1 / 38

ปริมาณสัมพันธ์ (Stoichiometry)

ปริมาณสัมพันธ์ (Stoichiometry). เนื้อหา. 1. มวลอะตอม 2. โมล 3. การหาสูตรอย่างง่ายและสูตรโมเลกุล 4. การหามวลเป็นร้อยละจากสูตร 5. ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณของสารในสมการเคมี 6. ผลผลิตตามทฤษฎี ผลผลิตจริงและผลผลิตร้อยละ. ปริมาณสารสัมพันธ์ ( Stoichiometry ).

keelie-peck
Download Presentation

ปริมาณสัมพันธ์ (Stoichiometry)

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ปริมาณสัมพันธ์ (Stoichiometry)

  2. เนื้อหา 1.มวลอะตอม 2.โมล 3.การหาสูตรอย่างง่ายและสูตรโมเลกุล 4.การหามวลเป็นร้อยละจากสูตร 5.ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณของสารในสมการเคมี 6. ผลผลิตตามทฤษฎี ผลผลิตจริงและผลผลิตร้อยละ

  3. ปริมาณสารสัมพันธ์(Stoichiometry)ปริมาณสารสัมพันธ์(Stoichiometry) • เป็นการศึกษาการเปลี่ยนแปลงมวลของสาร ทางกายภาพและทางเคมีเป็นหลัก และ • บอกปริมาณของสารซึ่งอยู่ในลักษณะที่ต่างกันออกไป ทำไมต้องศึกษาปริมาณสารสัมพันธ์ • ใช้คาดคะเนปริมาณผลผลิต เมื่อทราบปริมาณตัวทำปฏิกิริยา • ช่วยประหยัดสารเคมี เพราะสามารถบอกได้ว่าควรใช้ • ตัวทำปฏิกิริยาปริมาณเท่าใดให้พอดี • คำนวณหาพลังงานที่เกิดจากปฏิกิริยาหรือที่ใช้ในปฏิกิริยาได้ • เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ด้านการเพิ่มผลผลิต

  4. ปริมาณสารสัมพันธ์ มวลอะตอม มวลอะตอม (Atomic mass) คือ ตัวเลขที่ได้จากการเปรียบเทียบมวลของธาตุ 1 อะตอม กับมวลของธาตุมาตรฐาน 1 อะตอม ในรูปของหน่วยมวลอะตอม (atomic mass unit, amu) มวลอะตอมของธาตุ คือ มวลเปรียบเทียบที่บอกให้ทราบว่า 1 อะตอมของธาตุนั้นหนักเป็นกี่เท่าของธาตุมารตฐาน

  5. ปริมาณสารสัมพันธ์ มวลอะตอม หน่วยมาตรฐาน : amu (atomic mass unit) 1 อะตอมของ C-12 (มี 6 โปรตอน และ 6 นิวตรอน) มีมวลอะตอม 12 amu 1 amu = 1/12 ของมวล C-12 1 อะตอม = 1.66 x 10-24g มวลอะตอมของธาตุใดๆ จึงเป็นตัวเลขที่แสดงว่าธาตุนั้นๆ 1 อะตอม มีมวลเป็นกี่เท่าของ 1/12 ของมวล C-12 1 อะตอม มวลอะตอมของธาตุ = มวลของธาตุ 1 อะตอม 1/12 ของมวล C-12 1 อะตอม

  6. มวลของ 1 atom Au = 16.4 มวลของ 1 atom 12C มวลของ1 atomAu = 16.4 12 amu. ปริมาณสารสัมพันธ์ มวลอะตอม ตัวอย่างโจทย์ ทอง (Au) มีมวลอะตอมเป็น 16.4 เท่าของ 12C ทองมีมวลอะตอมเป็นกี่ amu มวลของ 1 atom 12C = 12 amu มวลของ1 atomAu = 16.4x 12 amu= 197 amu

  7. ปริมาณสารสัมพันธ์ มวลอะตอม ตัวอย่าง : ทังสเตนมีมวลอะตอม 183.84 amu จงหาน้ำหนักเป็นกรัมของทังสเตน 25 อะตอม วิธีคิด : ทังสเตน 1 อะตอม มีมวล = 183.84 amu ทังสเตน 25 อะตอม มีมวล = 183.84 x 25 amu = 4.596 x 103amu เปลี่ยน amuเป็น g มวล 1 amu= 1.66 x 10-24 g มวล 4.596 x 103amu = 7.629 x 10-21 g ตอบ : ทังสเตน 25 อะตอม มีมวล 7.629 x 10-21 g

  8. ปริมาณสารสัมพันธ์ ตัวอย่าง โพแทสเซียม 1อะตอมมีมวล 64.74x10-24กรัม จะมีมวลอะตอมเท่าไหร่ วิธีทำ มวลของK1อะตอม 64.74x10-24กรัม มวลอะตอมของ K = มวลอะตอมของ K = มวลอะตอมของ K = 39 1.66x10-24กรัม 1.66x10-24 มวลอะตอมของธาตุ = มวลของธาตุ 1 อะตอม โดยทั่วไปธาตุต่างๆมักมีหลายไอโซโทปในธรรมชาติ แต่ละไอโซโทปจะมีมวลอะตอมไม่เท่ากัน 1.66x10-24

  9. ปริมาณสารสัมพันธ์ มวลอะตอม มวลอะตอมเฉลี่ย (Average atomic mass) : นำมวลอะตอมของธาตุที่มีหลายไอโซโทปมาหามวลอะตอมเฉลี่ย มวลอะตอมเฉลี่ย = =

  10. ปริมาณสารสัมพันธ์ มวลอะตอม ตัวอย่าง ทองแดงเป็นโลหะที่มนุษย์รู้จักมาตั้งแต่สมัยโบราณใช้ทำสายไฟฟ้า และเหรียญกษาปณ์ เป็นต้น มวลอะตอมของไอโซโทปที่เสถียร 2 ชนิด ของทองแดง (69.09%) และ (30.91%) มีค่า 62.93 และ 64.9278 amuตามลำดับ จงคำนวณมวลอะตอมเฉลี่ยของทองแดง มวลอะตอมเฉลี่ย = = มวลอะตอมเฉลี่ย = = 63.55 amu

  11. ปริมาณสารสัมพันธ์ มวลอะตอม ตัวอย่างที่ 2มวลอะตอมของไอโซโทปที่เสถียร 2 ไอโซโทปของโบรอน คือ (19.78 %) และ (80.22 %) มีค่า 10.0129 และ 11.0093 amu ตามลำดับ จงคำนวณมวลอะตอมเฉลี่ยของโบรอน มวลอะตอมเฉลี่ย = = มวลอะตอมเฉลี่ย = =10.81amu

  12. ปริมาณสารสัมพันธ์ มวลโมเลกุล น้ำหนักโมเลกุล (MolecularWeight) ใช้วิธีเปรียบเทียบกับมวลของธาตุมาตรฐาน C-12 เช่นเดียวกับมวลอะตอม มวลโมเลกุลของสารใดๆ บอกให้ทราบว่า สารนั้น 1 โมเลกุลมีมวลเป็นกี่เท่า ของ 1/12 ของมวล C-12 1 อะตอม มวลโมเลกุล = มวลของสาร 1 โมเลกุล 1/12 ของมวล C-12 1 อะตอม

  13. มวลโมเลกุลของสาร หาได้จากผลบวกของมวลอะตอม ของธาตุทั้งหมดในโมเลกุล SO2= 1 S + 2 O = (32 x 1) + (16 x 2) = 64 เช่น H2SO4 = 2 H + 1 S + 4 O = (2 x 1) + (1 x 32) + (4 x 16) = 98 CH3COOH = 2 C + 2 O + 4 H = (2 x 12) + (2 x 16) + (4 x 1) = 60

  14. ปริมาณสารสัมพันธ์ มวลโมเลกุล จงคำนวณน้ำหนักโมเลกุลของน้ำตาลกลูโคส ซึ่งมีสูตรโมเลกุล C6H12O6         6  x  น้ำหนักอะตอมของ C     =     6  x  12.01    =     72.06         12 x  น้ำหนักอะตอมของ H     =    12 x  1.008     =     12.00         6  x  น้ำหนักอะตอมของ O    =     6  x  16.00     =      96.00 ดังนั้นน้ำหนักโมเลกุลของกลูโคส =   72.06  +  12.00  +  96.00   =   180.06

  15. ปริมาณสารสัมพันธ์ โมล โมล: ปริมาณสารที่มีจำนวนอนุภาคเท่ากับจำนวนอะตอมของ C-12 ที่มีมวล 12 กรัม ซึ่งมีค่าเท่ากับ 6.02 x 1023อะตอม อนุภาคอาจเป็นอะตอม โมเลกุล หรือ ไอออน เลขจำนวน 6.02 x 1023เรียกว่า เลขอาโวกาโดร (Avogadro’s number) “Lorenzo Romano Amedeo Carlo Avogadro di Quaregna di Cerreto” ชาวอิตาลี 1 โมลของสารใดๆ หมายถึง ปริมาณสารจำนวน 6.02 x 1023อนุภาค ซึ่งมีมวลเท่ากับมวลอะตอมของธาตุหรือมวลโมเลกุลของสารนั้นๆ

  16. ปริมาณสารสัมพันธ์ โมล สารที่มีสถานะเป็นแก๊ส แก๊ส 1 โมล มีปริมาตร 22.4 ลิตร ที่ STP มีจำนวน 6.02 x 1023โมเลกุล (Standard Temperature Pressure; อุณหภูมิ 0 C ความดัน 1 บรรยากาศ) โมลของสาร = น้ำหนักของสาร มวลอะตอมหรือมวลโมเลกุล จำนวนอะตอมหรือโมเลกุลของสาร = โมลของสาร x 6.02 x 1023 ปริมาตรแก๊สที่ STP = โมลของแก๊ส x 22.4 ลิตร

  17. โมล (mole) หน่วยที่ใช้บอกปริมาณสาร 1 mole = 6.02 x1023อนุภาค n = จำนวนอนุภาค NA เมื่อ n = mole NA = Avogadro’s number (6.02 x1023อนุภาค/mol)

  18. สารบริสุทธิ์ n = m MW n =mol; m =mass MW = molecular weight การคำนวณปริมาณสาร

  19. แก๊ส n = V atSTP 22.4 การคำนวณปริมาณสาร (Standard Temperature and Pressure, STP) ที่อุณหภูมิ 0oC (273 K) และ ความดัน 1 บรรยากาศ (760 mmHg)

  20. การคำนวณปริมาณสาร • สารละลาย • n = CV • 1000 • n = mol; C = molarity (M) • V = volume (mLหรือ cm3)

  21. ปริมาณสัมพันธ์ ตัวอย่าง (น้ำหนักเชิงอะตอมของ C = 12, O = 16, Na = 23, Ca = 40, Cl = 35.5, Cu = 63.5) ก) C 36 g มีกี่โมล ข) CO2 88 g คิดเป็นกี่โมล 88 g 36 g = 2 mol 1 mol 1 mol 1 mol = 3 mol 12 g 44 g 106 g ค) Na2CO3 0.5 mol มีน้ำหนักกี่กรัม Na2CO3 159 g มีกี่โมล 106 g 0.5 mol = 53 g 1 mol 159 g = 1.5 mol

  22. จำนวนโมล = น้ำหนักสาร มวลโมเลกุล จำนวนโมลของ NH3 = 15.35 = 0.90 โมล 17 คำถาม : ถ้ามีแก๊สแอมโมเนียหนัก 15.35 กรัม จงคำนวณหาจำนวนโมล จำนวนโมเลกุล และ ปริมาตรที่ STP NH3มวลโมเลกุล = 17 จำนวนโมเลกุล = จำนวนโมล x 6.02 x 1023โมเลกุล = 0.90 x 6.02 x 1023 = 5.42 x 1023 ปริมาตรที่ STP = จำนวนโมล x 22.4 ลิตร = 0.90 x 22.4 = 20.16 ลิตร

  23. สูตรเคมี (Chemical formula) กลุ่มสัญลักษณ์ของธาตุหรือสารประกอบที่แสดงถึงองค์ประกอบของสารต่างๆ ว่าประกอบด้วยธาตุใดบ้างอย่างละกี่อะตอม • Empirical formula สูตรเอมไพริกัล • อัตราส่วนอย่างต่ำระหว่างอะตอมของธาตุในสารประกอบ • Molecular formula สูตรโมเลกุล • บอกจำนวนอะตอมจริงของธาตุในสารประกอบ • Structural formula สูตรโครงสร้าง • แสดงโครงสร้างและพันธะระหว่างอะตอม MW หาจาก molecular formula

  24. สูตรเอมพิริคัลและสูตรโมเลกุลสูตรเอมพิริคัลและสูตรโมเลกุล สูตรเอมพิริคัล คือ สูตรเคมีที่แสดงอัตราส่วนอย่างต่ำของจำนวนอะตอมของธาตุที่เป็นองค์ประกอบในสารประกอบ เช่น CH4เป็นสูตรเคมีที่มีอัตราส่วนจำนวนอะตอม C และ H เป็น 1:4 และอัตราส่วนจำนวนอะตอมก็มีค่าเท่ากับอัตราส่วนจำนวนโมลด้วย ดังนั้น อัตราส่วนจำนวนโมลของ C และ H ใน CH4 ก็คือ 1:4 ด้วย สูตรโมเลกุล คือ สูตรเคมีที่แสดงจำนวนอะตอมของธาตุที่มีอยู่ใน 1 โมเลกุลของธาตุหรือสารประกอบ สารประกอบที่มีสูตรเอมพิริคัลเหมือนกันอาจมีสูตรโมเลกุลต่างกันและเป็นสารประกอบต่างชนิดกันก็ได้ เช่น สารประกอบที่มีสูตรเอมพิริคัลเป็น CH2อาจเป็นโมเลกุล C2H4 C3H6 C4H8หรือ C5H10 ก็ได้ สูตรโมเลกุล = (สูตรเอมพิริคัล)n

  25. การหาสูตรเอมไพริกัลและสูตรโมเลกุลการหาสูตรเอมไพริกัลและสูตรโมเลกุล ปริมาณสารสัมพันธ์ ต้องบอกว่าสารนั้นประกอบด้วยธาตุใดบ้างและมีมวลอย่างละเท่าไหร่ การบอกมวลอาจบอกเป็นกรัมหรือร้อยละ หาอัตราโดยจำนวนโมลอะตอม (mole ratio) ของธาตุองค์ประกอบโดยนำมวลอะตอมของธาตุนั้นไปหารปริมาณของธาตุที่บอกในข้อ 1 นำผลหารจากข้อสองมาเทียบให้เป็นอัตราส่วนอย่างต่ำและเลขจำนวนเต็มลงตัวน้อยๆ ผลที่ได้จากข้อสามจะเป็นสูตรอย่างง่ายของสารประกอบ สูตรโมเลกุล = (สูตรเอมไพริกัล)n n = 1, 2, 3, …….. ต้องมีการปัดเศษ 0.1 – 0.2 ปัดทิ้ง 0.3 – 0.7 ปัดทิ้งไม่ได้ ต้องหาตัวเลขที่มีค่าต่ำสุดมาคูณให้มีค่า ใกล้เคียงกับตัวเลขที่จะปัดได้ 0.8 – 0.9 ปัดขึ้น 1

  26. วิธีทำ อัตราส่วนโดยน้ำหนัก S : O = 50.05 : 49.95 อัตราส่วนโดยจำนวนอะตอม S : O = 50.05 : 49.95 32 16 = 1.56 : 3.12 = 1.56 : 3.12 1.56 1.56 = 1 : 2 หาสูตรโมเลกุล (SO2)n = 64 [32 + (16 x 2)]n = 64 n = 1 ตัวอย่าง.สารประกอบชนิดหนึ่งประกอบด้วย S 50.05% โดยน้ำหนัก และ O 49.95% โดยน้ำหนัก ถ้าน้ำหนักโมเลกุลของสารปะกอบนี้ เท่ากับ 64 จงคำนวณหาสูตรเอมไพริกัล และ สูตรโมเลกุลของสาร ทำให้เป็นอัตราส่วนอย่างต่ำ โดยการหารด้วยตัวเลขที่น้อยที่สุด คือ 1.56 สูตรเอมไพริกัล คือ SO2 สูตรโมเลกุล คือ SO2

  27. การหาสูตรเอมไพริกัลและสูตรโมเลกุลการหาสูตรเอมไพริกัลและสูตรโมเลกุล ปริมาณสารสัมพันธ์ ตัวอย่างกรดแอสคอบิก (วิตามินซี) รักษาเลือดออกตามไรฟัน กรดนี้ประกอบด้วย คาร์บอน (C) 40.92 % ไฮโดรเจน (H) 4.58 % และออกซิเจน (O) 54.50 % โดยมวล จงหาสูตรอย่างง่าย และสูตรโมเลกุลของกรด แอสคอบิก (กำหนดมวลโมเลกุลของกรดแอสคอบิกเท่ากับ 176) อัตราส่วนโดยมวลของ C : H : O = 40.92 : 4.58 : 54.50 : : อัตราส่วนโดยโมลของ C : H : O = = 3.41 : 4.58 : 3.41 หาอัตราส่วนอย่างต่ำ = = 1.0 : 1.3 : 1.0 ดังนั้น สูตรอย่างง่าย คือ C1H1.3O1

  28. การหาสูตรเอมไพริกัลและสูตรโมเลกุลการหาสูตรเอมไพริกัลและสูตรโมเลกุล ปริมาณสารสัมพันธ์ ขั้นต่อไปเปลี่ยน 1.3 ให้เป็นเลขจำนวนเต็มโดยวิธีลองผิดลองถูก คูณ 2 ตลอด จะได้ C2H2.6O2 ซึ่งยังปัดไม่ได้ คูณ 3 ตลอด จะได้ C3H3.9O3C3H4O3 หาสูตรโมเลกุลจาก (สูตรอย่างง่าย)n = มวลโมเลกุล (C3H4O3 )n = 176 (3(12) + 4(1) + 3(16))n = 176 88 n = 176 n = = 2 ดังนั้น สูตรโมเลกุลของกรดแอสคอร์บิก คือ (C3H4O3 )2 = C6H8O6

  29. การหาสูตรเอมไพริกัลและสูตรโมเลกุลการหาสูตรเอมไพริกัลและสูตรโมเลกุล ปริมาณสารสัมพันธ์

  30. ความสัมพันธ์ของปริมาณสารกับสมการเคมีความสัมพันธ์ของปริมาณสารกับสมการเคมี เงื่อนไข ผลผลิต ตัวทำปฏิกิริยา ปริมาณสารสัมพันธ์ สมการเคมี สมการเคมี ประกอบด้วยสัญลักษณ์หรือสูตรของสารต่างๆ - ใช้เขียนแทนการเปลี่ยนแปลงทางเคมี - บอกให้ทราบว่า สารใดทำปฏิกิริยากันและเกิดสารใดบ้าง - ใช้ในการคำนวณปริมาณสัมพันธ์ของสารต่างๆในปฏิกิริยานั้นๆ

  31. ความสัมพันธ์ของปริมาณสารกับสมการเคมีความสัมพันธ์ของปริมาณสารกับสมการเคมี ปริมาณสารสัมพันธ์ ก่อนที่จะนำสมการเคมีมาใช้ในการคำนวณ สมการเคมีนั้นต้องดุลเสียก่อน นั่นคือจะต้องเป็นไปตาม กฎทรงมวล (อะตอมของแต่ละธาตุทางซ้ายมือของสมการนั้นจะต้องเท่ากับอะตอมของแต่ละธาตุทางขวามือของสมการ) 1. เริ่มดุลจากโมเลกุลที่ใหญ่ที่สุดหรือโมเลกุลที่ประกอบด้วย ธาตุมากที่สุดก่อน 2. ดุลโลหะ 3. ดุลอโลหะ(ยกเว้น H และ O) 4. ดุล H และ O 5. ตรวจดูจำนวนของธาตุในสมการ

  32. การดุลสมการเคมี 2 CH4 C2H8 ไม่ใช่ ปริมาณสารสัมพันธ์ • เขียนสูตรโมเลกุลที่ถูกต้องของตัวทำปฏิกิริยาไว้ทางซ้ายมือและเขียนสูตรโมเลกุลที่ถูกต้องของผลิตภัณฑ์ไว้ทางขวามือ มีเทนทำปฏิกิริยากับออกซิเจนเกิดเป็นคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ CH4 + O2 -----> CO2 + H2O • เติมตัวเลขสัมประสิทธิ์หน้าสูตรโมเลกุลของสารแต่ละตัวเพื่อให้จำนวนอะตอมของธาตุทางซ้ายและขวามือของสมการเท่ากัน ห้ามเปลี่ยนตัวเลขห้อยในสูตรโมเลกุลเด็ดขาด • เริ่มต้นจากการดุลอะตอมของธาตุที่พบในแต่ละข้างของสมการเพียงข้างละหนึ่งสาร (เลือกธาตุที่มีเพียงตัวเดียวก่อน) • ดุล C ก่อน แต่ทั้งสองข้างมีข้างละ 1 อะตอมเท่ากัน • ดุล H โดยเติม 2 หน้า H2O ในข้างขวามือ CH4 + O2 -----> CO2 + 2 H2O • ดุลอะตอมของธาตุที่พบในแต่ละข้างของสมการที่มีมากกว่าหนึ่งตัว CH4 + O2 -----> CO2 + 2 H2O 1x2 = 21x2 + 2x1 = 4 คูณ O2ฝั่งซ้ายด้วย 2 CH4 + 2 O2 -----> CO2 + 2 H2O

  33. ความสัมพันธ์ของปริมาณสารกับสมการเคมีความสัมพันธ์ของปริมาณสารกับสมการเคมี ปริมาณสารสัมพันธ์ 1._ H2 + _ O2 ----> _ H2O 2. _ C3H8 + _ O2 ----> _ CO2 + _ H2O 3. _ Na2O2 + _ H2O ----> _NaOH + _O2 4.   _ KClO3 ----> _ KCl + _ O2 5.   _ KClO3 + _ C12H22O11 ----> _ KCl + _CO2 + _H2O จงดุลสมการต่อไปนี้ 2H2 + O2 ---->  2H2O C3H8 + 5O2 ----> 3CO2 + 4H2O 2Na2O2 + 2H2O ----> 4NaOH +O2 2KClO3 ----> 2KCl + 3O2 8KClO3 + C12H22O11 ----> 8KCl + 12CO2 + 11H2O

  34. ปริมาณสารสัมพันธ์ การคำนวณจากสมการเคมี - เขียนสมการเคมีของปฏิกิริยานั้น พร้อมดุลสมการให้ถูกต้อง - พิจารณาเฉพาะสารที่ต้องการทราบและสารที่กำหนดให้ที่มีความเกี่ยวข้องกัน - นำข้อมูลที่กำหนดให้มาคำนวณเพื่อหาปริมาณสารที่ต้องการ Ex : จงคำนวณว่าต้องใช้สังกะสีกี่กรัม และกี่โมล ทำปฏิกิรยากับกรด เกลือ จึงจะทำให้แก๊สไฮโดรเจน 0.224 ลิตร ที่ STP ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นคือ     Zn  +  2HCl    ---->     ZnCl2+  H2 ที่ STP  H2  22.4  ลิตร (1 mol) เตรียมได้จากสังกะสี   65.4 g (1 mol) H2    0.224 ลิตร เตรียมได้จากสังกะสี = 0.654    g                       ดังนั้นจะต้องใช้สังกะสี=   0.654 gหรือ=  0.01 mol

  35. ปริมาณสารสัมพันธ์ สารกำหนดปริมาณ ถ้าสารที่ทำปฏิกิริยามีปริมาณไม่พอดีกัน ปฏิกิริยาจะสิ้นสุดเมื่อสารใดสารหนึ่งหมด สารที่หมดก่อนจะเป็นตัวกำหนดปริมาณของผลผลิตที่เกิดขึ้น เรียกว่า สารกำหนดปริมาณ (Limiting reagent)

  36. Ex : จงคำนวณว่าเกิด H2O กี่กรัม จากปฏิกิริยาระหว่างไฮโดรเจน 11.2 ลิตร และออกซิเจน 11.2 ลิตรที่ STP          2H2(g)+     O2(g)----->        2H2O(g)   H2   11.2 ลิตรมีปริมาณ =    0.5 mol O2   11.2 ลิตรมีปริมาณ =    0.5 mol หาสารกำหนดปริมาณ ; H2    =   =   0.25 mol O2=   =    0.5 mol ดังนั้น     H2เป็นสารกำหนดปริมาณ จากสมการ    H2      2  mol    เตรียมน้ำได้          2 x 18 g H2   0.5  mol    เตรียมน้ำได้       9.0   g ดังนั้นเตรียมน้ำได้      9.0 g.

  37. ผลได้ตามทฤษฎี (Theoretical yield) เป็นค่าที่ได้จากการคำนวณปริมาณผลผลิตตามสมการเคมี ที่ถือว่าปฏิกิริยานั้นเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ ในทางปฏิบัติ ผลผลิตที่ได้จากปฏิกิริยาจะมีค่าแตกต่างไปจากผลที่ได้ตามทฤษฎีเสมอ ปริมาณผลผลิตที่ได้นี้ เรียกว่า ผลได้จริง (Actual yield) การรายงานผลการทดลอง มักเปรียบเทียบผลได้จริงกับผลตามทฤษฎี ในรูปของ ผลได้ร้อยละ (Percentage yield) ผลได้ร้อยละ = ผลได้จริง X 100 ผลได้ตามทฤษฎี

  38. Ex : จงหาปริมาณผลผลิตตามทฤษฎี(เป็นกรัม) ของทองแดงที่ได้จากการ แยก คอปเปอร์(I) ซัลไฟด์ (Cu2S) 1590 g.ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นคือ       Cu2S   +   O2---->       2Cu   +   SO2ถ้าผลการทดลองได้ทองแดง 1,200 g. จงคำนวณหาผลผลิตร้อยละ ถ้าการทดลองเกิดทองแดง 1200 กรัม Cu2S   1590 g.    = 1590 = 10 mol จากสมการ Cu2S       1 molเตรียม    Cu   ได้      2 mol =   2 x 63.5 g.      Cu2S     10 molเตรียม    Cu   ได้    2 x 63.5 x 10 = 1270 g. ผลผลิตร้อยละ = 1200 x  100    =   94.5 159 1270

More Related