220 likes | 556 Views
การให้ระดับผลการเรียน. สมพงษ์ พันธุรัตน์ สาขาวิชาการวัดและประเมินผลการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. การตัดเกรด (Grading).
E N D
การให้ระดับผลการเรียนการให้ระดับผลการเรียน สมพงษ์ พันธุรัตน์ สาขาวิชาการวัดและประเมินผลการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
การตัดเกรด (Grading) • การตัดสินผลการเรียน การให้ระดับผลการเรียน หรือ การตัดเกรด เป็นขั้นตอนของการประเมินผล (evaluation) โดยการนำผลที่ได้จากการวัดผลการเรียนรู้ตลอดภาคเรียนมาพิจารณาตัดสินหรือกำหนดระดับคุณภาพของผลการเรียนรู้ว่า เก่ง-อ่อน อยู่ในระดับใด
ความถูกต้องและเหมาะสมในการตัดเกรดความถูกต้องและเหมาะสมในการตัดเกรด • ผลการวัด เป็นข้อมูลที่ได้จากวัดผลผลการเรียนรู้ของผู้เรียน ด้วยการทดสอบ การสังเกต การปฏิบัติงาน ฯ และใช้เครื่องมือวัดที่มีคุณภาพ • เกณฑ์การพิจารณา เป็นระดับความต้องการ หรือความคาดหวัง หรือเป้าหมาย หรือ มาตรฐาน ที่ใช้เปรียบเทียบและตัดสินระดับคุณภาพของผลการเรียนรู้ของผู้เรียน • วิจารณญาณของผู้ประเมิน ที่จะต้องใช้ความเป็นธรรม พิจารณาอย่างรอบคอบ ถูกต้อง และเหมาะสม
การตัดเกรดเชิงสมบูรณ์ (absolute grading) • นิยมเรียกว่าการตัดเกรดแบบอิงเกณฑ์ (criterion-referenced) • มีแนวคิดมาจากทฤษฎีการเรียนเพื่อรอบรู้ • แบบทดสอบมีความตรงตามเนื้อหาและจุดประสงค์ที่สำคัญของวิชา • ตัดสินผลการเรียนโดยการเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า • เหมาะสำหรับการประเมินผลเพื่อพัฒนาระหว่างเรียน (formative evaluation)
การตัดเกรดแบบอิงมวลความรู้(domain-referenced grading) • มีการกำหนดหรือถือว่าข้อสอบที่ครูสร้างขึ้นเป็นตัวแทนที่ดีของข้อสอบทั้งหมดที่ใช้วัดมวลความรู้หรือความรอบรู้ในวิชานั้นๆ • คะแนนที่ได้จากการทดสอบถือว่าเป็นปริมาณความรอบรู้ที่ผู้เรียนมีอยู่ • มีการกำหนดจุดตัดและช่วงคะแนนของแต่ละเกรดไว้ล่วงหน้า ตามความเชื่อพื้นฐานของครู ธรรมชาติของเนื้อหาวิชา ความยากของข้อสอบ และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ตัวอย่างเกณฑ์ตัดเกรดแบบอิงมวลความรู้ตัวอย่างเกณฑ์ตัดเกรดแบบอิงมวลความรู้
การตัดเกรดแบบอิงจุดประสงค์(objective-referenced grading) • บางรายวิชามีการกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้หรือคุณลักษณะที่พึงประสงค์ไว้หลายอย่างที่แตกต่างกัน และไม่สามารถนำคะแนนมารวมกันได้อย่างมีความหมาย • ให้พิจารณากำหนดเกณฑ์และตัดสินผลการเรียนรู้ในแต่ละจุดประสงค์ว่า ผ่านหรือไม่ผ่าน • กำหนดเกณฑ์และตัดสินผลการเรียนรู้โดยภาพรวมของวิชานั้นๆ
ตัวอย่างเกณฑ์ตัดเกรดแบบอิงจุดประสงค์ตัวอย่างเกณฑ์ตัดเกรดแบบอิงจุดประสงค์
การตัดเกรดเชิงสัมพันธ์ (relative grading) • นิยมเรียกว่า การตัดเกรดแบบอิงกลุ่ม (norm-referenced grading) • มีแนวคิดมาจากทฤษฎีความแตกต่างระหว่างบุคคล และเชื่อว่าความรู้ความสามารถของผู้เรียนมีการกระจายแบบการแจกแจงปกติ • การวัดผลต้องใช้แบบทดสอบฉบับเดียวกันหรือคู่ขนานกัน มี ความตรง ความเที่ยง สูง และ ข้อสอบมีค่าความยาก อำนาจจำแนก เหมาะสม • การตัดสินผลการเรียนว่าเก่งหรืออ่อนจะใช้การเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้เรียนทั้งหมด • เหมาะสำหรับการประเมินเพื่อสรุปผลปลายภาคเรียน (summative evaluation)
การตัดเกรดโดยกำหนดสัดส่วนของแต่ละเกรดการตัดเกรดโดยกำหนดสัดส่วนของแต่ละเกรด • จากแนวคิดที่เชื่อว่ามนุษย์มีคุณลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน และมีการแจกแจงของคุณลักษณะเหล่านั้นเป็นโค้งปกติ จึงมีการกำหนดสัดส่วนหรือจำนวนของแต่ละเกรดได้
C A F B D
การตัดเกรดโดยใช้ค่าพิสัยการตัดเกรดโดยใช้ค่าพิสัย • เรียงคะแนนจากสูงสุดไปหาต่ำสุด • หาความถี่ของแต่ละคะแนน • หาค่าพิสัย (คะแนนสูงสุด – คะแนนต่ำสุด) • กำหนดจำนวนเกรด เช่น 5 เกรด (A-F) • หาช่วงห่างระหว่างเกรด (พิสัย/จำนวนเกรด, เศษปัดขึ้น) • แบ่งช่วงคะแนนของแต่ละเกรด
ตัวอย่างเกณฑ์ตัดเกรดโดยใช้พิสัยตัวอย่างเกณฑ์ตัดเกรดโดยใช้พิสัย คะแนนสูงสุด = 58 คะแนนต่ำสุด = 15 พิสัย = 58-15 =43 กำหนดจำนวนเกรด = 5 ช่วงห่างระหว่างเกรด = 43/5 = 8.6 ปัดเป็น 9
การตัดเกรดโดยใช้ค่ามัธยฐานการตัดเกรดโดยใช้ค่ามัธยฐาน • ผู้สอนจะต้องประเมินกลุ่มผู้เรียนว่ามีความสามารถโดยภาพรวมอยู่ในระดับใด (จาก 7 ระดับ) • หรือพิจารณาจากเกรดเฉลี่ยของผู้เรียนทั้งกลุ่ม ในภาคการเรียนที่ผ่านมา • กำหนดค่าจุดต่ำสุดของเกรดสูงสุดที่จะให้ (lower limit factor) จากตารางพิจารณาระดับความสามารถของ Dewey B.Stuit • หาค่ามัธยฐาน (median) และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) ของคะแนน • คำนวณจุดตัดของเกรดสูงสุด ส่วนจุดของเกรดถัดไปให้ลบจุดตัดด้วย ค่า SD
ตารางพิจารณาระดับความสามารถตารางพิจารณาระดับความสามารถ
ตัวอย่างการตัดเกรดโดยใช้มัธยฐานตัวอย่างการตัดเกรดโดยใช้มัธยฐาน จากตารางแจกแจงความถี่คะแนนของนักเรียน 50 คน สมมติว่าครูผู้สอนประเมินว่านักเรียนทั้งกลุ่มมีความรู้ ความสามารถระดับ ดี และเกรดสูงสุดเป็น A ดังนั้น ค่า lower limit factor = 1.1 หาค่ามัธยฐานได้ 25 หาค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานได้ 5 คะแนนจุดตัดของเกรด A = (1.1 x 5) + 25 = 30.5 คิดเป็น 31 ขึ้นไป คะแนนจุดตัดของเกรด B = 31-5 = 26 คะแนนจุดตัดของเกรด C = 26-5 = 21 คะแนนจุดตัดของเกรด D = 21-5 = 16 คะแนนที่เกรด F คือตั้งแต่ 15 ลงไป
การตัดเกรดโดยใช้ค่าเฉลี่ยการตัดเกรดโดยใช้ค่าเฉลี่ย • ใช้ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเป็นตัวกำหนดช่วงห่างของแต่ละเกรด โดยถือว่าคะแนนมีการแจกแจงแบบปกติ
การตัดเกรดแบบอิงกลุ่ม แบบอื่นๆ • การตัดเกรดโดยใช้คะแนนมาตรฐาน Z • การตัดเกรดโดยใช้คะแนนมาตรฐาน T • การตัดเกรด โดยใช้ช่องว่าง
เอกสารอ้างอิง จตุภูมิ เขตจัตุรัส. (2556). การวัดและประเมินผลการศึกษา. ขอนแก่น:คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ประกฤติยา ทักษิโณ.(2555). การวัดและประเมินผลการศึกษา. ขอนแก่น:คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ประภาพร ศรีตระกูล. (2549). การวัดและประเมินผลการศึกษา. ขอนแก่น:คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. พัชรี จันทร์เพ็ง. (2557). การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ในชั้นเรียน. ขอนแก่น:คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. สมพงษ์ พันธุรัตน์. (2554). ความรู้ด้านการวัดผล การประเมิน การวิจัย และ สถิติ ทางการศึกษา. (http://home.kku.ac.th/sompo_pu/spweb/) ขอนแก่น: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.