230 likes | 426 Views
ทัศนคติของนักศึกษาต่อการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาคามฟุ่มเฟือย : กรณีศึกษามหาวิทยาลัยราช ภัฏ เลย(ภาคปกติ). บ .5206. รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม. นางสาว กนกวรรณ สาระแสน เลขที่ 1 นางสาว ขวัญใจ ศรีชมศร เลขที่ 5 นางสาว คณาลักษณ์ ธนะ สูตร เลขที่ 6
E N D
ทัศนคติของนักศึกษาต่อการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาคามฟุ่มเฟือย : กรณีศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย(ภาคปกติ) บ.5206
รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม นางสาว กนกวรรณ สาระแสน เลขที่ 1 นางสาว ขวัญใจ ศรีชมศร เลขที่ 5 นางสาว คณาลักษณ์ ธนะสูตร เลขที่ 6 นางสาว จงจิต ธนะสูตร เลขที่ 7 นาย จตุพักตร์ ผ่านจันศรี เลขที่ 8 นางสาว จันทร์ทิพย์ แสงขาว เลขที่ 9 นางสาว จิตนา จำปาสิม เลขที่ 11 นางสาว จุราลักษ์ พรมทอง เลขที่ 14 นางสาว กชพร แก้วชมพู เลขที่ 17
รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม นางสาว นงคราญ ซึมลาง เลขที่ 18 นางสาว นฤมล มะดาศรี เลขที่ 20 นางสาว นาตยา ศรียงค์ เลขที่ 21 นางสาว ปิยนุช ลำทะสอน เลขที่ 26 นางสาว พรรษา ศรีบุรินทร์ เลขที่ 27 นางสาว ภาวิณี วาลา เลขที่ 30 นางสาว มัทนา ไชยแสง เลขที่ 31 นางสาว เยาวลักษณ์ อธิสุมงคล เลขที่ 32 นางสาว รัตนาพรรณ์ ศรีวัดทานัง เลขที่ 34 นางสาว โสรญา ดวงจันทร์ทิพย์ เลขที่ 38
รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม นาย อภิชาต จันทะวงษ์ เลขที่ 39 นางสาว อรอนงค์ อินทร์กง เลขที่ 41 นางสาว อัญชลี มงคลชัย เลขที่ 43 นางสาว เอมอร ชัยวงษา เลขที่ 45
ที่มาและความสำคัญของปัญหาที่มาและความสำคัญของปัญหา แนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเดียงได้ขยายผลไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 (พ.ศ.2550 – 2554) ที่ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้ความสำคัญกับการนำทุนของประเทศที่มีศักยภาพทั้ง “ทุนทางสังคม” “ทุนทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” และ “ทุนทางเศรษฐกิจ” มาใช้ประโยชน์อย่างบูรณาการและเกื้อกูล
ที่มาและความสำคัญของปัญหาที่มาและความสำคัญของปัญหา ทางด้านค่านิยม จริยธรรมและพฤติกรรมของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย พบว่า นักศึกษามีปัญหาหลายประการที่สะท้อนถึงความวิกฤติ อาทิค่านิยมเลียนแบบการบริโภคตามต่างชาติ ไม่เห็นคุณค่าความเป็นไทย เกิดความฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย ซึ่งนำไปสู่ปัญหาสังคมอื่น ๆ ติดตามมามากมาย เช่นภาวะโรคอ้วน สื่อมีส่วนนำเสนอข่าวสารที่กระตุ้นให้คนในสังคมเกิดค่านิยม และพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
ที่มาและความสำคัญของปัญหาที่มาและความสำคัญของปัญหา การศึกษาทัศนคติของนักศึกษาต่อการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือย : กรณีศึกษานักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย จึงเป็นการวางรากฐานในการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต เนื่องจากพฤติกรรมการบริโภคตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาชาติของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในปัจจุบัน
วัตถุประสงค์การศึกษา 1. เพื่อศึกษาถึงทัศนคติของนักศึกษาต่อการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือย 2. เพื่อศึกษาทัศนคติและข้อเสนอแนะในการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงไปใช้แก้ปัญหาความฟุ่มเฟือย
ขอบเขตการวิจัย 1. ขอบเขตด้านเนื้อหา การศึกษาครั้งนี้ คณะผู้ศึกษามุ่งเน้นศึกษาทัศนะของนักศึกษาต่อการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือย และข้อมูลที่นำมาใช้ในการศึกษาจะเป็นหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3ห่วง 2 เงื่อนไข ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีภูมิคุ้มกัน ความรู้ และคุณธรรม 2. ขอบเขตด้านเวลา ระยะเวลาในการศึกษาอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2553 –มีนาคม พ.ศ.2554
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1.) ทำให้ทราบถึงทัศนคติของนักศึกษาที่มีต่อการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาการฟุ่มเฟือยของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย 2.) ทำให้ทราบถึงปัจจัยที่มีผลต่อทัศนคติของนักศึกษาที่มีต่อการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาการฟุ่มเฟือยของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย 3.) เพื่อนำผลที่ได้จากการศึกษาไปใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงการวางแผนและการดำเนินการพัฒนานำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาการฟุ่มเฟือยของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
ประชากร และกลุ่มตัวอย่าง วิธีการคำนวณหากลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของ (Taro Yamane) ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีทุกชั้นปี(ภาคปกติ) ที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย โดยเลือกจากนักศึกษา 5 คณะ จากประชากรทั้งสิ้น 5,937 คน จะได้ตัวอย่าง 98 คน โดยกำหนดระดับความเชื่อมั่น 95% ยอมให้มีความผิดพลาดได้ 10%
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาวิจัยเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาวิจัย แบบสอบถามมีส่วนประกอบที่สามารถแบ่งได้ 3 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคล ส่วนที่ 2 การนำทัศนคติต่อการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือย ส่วนที่ 3 ข้อเสนอแนะ
สรุปผลการวิจัย ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา เพศชาย ศึกษาอยู่ในคณะวิชาครุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะวิทยาการจัดการ คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ซึ่งอยู่ในชั้นปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในปีสุดท้าย อยู่ที่ 2.00-2.50 นักศึกษาจะมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัด เลย ซึ่งผู้ปกครองมีอาชีพค้าขาย และประกอบธุรกิจส่วนตัว ซึ่งผู้ปกครองจะมีรายได้ 10,000 - 15,000 บาท ซึ่งนักศึกษาได้รับเงินมาใช้จ่ายต่อเดือนที่ 3,000-5,000บาท และนักศึกษาใช้จ่ายต่อเดือนอยู่ที่ 3,000-5,000 ซึ่งนักศึกษาได้รับเงินจากผู้ปกครอง จากการกู้ยืมของสถาบันศึกษา ซึ่งนักศึกษาจะใช้จ่ายในเรื่อง ที่พัก และซื้อของใช้ส่วนตัว ตามลำดับ
สรุปผลการวิจัย ระดับทัศนะคติของนักศึกษาต่อการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือย ระดับทัศนะคติของนักศึกษาต่อการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือย ทุกด้านอยู่ในระดับสูง ด้านความรู้ มากที่สุด รองลงมาคือ ด้านความพอใจ และด้านการมีภูมิคุ้มกันที่ดี น้อยสุด ถือว่าอยู่ในระดับทัศคติสูง
สรุปผลการวิจัย ผลการวิเคราะห์ทัศนะคติของนักศึกษาต่อการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือย จำแนกตามเพศ คณะวิชา ระดับชั้นปี ระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของภาคเรียนสุดท้ายภูมิลำเนา อาชีพของผู้ปกครองรายได้ของผู้ปกครองรายได้ต่อเดือนของนักศึกษาค่าใช้จ่ายต่อเดือนของนักศึกษา การทดสอบความแตกต่างระหว่างเพศ ต่อทัศนะคติของนักศึกษาในการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือยทุกด้านของนักศึกษาแตกต่างกัน มีทัศนคติแตกต่างกัน ทางสถิติที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 (P < 0.01) ทุกด้าน
สรุปผลการวิจัย การทดสอบความแตกต่างระหว่างคณะวิชาต่อทัศนะคติของนักศึกษาในการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือยในภาพรวม และด้านต่าง ๆ ที่แตกต่างกันมีทัศนะคติแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 การทดสอบความแตกต่างระหว่างระดับชั้นปีต่อทัศนะคติของนักศึกษาในการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือยในภาพรวมมีทัศนคติไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 เมื่อพิจารณารายด้านพบว่ามีทัศนะคติด้านคุณธรรม และด้านความรู้มีทัศนะคติแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (P<0.05) ส่วนด้านอื่น ๆ มีทัศนคติไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
สรุปผลการวิจัย การทดสอบความแตกต่างระหว่างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่อทัศนะคติของนักศึกษาในการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือยในภาพรวมมีทัศนคติไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 เมื่อพิจารณารายด้านพบว่ามีทัศนะคติด้านการมีภูมิคุ้มกันดี มีทัศนะคติแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (P<0.05) ส่วนด้านอื่น ๆ มีทัศนคติไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 การทดสอบความแตกต่างระหว่างภูมิลำเนาเดิมทางการเรียนต่อทัศนะคติของนักศึกษาในการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือยในภาพรวม และรายด้านมีทัศนคติแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
สรุปผลการวิจัย การทดสอบความแตกต่างระหว่างกลุ่มอาชีพของผู้ปกครองต่อทัศนะคติของนักศึกษาในการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือยในภาพรวม และรายด้านมีทัศนะคติไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 การทดสอบความแตกต่างระหว่างรายได้เฉลี่ยต่อเดือนของผู้ปกครอง ต่อทัศนะคติของนักศึกษาในการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือยในภาพรวม และรายด้านมีทัศนคติไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
สรุปผลการวิจัย การทดสอบความแตกต่างระหว่างรายได้เฉลี่ยต่อเดือนของผู้ปกครอง ต่อทัศนะคติของนักศึกษาในการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือยในภาพรวม และรายด้านมีทัศนคติไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 การทดสอบความแตกต่างระหว่างรายได้เฉลี่ยต่อเดือนของนักเรียน ต่อทัศนะคติของนักศึกษาในการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือยในภาพรวม และรายด้านมีทัศนะคติไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
สรุปผลการวิจัย การทดสอบความแตกต่างระหว่างรายจ่ายเฉลี่ยต่อเดือนของนักเรียน ต่อทัศนะคติของนักศึกษาในการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือยในภาพรวม และรายด้านมีทัศนะคติไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
อภิปรายผลการวิจัย ทัศนะคติของนักศึกษาต่อการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือย ระดับทัศนะคติของนักศึกษาต่อการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การแก้ปัญหาความฟุ่มเฟือย ทุกด้านอยู่ในระดับสูง
อภิปรายผลการวิจัย ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของ ทศมนพร พุทธจันทรา ได้ศึกษาความคิดเห็นในการดำเนินชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง : กรณีศึกษาข้าราชการในจังหวัดราชบุรี ที่พบว่ามีระดับความคิดเห็นในการดำเนินชีวิตตามแนวคิดเศรษฐกิจแบบพอเดียงด้านการรับรู้เนื้อหาสาระ ด้านการนำมาใช้ประโยชน์ และด้านการนำไปประยุกต์ใช้โดยภาพรวมอยู่ระดับค่อนข้างมาก โดยได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับแนวคิดเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงจากหนังสือพิมพ์มากที่สุด