2แล้วยังตรึง O2 ได้ด้วย เมื่อพืช ตรึง O2ด้วย RuBP ซึ่ง RuBPจะถูกสลายเป็นสารประกอบคาร์บอน 2 อะตอม เพราะฉะนั้นการจะสร้าง RuBPจึงเสีย CO2ไปบางส่วน การตรึง O2และคาย CO2ในเวลาที่พืชได้รับแสง จึงเรียกว่า โพโตเรสไพเรชัน(Photorespiration)

  38. Ribuosebisphosphate CarboxylaseOxygenase Ribulosebisphosphate • ปฏิกิริยาขั้นที่ 1: • การตรึง CO2(Carbon fixation หรือ Carboxylation)

  39. 3 O2 P P P P P P P P 3 RuBP ฟอสโฟ ไกลโคลิก PGA P P P P

  40. Photorespiration 2 (PGA) 1 (PGA)

  41. พืชตรึง CO2 ได้สารประกอบ คงตัวชนิดแรกคือ  PGA สาร C3 พืชที่สามารถตรึง CO2 ได้สารประกอบ คงตัวชนิดแรกคือ  OAA สาร C4 จึงเรียกพืชที่มีกระบวนการเช่นนี้ว่า พืช C4

  42. พบ C4 ส่วนใหญ่พืชที่มีดอก และใบเลี้ยงเดี่ยว เช่น ข้าวโพด, อ้อย,ข้าวฟ่าง, บาร์เลย์,บานไม่รู้โรย, หญ้าแพรก,หญ้าแห้วหมู,ผักโขมจีน ไม่พบ C4 ในพวกเมล็ดเปลือย: สนสองใบ สามใบ แป๊ะก๋วยมอส ลิเวอร์เวิร์ตฮอนเวิร์ต และสาหร่ายทุกชนิด

More Related