1 / 46

ทำอย่างไรห่างไกลไตวาย ในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง และการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการบำบัดทดแทนไต

ทำอย่างไรห่างไกลไตวาย ในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง และการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการบำบัดทดแทนไต. รุ่งรักษ์ ภิรมย์ลาภ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ 22 สิงหาคม 2554. การดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังแต่ละระยะ การดูแลผู้ป่วยเพื่อชะลอไตเสื่อม

Download Presentation

ทำอย่างไรห่างไกลไตวาย ในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง และการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการบำบัดทดแทนไต

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ทำอย่างไรห่างไกลไตวายในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงและการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการบำบัดทดแทนไตทำอย่างไรห่างไกลไตวายในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงและการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการบำบัดทดแทนไต รุ่งรักษ์ ภิรมย์ลาภ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ22 สิงหาคม2554

  2. การดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังแต่ละระยะการดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังแต่ละระยะ การดูแลผู้ป่วยเพื่อชะลอไตเสื่อม การเตรียมผู้ป่วยเข้ารักษาด้วย RRT ยา โภชนบำบัดและปรับวิถีชีวิต การดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องจากโรงพยาบาลและที่บ้าน บทบาทพยาบาล

  3. การประเมินการทำงานของไตการประเมินการทำงานของไต • ผู้ป่วยที่มี GFR< 90 มล./นาที/1.73 ตรม. ถือว่า “เริ่มมีไตเสื่อม” (CKD ระยะที่ 2) • ผู้ป่วยที่มี GFR<60 มล./นาที/1.73 ตรม.หรือมี serum Creatinine >1.4 มก./ดล.ในผู้ป่วยทั่วไป >1.2 มก./ดล.ในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ถือว่า “มีไตเสื่อมชัดเจน” (CKD ระยะที่ 3)

  4. แหล่งข้อมูล การคำนวณค่าอัตราการกรองของไต(ทางอินเตอร์เนต) • Nephromaticintellignet renal caluculators • พิมพ์MDRDในgoogleใส่อายุ เพศ เชื้อชาติ ค่าครีตินีน จะได้ค่าGFR

  5. การคำนวณค่า GFRจาก MDRD Equation GFR (ml/min/1.73 m2) = 186 × (cr)-1.154 × (age)-0.203(0.742 if women) × (1.210 if African-American) www.themegallery.com

  6. Website คำนวณค่า GFR

  7. การแบ่งระยะโรคไตเรื้อรังการแบ่งระยะโรคไตเรื้อรัง

  8. ระยะของโรคไตเรื้อรัง ไตถูกทำลาย อัตราการกรองของไตปกติ หรือเพิ่มขึ้น GFR > 90 1 ไตถูกทำลาย อัตราการกรองของไตลดลง เล็กน้อย 60-90 2 ไตถูกทำลาย อัตราการกรองของไตลดลงปานกลาง 3 30-60 ไตถูกทำลาย อัตราการกรองของไตลดลงมาก 4 15-30 ไตวายระยะสุดท้าย (ESRD) < 15 5 www.themegallery.com

  9. การปรึกษาและส่งผู้ป่วยพบแพทย์โรคไต เมื่อ • ผู้ป่วยมี Serum Creatinine >2 มก./ดลหรือ • ผู้ป่วยมีภาวะที่แพทย์ไม่สามารถตรวจวินิจฉัยหรือรักษาได้เอง • หรืออาการของผู้ป่วยไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อไม่สามารถชะลอการเสื่อมของไตได้ • ข้อแนะนำสากลให้ส่งเมื่อ GFR<30 มล./นาที/1.73 ตรม. แต่ประเทศไทยมีแพทย์จำกัด จึงใช้ค่าแตกต่างกัน • โรงพยาบาลสกลนครใช้เกณฑ์ Serum Creatinine>4 มก./ดลหรือเมื่อ GFR<15 มล./นาที/1.73 ตรม. มีข้อจำกัดเช่นกัน

  10. การให้ความรู้และคำแนะนำแก่ผู้ป่วยและครอบครัวการให้ความรู้และคำแนะนำแก่ผู้ป่วยและครอบครัว • ตั้งแต่เริ่มพบว่าเป็นโรคไตเรื้อรัง ควรได้รับคำแนะนำต่อเนื่องเป็นระยะ • ควรได้รับความรู้ครอบคลุมโรคที่ผู้ป่วยเป็นอยู่ การดำเนินของโรคไตเรื้อรัง การดูแลตนเองแบบบูรณาการทั้งร่างกายและจิตใจ • ควรแจ้งเรื่องทางเลือกในการบำบัดทดแทนไต ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้เข้าใจ และเตรียมตัวเตรียมใจ และดูแลตนเองอย่างบูรณาการ

  11. หลักและเป้าหมายของการดูแลทั่วไปเพื่อชะลอการเสื่อมของไตหลักและเป้าหมายของการดูแลทั่วไปเพื่อชะลอการเสื่อมของไต ผู้ป่วยควรได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสม ประกอบด้วยการดูแลรักษา และควบคุม...... • โรคพื้นฐานของผู้ป่วย เช่น เบาหวาน นิ่ว เป็นต้น • ความดันโลหิต • ปรับการรับประทานอาหาร (โปรตีน ไขมัน โซเดียม โปแทสเซียม ฟอสเฟต ฯลฯ) • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ และงดบุหรี่ • การปรับวิถีชีวิต เช่น ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก ลดความเครียด

  12. ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาโดยมีเป้าหมายของการรักษา ดังนี้ • ให้ผู้ป่วยมีอาการและอาการแสดงจากโรคต้นเหตุ ภาวะแทรกซ้อนและให้มีอัตราการเสื่อมของไตน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ • ระดับเกลือแร่และภาวะกรดด่างในเลือดให้อยู่ในพิสัยปกติทั้งนี้เป็นการดูแลภาวะแทรกซ้อนจากภาวะไตเสื่อมด้วยการ 1. ควบคุมรับประทานเกลือ 2. การจำกัดปริมาณน้ำดื่ม 3. การจำกัดอาหารที่มีโปแตสเซียม

  13. ผู้ป่วยควรได้รับการดูแลผู้ป่วยควรได้รับการดูแล • Serum Calcium และ Phosphate ให้อยู่ในพิสัยปกติ • Serum albumin ไม่ต่ำกว่า 3.5 กรัม/ดล. (โดยไม่มีภาวะทุโภชนาการ) • Serum uric acid ไม่มีระดับตัวเลขเป้าหมายที่เหมาะสมแต่ผู้ป่วยไม่ควรมีอาการใด ๆ • Hematocritไม่ต่ำกว่าร้อยละ 33-36 หรือ Hemoglobin ไม่ต่ำกว่า 11-12 กรัม/ดล.

  14. คำแนะนำผู้ป่วยและครอบครัวเตรียมตัวเพื่อการบำบัดทดแทนไตคำแนะนำผู้ป่วยและครอบครัวเตรียมตัวเพื่อการบำบัดทดแทนไต เมื่อเริ่มเข้าสู่โรคไตเรื้อรังระยะ 4 ที่แสดงอาการของยูรีเมียแล้ว • การเลือกวิธีการรักษาทดแทนไตที่เหมาะสม • การเตรียมหลอดเลือดสำหรับการฟอกเลือด หรือเตรียมเพื่อการการล้างของเสียทางช่องท้องแบบถาวร • การดูแลตนเองก่อนและระหว่างการรักษาทดแทนไต ผู้ป่วยที่เริ่มรักษาบำบัดทดแทนไต ควรอยู่ในความดูแลหรือร่วมดูแลของแพทย์โรคไต

  15. การดูแลผู้ป่วยโรคไตจากเบาหวาน เพื่อชะลอการเสื่อมของไต 1. การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด : มีเป้าหมายดังนี้ - FBS 90-130 มก./ดล. - HbA,C<7.0% • ในผู้ป่วยที่ควบคุมน้ำตาลได้ดีควรตรวจ HbA,Cอย่างน้อย ทุก 6 เดือน • ในผู้ป่วยที่ควบคุมน้ำตาลได้ไม่ดีควรตรวจ HbA,Cอย่างน้อยทุก 3 เดือน ยาที่ใช้ควรเป็น Insulin เพราะยากินมักจะขับออกทางไต

  16. การดูแลผู้ป่วยโรคไตจากเบาหวาน เพื่อชะลอการเสื่อมของไต (ต่อ) 2. การควบคุมความดันโลหิตในผู้ป่วยเบาหวาน BP<130/80 mmHg BP=110-129/65-79 mmHg (ผู้ป่วยตั้งครรภ์) 3. การควบคุมความดันโลหิต BP>140/90 mmHg ต้องได้รับการปรับวิถีชีวิตร่วมกับรับประทานยาลดความดันโลหิต

  17. การดูแลผู้ป่วยโรคไตจากเบาหวาน เพื่อชะลอการเสื่อมของไต (ต่อ) 4. ผู้ป่วยที่มี BP 130-139/80-90 mmHg ควรได้รับการปรับวิถีชีวิตก่อน หลังจากนั้นอีก 3 เดือน ถ้าพบว่าความดันโลหิตไม่ลดตามเป้าหมาย ควรได้รับยาลดความดันโลหิต เพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย 5. ผู้ป่วยสูงอายุควรลดความดันโลหิตลงช้า ๆ จนถึงเป้าหมาย

  18. ผู้ป่วยเบาหวานที่สามารถลดความดันผู้ป่วยเบาหวานที่สามารถลดความดัน โลหิตได้ตามเป้าหมาย (<130/80 mmHg) สามารถลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ หลอดเลือดสมองและโรคไตจากเบาหวาน

  19. การให้คำแนะนำปรึกษา (counseling) ปัญหา ความรู้ ข้อมูล ผู้ให้คำแนะนำปรึกษา ผู้รับคำปรึกษา สามารถใช้ศักยภาพและความสามารถของตนเอง สามารถแก้ปัญหาและพัฒนาตนเอง

  20. ผู้รับคำปรึกษา = ผู้ป่วยและญาติ

  21. ผู้ป่วยคือผู้ที่เผชิญปัญหาอันเนื่องมาจากความเจ็บป่วยทั้งร่างกายและจิตใจ ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติงานประจำวันได้ตามปกติและส่งผลกระทบต่อบุคคลใกล้ชิด

  22. ผู้ป่วยประกอบด้วย ร่างกายและจิตใจเป็นส่วนหนึ่งของสังคม

  23. สังคม • ครอบครัว • โรงเรียน, เพื่อนร่วมงาน • วัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อ • เศรษฐกิจ • การเมือง

  24. การเตรียมเพื่อการให้คำปรึกษาการเตรียมเพื่อการให้คำปรึกษา • เตรียมความพร้อมของผู้ให้คำปรึกษา • เตรียมสถานที่และสิ่งแวดล้อม • เตรียมแบบฟอร์มเอกสารและสื่อการสอน

  25. การเตรียมความพร้อมของผู้ให้คำปรึกษาการเตรียมความพร้อมของผู้ให้คำปรึกษา • ลักษณะท่าทางและคำพูดของผู้ให้คำปรึกษา 1.1 ท่าทีเป็นมิตรจริงใจเพื่อให้ผู้ป่วยและญาติเกิดศรัทธา 1.2 มีทักษะในการฟัง การพูดอธิบาย 1.3 อดทนใจเย็นทนต่อความขัดแย้งต่างๆ 1.4 ช่างสังเกต ไวต่อความรู้สึกของผู้รับคำปรึกษา 1.5 ใช้คำพูดเหมาะสม สุภาพ • เตรียมความรู้ด้านโรคไต • ศึกษาหาความรู้ด้านข้อมูลประกอบอื่นๆ

  26. เตรียมสถานที่และสิ่งแวดล้อมเตรียมสถานที่และสิ่งแวดล้อม

  27. คู่มือการสอน

  28. ผู้ป่วยที่ขอคำปรึกษา • ผู้ป่วยในระยะก่อน ESRD • ผู้ป่วย ESRD ที่ขอคำปรึกษาด้าน Replacementherapy • ผู้ป่วยที่ทำ Dialysis แล้ว แต่ต้องการเปลี่ยนวิธีการ • ผู้ป่วยขอเข้ารับคำปรึกษาเพื่อทำผ่าตัดปลูกถ่ายไต

  29. สิ่งที่ต้องคำนึงถึงระหว่างการให้คำปรึกษาสิ่งที่ต้องคำนึงถึงระหว่างการให้คำปรึกษา • ระยะของโรคไต • ความแตกต่างของบุคคล 2.1 การยอมรับในโรคที่เกิดและสภาพจิตใจ 2.2 สติปัญญา 2.3 การศึกษา 2.4 ฐานะทางเศรษฐกิจ 2.5 สภาพทางสังคม 2.6 ความสัมพันธ์ภายในครอบครัว

  30. ขั้นตอนสำหรับพยาบาล • นัดผู้ป่วย • ศึกษาประวัติผู้ป่วยก่อนให้คำปรึกษา • กรอกประวัติผู้ป่วยในแบบฟอร์ม • เริ่มการให้คำปรึกษาโดยยึดแนวประวัติผู้ป่วย

  31. รายละเอียดการให้คำปรึกษารายละเอียดการให้คำปรึกษา • โรคไต สาเหตุสภาพการทำงานของไต • แนวทางการปฏิบัติตัว 2.1 การควบคุมอาหารและน้ำ 2.2 รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง 2.3 เคร่งครัดการกินยาตามแพทย์กำหนด 2.4 เลิกบุหรี่ และงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 2.5 ลดความเครียด 2.6 ออกกำลังกายตามสมควร 2.7 พักผ่อนให้เพียงพอ 2.8 หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลต่อการเสื่อมของโรคไต

  32. รู้จักสังเกตการเปลี่ยนแปลงของตนเองรู้จักสังเกตการเปลี่ยนแปลงของตนเอง 3.1 การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย เช่นอาการบวม 3.2 จำนวนและลักษณะของปัสสาวะ • ช่วยประคับประคองสภาพจิตใจของผู้ป่วยและครอบครัว • การเตรียมตัวเข้าสู่ไตวายระยะสุดท้าย

  33. การเตรียมตัวเข้าสู่ไตวายระยะสุดท้ายการเตรียมตัวเข้าสู่ไตวายระยะสุดท้าย

  34. 1. Hemodialysis 1.1 Vascular access

  35. 1.2 ขั้นตอนการทำ HD • 1.3 การปฏิบัติตนเมื่อทำ HD • 1.4 สถานที่ทำ HD • 1.5 ค่าใช้จ่าย

  36. 2. CAPD 2.1 วิธีการทำ CAPD 2.2 การใส่ tenckhoff’s catheter 2.3 ภาวะแทรกซ้อน 2.4 แผนการสอนผู้ป่วยและญาติ 2.5 ค่าใช้จ่าย

  37. 3. เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียระหว่าง HD&CAPD

  38. 4. Kidney transplantation 4.1 KT คืออะไร 4.2 Living Related Donor 4.3 Cadaveric Donor - ขั้นตอนการเข้า waiting list - การปฏิบัติตัวระหว่างอยู่ใน waiting list - การปฏิบัติตัวเมื่อเป็น Potential Recipient - ค่าใช้จ่าย

  39. วิธีการช่วยเหลือให้ผู้ป่วยและครอบครัวตัดสินใจวิธีการช่วยเหลือให้ผู้ป่วยและครอบครัวตัดสินใจ • ถามคำถามที่เอื้อให้ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถเล่าเรื่องของตนเอง • ให้ข้อมูลที่เหมาะสมเพื่อให้ผู้ป่วยและครอบครัวเล่าเรื่องของตนเอง • ชี้แนะแนวทางที่น่าจะเป็นไปได้ • ใช้คำพูดที่ช่วยให้ผู้ป่วยและครอบครัวคลายเครียดและวิตกกังวล ซึ่งจะช่วยให้มีสติ

  40. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะเลือกวิธีการรักษาด้วยตนเองซึ่งอาจแตกต่างจากผู้รักษาผู้ป่วยมีสิทธิที่จะเลือกวิธีการรักษาด้วยตนเองซึ่งอาจแตกต่างจากผู้รักษา

  41. จบการนำเสนอ ขอบคุณค่ะ

  42. เครือข่ายการดูแลผู้ป่วยไตเรื้อรังจังหวัดสกลนครเครือข่ายการดูแลผู้ป่วยไตเรื้อรังจังหวัดสกลนคร เชิญเซ็นต์รับเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ค่ะ

More Related