1 / 58

เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร 1

เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร 1. อาจารย์โกศวัต รัตโนทยานนท์ สาขาวิชาการจัดการ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย. เนื้อหา. ความหมายของการสื่อสารข้อมูลและโทรคมนาคม แนวโน้มของการสื่อสารโทรคมนาคม ชนิดของสัญญาณและการแปลงสัญญาณ การรับ - ส่งข้อมูล ช่องทางการสื่อสาร

Download Presentation

เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร 1

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร 1 อาจารย์โกศวัต รัตโนทยานนท์ สาขาวิชาการจัดการ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

  2. เนื้อหา • ความหมายของการสื่อสารข้อมูลและโทรคมนาคม • แนวโน้มของการสื่อสารโทรคมนาคม • ชนิดของสัญญาณและการแปลงสัญญาณ • การรับ - ส่งข้อมูล • ช่องทางการสื่อสาร • การเชื่อมต่อและการให้บริการสายสื่อสาร

  3. ความหมายของการสื่อสารข้อมูลความหมายของการสื่อสารข้อมูล และโทรคมนาคม • การสื่อสารข้อมูล (Data Communication) การส่งหรือแลกเปลี่ยนข้อมูล และสารสนเทศ จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง โดยผ่านช่องทางการสื่อสาร แต่ข้อมูลที่ส่งถึงนั้นจะเป็นเพียงข้อมูลเท่านั้นไม่มีเสียงพูด • โทรคมนาคม (Telecommunication) การติดต่อสื่อสารระหว่างกันในระยะทางไกล ๆ โดยอาศัยช่องทางการสื่อสารเหมือนกับการสื่อสารข้อมูล แต่สามารถส่งได้ทั้งข้อมูล และเสียงพูด

  4. แนวโน้มของการสื่อสารโทรคมนาคมแนวโน้มของการสื่อสารโทรคมนาคม • แนวโน้มด้านอุตสาหกรรมการสื่อสาร • เปลี่ยนจากการควบคุมดูแลของรัฐบาลมาเป็นการแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการหลายๆราย • การเติบโตอย่างรวดเร็วของอินเตอร์เน็ตและ wwwก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์และบริการทางด้านการสื่อสารโทรคมนาคม

  5. แนวโน้มของการสื่อสารโทรคมนาคมแนวโน้มของการสื่อสารโทรคมนาคม • แนวโน้มด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร • การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตนำมาซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชั่นบนเครือข่าย • มุ่งสู่การสร้างเครือข่าย Client / Server บนพื้นฐานของสถาปัตยกรรม ระบบเปิด

  6. แนวโน้มของการสื่อสารโทรคมนาคมแนวโน้มของการสื่อสารโทรคมนาคม • แนวโน้มด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร (ต่อ) • การเปลี่ยนแปลงจากการสื่อสารแบบอนาลอกไปสู่เทคโนโลยีเครือข่ายดิจิตอล • การเปลี่ยนแปลงสื่อกลางในการส่งข้อมูลที่เป็นสายทองแดงและระบบไมโครเวฟ เป็นการใช้เคเบิลใยแก้วนำแสง เซลลูลาร์ ดาวเทียม และเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายแบบอื่นๆ

  7. แนวโน้มของการสื่อสารโทรคมนาคมแนวโน้มของการสื่อสารโทรคมนาคม • แนวโน้มด้านแอปพลิเคชั่นธุรกิจ • เกิดแอปพลิเคชั่นที่เป็น E-commerce แอปพลิเคชั่นที่ทำให้สามารถทำงานร่วมกันตั้งแต่ 2 บริษัทขึ้นไป และแอปพลิเคชั่นสำหรับองค์กรเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน การจัดการ และการวางแผนกลยุทธ์

  8. ชนิดของสัญญาณและการแปลงสัญญาณชนิดของสัญญาณและการแปลงสัญญาณ • ชนิดของสัญญาณ • แบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่ • สัญญาณอนาล็อก (Analog Signal)

  9. ชนิดของสัญญาณและการแปลงสัญญาณ (ต่อ) • สัญญาณดิจิตอล (Digital Signal)

  10. ชนิดของสัญญาณและการแปลงสัญญาณ (ต่อ) • สัญญาณอนาล็อก เมื่อระยะทางในการส่งข้อมูลเพิ่มขึ้น พลังงานของสัญญาณจะอ่อนลง • จึงต้องใช้เครื่องขยายสัญญาณ (Amplifier) แต่ว่าจะทำให้เกิดสัญญาณรบกวน (Noise)

  11. ชนิดของสัญญาณและการแปลงสัญญาณ (ต่อ) • สัญญาณดิจิตอล เมื่อระยะทางการส่ง มากขึ้น ทำให้สัญญาณดิจิตอลจางหายไป • จึงต้องใช้เครื่องทวนสัญญาณ (Repeater) เพื่อกู้ข้อมูลคืนมา

  12. ชนิดของสัญญาณและการแปลงสัญญาณ (ต่อ) • การแปลงสัญญาณ มอดูเลชัน (Modulation) • เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบสัญญาณจากสัญญาณดิจิตอลเป็นสัญญาณอนาล็อก โดยมีการเพิ่มพลังให้กับสัญญาณเนื่องจากต้องส่งไปเป็นระยะทางไกล • สามารถทำได้โดยการผสมสัญญาณของข้อมูลเข้ากับสัญญาณอีกสัญญาณหนึ่งเรียกว่า คลื่นพาห์ (Carrier Signal) ซึ่งเป็นสัญญาณที่มีขนาดและความถี่คงที่

  13. ชนิดของสัญญาณและการแปลงสัญญาณ (ต่อ) • การแปลงสัญญาณ ดีมอดูเลชัน (ต่อ) • เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบสัญญาณจากสัญญาณ • อนาล็อกให้กลับมาเป็นสัญญาณดิจิตอลที่ผู้รับปลายทาง • สามารถทำได้โดยการแยกสัญญาณของคลื่นพาห์ออกและแปลงข้อมูลกลับไปเป็นสัญญาณดิจิตอลเพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถประมวลผลได้

  14. ชนิดของสัญญาณและการแปลงสัญญาณ (ต่อ) การแปลงสัญญาณ สัญญาณอนาลอก (Analog signal) สัญญาณดิจิตอล (Digital signal) สัญญาณดิจิตอล (Digital signal) โมเด็ม (Modem) โมเด็ม (Modem) สถานีงานการสื่อสาร (Communications workstation) คอมพิวเตอร์ (Computer)

  15. การรับ - ส่งข้อมูล • รูปแบบการรับ - ส่งข้อมูล • รูปแบบการรับ – ส่งข้อมูลนั้นมีอยู่ 2 รูปแบบ ได้แก่ • การรับส่งข้อมูลแบบอนุกรม (Serial Transmission) • การรับส่งข้อมูลแบบขนาน (Parallel Transmission)

  16. การรับ - ส่งข้อมูล • รูปแบบการรับ – ส่งข้อมูล (ต่อ) • การรับส่งข้อมูลแบบอนุกรม (Serial Transmission) • เป็นการรับส่งข้อมูลครั้งละ 1 บิต เรียงตามลำดับกันไปโดยใช้สายสื่อสารเพียงเส้นเดียว 1 0 0 1 0 1 1 Source Destination

  17. การรับ - ส่งข้อมูล • รูปแบบการรับ – ส่งข้อมูล (ต่อ) • การรับส่งข้อมูลแบบอนุกรม (Serial Transmission) • เกิดปัญหาที่เครื่องฝั่งรับไม่สามารถแยกแยะได้ว่า ข้อมูลที่ส่งมานั้นเป็นข้อมูลอะไรเพราะไม่ทราบว่าข้อมูลที่รับเข้ามาเริ่มต้นและสิ้นสุดที่บิตใด • ดังนั้นจึงได้มีการแบ่งการรับส่งข้อมูลแบบอนุกรมเป็น 2 วิธี คือ Asynchronous Transmission และ Synchronous Transmission

  18. การรับ - ส่งข้อมูล • รูปแบบการรับ – ส่งข้อมูล (ต่อ) • Asynchronous Transmission • มีการเพิ่มบิตควบคุม เพื่อใช้แบ่งข้อมูลออกมาเป็น 1 ตัวอักขระ (1 character) อันได้แก่ Start Bit , Stop Bit และ Parity Bit • ความเร็วในการรับส่งข้อมูลแบบนี้จะช้า เพราะต้องเพิ่มทั้ง 3 บิตลงไปยังตัวอักขระทุกตัว

  19. การรับ - ส่งข้อมูล • รูปแบบการรับ – ส่งข้อมูล (ต่อ) • Synchronous Transmission • เป็นการรับส่งข้อมูลเป็นกลุ่มของอักขระจำนวนมาก เรียกว่า แพ็คเก็ต (Packet) และมีการเพิ่มไบต์ที่เป็น Header และ Trailer และเพิ่ม Parity Bit • การรับส่งข้อมูล ทั้ง 2 ฝั่งต้องทำงานสอดคล้องกันโดยใช้สัญญาณนาฬิกาที่มีความถี่เท่ากัน

  20. การรับ - ส่งข้อมูล • รูปแบบการรับ – ส่งข้อมูล (ต่อ) • การรับส่งข้อมูลแบบขนาน (Parallel Transmission) • เป็นการรับส่งข้อมูลครั้งละหลายๆบิตพร้อมกัน โดยข้อมูล 1 บิต จะใช้สารสื่อสาร 1 เส้น • เสียค่าใช้จ่ายมากกว่าการรับส่งข้อมูลแบบอนุกรม และไม่สามารถส่งไปในระยะทางไกลๆได้

  21. การรับ - ส่งข้อมูล • ทิศทางการรับ – ส่งข้อมูล • สามารถแบ่งทิศทางการรับ – ส่งข้อมูลได้เป็น 3 ทาง ได้แก่ • แบบทางเดียว (Simplex) • แบบทางใดทางหนึ่ง (Half-duplex) • แบบสองทาง (Full-duplex)

  22. การรับ - ส่งข้อมูล การสื่อสารแบบทางเดียว (Simplex) • เป็นการสื่อสารที่ผู้ส่งส่งข้อมูลได้เพียงทางเดียวเท่านั้น ผู้รับไม่สามารถส่งข้อมูลตอบกลับมาได้ เรียกว่าเป็น “One Way Communication”

  23. การรับ - ส่งข้อมูล การสื่อสารแบบทางใดทางหนึ่ง (Half-duplex) • เป็นการสื่อสารที่แต่ละฝ่ายสามารถรับ – ส่งข้อมูลกันได้ แต่ว่าไม่สามารถทำได้ในเวลาเดียวกัน

  24. การรับ - ส่งข้อมูล การสื่อสารแบบสองทาง (Full-duplex) • เป็นการสื่อสารที่สามารถรับ – ส่งข้อมูลกันได้พร้อมกันทั้งสองทาง แม้ขณะที่เครื่องฝั่งส่งยังส่งข้อมูลอยู่ ฝั่งรับก็สามารถส่งข้อมูลได้เช่นกัน

  25. การรับ - ส่งข้อมูล • อุปกรณ์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารโทรคมนาคม มัลติเพล็กเซอร์ (Multiplexer : Mux) • เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการรวมสัญญาณหลายๆสัญญาณจากแหล่งข้อมูลหลายๆแหล่ง เพื่อให้สามารถเดินทางไปในช่องทางการสื่อสารเพียงช่องทางเดียวได้ • ที่ปลายทางจะมีดีมัลติเพล็กเซอร์ (Demultiplexer) ทำหน้าที่ในการแบ่งสัญญาณให้กลับไปเป็นหลายสัญญาณดังเดิม

  26. การรับ - ส่งข้อมูล • อุปกรณ์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารโทรคมนาคม มัลติเพล็กเซอร์ (Multiplexer : Mux) • หลักการทำงานของมัลติเพล็กเซอร์ จะใช้เทคนิคที่เรียกว่า “มัลติเพล็กซิ่ง (Multiplexing)”

  27. การรับ - ส่งข้อมูล • อุปกรณ์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารโทรคมนาคม มัลติเพล็กเซอร์ (Multiplexer : Mux) • วิธีการมัลติเพล็กซ์สัญญาณที่สำคัญมีอยู่ 2 วิธี ดังนี้ • การมัลติเพล็กแบบแบ่งตามความถี่ (Frequency Division Multiplexing : FDM) • การมัลติเพล็กแบ่งตามเวลา (Time Division Multiplexing : TDM)

  28. การรับ - ส่งข้อมูล • อุปกรณ์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารโทรคมนาคม มัลติเพล็กเซอร์ (Multiplexer : Mux) • การมัลติเพล็กซ์แบ่งตามความถี่ (FDM) • เป็นการรวมเอาสัญญาณที่มีความถี่แตกต่างกันมาไว้ด้วยกัน แล้วส่งออกไปพร้อมๆกัน • นิยมใช้กันมากในด้านวิทยุและโทรทัศน์

  29. การรับ - ส่งข้อมูล • อุปกรณ์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารโทรคมนาคม มัลติเพล็กเซอร์ (Multiplexer : Mux) • การมัลติเพล็กซ์แบ่งตามเวลา (TDM) • เป็นการแบ่งช่วงเวลาในการส่งสัญญาณออกเป็นช่วงเล็กๆ แล้วส่งข้อมูลจากแต่ละแหล่งไปในแต่ละช่วงเวลานั้น • วิธีนี้ใช้ได้กับสัญญาณดิจิตอลเท่านั้น

  30. การรับ - ส่งข้อมูล • อุปกรณ์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารโทรคมนาคม มัลติเพล็กเซอร์ (Multiplexer : Mux) • การมัลติเพล็กซ์แบ่งตามเวลา (TDM)

  31. การรับ - ส่งข้อมูล • อุปกรณ์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารโทรคมนาคม PBX (Private Branch Exchange) • เป็นชุมสายโทรศัพท์ย่อยขององค์กร หรือตู้สาขาโทรศัพท์ ที่สามารถเลือกเส้นทางต่อสัญญาณสายโทรศัพท์โดยอัตโนมัติ • PBX แบบดิจิตอลในปัจจุบันมีความสามารถในการรวมสัญญาณเสียงและข้อมูล เข้าด้วยกันและส่งไปพร้อมกันตามสายสัญญาณจากภายในอาคารสู่ภายนอกอาคารได้

  32. ช่องทางการสื่อสาร หมายถึง สื่อกลางการส่งผ่านสารสนเทศระหว่างอุปกรณ์ 2 ชนิด ความเร็วในการสื่อสารข้อมูลขึ้นอยู่กับ ปัจจัยพื้นฐาน 2 ประการ ได้แก่ • ความกว้างของช่องสัญญาณ (Bandwidth) • ชนิดของข้อมูล ช่องทางการติดต่อสื่อสารแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด • ช่องทางการสื่อสารแบบมีสาย • ช่องทางการสื่อสารแบบไร้สาย

  33. ช่องทางการสื่อสาร ช่องทางการสื่อสารแบบมีสาย สามารถแบ่งออกได้ดังนี้ • สายคู่บิดเกลียว (Twisted-pair Wire) • สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) • เคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber-optic Cable)

  34. ช่องทางการสื่อสาร • ช่องทางการสื่อสารแบบมีสาย สายคู่บิดเกลียว (Twisted-pair Wire) • เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สายคู่บิดเกลียว เป็นสายโทรศัพท์ทั่วไป • ลักษณะเป็นสายทองแดง 2 เส้น ซึ่งแต่ละเส้นมีฉนวนหุ้ม แล้วนำมาพันเกลียวและเก็บอยู่ในเปลือกหุ้ม (Jacket) เดียวกัน

  35. ช่องทางการสื่อสาร • ช่องทางการสื่อสารแบบมีสาย สายคู่บิดเกลียว (ต่อ) • การบิดเกลียวช่วยลดสัญญาณรบกวน (Noise) ได้ • ในระบบเครือข่ายที่มีการรับส่งข้อมูลมากๆ ไม่นิยมใช้สายโทรศัพท์ แต่จะใช้สายคู่บิดเกลียวที่มีทองแดง 8 เส้น ซึ่งแบ่งได้ 2 ชนิดคือ • สายคู่บิดเกลียวมีชิลด์ (Shielded Twisted Pair) • สายคู่บิดเกลียวไม่มีชิลด์ (Unshielded Twisted Pair)

  36. ช่องทางการสื่อสาร • ช่องทางการสื่อสารแบบมีสาย สายคู่บิดเกลียวมีชิลด์ (Shielded Twisted Pair : STP) • เป็นสายที่มีการป้องกันสัญญาณรบกวนโดยใช้ฉนวนพิเศษพันอยู่โดยรอบ • มีระยะทางในการส่ง 600 – 800 เมตร

  37. ช่องทางการสื่อสาร • ช่องทางการสื่อสารแบบมีสาย สายคู่บิดเกลียวไม่มีชิลด์ (Unshielded Twisted Pair : UTP) • เป็นสายที่ไม่มีการป้องกันสัญญาณรบกวนเป็นพิเศษ • มีระยะทางในการส่ง 400 – 600 เมตร • เป็นสายมาตรฐานที่ใช้ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน

  38. ช่องทางการสื่อสาร • ช่องทางการสื่อสารแบบมีสาย สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) • เป็นสายเคเบิลทีวีที่ใช้อยู่ตามบ้านโดยทั่วไปและนำมาใช้กับการส่งสัญญาณในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ • มีลักษณะเป็นสายทองแดงเดี่ยวอยู่ตรงกลางและหุ้มด้วยวัสดุที่ทำหน้าที่เป็นฉนวนและชิลด์ • ลดสัญญาณรบกวนและส่งข้อมูลได้ดีกว่าสายทวิสเตดแพร์ มีความเร็วในการส่งข้อมูลสูงสุด 200 Mbps

  39. ช่องทางการสื่อสาร • ช่องทางการสื่อสารแบบมีสาย สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) • สามารถแบ่งสายโคแอคเชียลตามลักษณะของสายได้ 2 ชนิด คือ • โคแอกเชียลบาง • โคแอกเชียลหนา

  40. ช่องทางการสื่อสาร • ช่องทางการสื่อสารแบบมีสาย เคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber-optic Cable) • ใช้แท่งแก้วที่มีลักษณะเป็นทรงกระบอกอยู่ตรงกลางใช้วิธีการส่งข้อมูลด้วยแสงแทนสัญญาณไฟฟ้า • ประกอบด้วยเส้นแก้ว เรียกว่า Core หลายร้อยเส้น ถูกห่อหุ้มด้วยแท่งแก้ว เรียกว่า Cladding และห่อหุ้มด้วยเปลือก (Coat) เพื่อป้องกันแสงหักเห และหุ้มด้วยเปลือกนอกอีกชั้นหนึ่ง

  41. ช่องทางการสื่อสาร • ช่องทางการสื่อสารแบบมีสาย เคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber-optic Cable) • สามารถส่งข้อมูลที่มีปริมาณเยอะๆได้เร็วมาก และมีสัญญาณรบกวนน้อย • ข้อมูลมีความปลอดภัยสูง • ต้องใช้ความชำนาญในการติดตั้ง • ราคาสายเคเบิลและค่าติดตั้งมีราคาแพง

  42. ช่องทางการสื่อสาร • ช่องทางการสื่อสารแบบไร้สาย สามารถแบ่งออกได้ดังนี้ • ไมโครเวฟ • ดาวเทียมสื่อสาร • อินฟาเรด • คลื่นวิทยุ • เซลูลาร์

  43. ช่องทางการสื่อสาร • ช่องทางการสื่อสารแบบไร้สาย (ต่อ) ไมโครเวฟ (Microwave) • เป็นการสื่อสารโดยใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง • ส่งสัญญาณจากสถานีส่งสัญญาณส่วนกลาง ไปยังเสารับสัญญาณในหลายๆพื้นที่ • จะส่งคลื่นจากจานส่ง พุ่งตรงไปยังจานรับในทิศทางเส้นระนาบ เรียกว่า “เส้นสายตา” • ปกติคลื่นไมโครเวฟจะส่งสัญญาณได้ 25 – 30 ไมล์

  44. ช่องทางการสื่อสาร • ช่องทางการสื่อสารแบบไร้สาย (ต่อ) ไมโครเวฟ (Microwave) • ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินสายสัญญาณ และสามารถส่งข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูง • ต้องไม่มีสิ่งกีดขวางเส้นสายตาระหว่างเครื่องรับและเครื่องส่ง • สัญญาณถูกรบกวนหรือแทรกแซงและถูกดักจับสัญญาณได้ง่าย

  45. ช่องทางการสื่อสาร • ช่องทางการสื่อสารแบบไร้สาย (ต่อ) ดาวเทียมสื่อสาร (Satellite) • เป็นสถานีรับส่งสัญญาณไมโครเวฟที่มีจานรับส่งคลื่นความถี่ขนาดใหญ่ลอยอยู่ในอวกาศ • ทำหน้าที่ขยายสัญญาณที่รับจากสถานีภาคพื้นดิน ขยายสัญญาณแล้วกระจายสัญญาณต่อไปยังสถานีภาคพื้นดินที่เป็นเป้าหมาย • สามารถส่งข้อมูลปริมาณมากๆ ด้วยความเร็วสูง แต่ถูกดักจับสัญญาณได้ง่ายและค่าใช้จ่ายสูงมาก

  46. ช่องทางการสื่อสาร • ช่องทางการสื่อสารแบบไร้สาย (ต่อ) อินฟาเรด • การสื่อสารโดยใช้คลื่นแสงอินฟาเรด ซึ่งต้องหันตัวรับและตัวส่งให้ตรงกัน และไม่มีสิ่งกีดขวางเส้นสายตา • คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่สื่อสารด้วยวิธีการนี้ต้องมีพอร์ต IrDA • สามารถเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ได้ง่ายและไม่ต้องติดตั้งสายสัญญาณ แต่ระยะทางในการส่งข้อมูลสั้น

  47. ช่องทางการสื่อสาร • ช่องทางการสื่อสารแบบไร้สาย (ต่อ) คลื่นวิทยุ • เป็นการสื่อสารที่กระจายสัญญาณได้ทั้งในระยะไกลและระยะใกล้ • ผู้ส่งต้องใช้เครื่องส่งสัญญาณวิทยุและผู้รับต้องมีอุปกรณ์รับสัญญาณด้วย • มีความเร็วในการส่งข้อมูลน้อยและถูกรบกวนและดักจับสัญญาณได้ง่าย

  48. ช่องทางการสื่อสาร • ช่องทางการสื่อสารแบบไร้สาย (ต่อ) เซลลูลาร์ (Cellular) • เป็นการสื่อสารที่ใช้คลื่นวิทยุ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นเซลล์ • แต่ละเซลล์มีเสาสัญญาณเพื่อรับและส่งข้อมูล โดยข้อความจะถูกส่งไปยังเซลล์ใกล้สุดแล้วส่งต่อไปยังเซลล์อื่นๆ จนถึง Mobile Telephone Switching Office (MTSO) • MTSO จะหาเซลล์ปลายทางและส่งข้อมูลไปยังเซลล์ปลายทาง

  49. ช่องทางการสื่อสาร • ช่องทางการสื่อสารแบบไร้สาย (ต่อ) เซลลูลาร์ (Cellular) • การสื่อสารแบบนี้ใช้งานอย่างแพร่หลายในอุปกรณ์สื่อสารแบบพกพา เช่น โทรศัพท์มือถือ • สามารถใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ในการติดต่อสื่อสารได้ แต่สัญญาณจะถูกรบกวนหรือดักฟังได้ง่าย

  50. ช่องทางการสื่อสาร • ช่องทางการสื่อสารแบบไร้สาย (ต่อ) เซลลูลาร์ (Cellular)

More Related