30 likes | 272 Views
การตั้งตำรับยาเหน็บทวารหนักจากสารสกัดเห็ด Phellinus linteus Formulation of rectal suppositories from mushroom ( Phellinus linteus ) extract. ฐาปนัท นาคครุฑ , ภัทธนากร ใจตุรงค์, สุรพล นธการกิจกุล ภาควิชาวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. ผลการศึกษาและอภิปราย.
E N D
การตั้งตำรับยาเหน็บทวารหนักจากสารสกัดเห็ด Phellinuslinteus Formulation of rectal suppositories from mushroom (Phellinuslinteus) extract ฐาปนัท นาคครุฑ, ภัทธนากร ใจตุรงค์, สุรพล นธการกิจกุล ภาควิชาวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผลการศึกษาและอภิปราย ที่มาและความสำคัญ เห็ด เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำประเภทรา เกิดชุกในธรรมชาติในฤดูฝน ซึ่งปัจจุบันมีการนำเอาเห็ดมาใช้ประโยชน์หลาย ๆด้าน ทั้งการนำมารับประทานเป็นอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และยาสมุนไพร อุตสาหกรรมในครัวเรือนได้รับการส่งเสริมให้เพาะเลี้ยงเห็ด รวมทั้งยังเป็นที่สนใจของนักวิทยาศาสตร์ในการที่จะนำสารสกัดจากเห็ดมาใช้ประโยชน์ในหลายๆ ด้าน เห็ด Phellinus linteus มีรูปร่างคล้ายกับเห็ดหลินจือแต่มีขนาดที่ใหญ่กว่าเห็ดหลินจือหลายเท่าตัว และมีการเจริญซ้อนทับกันเป็นชั้น หมวกเห็ดด้านบนมีสีน้ำตาลดำส่วนด้านใต้มีสีอ่อนกว่า ( ดูรูปที่ 1 ประกอบ ) เห็ดดังกล่าวนี้กำลังเป็นที่นิยมสนใจในตลาดและมีรายงานการค้นคว้าวิจัย และการนำไปประยุกต์ใช้ ภาพที่ 1 เห็ดPhellinus linteus Leo JLD Van Griensven and H. Savelkoul ได้รายงานผลการทดสอบฤทธิ์ที่มีอยู่ในสารสกัดPhellinus linteusโดยศึกษา ค้นคว้าทางชีวเคมีและทางชีววิทยาระดับโมเลกุล พบสารซึ่งมีฤทธิ์ทางยาใน ได้แก่ โพลีแซค-คาไลด์ D6 (Polysaccharide D6), ไตรเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids), อดีโนซีน ( Adenosine ) และสารโปรตีนกลุ่มอื่น ๆ นอกจากนี้ยังพบว่าสารสกัดจาก Phellinus linteus มีประสิทธิผลในการกระตุ้น IL-10 ซึ่งเป็นตัวควบคุมระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ อย่างมีนัยสำคัญโดยการทดสอบ ELISA จากข้อมูลหลายด้านที่มีอยู่ประกอบกับความต้องการในระดับอุตสาหรรมและการรักษาทางคลินิก ผู้ทำวิจัยจึงเห็นถึงประโยชน์ของเห็ดดังกล่าว จึงมีความต้องการในการที่จะนำเอาสารสกัดจากเห็ด Phellinus linteusซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทางบริษัทอินทิเกรเต็ด โปรโมชั่น เทคโนโลยี จำกัด เตรียมยาในรูปแบบยาเตรียมยาเหน็บ ในการรักษาโรคในสัตว์เลี้ยง ได้แก่ สุนัขและแมว ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่นิยมในคนไทยและคนต่างชาติ จากผลิตภัณฑ์ของเห็ด Phellinus linteusในท้องตลาดมีเพียงรูปแบบสารสกัดที่เป็นน้ำและผงแห้งเท่านั้น ลักษณะภายนอกของยาเหน็บที่สังเกตได้ ตารางที่ 1 ลักษณะภายนอกของยาเหน็บ 2. ความแข็ง ( mechanical strength ) แผนภูมิที่ 1 ความแข็งของตัวยาสำคัญ (mechanical strength ) 3. ความสม่ำเสมอของตัวยาสำคัญ ( uniformity of content ) ตารางที่ 2 ความสม่ำเสมอของตัวยาสำคัญ ( uniformity of content ) วัตถุประสงค์ เพื่อทำการตั้งตำรับยาเหน็บทวารหนักจากสารสกัดเห็ด Phellinuslinteus เพื่อตรวจสอบและประเมินคุณภาพวัตถุดิบจากสารสกัดที่ได้จากเห็ด เพื่อตรวจสอบและประเมินคุณภาพยาเหน็บที่ตั้งตำรับให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานกำหนด วิธีการศึกษา 1. ทบทวนวรรณกรรม สำรวจข้อมูล 2. ขั้นการหาตำรับยาพื้นและการเตรียมตำรับยาเหน็บทวารจากสารสกัด 3. การตรวจสอบและประเมินคุณภาพ แบ่งการตรวจสอบและประเมินคุณภาพออกเป็น 3 กลุ่มดังนี้ ทำการประเมินทดสอบทันทีหลังจากเตรียมเสร็จ ทำการประเมินทดสอบหลังจากการเก็บรักษาที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 1 เดือน ทำการประเมินทดสอบหลังจากการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 4◦C เป็นเวลา 1 เดือน 5. สรุปและอภิปรายผลการทดลอง 6. ประเมินผลและจัดทำรูปเล่มรายงาน สรุปผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ ยาพื้นที่เหมาะสมกับการนำมาตำรับยาเหน็บทวารหนักจากสารสกัดเห็ด Phellinus linteus คือยาพื้นตำรับที่ 3 โดยมีส่วนประกอบของ PEG 4000, PEG1540, PEG 400 ในอัตราส่วน 50 : 30 : 20 ตามลำดับ ลักษณะภายนอกมีความเรียบเนียน มันวาวเล็กน้อย มีการกระจายตัวที่ดีไม่พบฟองอากาศอยู่ภายในเม็ดยา มีสีน้ำตาลเข้ม เมื่อบีบจะมีลักษณะที่นุ่มเล็กน้อย การนำไปทำการตรวจสอบและประเมินคุณภาพตามข้อกำหนดและวิธีการที่เป็นที่ยอมรับพบว่า ยาเหน็บที่เตรียมได้มีลักษณะเป็นไปตามข้อกำหนด มีความคงตัวในอุณหภูมิที่แตกต่างกันคือ อุณหภูมิห้องและที่ 4◦C โดยยังคงมีลักษณะภายนอกที่ไม่เปลี่ยนแปลง ความแข็งของเม็ดยาเหน็บเพิ่มขึ้นแต่พบทั้งในการเก็บที่อุณหภูมิห้องและที่ 4◦C จุดหลอมเหลวที่อุณหภูมิประมาณ 54.8◦C โดยสภาวะที่เก็บรักษาไม่มีผลเปลี่ยนแปลงจุดหลอมเหลว ใช้เวลาในการแตกตัวประมาณ 13 – 15 นาที ความสม่ำเสมอของตัวยาสำคัญ ( uniformity of content )เป็นไปตามข้อกำหนดคือไม่มียาเหน็บเม็ดใดที่ค่าเฉลี่ยเกินช่วง 85 – 115% ของค่าเฉลี่ย และ %RSD ไม่เกิน 6 เอกสารอ้างอิง • The United States Pharmacopeia 30, The National Formulary 25, Maryland, United States Pharmacopeial Convention, 2007 • Gold M., Vepuri M., Block, LH. (1996) Suppository development and production. In : Lieberman, HA, Reiger, MM, Banker, GS.Pharmaceutical dosage forms : Disperse systems volume II. 2nd ed. New York, Marcel Dekker. • Leo JLD Van Griensven and H. Savelkoul. Effects of mushroom glucans on the cytokine expression of human peripheral blood mononuclear cells. อ้างในหนังสือ แฟรงค์ ชาญบุญญสิทธิ์. สมุนไพรว่าด้วยเห็ดหลิงจือพันปี. ศูนย์ค้นคว้าวิจัยเห็ดฟีลินัสธรรมชาติไทย-เกาหลี : บริษัทอินทิเกรเต็ด โปรโมชั่น เทคโนโลยี จำกัด : กรุงเทพ.2550.