420 likes | 1.45k Views
ยาคุมกำเนิด. ภญ. ดร. อ . สายทิพย์ สุทธิรักษา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม รายวิชายาในชีวิตประจำวัน. วัตถุประสงค์. นิสิตสามารถอธิบายความหมายของรอบเดือนได้ นิสิตสามารถนับวันปลอดภัยของรอบเดือนได้ นิสิตสามารถอธิบายความหมายของการปฏิสนธิได้ นิสิตสามารถอธิบายหลักการคุมกำเนิดได้
E N D
ยาคุมกำเนิด ภญ. ดร. อ.สายทิพย์ สุทธิรักษา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม รายวิชายาในชีวิตประจำวัน
วัตถุประสงค์ • นิสิตสามารถอธิบายความหมายของรอบเดือนได้ • นิสิตสามารถนับวันปลอดภัยของรอบเดือนได้ • นิสิตสามารถอธิบายความหมายของการปฏิสนธิได้ • นิสิตสามารถอธิบายหลักการคุมกำเนิดได้ • นิสิตสามารถอธิบายการคุมกำเนิดแบบต่างๆได้อย่างถูกต้อง • นิสิตสามารถอธิภายวิธีการตรวจการตั้งครรภ์ได้
รอบเดือน • เริ่มนับตั้งแต่วันแรกของการมีประจำเดือน • รอบเดือนปกติจะนานประมาณ 28 วัน • ไข่จะตกในช่วงวันที่ 12 – 16 • ระยะปลอดภัยคือ หน้าเจ็ด หลังเจ็ด
การปฏิสนธิ • ในช่วงวันที่ 14 ของรอบเดือน ไข่ในท่อรังไข่เจริญเต็มที่ • รังไข่สร้างฮอร์ไมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนเพื่อให้เยื่อบุมดลูกเหมาะกับการฝังตัวของไข่ที่ได้รับการผสมกับอสุจิแล้ว • ไข่ที่สุกเมื่อได้รับการผสมกับอสุจิจะเกิดการปฏิสนธิที่ท่อรังไข่กลายเป็นตัวอ่อน • ตัวอ่อนที่แบ่งตัวจะเคลื่อนมาฝังตัวที่เยื่อบุมดลูก และเจริญเป็นทารก
วีดิทัศน์การปฏิสนธิ http://www.youtube.com/watch?v=u5cIMy-u-CQ
การคุมกำเนิด • ป้องกันไม่ให้อสุจิผสมกับไข่ • ป้องกันไม่ให้ไข่ที่ถูกผสมกับอสุจิฝังตัวในมดลูก
การคุมกำเนิด • แบบถาวร • การทำหมันชาย • การทำหมันหญิง • แบบชั่วคราว • การนับวันปลอดภัย • การสวมถุงยางอนามัย • การใส่ห่วงคุมกำเนิด/ห่วงอนามัย • หมวกครอบปากมดลูกและยาฆ่าเชื้ออสุจิ • ฮอร์โมนคุมกำเนิด • ยาเม็ดคุมกำเนิด • ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน • ยาฝังคุมกำเนิด • ยาฉีดคุมกำเนิด • ยาคุมกำเนิดแบบแผ่นแปะ
การคุมกำเนิดแบบชั่วคราวการคุมกำเนิดแบบชั่วคราว
การนับวันปลอดภัย • หน้า 7 หลัง 7 • หญิงที่ประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ มีโอกาสตั้งครรภ์สูง • ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
ตัวอย่าง การนับวันปลอดภัย • ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ • เดือนสิงหาคม ประจำเดือนมาวันที่ 7-11 • เดือนกันยายน ประจำเดือนน่าจะมาวันที่ 7- 11 • ระยะปลอดภัยคือ • หน้า 7 : 1 ก.ย. – 7 ก.ย. • หลัง 7 : 7 ก.ย. – 13 ก.ย.
ภาพที่ 9.2ถุงยางอนามัยชาย และหญิง ถุงยางอนามัย • มีสำหรับทั้งชายและหญิง • มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูงสุด • ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัยข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัย
ถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิงถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิง
ห่วงคุมกำเนิด • กลไกการคุมกำเนิด • ทำให้เกิดสภาพที่ไม่เหมาะสมขึ้นที่เยื่อบุมดลูก ทำให้ไข่ที่ผสมแล้วไม่สามารถฝังตัวได้ • อาจทำให้ไข่ทั้งที่ถูกผสมและไม่ถูกผสม เดินทางผ่านท่อรังไข่ไปเร็วกว่าปกติ จึงไม่พร้อมที่จะฝังตัวเมื่อผ่านไปถึงโพรงมดลูก • การมีเม็ดเลือดขาวออกมาอยู่ในโพรงมดลูก • ใช้คุมกำเนิดได้ยาวนาน เนื่องจากมีอายุการใช้งานนาน 3-8 ปี • มีทั้งชนิดที่มีฮอร์โมน และไม่มีฮอร์โมน • ควรรับการตรวจภายในทุกปี
หมวกครอบปากมดลูกและยาฆ่าเชื้ออสุจิหมวกครอบปากมดลูกและยาฆ่าเชื้ออสุจิ • ครอบบริเวณปากมดลูก ป้องกันไม่ให้อสุจิเคลื่อนเข้าไปในโพรงมดลูก • อาจใช้ร่วมกับน้ำยาฆ่าเชื้ออสุจิ • สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ • ผู้ใช้ควรได้รับการอบรมที่ถูกต้อง
ยาฆ่าเชื้ออสุจิ • Nonoxynol-9 • อยู่ในรูป • ครีม • โฟม • เคลือบบนถุงยางอนามัย • เคลือบบนฟองน้ำคุมกำเนิด • อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้
ยาฮอร์โมนคุมกำเนิด • รูปแบบ • ยาเม็ด • ยาฉีด • ยาฝังใต้ผิวหนัง • ยาแผ่นแปะ • กลไกป้องกันการตั้งครรภ์ • ยับยั้งการตกไข่ โดยกดการหลั่ง Follicle Stimulating Hormone (FSH) และ luteinizing Hormone (LH) จากต่อมใต้สมอง • เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้ไม่เหมาะสมต่อการฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว • ทำให้มุกบริเวณปากมดลูกเหนียวข้น • ทำลายความสามารถของตัวอสุจิที่ผสมกับไข่
ชนิดของฮอร์โมนคุมกำเนิดชนิดของฮอร์โมนคุมกำเนิด • Estrogen • Ethinylestradiol • ปริมาณ 20, 30, 50 ug • Progesterone • Norethisterone • Norethindrone • Lynesteerone • Cyproterone acetate
ชนิดของยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดของยาเม็ดคุมกำเนิด • ยาเม็ดคุมกำเนิดฮอร์โมนรวม • ปริมาณฮอร์โมนทุกเม็ดเหมือนกัน • ปริมาณฮอร์โมนแต่ละเม้ดแตกต่างกันเป็น 2 หรือ 3 ระดับ • ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว • มีโปรเจสเทอโรนเพียงอย่างเดียว ในปริมาณต่ำ • ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน • มีโปรเจสเทอโรนเพียงอย่างเดียว ในปริมาณสูง
ยาเม็ดคุมกำเนิดฮอร์โมนรวมยาเม็ดคุมกำเนิดฮอร์โมนรวม • ปริมาณฮอร์โมนทุกเม็ดเท่ากัน • Anna® • Magaret ® • Diane ® • Marvelon ® • ปริมาณฮอร์โมนแต่ละเม็ดแตกต่างกันเป็น 2 หรือ 3 ระดับ • Triquilar ® • Oilezz ®
ยาเม็ดคุมกำเนิดฮอร์โมนรวมยาเม็ดคุมกำเนิดฮอร์โมนรวม • ในแต่ละเม็ดจะประกอบด้วยฮอร์โมน 2 ชนิด คือ estrogen และ progesterone • กลไกการออกฤทธิ์ • ยับยั้งการตกไข่ • ทำให้เมือกที่ปากมดลูกเหนียว อสุจิผ่านได้ยาก • ทำให้เยื่อบุมดลูกไม่เหมาะในการฝังตัว
วิธีรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดวิธีรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด • เริ่มเม็ดแรกในวันที่ 1-5 ของการมีประจำเดือน • ควรรับประทานตามวันที่กำหนดในแผงและตามลำดับลูกศร • ควรรับประทานเวลาเดียวกันทุกวัน วันละ 1 เม็ด แนะนำให้ทานก่อนนอนเพื่อลดอาการข้างเคียง • แบบ 28 เม็ด เมื่อรับประทานหมดแผง ให้รับประทานแผงใหม่ต่อได้เลย • แบบ 21 เม็ด เมื่อรับประทานยาหมดแผง ให้หยุดรีบประทานยา 7 วัน แล้วจึ่งเริ่มรับประทานแผงต่อไป • ใน 15 วันแรกของการเริ่มยาแผงที่ 1 ควรใช้วิธีคุมกำเนิดอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น การสวมถุงยางอนามัย
การปฏิบัติตัวหากลืมรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดการปฏิบัติตัวหากลืมรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด • ลืม 1 เม็ด • ทานทันทีที่นึกได้ เม็ดต่อไปทานเวลาเดิม • ลืม 2 เม้ด • หากลืมในช่วง 2 สัปดาห์แรก • ให้กิน 2 เม็ดทันที วันต่อมากินอีก 2 เม็ด และควรคุมกำเนิดแบบอื่นร่วมด้วย เช่นการสวมถุงยางอนามัย • หากลืมในช่วงสัปดาห์ที่ 3 • ให้หยุดยาแผงเก่า และเริ่มแผงใหม่ และคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วยนาน 7 วัน • ลืม 3 เม็ด • ให้หยุดยาแผงเก่า และเริ่มแผงใหม่ และคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วยนาน 7 วัน
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว • เรียกว่า Mini-pills • มีโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว ในปริมาณต่ำ ใช้เพื่อลดผลข้างเคียงของเอสโตรเจน • กลไกการออกฤทธิ์ • ทำให้เยื่อเมือกที่ปากมดลูกเหนียวอสุจิผ่านยาก • ทำให้เยื่อบุมดลูกไม่เหมาะในการฝังตัว • ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดจะต่ำกว่ายาคุมกำเนิดชนิดรวม • ข้อดี • ใช้ในหญิงที่ให้นมบุตรได้เนื่องจากไม่ได้ลดน้ำนม • ใช้ในผู้ที่ไม่สามารถทนอาการข้างเคียงของเอสโตรเจนได้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน • ใช้ในคนที่มีความดันโลหิตสูง สูบบุหรี่ หรือคนอ้วนได้
ตัวอย่างยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวตัวอย่างยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว • มี 28 เม็ด ตัวยาเหมือนกันทุกเม็ด • เริ่มกินวันแรกของรอบเดือน และกินยาต่อเนื่องทุกวัน • เพื่อประสิทธิภาพที่ดี ต้องกินยาในเวลาเดิมเสมอ
ข้อดีของการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดข้อดีของการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด • ประสิทธิผลดี ใช้ง่าย ปลอดภัย • มีให้เลือกหลายชนิด ตามความเหมาะสมกับแต่ละบุคคล • หยุดยาเมื่อต้องการจะตั้งครรภ์ • สามารถทำงานได้ตามปกติ • มีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ
ประโยชน์ทางการแพทย์อื่นๆ ของยาเม็ดคุมกำเนิด • ปรับรอบเดือนให้เป็นปกติ • ควบคุมการมีประจำเดือนที่มากผิดปกติ • ลดกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน เช่นคัดหน้าอก หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน • ลดการเกิดสิวหรือขนดก (ยาคุมกำเนิดชนิดที่มีฤทธิ์ต่อต้านฮอร์โมนแอนโดรเจน) • ใช้เลื่อนประจำเดือน • ป้องกันโรคกระดูกพรุน • ป้องกันมะเร็งรังไข่และมะเร็งมดลูก
อาการข้างเคียงของยาคุมกำเนิดอาการข้างเคียงของยาคุมกำเนิด • อาการข้างเคียงที่ไม่รุนแรง • ปวดศีรษะ กระตุ้นการปวดไมเกรน • ประจำเดือนมาน้อย มากระปิดประปรอย หรือไม่มาเลย • วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน • น้ำหนักตัวเพิ่ม • หน้าเป็นฝ้า • อาการข้างเคียงรุนแรง ควรหยุดยาทันที • ปวดท้องรุนแรง • หายใจขัด เจ็บหย้าอก • ปวดศรีษะรุนแรง • ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน • ปวดน่อง และต้นขาอย่างรุนรง
ข้อห้ามใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดข้อห้ามใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด • มีประวัติ หรือเป็นโรคของหลอดเลือด เช่น • เส้นเลือดในสมองแตก • หลอดเลือดดำอักเสบ มีลิ่มเลือด • มีลิ่มเลือดในปอด • มีการอุดตายของกล้ามเนื้อหัวใจ • เป็นโรคตับ • เป็นมะเร็งเต้านม หรือสงสัยว่าเป็น • มีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอดที่ยังหาสาเหตุไม่พบ • ตั้งครรภ์ หรือสงสัยว่าอาจจะตั้งครรภ์ • อายุมากกว่า 35 ปี และสูบบุหรี่ • โรคความดันโลหิตสูง
ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน • ใช้ในกรณีมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน ถูกข่มขืน ถุงยางอนามัยรั่ว/แตกขณะมีเพศสัมพันธ์ ผู้ที่ลืมทานยาคุม หรือทานยาคุมล่าช้ากว่าที่กำหนด • มีเฉพาะโปรเจสเตอโรน ในปริมาณสูง • Levonorgestrel 750 ug • ข้อเสีย • ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ต่ำกว่าแบบแผง (85-88%) • zผลข้างเคียงสูง เช่น ปวดศรีษะ อาเจียน เลือดออกกระปิดกระปรอย • เพิ่มอุบัติการณ์ท้องนอกมดลูก
วิธีรับประทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินวิธีรับประทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน • 1 กล่องมียา 2 เม็ด • วิธีรับประทาน • แบบที่ 1 • รับประทาน 1 เม็ดทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน หรือภายใน 72 ชั่วโมง • เม็ดที่ 2 รับประทานหลังเม็ดแรกนาน 12 ชั่วโมง • แบบที่ 2 • รับประทานทีเดียวพร้อมกันทั้ง 2 เม็ด • ผลข้างเคียงสูง • ไม่ควรทานเกิน 4 เม็ด (2 กล่อง) ต่อ เดือน
ยาฉีดคุมกำเนิด • แบบ Progesterone เพียงอย่างเดียว • DMPA (depot medoxy progesterone acetate) 150 mg คุมกำเนิดได้นาน 3 เดือน • Norethisteroneenanthate 200 mg คุมกำเนิดได้นาน 2 เดือน • แบบฮอร์โมนรวม • ฉีดทุก 1 เดือน • ฉีดภายใน 5 วันแรกของรอบเดือน • ภายหลังฉีดประจำเดือนจะไม่มา
ยาฝังคุมกำเนิด • เป็นยาที่มีเฉพาะ Progesterone เพียงอย่างเดียว • ตัวยาอยู่ในแคปซูล หรือหลอดเล็กๆ ใช้ฝังบริเวณต้นแขนด้านใน • จะปลดปล่อยตัวยาออกมาช้าๆ ในระยะเวลา 3-5 ปี แล้วแต่ชนิด • ข้อดี • ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูง • สะดวก ไม่ต้องกังวลในเรื่องการลืม • อาการข้างเคียงน้อย • ใช้ในสตรีระยะให้นมบุตร
แผ่นแปะคุมกำเนิด • ประกอบด้วยฮอร์โมน 2 ชนิดคือ estrogen และ progesterone • ตัวยาซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือด • วิธีใช้ • แปะแผ่นแรกในวันแรกของรอบเดือน • ลอกออกเพื่อแปะแผ่นใหม่ทุกสัปดาห์ ต่อเนื่องนาน 3 สัปดาห์ แล้วหยุด 7 วันก่อนแปะแผ่นต่อไป
การทดสอบการตั้งครรภ์ • การตรวจหาฮอร์โมน Human chorionic gonadotropin (hCG) • รกผลิต hCGหลังการปฏิสนธิประมาณ 6 วัน และมีระดับสูงสุดใน 8-12 สัปดาห์ • ประจำเดือนขาดจากปกติ 1 วัน สามารถตรวจได้
ข้อควรปฏิบัติในการทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยตนเองข้อควรปฏิบัติในการทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง • งดน้ำและเครื่องดื่มหลัง 2 ทุ่ม และปัสสาวะให้หมดก่อนนอน • ไม่ควรรับประทานยาใดๆ ใน 48 ชั่วโมงก่อนทดสอบ • เก็บปัสสาวะครั้งแรกในตอนเช้า • ทดสอบและอ่านผลภายใน 5 นาที
ขอบคุณที่ตั้งใจเรียนค่ะขอบคุณที่ตั้งใจเรียนค่ะ