ซื้อกล้องดิจิตอลต้องดูอะไร

1. ซื้อกล้องดิจิตอลต้องดูอะไรซื้อกล้องดิจิตอลต้องดูอะไร โดย นายนริศ ปานศรีแก้ว นักวิเคราะห์นโยบายและแผน สำนักงานเลขานุการ คณะเทคนิคการสัตวแพทย์

2. 1. กล้องดิจิตอลประเภทต่างๆ 1.1 Compact

3. 1.2 DSLR Like (Digital Single Lens Reflex Like)

4. 1.3 DSLR (Digital Single Lens Reflex)

5. 1.4 Camcorder

6. 2. ความละเอียดภาพ (effective pixels) คือ ความละเอียดจริง จากการบันทึกภาพของตัว sensor กล้อง ในการเลือกพิจารณาความละเอียดนั้น ให้ดูขนาดภาพที่ต้องการเป็นหลัก ถ้าต้องการขนาดภาพสูงความละเอียดที่เลือกก็ควรจะสูงด้วย

7. 3. ตัวรับสัญญาณภาพ (image sensor) Image sensor เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จะทำการแปลงสัญญาณแสงใก้กลายเป็นสัญญาณดิจิตอล ซึ่งจะทำงานร่วมกับระบบประมวลผล แล้วจึงส่งข้อมูลไปเก็บบันทึกไว้ในสื่อบันทึกข้อมูล ขนาดของ image sensor ที่มีขนาดใหญ่จะให้คุณภาพของภาพที่ดีมาก ซึ่งจะมีการวัดตามแนวเส้นทแยงมุม เช่น 1/3.2 นิ้ว (4.54x3.42 มม.) , 1/1.5 นิ้ว (7.18x5.32 มม.)

8. Optical Viewfinder LCD Display 4. จอแสดงภาพ (LCD Display) ใช้แสดงภาพในขณะที่กำลังถ่ายภาพ และผลภาพที่ถ่ายไปแล้ว ซึ่งในแต่ละรุ่นจะมีความต่างดังนี้ 4.1 ขนาดจอ (Display Size) กล้องปัจจุบัน จะมีขนาดจอกว้างยาวตามขนาดของกล้องนั้นๆ โดยประมาณจะอยู่ช่วง 2” ถึง 3” 4.2 ความละเอียด (Pixel)ยิ่งหน้าจอมีความละเอียดสูงเท่าไหร่ ก็จะแสดงผลได้คมชัด โดยเฉพาะเวลาซูมภาพเพื่อตรวจสอบภาพที่ถ่ายไปแล้ว 4.3 ความสามารถพิเศษอื่นๆ ซึ่งจะมีในกล้องบางรุ่น เช่น การปรับหมุนจอ (Rotate, Twist) และระบบสัมผัส (Touch Screen)

9. 5. เลนส์ (Lens) Lens เป็นวัตถุโปร่งแสง ทำด้วยชิ้นแก้วหรือพลาสติกใช้ทำหน้าที่รับภาพ/แสงจากภายนอกตัวกล้องไปยังตัวรับสัญญาณภาพ (image sensor) จะมีขนาดความยาวโฟกัส (focal length) เป็นตัวกำหนดความสามารถของเลนส์ ซึ่งมีผลต่อการถ่ายภาพคือ - ทำให้มุมของภาพ กว้างหรือแคบได้ - ทำให้ช่วงความชัด มากหรือน้อยได้ เลนส์มุมกว้าง(wide angle lens) ความยาวโฟกัส 16 ถึง 35 มม. ให้มุมของการถ่ายภาพกว้างกว่าเลนส์ธรรมดา มีระยะความชัดมาก ใช้สำหรับถ่ายภาพในสถานที่แคบ ไม่สามารถตั้งกล้องให้ห่างจากวัตถุที่ถ่ายได้มากนัก

10. 6. ระบบการซูมภาพ (Zoom) ระบบการซูมของกล้องดิจิตอลจะมี 2 รูปแบบได้แก่ - Optical Zoomคือ การซูมด้วยกระบอกเลนส์ ได้คุณภาพคมชัดไม่เบลอ เมื่อซูมภาพเข้ามาในระยะใกล้ - Digital Zoomเป็นการซูมด้วยระบบซอฟแวร์ โดยวิธีการตัดเอาเฉพาะภาพ ส่วนที่เราซูม แล้วขยายให้ดูใหญ่ขึ้น ซึ่งทำให้ความละเอียดและความชัดของภาพน้อยลง ตัวอย่างการแสดงค่าการซูม คือ 3x, 4x, 6x, 10x หรือมากกว่านั้นจำนวน x คือ อัตราการซูมเทียบจากมุมกว้างสุดของเลนส์

11. 7. ความไวแสง (ISO) สำหรับการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยนั้น หากมีการตั้งค่าความไวแสงที่เหมาะสม ก็จะช่วยแก้ปัญหาภาพมืดได้ กล้องดิจิตอลสามารถเลือกปรับค่าไวแสงได้หลายระดับตั้งแต่ 80 ถึง 1600 หรืออาจสูงกว่านั้นในบางรุ่น แต่การเลือกค่าความไวแสงที่สูงมาก จะมีผลให้เกิดการเหลื่อมล้ำของเม็ดสี (noise) มากด้วย แต่กล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ๆ ได้พัฒนาระบบการจัดการ noise ใน ISO ที่สูงได้เป็นอย่างดี อาทิ ระบบ noise reduction จึงทำให้ผู้ถ่ายภาพสามารถเลือกใช้ ISO ที่สูงๆ ได้โดยไม่ต้องกังวล

12. 8. ระบบโฟกัส (Focus) คือ ระบบปรับระยะความคมชัดของภาพที่จะถ่าย มี 2 รูปแบบ คือ - Auto Focusกล้องจะทำการค้นหาตำแหน่งของวัตถุและจับภาพเพื่อความคมชัดอัตโนมัติ ด้วย sensor ที่อยู่ในตัวกล้อง โดยแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันที่ฟังก์ชั่นการกำหนดจุดโฟกัส เช่น 3 จุด, 5 จุด หรือ กระจายทั่วทั้งภาพหรือ ฟังก์ชั่น continuous auto focus ที่เหมาะกับการถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนไหว เช่นการแข่งขันกีฬาต่างๆ - Manual Focusผู้ใช้งานจะเป็นผู้กำหนดจุดความคมชัดของภาพตามความต้องการ เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการให้ภาพแสดงผลพิเศษแบบต่างๆ

13. 9. ระบบสมดุลแสงขาว (White Balance) เป็นฟังก์ชั่นที่ช่วยปรับให้ภาพถ่ายมีสีสันที่ถูกต้อง แม้จะถ่ายในสภาพแสงที่แตกต่างกันไป เพราะแหล่งกำเนิดแสงที่ต่างกัน จะทำให้อุณหภูมิของสีไม่เท่ากัน ซึ่งจะส่งผลต่อสีสันที่ได้ เช่นภาพที่ถ่ายจากห้องที่ติดไฟหลอดไส้ (incandescent) นั้นจะติดสีเหลือง ในขณะที่ถ่ายจากห้องที่ติดไฟนีออน (fluorescent) จะติดสีเขียว การปรับ White Balance ที่ถูกต้องจะช่วยแก้ไขให้ได้ภาพที่มีสีเหมือนถ่ายกลางแจ้งหรือเลือกปรับให้ได้สีแปลกๆ ตามจินตนาการ