1 / 26

สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา

สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา. “ Nominally scaled data and THE KAPPA statistic K ” . เสนอ ผศ. อนันท ศิลป์ รุจิเลข. ปริญญาศึกษา ศาสตร มหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา). สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา.

lang
Download Presentation

สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา “Nominally scaled data and THE KAPPA statistic K ” เสนอ ผศ. อนันทศิลป์ รุจิเลข ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  2. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา จากที่ผ่านมาเป็นการอธิบายเกี่ยวกับการวัดความสอดคล้องของการจัดเรียงสิ่งของ หรือ หน่วยที่ต้องการศึกษา (N) โดยกลุ่มของผู้เชี่ยวชาญแต่ละกลุ่ม โดยใช้สถิติ the Kendall coefficient of concordance W, the Kendall coefficient of agreement uและจะพบว่าในบางกรณีสถิติ the Kendall coefficient of agreement จะสามารถเปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ได้อีกด้วย แต่สถิติที่กล่าวมาข้างต้นไม่สามารถอธิบายความแตกต่างเป็นรายคู่ในกรณีที่สิ่งของหรือหน่วยต่างๆที่ต้องการศึกษาถูกจัดเป็นกลุ่มๆ(category) ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่นักจิตวิทยาจำนวน K คน จัดคนไข้ให้ได้รับการรักษาด้วยวิธีที่แตกต่างกัน ซึ่งจัดได้เป็น m วิธี (อยู่ในระดับ nominal scale) ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  3. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา สำหรับสถิติ Kappa statistic ที่จะกล่าวในที่นี้ อธิบายเกี่ยวกับความสอดคล้องระหว่างตัวแปรที่ถูกจัดเป็นหมวดหมู่ ซึ่งแต่ละหน่วยที่วัดจะมีความเหมือนกัน ดังนั้นไม่ว่าจะมีการเปรียบเทียบความคิดเห็นระหว่างผู้เชี่ยวชาญ 2 คน หรือ ผู้เชี่ยวชาญคนเดียวเปรียบเทียบหน่วยที่ต้องการศึกษา 2 สิ่ง จึงให้ผลที่ออกมาคล้ายคลึงกัน และคล้ายกับสถิติที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  4. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา ขั้นตอนและวิธีการ จัดสิ่งของออกเป็นกลุ่มต่างๆ m กลุ่ม (m catagories) แต่ละกลุ่มมีสมาชิก N สิ่ง และตัวแปรที่นำมาใช้จัดเป็นหมวดหมู่อยู่ในระดับ nominal scale สามารถจัดเรียงเข้าสู่ตารางได้ดังนี้ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  5. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา จากตาราง แสดงค่า nij ซึ่งบอกจำนวนครั้งของสิ่งของหรือสิ่งที่สนใจศึกษา ได้รับการจัดเข้าสู่กลุ่มต่างๆ (จำนวน j กลุ่ม)โดยผู้เชี่ยวชาญ (raters) และเมื่อรวมคะแนนตามแถว(row)จะพบว่าได้ค่าเท่ากับ k (จำนวนผู้เชี่ยวชาญ) สิ่งของหรือสิ่งที่สนใจศึกษาจะได้รับการจัดเข้ากลุ่มอย่างหลากหลาย ซึ่งจะแตกต่างกันในแต่ละกลุ่ม กำหนดให้ค่า Cjแสดงจำนวนครั้งที่สิ่งของหรือสิ่งที่สนใจศึกษาถูกจัดเข้ากลุ่มต่างๆ jthตามแนวคอลัมภ์ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  6. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา หากการจัดสิ่งของหรือสิ่งที่สนใจศึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน k คน มีความเหมือนกันทุกหน่วย ผลรวมที่เกิดขึ้นตามแถว(row) จะมีค่าเท่ากับ k และผลรวมจะมีค่าเท่ากับ 0 แต่หากมีความแตกต่างของความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ผมรวมของคะแนนจะเท่ากับผลรวมของคะแนนในแต่ละแถว(row) หารด้วยคะแนนทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่าหากความแตกต่างที่เกิดขึ้นเป็นไปอย่างสุ่ม คะแนนทั้งหมดดังกล่าวจะต้องเป็นคะแนนทั้งหมดที่คาดหวัง(E) The kappa coefficient of agreement แสดงอัตราส่วนของระหว่างความคิดเห็นที่สอดคล้องกันของผู้เชี่ยวชาญ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  7. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา หากผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นสอดคล้องกันมากที่สุดหรือมีการจัดเรียงสิ่งที่ศึกษาได้สอดคล้องกันจะได้ค่า K = 1 และ หากผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกันเลยหรือการจัดเรียงสิ่งที่ศึกษาไม่สอดคล้องกันจะได้ค่า K = 0 ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  8. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา หาค่า P(E) ที่มีความสัมพันธ์กับที่กำหนดไว้กับค่า jthในหมวดที่สัมพันธ์กับ Pj=Cj/Nkถ้าผู้ประเมินทำการกำหนดแบบสุ่ม ความสัมพันธ์ที่หวังไว้ว่าจะยอมรับตามที่ได้กำหนดไว้ควรเป็น p2j และผลที่คาดหวังควรมีค่าเป็น การขยายช่วงการยอมรับ ที่ผู้ประเมิน คำนึงถึงที่สัมพันธ์กับตัวเลขในแต่ละคู่ ที่จะเป็นไปได้ ตามสมการ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  9. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา แทนค่าลงไปในผลรวมของ ความสัมพันธ์ พบว่าค่าเฉลี่ยของความสัมพันธ์ มีอัตราส่วนดังต่อไปนี้ ค่าของ P(E) และ P(A) ที่รวมกันได้ในสมการที่ (9.27) พบว่า มีค่า Kappa ทางสถิติ คือค่า K ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  10. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา ตัวอย่าง 9.8a21 ที่สำรวจโดยนักวิจัย พฤติกรรมสัตว์ ของปลาเพศผู้ stickleback fish ที่มีการเปลี่ยนสี ในระหว่างวัฏจักร ทำรัง และเกี้ยวพาราสี เมื่อปลาอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีทำเลเหมาะสม เมื่อปลาตัวผู้หาพื้นที่มั่นที่จะเป็นที่อาศัยได้แน่นอนแล้ว ก็จะทำรังและเริ่มหาคู่ แสดงพฤติกรรมดุร้ายกับปลาตัวอื่นที่เข้ามาใกล้และพยายามจะเข้ามาอยู่ในสิ่งแวดล้อมใกล้ๆกัน ทำการวิเคราะห์ สีของปลาที่มีความสัมพันธ์กัน ตั้งแต่ปลาเริ่มทำการสำรวจพื้นที่ ภายนอก มีตัวแปรที่สัมพันธ์กับเงื่อนไขต่างๆ , k=4 ผู้ประเมิน ให้ค่าของสีปลาในแต่ละตัว ความสัมพันธ์ของค่าสี แบ่งเป็น m = 5 แบ่งหมวดออกเป็น สีอ่อน และต่อมาเป็นสีหมวดอื่นๆที่พัฒนาขึ้น หมวดสุดท้ายคือ สีที่เข้มที่สุด ที่พัฒนามาจากกระบวนการเกิดสีรวมถึงความหลากหลายของสีอื่นๆ จำนวนปลาในกลุ่ม มี 29 ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  11. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา ข้อมูลแสดงให้เห็นถึง ผลสรุปในตารางที่ 9.15 ผู้ประเมินได้ทำการสรุปออกมาว่า ความสัมพันธ์ด้านสีของปลาตัวที่ 1 มีผลต่อ การแบ่งแยกตัวออกจากปลาตัวที่ 2 ผลในตารางแสดงให้เห็นว่า ในแถวของการแจกแจงลำดับปลาบางตัวมีค่าที่สัมพันธ์กัน แต่ตัวอื่นๆ มีค่าการยอมรับผลการทดลองต่ำ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  12. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา ความสอดคล้องกันของข้อมูล จากผู้ประเมิน ค่า kappa coefficient ของการยอมรับ K สามารถคำนวณหาค่าได้ เราพบว่า Cjคือจำนวนของครั้งที่ปลากระทำต่อค่า jthทำการรวมความถี่ ของในแต่ละคอลัมน์ รวมมาสรุปเป็นแถวในตาราง ในแต่ละข้อมูลนี้ นำมาคำนวณ โดย Nk = (29)(4)=116 เพื่อแทนค่า pjความสัมพันธ์ในการสำรวจให้เป็น j เราพบว่า ค่า p1 = C1/Nk = 42/116 = .362 และทำในข้อมูลอื่นๆอีก ซึ่งทำให้ทราบว่า แถวสุดท้ายของตารางคือ ค่าที่เราสามารถประเมินได้ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  13. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา ค่าของ P(E) เป็นสัดส่วนของข้อตกลงที่เราคาดว่าจะมีโอกาส ต่อไปจะต้องค้นหา P(A)เป็นสัดส่วนของประชากรที่ได้ตกลงกัน วิธีหนึ่งคือ การกำหนดค่าของ สำหรับแต่ละค่าแล้วเฉลี่ยค่าเหล่านี้วิธีการหนึ่งที่จะดำเนินการไปถึง P(A)โดยใช้ทางด้านขวาของสมการใน (9.29) เราจะแสดงให้เห็นถึงวิธีการทั้งสองค่าของ สามารถหาได้จากตารางเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  14. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  15. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา ผู้อ่านต้องทราบว่าค่าของ เป็นตัวชี้วัดของข้อตกลงสำหรับหาลำดับที่ iสามารถหาค่าของP(A): ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  16. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา เราอาจจะใช้ค่าของ P (E)และ P(A)เพื่อหาค่า K ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  17. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา 9.8.2 Testing the Significance of K ( การทดสอบนัยสำคัญของค่า K ) หลังจากการกำหนดค่า kappa statistic K สิ่งหนึ่งมักจะต้องการที่จะตรวจสอบว่าค่าที่สังเกตได้มากกว่าค่าที่คาดหวัง แม้ว่า เราจะลบคำจากสัดส่วนในข้อตกลงการสุ่ม เช่น การแก้ไขเพียงแค่ข้อตกลงที่คาดว่าจะเกิดจากการมีโอกาส แน่นอน ข้อตกลงมีโอกาสไม่คงที่แต่จะแตกต่างกันเกี่ยวกับค่ากลางหรือคาดว่า การกระจายกลุ่มตัวอย่างของ k มีความซับซ้อนสำหรับขนาดเล็กไม่มี N จะพบว่า N มีขนาดใหญ่สำหรับค่า K ขนาดใหญ่ประมาณการกระจายขอบปกติที่มีค่าเฉลี่ย 0 และความแปรปรวน ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  18. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  19. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา 9.8.2 Testing the Significance of K ( การทดสอบนัยสำคัญของค่า K ) หลังจากการกำหนดค่า kappa statistic K สิ่งหนึ่งมักจะต้องการที่จะตรวจสอบว่าค่าที่สังเกตได้มากกว่าค่าที่คาดหวัง แม้ว่า เราจะลบคำจากสัดส่วนในข้อตกลงการสุ่ม เช่น การแก้ไขเพียงแค่ข้อตกลงที่คาดว่าจะเกิดจากการมีโอกาส แน่นอน ข้อตกลงมีโอกาสไม่คงที่แต่จะแตกต่างกันเกี่ยวกับค่ากลางหรือคาดว่า การกระจายกลุ่มตัวอย่างของ k มีความซับซ้อนสำหรับขนาดเล็กไม่มี N จะพบว่า N มีขนาดใหญ่สำหรับค่า K ขนาดใหญ่ประมาณการกระจายขอบปกติที่มีค่าเฉลี่ย 0 และความแปรปรวน ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  20. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา ตัวอย่าง 9.8b จากที่กำหนดตัวอย่างก่อนหน้านี้ พบว่า K = .41 ในการทดสอบ : k = 0 กับ : k > 0 จะต้องหาค่าความแปรปรวนของ K ระดับนัยสำคัญ เรียกว่า N = 29(การจัดลำดับ) m = 5 (ประเภทคะแนน) k=4 ( ผู้ประเมิน )และ P(E) = .288 ข้อมูลอื่นที่จำเป็นมีเพียง โดยใช้ค่าของได้จากตาราง9.15 จะได้ว่า ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  21. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งมีค่า z วิกฤต เท่ากับ 2.32 ดังนั้นนักวิจัยจึงสรุปถึงการยอมรับค่าที่แสดงออกมาที่มีระดับนัยสำคัญทางสถิติ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  22. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา • สรุปวิธีดำเนินการ • สรุปขั้นตอนการดำเนินการ • ค่าทางสถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่า K ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์เป็นที่ยอมรับเพียงเล็กน้อยซึ่งมีผลดังต่อไปนี้ • 1.ให้N ซึ่งเป็นจำนวน แทนเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์(ในแต่ละแถว) และให้ m แทนประเภทต่างๆ (ในแต่ละหลัก) และ k แทนระดับ ซึ่งมีการแสดงผลความถี่ ในลักษณะ N x m ออกมาในตาราง 9.8.1โดยมีการบันทึกความถี่ในแต่ละแถวแต่ละหลักลงในตารางและทำการคำนวณหาผลรวม ค่า k ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  23. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา • 2.สำหรับระดับ j จะพบที่ประเภท(ซึ่งอยู่ในแต่ละแถว) โดยใช้สัญลักษณ์ C ถัดมาจะพบ p ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่กำหนดโดยประเภทของ j โดยทั่วไป จะใช้ E เท่ากับ 9.28 และก็จะพบความน่าจะเป็น P( E ) ที่ระดับของกลุ่มเป้าหมายนั้นด้วย • 3.เมื่อใช้ E เท่ากับ 9.29 ก็จะพบความน่าจะเป็น P( A ) ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยที่ยอมรับได้ • 4.จะพบ K ซึ่งเป็นค่าสัมประสิทธิ์ที่ยอมรับโดยคำนวณจากค่า P( E ) และ P( A ) ใน E ซึ่งมีค่าเท่ากับ 9.27 • 5.ในที่สุดการทดสอบสมมติฐาน H : K = 0 และ H : > 0, พบความแตกต่างK ที่ E เท่ากับ 9.30 และพบความสอดคล้องของค่า z ที่ E เท่ากับ 9.31 และถ้าค่า z มีค่ามากเกินไปไม่อยู่ในช่วงที่เหมาะสมของค่าวิกฤต ค่าz จากในตาราง A ก็จะปฏิเสธ H ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  24. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา การบอกเล่าถึงค่า K ที่มีการบันทึกไว้จากบุคคลต่างๆมากมาย แต่ก่อนนั้นมีการนำเสนอค่าทางสถิติมากมายให้เป็นที่ยอมรับในระดับมาตราส่วนที่ยอมรับได้ ในเอกสารอ้างอิง ค่า K (แค๊ปปา) ก็เป็นค่าทางสถิติที่น่าสนใจค่าหนึ่งซึ่งมีต้นกำเนิดพื้นฐานมาจาก สก๊อต (1955 ) และโกเฮ็น(1960 ) ที่คิดค้นขึ้นมา และมีการพัฒนาโดยโกเฮ็น ซึ่งเขาได้รับแรงกระตุ้นจากบุคคลทั่วไปให้เขาเป็นคนพัฒนากับค่าทางสถิตินี้ ค่า K เป็นค่าทางสถิติอยู่ในระดับทั่วๆไป ต่อมาโกเฮ็นได้ปรึกษาหารือกับFleiss (1971) ในการจัดอันดับของค่าK ใหม่ว่าจะทำอย่างไร ให้เป็นที่ยอมรับอย่างแท้จริงโดยมิได้มีการยอมรับโดยบังเอิญ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  25. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา Scott และ Fleiss ยังตั้งสมมติฐานว่า p มีอันดับเหมือนกับอันดับอื่นๆด้วย มีความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้นเฉพาะในระดับชั้นนั้นๆและมีไม่มีความแตกต่างกับระดับชั้นอื่นๆแม้ว่านักวิจัยจะทำการทดสอบภายใต้สมมติฐานแล้วก็ตามก็ไม่มีผลของความแตกต่างดังนั้นเราควรตั้งวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายอื่นๆในการทดสอบสมมติฐานเพื่อให้เกิดความแตกต่างบ้าง Fleiss ได้ให้ข้อเสนอว่าการจัดอันดับควรมีการกำหนดอันดับไว้ให้ชัดเจน(p ) ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

  26. สถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษาสถิตินอนพาราเมตริกสำหรับงานวิจัยทางการศึกษา เอกสารอ้างอิง เอกสารอ้างอิงพื้นฐานของการกล่าวถึง ค่าสถิตินี้ (K ) ซึ่งเป็นเนื้อหาที่บอกถึงอันดับ ซึ่งมีบุคคลทั้ง 3 ท่านที่ได้กล่าวถึงค่า K เอาไว้ซึ่งประกอบด้วย Scott (1955) Cohen ( 1960 ) , และ Fleiss (1971) และในปี(1968) Cohen ได้กล่าวถึงเนื้อหาเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆที่จะจัดเป็นระดับ ชั้น และประเภทโดยการจัดดูได้จากหน้าที่หรือวัตถุประสงค์เป็นสำคัญและการจัด ระดับ ชั้น และประเภท โดยทั่วไปจะพบในรายงานของ Fleiss (1971) ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิจัยและประเมินทางการศึกษา)

More Related