1 / 19

แหล่งเรียนรู้สำคัญในเกาะรัตนโกสินทร์ (ต่อ)

แหล่งเรียนรู้สำคัญในเกาะรัตนโกสินทร์ (ต่อ). วิชา ท้องถิ่นของเรา. ป้อมมหากาฬ. ตั้งอยู่บริเวณเชิงสะพานผ่านฟ้า ลีลาศ ติด กับถนนมหาไชย เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ทาง ด้านหลังมีกำแพงเมืองพระนครหลงเหลืออยู่

karma
Download Presentation

แหล่งเรียนรู้สำคัญในเกาะรัตนโกสินทร์ (ต่อ)

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. แหล่งเรียนรู้สำคัญในเกาะรัตนโกสินทร์ (ต่อ) วิชา ท้องถิ่นของเรา

  2. ป้อมมหากาฬ • ตั้งอยู่บริเวณเชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ติดกับถนนมหาไชย เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ทางด้านหลังมีกำแพงเมืองพระนครหลงเหลืออยู่ • ป้อมมหากาฬสร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ-พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในปี เป็นป้อม 1 ใน 14 ป้อมที่โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อป้องกันรักษาพระนคร มีลักษณะรูปแปดเหลี่ยม มีกำแพงล้อมรอบ 2 ชั้น เป็นป้อมประจำ พระนครด้านตะวันออก • กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนป้อมมหากาฬพร้อมด้วยกำแพงเมืองเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 66 ตอนที่ 65 วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2492

  3. วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหารวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร • เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวร- มหาวิหาร 1 ใน 6 ของไทย และถือเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 8 ตั้งอยู่ ริมถนนตีทอง 1 ถนนบำรุงเมือง หน้าวัดออกทางถนนอุณากรรณ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร • การก่อสร้างวัดมาเสร็จบริบูรณ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ใน พ.ศ. 2390 และพระราชทานนามว่า “วัดสุทัศนเทพวราราม”

  4. ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงผูกนามพระประธานใน พระวิหาร พระอุโบสถและศาลาการเปรียญให้คล้องกันว่า “พระศรีศากยมุนี” “พระพุทธตรีโลกเชษฐ์” และ “พระพุทธ-เสรฏฐมุนี” • เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร- มหาอานันทมหิดลเสด็จสวรรคตแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บรรจุพระบรมราช-สรีรางคารพระบรมเชษฐาธิราชเจ้าไว้ ณ ผ้าทิพย์ เบื้องหน้าฐานชุกชีพระศรีศากยมุนี (พระประธานในพระวิหารหลวง)

  5. วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม • เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า-เจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นวัดประจำรัชกาล • มีลักษณะผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยและยุโรป คือ ลักษณะภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมไทย ส่วนภายในออกแบบตกแต่งอย่างตะวันตก และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม • เป็นพระอารามหลวงสุดท้าย ที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างตามโบราณราชประเพณีที่มีการสร้างวัดประจำรัชกาล

  6. วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหารมีสุสานหลวง ซึ่งตั้งอยู่นอกเขตกำแพงมหาสีมาธรรมจักของวัดด้านทิศตะวันติดกับถนนอัษฎางค์ ริมคลองคูเมืองเดิม • อนุสาวรีย์ที่สำคัญคือ เจดีย์สีทอง 4 องค์ เรียงลำดับจากเหนือไปใต้ ซึ่งมีชื่อสอดคล้องกันดังนี้ สุนันทานุสาวรีย์รังษีวัฒนาเสาวภาประดิษฐานสุขุมาลนฤมิตร์

  7. เสาชิงช้า • เป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ประกอบพิธีโล้ชิงช้า ในพระราชพิธีตรียัมพวาย ตรีปวาย ของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดูโดยทั่วไปหมายถึง เสาชิงช้าที่ตั้งอยู่หน้าวัดสุทัศน์เทพวรารามและลานหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(ลานคนเมือง) ใกล้กับ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ • ในประเทศไทยยังมีเสาชิงช้าอีกแห่งหนึ่ง ที่หน้าหอพระอิศวร เมืองนครศรีธรรมราชซึ่งมีการประกอบพิธีโล้ชิงช้ามาแต่โบราณเช่นกัน แต่ได้เลิกไปก่อนที่จะมีการก่อสร้างขึ้นใหม่ในภายหลัง

  8. ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร • กรุงเทพมหานคร เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ซึ่งทำหน้าที่บริหาร เขตการปกครองพิเศษกรุงเทพมหานคร ตามกฎหมายปัจจุบัน คือ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 • กรุงเทพมหานคร กำหนดเครื่องหมายราชการเป็นภาพพระอินทร์ พระหัตถ์ขวาทรงวชิราวุธ พระหัตถ์ซ้ายทรงตะขอ ประทับบนหลังช้างเอราวัณหนึ่งเศียรสี่งาทรงเครื่อง ประกอบด้วยรัศมีและลายเมฆ

  9. เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ • เป็นศาสนสถานในศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู ที่มีความสำคัญมากที่สุดในบรรดาวัดฮินดูทั้งหมดในประเทศไทย ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานที่ประดิษฐานเทวรูปที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์และมีความงดงามที่สุดอีก แห่งหนึ่งในประเทศไทย ตั้งอยู่ ณ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ใกล้เสาชิงช้าและศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

  10. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2327 มีโบสถ์ทั้งหมด 3 หลัง เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนชั้นเดียว มีกำแพงล้อมรอบ ปัจจุบันมีอายุได้ 229 ปี • สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบ พระราชพิธีสำคัญประจำพระนคร อาทิ พระราชพิธีตรียัมปวาย ตรีปวาย เป็นต้น พระนารายณ์ พระคเณศ พระอิศวร

  11. วัดบวรนิเวศวิหาร • สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เป็นวัดชั้นเอกชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่ ต้นถนนตะนาวและถนนเฟื่องนคร บางลำพู กรุงเทพฯ • วัดนี้เป็นวัดที่ประทับของพระมหากษัตริย์เมื่อ ทรงผนวชหลายพระองค์ เช่น พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 และพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน • นอกจากนี้ยังเป็นที่ประทับของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกและเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

  12. กำแพงและประตูเมืองหน้าวัดบวรนิเวศวิหารกำแพงและประตูเมืองหน้าวัดบวรนิเวศวิหาร • ตั้งอยู่ริมถนนพระสุเมรุ ตรงข้ามวัดบวรนิเวศน์วิหาร แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เป็นแนวกำแพงและประตูเมืองอยู่ในช่วงระหว่างป้อมพระสุเมรุและ ป้อมมหากาฬ ซึ่งเหลืออยู่เพียงประตูเดียวในจำนวนทั้งหมด 16 ประตูของกำแพงเมืองรอบพระนคร • กำแพงและประตูเมืองหน้าวัดบวรนิเวศวิหารนี้เป็นส่วนที่เหลืออยู่ของแนวกำแพงเมืองชั้นนอกซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1แต่เดิมนั้นแนวกำแพงเมืองชั้นนอกนั้นเริ่มจากปากคลองบางลำพูยาวจรด ปากคลองโอ่งอ่าง อันเป็นแนวคูเมืองชั้นกลาง

  13. ตลาดบางลำพู • บางลำพูเป็นถิ่นที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เพราะเป็นย่านตลาดการค้าที่สำคัญ • บางลำพูเริ่มเจริญขึ้นเมื่อตัดถนนจักรพงษ์ต่อจากถนนเจ้าฟ้าขึ้นไปถึงสะพานนรรัตนสถาน และตัดถนนสามเสนต่อจากสะพานนรรัตน-สถานขึ้นไปจนถึงถนนนครไชยศรี • ปัจจุบันย่านบางลำพูเป็นศูนย์กลางการค้าหลายชนิด ทั้งผ้า เสี้อผ้าและอาหาร มีทั้งร้านค้าที่ตั้งอยู่ในอาคารตึกเก่าบางลำพู และร้านค้าที่ตั้งอยู่ริมถนนสิบสามห้าง ถนนบวรนิเวศ ถนนสามเสน และถนน จักรพงษ์

  14. พระที่นั่งสันติชัยปราการพระที่นั่งสันติชัยปราการ • สร้างขึ้นตอนเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 โดยสร้างตอนที่ปรับปรุง ภูมิทัศน์ของป้อมพระสุเมรุโดยพระที่นั่งองค์นี้ใช้เป็นสถานทีประกอบงาน พระราชพิธีทางชลมารถ • ในบริเวณเดียวกันมีสวนสาธารณะ สันติชัยปราการ เป็นสวนสาธารณะระดับชุมชนเมือง สร้างบนพื้นที่ประมาณ 8 ไร่เศษ บริเวณโดยรอบ ป้อมพระสุเมรุ

  15. ป้อมพระสุเมรุ • เป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 ในสมัยนั้นได้มีการสร้าง ป้อมปราการ 14 แห่งเพื่อป้องกัน พระนคร แต่เมื่อเวลาผ่านไปป้อมปราการหมดความจำเป็นจึงถูกรื้อถอนไป ป้อมพระสุเมรุเป็น 1 ใน 2 ป้อมที่ยังคงเหลืออยู่ อีกป้อมหนึ่งคือป้อมมหากาฬ ชื่อป้อมพระสุเมรุได้นำมาตั้งเป็นชื่อถนนพระสุเมรุ

  16. วัดอรุณราชวราราม • นิยมเรียกกันในภาษาพูดว่า วัดแจ้งหรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า วัดอรุณ เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา ว่ากันว่าเดิมเรียกว่า วัดมะกอก • ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า-เจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดอรุณราชธารามหลายรายการ และให้อัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธ- เลิศหล้านภาลัยมาบรรจุไว้ที่พระพุทธอาสน์ของพระประธานในพระอุโบสถด้วย เมื่อการปฏิสังขรณ์เสร็จสิ้นลง พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดอรุณราชวราราม”

  17. ป้อมวิไชยประสิทธิ์ • ป้อมวิไชยประสิทธิ์ เป็นป้อมสำคัญที่ใช้ป้องกันข้าศึกตามริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านตะวันตก ทางเหนือของปากคลองบางหลวง (คลองบางกอกใหญ่) • สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เดิมชื่อ ป้อมวิไชยเยนทร์ ตั้งตามชื่อของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ชาวกรีกที่เป็นผู้กราบบังคมทูลให้สร้างป้อมแห่งนี้ เพื่อป้องกันเรือรบของฮอลันดา • ต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสถาปนา กรุงธนบุรีเป็นราชธานี ได้ทรงสร้างพระราชวังขึ้นบริเวณป้อมนี้ พร้อมกับปรับปรุงป้อมพระราชทานนามว่า “ป้อมวิไชยประสิทธ์”

  18. โรงพยาบาลศิริราช • เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2429 พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการจัดสร้างโรงพยาบาลขึ้น • ในระหว่างที่เตรียมการก่อสร้างโรงพยาบาลนั้น สมเด็จ พระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ พระราชโอรส อันประสูติจากสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถได้ประชวรโรคบิดสิ้นพระชนม์ลง • ครั้นเสร็จงานพระเมรุแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รื้อโรงเรือนและเครื่องใช้ต่าง ๆ ในงานพระเมรุนำไปสร้างโรงพยาบาล ณ บริเวณวังหลัง • พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงพระกรุณาเสด็จ พระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดและพระราชทานนามว่า โรงศิริราชพยาบาล หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า โรงพยาบาลวังหลัง

  19. ศูนย์นิทรรศน์รัตนสังวาลย์ศูนย์นิทรรศน์รัตนสังวาลย์ • เป็นโครงการพัฒนานวัตกรรมและ แหล่งเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติฯจัดทำขึ้นเนื่องในโอกาสมหามงคล 3 ประการ คือ (1) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดชฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา (2) ครบ 111 ปี วันพระราช-สมภพของสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนีผู้ทรงเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนสตรีวิทยา (3) โรงเรียนสตรีวิทยาได้ก่อตั้งมาครบ 111 ปีใน พ.ศ. 2554

More Related