1 / 21

Internet

Internet. โดย ประวิทย์ วิมานทอง งานบริการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้. มีอะไรน่าสนใจบ้างใน Internet. ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต การใช้โปรแกรมในเครือข่ายในการให้บริการ อินเตอร์เน็ต ได้แก่ การรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ( E-mail) การถ่ายโอนแฟ้ม ( FTP)

kaloni
Download Presentation

Internet

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Internet โดย ประวิทย์ วิมานทอง งานบริการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้

  2. มีอะไรน่าสนใจบ้างใน Internet • ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต • การใช้โปรแกรมในเครือข่ายในการให้บริการ อินเตอร์เน็ต ได้แก่ • การรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) • การถ่ายโอนแฟ้ม (FTP) • กระดาษเครือข่าย (Usernet) • การใช้บริการ WWW (World Wide Web)

  3. Internet คืออะไร คือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์หลาย ๆ ระบบที่ใช้โปรโตคอลแบบ TCP/IP (Transfer Communication Protocol / Internet Protocol) ทั่วโลกเข้าด้วยกัน การติดต่อจะใช้ ชื่อ - ที่อยู่ ในการติดต่อเป็นมาตรฐานเดียวกัน คือ ขึ้นต้นด้วย http:// www.ตามด้วยชื่อที่อยู่

  4. ความเป็นมาของ Internet เป็นเครือข่ายที่เริ่มมาจากเครือข่ายอาร์ปาเน็ต (ARPANET : Advanced Research Project Agency Network) ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา เริ่มใช้งาน ปี ค.ศ.1969 เพื่อเชื่อมโยงศูนย์คอมพิวเตอร์ที่ห่างไกลกัน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้กลุ่มนักวิจัยที่อยู่ในที่ต่าง ๆ สามารถติดต่อและใช้แหล่งทรัพยากรร่วมกันได้

  5. ความเจริญเติบโตของ Internet • ค.ศ. 1984 มีแม่ข่ายคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายประมาณ 1,000 เครื่อง • ค.ศ. 1989 มีแม่ข่ายคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายประมาณ 100,000 เครื่อง • ค.ศ. 1992 มีแม่ข่ายคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายประมาณ 1 ล้านเครื่อง • ค.ศ. 1994 มีแม่ข่ายคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายประมาณมากกว่า 3.2 ล้านเครื่อง และมีผู้ใช้มากกว่า 20 ล้านคน

  6. วัตถุประสงค์ของเครือข่ายอินเตอร์เน็ตวัตถุประสงค์ของเครือข่ายอินเตอร์เน็ต • เพื่อติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้และเทคโนโลยีต่าง ๆ ระหว่างกันทั่วโลก • เพื่อแบ่งปันการใช้ทรัพยากร เช่น ข้อมูล ข่าวสาร โปรแกรม ร่วมกันระหว่างองค์กรต่าง ๆ • เพื่อเป็นแหล่งความรู้ แหล่งบันเทิง แหล่งทดสอบสำหรับการพัฒนาใหม่ ๆ ของเทคโนโลยีเครือข่าย

  7. ปัจจุบันอินเตอร์เน็ตได้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย เช่น • ติดตามข่าวสารในทุก ๆ ด้านได้ (หนังสือต่าง ๆ) • ดูข้อมูลที่มีทั้งภาพและเสียง • สามารถคุยโต้ตอบกันผ่านทางอินเตอร์ได้ • มีแหล่งให้ดาวโหลดข้อมูลฟรีได้อย่างมากมาย • สามารถส่งข้อความเพจเจอร์หรือโทรศัพท์มือถือได้ • สามารถเล่นเกมส์ผ่านทางอินเตอร์ได้ • สามารถสั่งซื้อของได้ทางอินเตอร์ เน็ตได้ ฯลฯ

  8. จรรยาบรรณสำหรับผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจรรยาบรรณสำหรับผู้ใช้อินเตอร์เน็ต • ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายหรือละเมิดผู้อื่น • ไม่รบกวนการทำงานของผู้อื่น • ไม่สอดแนม หรือแก้ไขเปิดดูแฟ้ม หรือโจรกรรมข้อมูลข่าวสารของผู้อื่น • ไม่คัดลอกโปรแกรมผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์ • ไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน • ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฏ ระเบียบ กติกา มารยาท

  9. อินเตอร์เน็ต • หน่วยงานที่ให้บริการอินเตอร์เน็ตเรียกว่า Internet Service Provider หรือ ISP ให้บริการอินเตอร์เน็ตแก่สมาชิก (Internet Account) • Internet Server เป็นแม่ข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อเชื่อมโยงเข้ากับระบบอินเตอร์เน็ตทั่วโลก

  10. เชื่อมต่อไปยังเครือข่ายอื่น ๆ การทำงานของเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ลูกข่าย ลูกข่าย ลูกข่าย Computer Server คอมพิวเตอร์แม่ข่าย ผู้ใช้อินเตอร์เน็ต

  11. หมายเลขไอพี (IP number หรือ IP Address) • เป็นหมายเลขอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นเลขประจำตัวของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต่อเข้ากับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เปรียบเสมือนเลขที่บ้านของแต่ละ หรือแต่ละแห่ง • หมายเลข IP ประกอบด้วยเลข 4 ชุด เช่น 194.54.21.2 หรือ 202.44.252.20 เป็นต้น 1 2 3 4

  12. การแบ่ง Class ของ IP Address • Class จะถูกแบ่งตามขนาดของเครือข่ายและจำนวนเครื่อง • คอมพิวเตอร์ที่ต่อพ่วงในองค์กร โดยพิจารณาจาก หมายเลขชุดหน้าสุด (ชุดที่ 1) ว่า IP Address อยู่ในระดับ Class ใด Class A: 0 - 127 Class B: 128 - 191 Class C: 192 - 223 Class D: 224 - 239 Class E: 240 - 255 หมายเลข IP Class 10.0.0.1 A 130.245.50.1 B 202.44.252.20 C

  13. ทุกเครือข่ายคอมพิวเตอร์หรือทุกองค์กรจะต้องมีหมายเลข IP ของตัวเอง โดยการขอจดทะเบียนจากศูนย์สารสนเทศเครือข่าย (NIC : Network Information Center) ซึ่งจะมีแต่ละประเทศ

  14. โดเมน (Domain Name) • เป็นชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดต่อกันในเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ใช้เรียกชื่อแทนการใช้หมายเลขไอพี เนื่องจาก IP เป็นหมายเลขที่ยากต่อการจดจำ ไม่สะดวกแก่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ • ในการกำหนดโดเมนจะมีมาตรฐานของเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เรียกว่า DNS (Domain Name System) โดยแยกออกเป็นกลุ่มองค์กรและประเทศตามแบบฟอร์ม

  15. การอ่านชื่อ Domain Name DNS จะแปลงตัวเลข IP Address ที่คอมพิวเตอร์เข้าใจให้ กลายเป็นชื่อที่เราอ่านแล้วเข้าใจง่ายกว่า เช่น แปลงจาก ตัวเลข 202.28.38.25 เป็น mju.ac.th DNS เรียงลำดับความสำคัญของชื่อจากขวาไปซ้ายโดยมี ตัวจุดคั่นดังตัวอย่าง mju.ac.th

  16. การอ่านชื่อ Domain Name mju.ac.th th ย่อมาจาก Thailand เป็นชื่อประเทศ ac ย่อมาจาก Academic เป็นประเภทของการ ใช้งานทางด้านการศึกษาและวิชาการ mju ย่อมาจาก Maejo University เป็นชื่อหน่วย งานที่เป็นเจ้าของ

  17. ลำดับขั้นของ Domain โดเมนทางขวามือสุดมักจะแบ่งแยกตามหมวดหมู่หลัก ๆ ดังนี้ comหมายถึง Commercial ใช้ในธุรกิจ, บริษัท ห้างร้าน ฯลฯ edu หมายถึง Education ใช้ในสถาบันการศึกษา, มหาวิทยาลัยgov หมายถึง Government ใช้ในหน่วยงานราชการ net หมายถึง Network เป็นเครือข่ายเน็ตเวิร์ค

  18. โดเมน (Domain Name) • ตัวอย่างของหมายเลข IP และ Domain Name • 202.44.252.20 maejo.mju.ac.th • 192.133.10.1 chulkn.chula.ac.th • 158.108.2.71 nontri.ku.ac.th

  19. โดเมน (Domain Name) • ตัวอย่างการอ่าน Domain Name • tv3.co.thสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 • ch7.com สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 • mcot.or.th สถานีโทรทัศน์ช่อง 9

  20. ISP คืออะไร • เป็นหน่วยงานที่ให้บริการอินเตอร์เน็ตเรียกว่า Internet Service Provider หรือ ISP • ให้บริการการใช้งานอินเตอร์เน็ตแก่สมาชิก (Internet Account)

  21. โปรแกรมที่ใช้ในการเล่นอินเตอร์เน็ตโปรแกรมที่ใช้ในการเล่นอินเตอร์เน็ต โปรแกรมที่นิยมใช้ในการเล่นอินเตอร์เน็ต มีด้วยกันอยู่ 2 โปรแกรม คือ • Netscape (เน็ตสเคป) • Internet Explorer (ไอ อี)

More Related