1 / 42

ยาคุมกำเนิด

ยาคุมกำเนิด. ภญ. ดร. อ . สายทิพย์ สุทธิรักษา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม รายวิชายาในชีวิตประจำวัน. วัตถุประสงค์. นิสิตสามารถอธิบายความหมายของรอบเดือนได้ นิสิตสามารถนับวันปลอดภัยของรอบเดือนได้ นิสิตสามารถอธิบายความหมายของการปฏิสนธิได้ นิสิตสามารถอธิบายหลักการคุมกำเนิดได้

laasya
Download Presentation

ยาคุมกำเนิด

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ยาคุมกำเนิด ภญ. ดร. อ.สายทิพย์ สุทธิรักษา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม รายวิชายาในชีวิตประจำวัน

  2. วัตถุประสงค์ • นิสิตสามารถอธิบายความหมายของรอบเดือนได้ • นิสิตสามารถนับวันปลอดภัยของรอบเดือนได้ • นิสิตสามารถอธิบายความหมายของการปฏิสนธิได้ • นิสิตสามารถอธิบายหลักการคุมกำเนิดได้ • นิสิตสามารถอธิบายการคุมกำเนิดแบบต่างๆได้อย่างถูกต้อง • นิสิตสามารถอธิภายวิธีการตรวจการตั้งครรภ์ได้

  3. รอบเดือน • เริ่มนับตั้งแต่วันแรกของการมีประจำเดือน • รอบเดือนปกติจะนานประมาณ 28 วัน • ไข่จะตกในช่วงวันที่ 12 – 16 • ระยะปลอดภัยคือ หน้าเจ็ด หลังเจ็ด

  4. การปฏิสนธิ • ในช่วงวันที่ 14 ของรอบเดือน ไข่ในท่อรังไข่เจริญเต็มที่ • รังไข่สร้างฮอร์ไมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนเพื่อให้เยื่อบุมดลูกเหมาะกับการฝังตัวของไข่ที่ได้รับการผสมกับอสุจิแล้ว • ไข่ที่สุกเมื่อได้รับการผสมกับอสุจิจะเกิดการปฏิสนธิที่ท่อรังไข่กลายเป็นตัวอ่อน • ตัวอ่อนที่แบ่งตัวจะเคลื่อนมาฝังตัวที่เยื่อบุมดลูก และเจริญเป็นทารก

  5. วีดิทัศน์การปฏิสนธิ http://www.youtube.com/watch?v=u5cIMy-u-CQ

  6. การคุมกำเนิด • ป้องกันไม่ให้อสุจิผสมกับไข่ • ป้องกันไม่ให้ไข่ที่ถูกผสมกับอสุจิฝังตัวในมดลูก

  7. การคุมกำเนิด • แบบถาวร • การทำหมันชาย • การทำหมันหญิง • แบบชั่วคราว • การนับวันปลอดภัย • การสวมถุงยางอนามัย • การใส่ห่วงคุมกำเนิด/ห่วงอนามัย • หมวกครอบปากมดลูกและยาฆ่าเชื้ออสุจิ • ฮอร์โมนคุมกำเนิด • ยาเม็ดคุมกำเนิด • ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน • ยาฝังคุมกำเนิด • ยาฉีดคุมกำเนิด • ยาคุมกำเนิดแบบแผ่นแปะ

  8. การคุมกำเนิดแบบชั่วคราวการคุมกำเนิดแบบชั่วคราว

  9. การนับวันปลอดภัย • หน้า 7 หลัง 7 • หญิงที่ประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ มีโอกาสตั้งครรภ์สูง • ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์

  10. ตัวอย่าง การนับวันปลอดภัย • ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ • เดือนสิงหาคม ประจำเดือนมาวันที่ 7-11 • เดือนกันยายน ประจำเดือนน่าจะมาวันที่ 7- 11 • ระยะปลอดภัยคือ • หน้า 7 : 1 ก.ย. – 7 ก.ย. • หลัง 7 : 7 ก.ย. – 13 ก.ย.

  11. ภาพที่ 9.2ถุงยางอนามัยชาย และหญิง ถุงยางอนามัย • มีสำหรับทั้งชายและหญิง • มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูงสุด • ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้

  12. ข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัยข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัย

  13. ถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิงถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิง

  14. ห่วงคุมกำเนิด • กลไกการคุมกำเนิด • ทำให้เกิดสภาพที่ไม่เหมาะสมขึ้นที่เยื่อบุมดลูก ทำให้ไข่ที่ผสมแล้วไม่สามารถฝังตัวได้ • อาจทำให้ไข่ทั้งที่ถูกผสมและไม่ถูกผสม เดินทางผ่านท่อรังไข่ไปเร็วกว่าปกติ จึงไม่พร้อมที่จะฝังตัวเมื่อผ่านไปถึงโพรงมดลูก • การมีเม็ดเลือดขาวออกมาอยู่ในโพรงมดลูก • ใช้คุมกำเนิดได้ยาวนาน เนื่องจากมีอายุการใช้งานนาน 3-8 ปี • มีทั้งชนิดที่มีฮอร์โมน และไม่มีฮอร์โมน • ควรรับการตรวจภายในทุกปี

  15. ห่วงคุมกำเนิด

  16. หมวกครอบปากมดลูกและยาฆ่าเชื้ออสุจิหมวกครอบปากมดลูกและยาฆ่าเชื้ออสุจิ • ครอบบริเวณปากมดลูก ป้องกันไม่ให้อสุจิเคลื่อนเข้าไปในโพรงมดลูก • อาจใช้ร่วมกับน้ำยาฆ่าเชื้ออสุจิ • สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ • ผู้ใช้ควรได้รับการอบรมที่ถูกต้อง

  17. หมวกครอบปากมดลูก

  18. ยาฆ่าเชื้ออสุจิ • Nonoxynol-9 • อยู่ในรูป • ครีม • โฟม • เคลือบบนถุงยางอนามัย • เคลือบบนฟองน้ำคุมกำเนิด • อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้

  19. ยาฮอร์โมนคุมกำเนิด • รูปแบบ • ยาเม็ด • ยาฉีด • ยาฝังใต้ผิวหนัง • ยาแผ่นแปะ • กลไกป้องกันการตั้งครรภ์ • ยับยั้งการตกไข่ โดยกดการหลั่ง Follicle Stimulating Hormone (FSH) และ luteinizing Hormone (LH) จากต่อมใต้สมอง • เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้ไม่เหมาะสมต่อการฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว • ทำให้มุกบริเวณปากมดลูกเหนียวข้น • ทำลายความสามารถของตัวอสุจิที่ผสมกับไข่

  20. ชนิดของฮอร์โมนคุมกำเนิดชนิดของฮอร์โมนคุมกำเนิด • Estrogen • Ethinylestradiol • ปริมาณ 20, 30, 50 ug • Progesterone • Norethisterone • Norethindrone • Lynesteerone • Cyproterone acetate

  21. ชนิดของยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดของยาเม็ดคุมกำเนิด • ยาเม็ดคุมกำเนิดฮอร์โมนรวม • ปริมาณฮอร์โมนทุกเม็ดเหมือนกัน • ปริมาณฮอร์โมนแต่ละเม้ดแตกต่างกันเป็น 2 หรือ 3 ระดับ • ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว • มีโปรเจสเทอโรนเพียงอย่างเดียว ในปริมาณต่ำ • ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน • มีโปรเจสเทอโรนเพียงอย่างเดียว ในปริมาณสูง

  22. ยาเม็ดคุมกำเนิดฮอร์โมนรวมยาเม็ดคุมกำเนิดฮอร์โมนรวม • ปริมาณฮอร์โมนทุกเม็ดเท่ากัน • Anna® • Magaret ® • Diane ® • Marvelon ® • ปริมาณฮอร์โมนแต่ละเม็ดแตกต่างกันเป็น 2 หรือ 3 ระดับ • Triquilar ® • Oilezz ®

  23. ยาเม็ดคุมกำเนิดฮอร์โมนรวมยาเม็ดคุมกำเนิดฮอร์โมนรวม • ในแต่ละเม็ดจะประกอบด้วยฮอร์โมน 2 ชนิด คือ estrogen และ progesterone • กลไกการออกฤทธิ์ • ยับยั้งการตกไข่ • ทำให้เมือกที่ปากมดลูกเหนียว อสุจิผ่านได้ยาก • ทำให้เยื่อบุมดลูกไม่เหมาะในการฝังตัว

  24. วิธีรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดวิธีรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด • เริ่มเม็ดแรกในวันที่ 1-5 ของการมีประจำเดือน • ควรรับประทานตามวันที่กำหนดในแผงและตามลำดับลูกศร • ควรรับประทานเวลาเดียวกันทุกวัน วันละ 1 เม็ด แนะนำให้ทานก่อนนอนเพื่อลดอาการข้างเคียง • แบบ 28 เม็ด เมื่อรับประทานหมดแผง ให้รับประทานแผงใหม่ต่อได้เลย • แบบ 21 เม็ด เมื่อรับประทานยาหมดแผง ให้หยุดรีบประทานยา 7 วัน แล้วจึ่งเริ่มรับประทานแผงต่อไป • ใน 15 วันแรกของการเริ่มยาแผงที่ 1 ควรใช้วิธีคุมกำเนิดอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น การสวมถุงยางอนามัย

  25. การปฏิบัติตัวหากลืมรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดการปฏิบัติตัวหากลืมรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด • ลืม 1 เม็ด • ทานทันทีที่นึกได้ เม็ดต่อไปทานเวลาเดิม • ลืม 2 เม้ด • หากลืมในช่วง 2 สัปดาห์แรก • ให้กิน 2 เม็ดทันที วันต่อมากินอีก 2 เม็ด และควรคุมกำเนิดแบบอื่นร่วมด้วย เช่นการสวมถุงยางอนามัย • หากลืมในช่วงสัปดาห์ที่ 3 • ให้หยุดยาแผงเก่า และเริ่มแผงใหม่ และคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วยนาน 7 วัน • ลืม 3 เม็ด • ให้หยุดยาแผงเก่า และเริ่มแผงใหม่ และคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วยนาน 7 วัน

  26. 28 เม็ด / 21 เม็ด ???

  27. ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว • เรียกว่า Mini-pills • มีโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว ในปริมาณต่ำ ใช้เพื่อลดผลข้างเคียงของเอสโตรเจน • กลไกการออกฤทธิ์ • ทำให้เยื่อเมือกที่ปากมดลูกเหนียวอสุจิผ่านยาก • ทำให้เยื่อบุมดลูกไม่เหมาะในการฝังตัว • ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดจะต่ำกว่ายาคุมกำเนิดชนิดรวม • ข้อดี • ใช้ในหญิงที่ให้นมบุตรได้เนื่องจากไม่ได้ลดน้ำนม • ใช้ในผู้ที่ไม่สามารถทนอาการข้างเคียงของเอสโตรเจนได้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน • ใช้ในคนที่มีความดันโลหิตสูง สูบบุหรี่ หรือคนอ้วนได้

  28. ตัวอย่างยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวตัวอย่างยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว • มี 28 เม็ด ตัวยาเหมือนกันทุกเม็ด • เริ่มกินวันแรกของรอบเดือน และกินยาต่อเนื่องทุกวัน • เพื่อประสิทธิภาพที่ดี ต้องกินยาในเวลาเดิมเสมอ

  29. ข้อดีของการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดข้อดีของการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด • ประสิทธิผลดี ใช้ง่าย ปลอดภัย • มีให้เลือกหลายชนิด ตามความเหมาะสมกับแต่ละบุคคล • หยุดยาเมื่อต้องการจะตั้งครรภ์ • สามารถทำงานได้ตามปกติ • มีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ

  30. ประโยชน์ทางการแพทย์อื่นๆ ของยาเม็ดคุมกำเนิด • ปรับรอบเดือนให้เป็นปกติ • ควบคุมการมีประจำเดือนที่มากผิดปกติ • ลดกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน เช่นคัดหน้าอก หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน • ลดการเกิดสิวหรือขนดก (ยาคุมกำเนิดชนิดที่มีฤทธิ์ต่อต้านฮอร์โมนแอนโดรเจน) • ใช้เลื่อนประจำเดือน • ป้องกันโรคกระดูกพรุน • ป้องกันมะเร็งรังไข่และมะเร็งมดลูก

  31. อาการข้างเคียงของยาคุมกำเนิดอาการข้างเคียงของยาคุมกำเนิด • อาการข้างเคียงที่ไม่รุนแรง • ปวดศีรษะ กระตุ้นการปวดไมเกรน • ประจำเดือนมาน้อย มากระปิดประปรอย หรือไม่มาเลย • วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน • น้ำหนักตัวเพิ่ม • หน้าเป็นฝ้า • อาการข้างเคียงรุนแรง ควรหยุดยาทันที • ปวดท้องรุนแรง • หายใจขัด เจ็บหย้าอก • ปวดศรีษะรุนแรง • ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน • ปวดน่อง และต้นขาอย่างรุนรง

  32. ข้อห้ามใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดข้อห้ามใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด • มีประวัติ หรือเป็นโรคของหลอดเลือด เช่น • เส้นเลือดในสมองแตก • หลอดเลือดดำอักเสบ มีลิ่มเลือด • มีลิ่มเลือดในปอด • มีการอุดตายของกล้ามเนื้อหัวใจ • เป็นโรคตับ • เป็นมะเร็งเต้านม หรือสงสัยว่าเป็น • มีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอดที่ยังหาสาเหตุไม่พบ • ตั้งครรภ์ หรือสงสัยว่าอาจจะตั้งครรภ์ • อายุมากกว่า 35 ปี และสูบบุหรี่ • โรคความดันโลหิตสูง

  33. ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน • ใช้ในกรณีมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน ถูกข่มขืน ถุงยางอนามัยรั่ว/แตกขณะมีเพศสัมพันธ์ ผู้ที่ลืมทานยาคุม หรือทานยาคุมล่าช้ากว่าที่กำหนด • มีเฉพาะโปรเจสเตอโรน ในปริมาณสูง • Levonorgestrel 750 ug • ข้อเสีย • ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ต่ำกว่าแบบแผง (85-88%) • zผลข้างเคียงสูง เช่น ปวดศรีษะ อาเจียน เลือดออกกระปิดกระปรอย • เพิ่มอุบัติการณ์ท้องนอกมดลูก

  34. วิธีรับประทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินวิธีรับประทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน • 1 กล่องมียา 2 เม็ด • วิธีรับประทาน • แบบที่ 1 • รับประทาน 1 เม็ดทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน หรือภายใน 72 ชั่วโมง • เม็ดที่ 2 รับประทานหลังเม็ดแรกนาน 12 ชั่วโมง • แบบที่ 2 • รับประทานทีเดียวพร้อมกันทั้ง 2 เม็ด • ผลข้างเคียงสูง • ไม่ควรทานเกิน 4 เม็ด (2 กล่อง) ต่อ เดือน

  35. ยาฉีดคุมกำเนิด • แบบ Progesterone เพียงอย่างเดียว • DMPA (depot medoxy progesterone acetate) 150 mg คุมกำเนิดได้นาน 3 เดือน • Norethisteroneenanthate 200 mg คุมกำเนิดได้นาน 2 เดือน • แบบฮอร์โมนรวม • ฉีดทุก 1 เดือน • ฉีดภายใน 5 วันแรกของรอบเดือน • ภายหลังฉีดประจำเดือนจะไม่มา

  36. ยาฝังคุมกำเนิด • เป็นยาที่มีเฉพาะ Progesterone เพียงอย่างเดียว • ตัวยาอยู่ในแคปซูล หรือหลอดเล็กๆ ใช้ฝังบริเวณต้นแขนด้านใน • จะปลดปล่อยตัวยาออกมาช้าๆ ในระยะเวลา 3-5 ปี แล้วแต่ชนิด • ข้อดี • ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูง • สะดวก ไม่ต้องกังวลในเรื่องการลืม • อาการข้างเคียงน้อย • ใช้ในสตรีระยะให้นมบุตร

  37. แผ่นแปะคุมกำเนิด • ประกอบด้วยฮอร์โมน 2 ชนิดคือ estrogen และ progesterone • ตัวยาซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือด • วิธีใช้ • แปะแผ่นแรกในวันแรกของรอบเดือน • ลอกออกเพื่อแปะแผ่นใหม่ทุกสัปดาห์ ต่อเนื่องนาน 3 สัปดาห์ แล้วหยุด 7 วันก่อนแปะแผ่นต่อไป

  38. การทดสอบการตั้งครรภ์ • การตรวจหาฮอร์โมน Human chorionic gonadotropin (hCG) • รกผลิต hCGหลังการปฏิสนธิประมาณ 6 วัน และมีระดับสูงสุดใน 8-12 สัปดาห์ • ประจำเดือนขาดจากปกติ 1 วัน สามารถตรวจได้

  39. ข้อควรปฏิบัติในการทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยตนเองข้อควรปฏิบัติในการทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง • งดน้ำและเครื่องดื่มหลัง 2 ทุ่ม และปัสสาวะให้หมดก่อนนอน • ไม่ควรรับประทานยาใดๆ ใน 48 ชั่วโมงก่อนทดสอบ • เก็บปัสสาวะครั้งแรกในตอนเช้า • ทดสอบและอ่านผลภายใน 5 นาที

  40. ขอบคุณที่ตั้งใจเรียนค่ะขอบคุณที่ตั้งใจเรียนค่ะ

More Related