1 / 21

การพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวชเชิงรุก : อย่างไรดีกับประชาคมอาเซี่ยน (สุขภาพจิตเคลื่อนที่)

การพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวชเชิงรุก : อย่างไรดีกับประชาคมอาเซี่ยน (สุขภาพจิตเคลื่อนที่). รศ . ดร . ดาราวรรณ ต๊ะปินตา คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. น้ำเงิน หมายถึง สันติภาพและความมั่นคง สีแดง หมายถึง ความกล้าหาญ และความก้าวหน้า สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์

junius
Download Presentation

การพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวชเชิงรุก : อย่างไรดีกับประชาคมอาเซี่ยน (สุขภาพจิตเคลื่อนที่)

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวชเชิงรุก: อย่างไรดีกับประชาคมอาเซี่ยน (สุขภาพจิตเคลื่อนที่) รศ.ดร.ดาราวรรณ ต๊ะปินตา คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

  2. น้ำเงินหมายถึงสันติภาพและความมั่นคงน้ำเงินหมายถึงสันติภาพและความมั่นคง สีแดงหมายถึงความกล้าหาญ และความก้าวหน้า สีขาวหมายถึงความบริสุทธิ์ สีเหลืองหมายถึงความเจริญรุ่งเรือง

  3. ประชาคมอาเซี่ยน • การรวมกลุ่มเพื่อเปิดเสรีสินค้าและบริการสำคัญ 11 สาขา (priority sectors) ได้แก่ การท่องเที่ยว การบิน ยานยนต์ ผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์ยาง สิ่งทอ อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าเกษตร ประมง เทคโนโลยีสารสนเทศ และสุขภาพ

  4. ไทยจะได้ประโยชน์อะไร จาก AEC • ช่วยกระชับความร่วมมือด้านสังคมและวัฒนธรรมเพื่อแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เช่น ปัญหาความยากจน โรคติดต่อ ยาเสพติด สิ่งแวดล้อม ภัยพิบัติทางธรรมชาติ แรงงาน ผู้ด้อยโอกาส • โดยสิ่งเหล่านี้จะนำให้ประชาชนไทยและอาเซียนจะอยู่ในสังคมที่มีความแข็งแกร่ง มีจริยธรรมและ ธรรมาภิบาล และก่อให้เกิดความพอเพียงในการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข

  5. Mutual Recognition Arrangements : MRAs • การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 9 เมื่อ 7 ตุลาคม 2546 ที่บาหลี อินโดนีเซีย ได้กำหนดจัดทำข้อตกลงร่วมกัน (Mutual Recognition Arrangements : MRAs)เกี่ยวกับคุณสมบัติของวิชาชีพหลัก แรงงานเชี่ยวชาญ หรือผู้มีความสามารถพิเศษ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรี โดยจะเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2558 ในเบื้องต้น ได้ทำข้อตกลงร่วมกันแล้ว 7 สาขา คือ1.วิศวกรรม (Engineering Services)2.พยาบาล (Nursing Services)3.สถาปัตยกรรม (Architectural Services)4.การสำรวจ (Surveying Qualifications)5.แพทย์ (Medical Practitioners)6.ทันตแพทย์ (Dental Practitioners)7.บัญชี (Accountancy Services)

  6. MRA สาขาวิชาชีพการพยาบาล • หลักการคือ เปิดให้พยาบาลที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดสามารถจดทะเบียนหรือขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลในประเทศอาเซียนอื่นได้โดยต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบภายในของประเทศนั้นๆ • พยาบาลต่างชาติที่ขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพในประเทศอื่นต้องผ่านการประเมินและอยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงานกำกับดูแล) ในประเทศที่รับให้ทำงาน (ของประเทศไทย คือ สภาการพยาบาล)

  7. อ้างอิงจาก มติชน http://parunnews.wordpress.com/2012/01/25/asean-nurse/ • ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในผู้ส่งออกพยาบาลรายใหญ่ที่สุดให้แก่ประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐ เนื่องจากพยาบาลฟิลิปปินส์มีทักษะสูงและสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ อย่างไรก็ตาม ฟิลิปปินส์ขาดเงินทุนที่จะสนับสนุนอาชีพนี้ โดยสภาวะล้นเกินของพยาบาลนั้นเป็นผลมาจากความต้องการพยาบาลที่ลดน้อยลงจากต่างประเทศ ซึ่งภาวะดังกล่าว บวกกับโอกาสที่ดีไม่แพ้กันจากภายในภูมิภาคจะทำให้แนวโน้มของการไหลเข้าของพยาบาลฟิลิปปินส์สู่ไทย สิงคโปร์ และมาเลเซียเพิ่มมากขึ้นก็เป็นได้ และก็จะเพิ่มการแข่งขันสำหรับพยาบาลในประเทศต่างๆอีกด้วย

  8. อ้างอิงจาก มติชน http://parunnews.wordpress.com/2012/01/25/asean-nurse/ • ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขมีความกังวลว่า การเคลื่อนย้ายแรงงานและสินค้าอย่างเสรีในอาเซียน จะนำไปสู่การแพร่กระจายของโรคติดเชื้อต่างๆ จึงควรมีกฎระเบียบที่เป็นมาตรฐานและแนวทางเดียวกัน ในการควบคุมและป้องกันโรค • ส่วนการบริการทางการแพทย์จะรับภาระหนักมากขึ้น มีการประเมินว่าในปี 2558 จะมีผู้มารับบริการสาธารณสุขจากโรงพยาบาลของรัฐเพิ่มขึ้นมากรวมถึงกว่า 2 ล้านคน • ทั้งนี้ หากมีการผลิตบุคลากรที่เพียงพอ จะทำให้ประเทศไทยมีรายได้ในการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ถึง 1 แสนล้านบาท

  9. อ้างอิงจาก มติชน http://parunnews.wordpress.com/2012/01/25/asean-nurse/ • อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่กระทรวงสาธารณสุขนำเสนอรัฐบาล พบว่า จำเป็นต้องมีการเพิ่มจำนวนบุคลากรด้านสาธารณสุขรวมกันทั้งสิ้นกว่า 29,000 คน เป็นการด่วน • โดยเฉพาะวิชาชีพแพทย์นั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า ต้องเพิ่มเพื่อรองรับการเปิดเสรีอาเซียนอีกถึง 1,200 คน จากปัจจุบันที่ประเทศไทยขาดแคลนบุคลากรแพทย์อยู่แล้ว 10,719 คน ดังนั้น หากรัฐบาลไม่มีการขับเคลื่อนเพื่อแก้ปัญหานี้ จะทำให้อีก 2 ปีข้างหน้าจะมีปัญหาการขาดแคลนแพทย์ถึง 11,974 คน และขาดแคลนทันตแพทย์อีก 3,267 คน • ขณะที่วิชาชีพพยาบาล ต้องเพิ่มเพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน 5,454 คน จากปัจจุบันที่ขาดแคลนอยู่แล้วถึง 16,030 คน เท่ากับว่าจะขาดแคลนรวมกันถึง 21,628 คน

  10. กลุ่มอาชีพพยาบาล ดร.กฤษดา แสวงดี อุปนายกสภาการพยาบาล คนที่ 2 ก็มีความเห็นไม่ต่างกันว่า ขณะนี้ประเทศไทยผลิตพยาบาลได้ประมาณ 9,000-10,000 คนต่อปี ในอีก 3 ปีข้างหน้า จบใหม่อีกประมาณ 9,000 คน ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่ใช้บริการในประเทศไทย เมื่อพิจารณาหลักสูตรการเรียนพยาบาล สำหรับในประเทศไทยนั้น ใช้เวลาเรียนประมาณ 4 ปี จึงจะให้ออกไปทำงาน แต่ในต่างประเทศส่วนใหญ่เรียนต่ำกว่า 4 ปี ที่สำคัญพยาบาลไทยยังมีจุดแข็งที่เรื่องของความอ่อนโยน มีใจรักบริการ ดังนั้นในเรื่องของทักษะการทำงานและการให้บริการจึงมั่นใจได้ว่าพยาบาลไทยไม่เป็นรองใคร หากจะมีจุดอ่อนบ้างก็ตรงที่พยาบาลไทยอาจจะมีปัญหาด้านการใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งต้องให้เรียนเสริมเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ในสถาบันการศึกษาเอกชนส่วนใหญ่จัดให้เรียนแบบ 2 ภาษา เพื่อให้ใช้ภาษาได้ทัดเทียมกับประเทศสมาชิกอาเซียน  

  11. ถามว่าการเปิดเออีซีเป็นเรื่องน่ากลัว หรือทำให้พยาบาลของไทยมีความเสี่ยงที่จะถูกแย่งงานหรือไม่ เรื่องนี้สภาการพยาบาลไม่ห่วง ไม่น่าหนักใจ แต่ยอมรับว่าก็อาจจะมีพยาบาลต่างชาติ เช่น ฟิลิปปินส์ เข้ามาทำงานบ้าง แต่โดยหลักการของสภาการพยาบาลที่มุ่งคุ้มครองผู้บริโภค ควบคุมวิชาชีพให้ได้มาตรฐาน ดังนั้น ไม่ว่าใครก็ตามที่จะเข้ามาเป็นพยาบาลในประเทศไทย จะต้องสอบใบประกอบวิชาชีพ และจะต้องสำเร็จหลักสูตรจากสถาบันการศึกษาที่สภาการพยาบาลให้การยอมรับและรั บรอง ดังนั้น พยาบาลต่างชาติที่จะเข้ามาทำงานในประเทศไทยก็จะต้องเสนอเอกสารเพื่อให้สภาการพยาบาลตรวจสอบว่าหลักสูตรและสถาบันการศึกษาที่จบเป็นที่ยอมรับหรือไม่ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ในกลุ่มประเทศอาเซียนจะต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลกัน นอกจากนี้จะต้องเข้าสอบใบอนุญาตซึ่งข้อสอบเป็นภาษาไทยด้วย ซึ่งในระยะแรกหลังเปิดเออีซีจะเป็นเรื่องยากสำหรับพยาบาลต่างชาติที่ประสงค์ เข้ามาทำงานในประเทศไทย” ดร.กฤษดา กล่าว  

  12. นอกจากนี้ ดร.กฤษดา ยังบอกว่า ปัจจุบันพยาบาลทั้งหมดกระจายอยู่ในโรงพยาบาลของรัฐร้อยละ 80-85 อยู่ในโรงพยาบาลเอกชนร้อยละ 12-15 หากโรงพยาบาลเอกชนจะรับพยาบาลต่างชาติเข้ามาทำงานก็ถือว่าเป็นส่วนที่น้อยมา ก ส่วนกรณีพยาบาลไทยประสงค์ที่จะไปทำงานในต่างประเทศ ก็ถือว่าเป็นสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ไม่มีการปิดกั้นใดๆ แต่สภาการพยาบาลจะไม่ส่งเสริม เพราะยึดหลักปกป้องคนไทยให้ได้รับบริการที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าแม้จะมีการเปิดเออีซี แต่ด้วยจุดแข็งของพยาบาลไทยจึงเป็นที่ต้องการของนานาชาติ ซึ่งขณะนี้พบว่า มีพยาบาลไทยไปขอแปรเอกสารบ้างแล้ว โดยช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีประมาณ 700 คนต่อปี แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะได้ไปทำงานในต่างประเทศทั้งหมด  

  13. นอกจากนี้ ยังพบว่าพยาบาลไทยไม่ได้ไปทำงานในกลุ่มอาเซียน แต่ส่วนใหญ่เดินทางไปประเทศนอกกลุ่มอาเซียน ซึ่งได้ค่าตอบแทนที่สูงกว่าด้วย แต่ที่น่ากังวลมากกว่านั้นคือ ขณะนี้พบว่าตามแนวชายแดนด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ มีโรงพยาบาลเอกชนไปลงทุนเพื่อรับลูกค้าที่มีฐานะจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นไปได้ว่าในอนาคตอาจจะมีการเปิดรับสมัครพยาบาลที่มาจากประเทศติดชาย แดนไทยเข้ามาทำงานด้วย เพราะใช้ภาษาสื่อสารกับลูกค้าต่างชาติได้ ซึ่งหากเป็นดังเช่นที่คาดการณ์ไว้ จะทำให้พยาบาลไทยถูกแย่งงานไปบางส่วนแน่นอน  

  14. ผลกระทบต่อสุขภาพจิตของประชาชนผลกระทบต่อสุขภาพจิตของประชาชน • สุขภาพจิตต่อสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลง • โรคระบาดที่มาพร้อมกับคน • ปัญหายาเสพติด • ปัญหาอาชญากรรม ที่มากับคน • มีโอกาสถูกแย่งงาน ความด้อยโอกาส • ต้องมีปัญหาด้านภาษา • การปรับตัวด้านวัฒนธรรม (culture shock) • การปรับตัวในการอยู่ร่วมกับชนชาติต่างๆ

  15. การส่งเสริมสุขภาพจิตและการป้องกันปัญหาทางจิตเวชในงานสุขภาพจิตเคลื่อนที่การส่งเสริมสุขภาพจิตและการป้องกันปัญหาทางจิตเวชในงานสุขภาพจิตเคลื่อนที่ • การให้ความรู้ในเรื่องการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง • วิธีการคิดที่เหมาะสม การคิดตามความเป็นจริง การคิดทางบวก เป็นต้น • การปรับตัวเรื่องการใช้ภาษา • การปรับตัวด้านวัฒนธรรม • ลักษณะงานที่เปลี่ยนไป เช่นทำงานเป็นกะ • การค้นหาปัญหาสุขภาพจิตในยุคของการเปลี่ยนแปลง • การประเมินภาวะเครียด • การประเมินภาวะซึมเศร้า • กรประเมินความสุข ฯลฯ

  16. การดูแลรักษาในงานสุขภาพจิตเคลื่อนที่การดูแลรักษาในงานสุขภาพจิตเคลื่อนที่ • การลดปัญหาสุขภาพจิต เช่น ความเครียด ความซึมเศร้า • การให้การดูแลช่วยเหลือคนไทยในชุมชน • การให้การดูแลช่วยเหลือต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย • ปัญหาทางจริยธรรม • การให้การบำบัดเบื้องต้น • การให้การปรึกษา • การบำบัดทางจิต • การส่งต่อการรักษาที่เหมาะสมของชุมชนลักษณะใหม่

  17. การฟื้นฟูสุขภาพจิตในงานสุขภาพจิตเคลื่อนที่การฟื้นฟูสุขภาพจิตในงานสุขภาพจิตเคลื่อนที่ • การฟื้นฟูผู้ที่ไม่มีครอบครัวในประเทศไทย • การหางาน • การเป็นปากเป็นเสียงให้ • การสนับสนุนทางสังคม • การส่งกลับประเทศในกรณีที่จำเป็น • การดูแลอย่างต่อเนื่อง • การเยี่ยมบ้าน แคมป์ • ความปลอดภัยของพยาบาล

More Related