1 / 52

การศึกษารูปแบบอาชญากรรมที่กระทำเป็นองค์กร

การศึกษารูปแบบอาชญากรรมที่กระทำเป็นองค์กร. รศ.พ.ต.อ.หญิง ดร.พัชรา สินลอยมา. www.ajarnpat.com, E-mail : sinloyma@gmail.com. Mobil : 081-826-3932. ตารางสอนรายวิชา อาชญากรรมองค์กรและอาชญากรรมข้ามชาติ ภาค 2/2553. ตารางสอนรายวิชา อาชญากรรมองค์กรและอาชญากรรมข้ามชาติ ภาค 2/2553 (ต่อ).

Download Presentation

การศึกษารูปแบบอาชญากรรมที่กระทำเป็นองค์กร

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การศึกษารูปแบบอาชญากรรมที่กระทำเป็นองค์กรการศึกษารูปแบบอาชญากรรมที่กระทำเป็นองค์กร รศ.พ.ต.อ.หญิง ดร.พัชรา สินลอยมา www.ajarnpat.com, E-mail : sinloyma@gmail.com Mobil : 081-826-3932

  2. ตารางสอนรายวิชา อาชญากรรมองค์กรและอาชญากรรมข้ามชาติ ภาค 2/2553

  3. ตารางสอนรายวิชา อาชญากรรมองค์กรและอาชญากรรมข้ามชาติ ภาค 2/2553(ต่อ)

  4. การวัดและประเมินผล (ใช้ระบบอิงกลุ่ม) 1. คะแนนระหว่างภาคเรียน 40% แยกดังนี้ 1.1 ความสนใจ/งานที่มอบหมายให้ทำ 20% 1.2 รายงานวิจัยส่วนบุคคล 20% 1.3 การทดสอบย่อย/ปฏิบัติ 10% 2. คะแนนสอบปลายภาค50% 100%

  5. อาชญากรรมองค์กร (Organized Crime) หมายถึงอาชญากรรมซึ่งอาชญากรได้รวมตัวเข้าด้วยกันตามสายการบังคับบัญชาในรูปองค์กร โดยวางแผนและดำเนินงานเพื่อประกอบธุรกิจผิดกฎหมายประเภทต่างๆ

  6. องค์กรอาชญากรรม "Organize Crime" คือ กลุ่มบุคคลซึ่งจัดตั้งขึ้นตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปที่รวมตัว หรือ ประสาน การดำเนินงานระหว่างกันในรูปแบบต่างๆ เป็นระยะเวลาหนึ่ง เพื่อก่อหรือกระทำความผิดร้ายแรงฐานใดฐานหนึ่งหรือหลายฐาน หรือเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางการเงิน ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม

  7. วัตถุประสงค์ขององค์กรอาชญากรรมวัตถุประสงค์ขององค์กรอาชญากรรม ต้องการแสวงหารายได้ และการค้ากำไรที่ใช้วิธีการผูกขาดและการกระทำผิดกฎหมาย ผลประโยชน์ที่เกิดจากการกระทำความผิดกฎหมาย ซึ่งทำให้องค์กรอาชญากรรมมีอิทธิพล อำนาจและเติบโตได้

  8. ลักษณะขององค์กรอาชญากรรมลักษณะขององค์กรอาชญากรรม 1. คณะบุคคลรวมตัวอย่างมั่นคง 2. มีการวางแผน กำหนดนโยบาย 3. การบริหาร + จัดการ มีประสิทธิภาพ 4. หัวหน้า อำนาจเศรษฐกิจ + การเมือง + สังคม 5. ข้าราชการ + นักการเมืองร่วมเป็นสมาชิก

  9. ลักษณะขององค์กรอาชญากรรม (ต่อ) 6. อาชญากรอาชีพ + ข้ามชาติ 7. การดำเนินงาน บุคคลมีความรู้ + เชี่ยวชาญ 8. ใช้เงินจำนวนมาก 9. จัดสรรเงินพิเศษ ดูแลพรรคพวก บริวาร 10. ใช้ความรุนแรงในการดำเนินธุรกิจ

  10. กิจกรรมที่ผิดกฎหมายขององค์กรอาชญากรรมกิจกรรมที่ผิดกฎหมายขององค์กรอาชญากรรม การใช้อิทธิพลข่มขู่ การยักยอกเงิน การลักลอบนำเข้า หรือส่งออกคนต่างด้าว การควบคุมตลาดมืด การค้ายาเสพติด การฉ้อโกง การชิงทรัพย์ การกรรโชกทรัพย์ การลักรถยนต์ การทำร้ายร่างกาย โดยใช้อาวุธ การลักลอบค้าอาวุธ การลักลอบค้าวัตถุโบราณ การค้ามนุษย์ และการแสวงหาประโยชน์ จากการค้าประเวณี

  11. ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดตั้งองค์กรอาชญากรรมปัจจัยที่มีผลต่อการจัดตั้งองค์กรอาชญากรรม มาตรการทางกฎหมาย ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ จารีตประเพณี เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ลักษณะทางกายภาพ และอุปนิสัยของประชาชน ขนบธรรมเนียม มรดกทางประวัติศาสตร์ เครือข่ายความสัมพันธ์ ของผู้กระทำผิด ผู้มีอำนาจ

  12. โครงสร้างขององค์กรอาชญากรรมโครงสร้างขององค์กรอาชญากรรม 1. กลุ่มอาชญากร (Criminal group) 2. ผู้พิทักษ์ /ที่ปรึกษา (The Protector) 3. ผู้สนับสนุนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ (Specialized Support) 4. ผู้สนับสนุนที่เป็นผู้ใช้บริการ (User Support) 5. การสนับสนุนจากสังคม (Social Support)

  13. 1. กลุ่มอาชญากร (Criminal group) เป็นแกนกลางขององค์กร ลักษณะของกลุ่มอาชญากร มีดังนี้ ปฏิบัติภารกิจตลอดไป ไม่ขึ้นอยู่กับสมาชิก สมาชิกคำนึงถึงกลุ่มมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัว • มีความต่อเนื่อง • มีโครงสร้าง • มีสมาชิกภาพ • ประกอบอาชญากรรม • มีการใช้ความรุนแรง • มีอำนาจและผลกำไร จัดโครงสร้างตามลำดับชั้นในลักษณะที่มีความสัมพันธ์กัน การเป็นสมาชิก หมายถึง การปฏิบัติตามพันธะตลอดชีวิต เป็นเป้าหมายขององค์กรเพื่อแสวงหากำไร เครื่องมือในการควบคุมและปกป้องสมาชิก + บุคคลอื่น

  14. 2. ผู้พิทักษ์ /ที่ปรึกษา(The Protector) ให้ความช่วยเหลือกลุ่มอาชญากร ทำให้รอดพ้นจากการดำเนินคดีของรัฐ บุคคลกลุ่มนี้ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทุจริต และประพฤติมิชอบ นักธุรกิจ ที่ปรึกษาทางการเงิน เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม, ทนายความ

  15. 3. ผู้สนับสนุนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ(Specialized Support) บุคคลกลุ่มนี้ไม่มีพันธะกับกลุ่มอาชญากรแต่ถือเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรอาชญากรรม เช่น ผู้ให้ความช่วยเหลือ ให้ความสะดวกในการประกอบอาชญากกรรม 4. ผู้สนับสนุนที่เป็นผู้ใช้บริการ(User Support) เป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญในการสนับสนุนองค์กรให้ประสบความสำเร็จ ช่วยหาลูกค้า/ผู้ใช้บริการที่ผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด การพนัน โสเภณี รับซื้อของโจร ฯลฯ

  16. 5. การสนับสนุนจากสังคม(Social Support) เป็นผู้ทำให้องค์กรมีอำนาจและได้รับการยอมรับจากสังคม เช่น • นักการเมืองที่ได้รับการสนับสนุนจากบุคคลในองค์กร • นักธุรกิจที่ทำธุรกิจกับองค์กร • ผู้นำทางสังคมและชุมชน ซึ่งเชื้อเชิญสมาชิกขององค์กรมาร่วมงานสังคม สร้างภาพที่ดีให้กับองค์กร

  17. รูปแบบขององค์กรอาชญากรรมรูปแบบขององค์กรอาชญากรรม องค์กรอาชญากรรม ที่มีการจัดโครงสร้างในรูปแบบต่างๆ ที่สำคัญมีดังนี้ (1) รูปแบบโคซา นอสตรา มีการกำหนดอำนาจหน้าที่ของสมาชิกอย่างชัดเจน ประกอบด้วย เป็นผู้มีอิทธิพล/นักกฎหมายที่ได้รับความไว้วางใจ เป็นสามาชิกที่อาวุโสในครอบครัว ทำหน้าที่แทนหัวหน้า ปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย ติดต่อสื่อสารจากระดับสูงไปสู่ระดับล่าง เรียกว่า “พลทหาร” ขึ้นตรงต่อผู้นำระดับกลาง

  18. (2) รูปแบบอุปถัมภ์ (Albini’s Patron-Client Model) ผู้ให้การอุปถัมภ์ มีความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นการรวมกลุ่มบุคคลที่มีโครงสร้างความสัมพันธ์อย่างหลวมๆ เพื่อประโยชน์ของกลุ่ม ให้การสนับสนุนทางด้านเศรษฐกิจ และการเมือง ผู้อยู่ภายใต้ผู้อุปถัมภ์

  19. (3) รูปแบบวิสาหกิจ (Smith’s Enterprise Model) • เป็นเพียงการประกอบธุรกิจที่ต่อเนื่องไปสู่การกระทำที่ผิดกฎหมาย • มีโครงสร้างพื้นฐานเช่นเดียวกับวิสาหกิจที่ถูกกฎหมาย • เป็นเพียงกิจกรรมทางธุรกิจอย่างหนึ่งซึ่งผิดกฎหมาย • การค้ายาเสพติด • การกู้ยืมเงิน • การกระทำผิดอื่นๆ ในการให้บริการลูกค้า

  20. (4) รูปแบบความสัมพันธ์ของเครือญาติ (Ianni’s Kinship Group model) • มีลักษณะคล้ายระบบสังคม • ไม่มีโครงสร้างแยกออกจากการปฏิบัติหน้าที่/ มีโครงสร้างที่เป็นอิสระจากตัวบุคคล • การรวมกลุ่มกันขึ้นอยู่กับกระบวนการทางสังคมเท่าๆ กับการรวมกลุ่มทางด้านเชื้อชาติ ทฤษฎีการถ่ายทอดทางชาติพันธุ์ (Ethnic succession) รวมตัวเป็นองค์กรอาชญากรรม ต่อสู้ดิ้นรนต่ออุปสรรค ถูกกีดกัน+ขาดโอกาสทางเศรษฐกิจ กลุ่มผู้อพยพมาใหม่ *เมื่อมีผู้อพยพเข้ามาใหม่ ลักษณะองค์กรอาชญากรรมก็จะเปลี่ยนไปตามกลุ่มของบุคคล

  21. (5) รูปแบบเครือข่ายอาชญากรรม(Chambliss’s Crime Network Model) • ประกอบด้วยเครือข่าย(Network)ต่างๆที่ทำงานร่วมกัน • นักธุรกิจ • ผู้รักษากฎหมายและการเมือง • มีสมาชิกในองค์กรที่เกี่ยวข้องกัน กิจกรรมที่เกี่ยวข้อง • การค้าประเวณี • การพนัน • สิ่งลามกอนาจาร • ยาเสพติด • ไม่มีระบบการควบคุมไว้ที่ศูนย์กลาง • มีการปรับตัวไปตามสภาพเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ในชุมชนนั้นๆ

  22. (6) รูปแบบหุ้นส่วน (Haller’s Partnership Model) • เป็นการประกอบธุรกิจอย่างหนึ่ง • เกิดจากการรวมตัวกันของธุรกิจขนาดย่อม มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา • ระดับสูง • ระดับกลาง • เกี่ยวข้องกับหุ้นส่วนหลายคน • ไม่ได้ถูกกำหนดโดยผู้นำคนใดคนหนึ่ง • รูปแบบการลงทุน + การร่วมทุน

  23. องค์กรอาชญากรรมในประเทศไทยองค์กรอาชญากรรมในประเทศไทย • ไม่มีลักษณะการจัดองค์กรเป็นรูปแบบ อย่างมาเพีย (MAFIA) หรือยากูซ่า (YAKUZA) หลักฐาน ยืนยันว่าองค์กรอาชญากรรมในประเทศไทยมีมานานแล้ว กำหนดความผิดฐานอั้งยี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 และความผิดฐานซ่องโจรตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 210 คล้ายคลึงกับที่มีการบัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะอาญาร.ศ. 127 มาตรา 178 และมาตรา 179

  24. พัฒนาการขององค์กรอาชญากรรมในประเทศไทยพัฒนาการขององค์กรอาชญากรรมในประเทศไทย แยกพิจารณาได้ 3 กลุ่ม ชุมโจร อั้งยี่ เจ้าพ่อ/ กลุ่มผู้มีอิทธิพล

  25. อั้งยี่ • เป็นสมาคมลับของชาวจีน ซึ่งอพยพมาอยู่ประเทศไทย • อยู่รวมกันเป็นหมู่ตามท้องถิ่นเดิมเพื่อช่วยเหลือกันและกัน • เป็นสามาคมแบบเดียวกับมาเฟีย /ยากูซ่า วัตถุประสงค์ ต่อรองผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

  26. อั้งยี่ • ปัญหา อั้งยี่รุนแรงมากในสมัย ร.5 • ช่วงการปฏิรูปการปกครองและมีการยกเลิกระบบเจ้าภาษีนายอากร • ทำให้สูญเสียผลประโยชน์และสถานภาพทางเศรษฐกิจ • มีการกระทำอันมิชอบด้วยกฎหมาย ตราพระราชบัญญัติอั้งยี่ ร.ศ. 116(พ.ศ.2440) • ก่อกวนความสงบสุข • ทะเลาะวิวาทแก้แค้นกัน • ทำร้ายร่างกาย • ข่มขู่รีดไถ ปล้นสดมภ์ กฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ. 127(พ.ศ. 2451) * ปัญหาค่อยๆหมดไป ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ปีพ.ศ.2475 จนถึงปัจจุบัน

  27. ชุมโจร การปฏิรูปการเมืองการปกครอง สมัย ร.5 การปกครองแบบรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลาง เกิดช่องว่างระหว่างส่วนกลางและท้องถิ่น ทำให้เกิดผู้นำของชุมชนที่ทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองชุมชนตน ผู้ทรงอิทธิพลในท้องถิ่นที่กล้าหาญและได้รับการยอบรับ เรียกว่า “นักเลง”

  28. ชุมโจร บางยุคได้รับการแต่งตั้งจากราชการให้เป็นผู้ใหญ่บ้าน/ กำนัน “นักเลง”/ ผู้นำอย่างไม่เป็นทางการของชุมชน ภายหลังปี พ.ศ.2398 มีการขยายตัวด้านเศรษฐกิจอย่างไม่ทัดเทียมกัน มีพฤติกรรมเป็นหัวหน้าโจรออกปล้นสะดมคนในชุมชนตนเอง • ชุมโจรบ้านกอไผ่ • อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี รวมกลุ่มบุคคลเป็น “ชุมโจร”

  29. เจ้าพ่อ/ กลุ่มผู้มีอิทธิพล นักเลง + ผู้มีอิทธิพล “เจ้าพ่อ” “อิทธิพล” หมายถึง อำนาจที่ไม่เป็นทางการ นอกจากจะมีอำนาจเหนือสมัครพรรคพวกของตน ยังแผ่ขยายครอบงำเจ้าหน้าที่ของรัฐ ของท้องถิ่น ทำให้เจ้าพ่อมีความแตกต่างจากโจร

  30. เจ้าพ่อ/ กลุ่มผู้มีอิทธิพล มิได้กระทำกิจการที่ผิดกฎหมายอย่างเดียว มักเป็นเจ้าของธุรกิจ /กิจการที่ชาวบ้าน ต้องพึ่งพาเพื่อความอยู่รอด • เจ้าของธุรกิจรับซื้อพืชไร่ • ธุรกิจแปรสภาพผลิตผลทางการเกษตร • ค้าสุรา บุหรี่ เหมืองแร่ ฯลฯ ดำเนินธุรกิจแบบผูกขาด เป็นกิจการประเภทอภิสิทธิ์ * แนวโน้มบทบาทเจ้าพ่อเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย กลายเป็นนักธุรกิจที่มีสำนึกต่อสังคม เป็นผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นที่เกิดจากการสร้างความดี เจ้าพ่อมักเป็นผู้ให้ความอุปถัมภ์อย่างเปิดเผย

  31. ผู้มีอิทธิพล หมายถึง บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ดำรงตนด้วยการกระทำด้วยตนเอง / ใช้ จ้าง วาน สนับสนุนการกระทำการใดๆ ที่ผิดกฎหมาย โดยพฤติกรรมดังกล่าวเป็นความเป็นทางอาญา และผลของการกระทำส่งผลกระทบในวงกว้างต่อสังคม ก่อให้เกิดความรำคาญ ความเสียหาย / สร้างเครือข่ายขยายผล ซึ่งบ่อนทำลายเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และขัดต่อศีลธรรมอันดี

  32. *การวิจัยของศูนย์ข้อมูลอาชญากรรม และการฟอกเงิน ประเภทกลุ่มของผู้ทรงอิทธิพล • คุมหวยเถื่อน • บ่อนพนัน • ซ่องโสเภณี แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม มาจากข้าราชการท้องถิ่น ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง 1. กลุ่มผู้ทรงอิทธิพลระดับท้องถิ่น รับสินบนจากผู้ประกอบอาชญากรรมต่างๆ 2. กลุ่มผู้ทรงอิทธิพลประเภทเป็นข้าราชการ ทำธุรกิจทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย โดยมีนักการเมืองหนุนหลัง 3. กลุ่มผู้ทรงอิทธิพลที่มาจากผู้ประกอบธุรกิจการค้า 4. กลุ่มผู้ทรงอิทธิพลซึ่งพัฒนาตนเองมาจากนักเลงหัวไม้ คุมบ่อน คุมซ่อง เจ้ามือหวยเถื่อน

  33. รูปแบบ อาชญากรรมองค์กร

  34.  ธุรกิจผิดศีลธรรม+ ผิดกฎหมาย • - บ่อนการพนัน • - V.D.O.เปลือย • - หวย • - ค้าไม้เถื่อนของเถื่อน แรงงานเถื่อน • แก็งค์ขโมยตัดเศียรพระ • ฯลฯ

  35. รูปแบบของอาชญากรรมองค์กรรูปแบบของอาชญากรรมองค์กร  ขายของหนีภาษี  ปล่อยเงินกู้+ ดอกเบี้ยสูง  โสเภณี  การค้ายาเสพย์ติด  เรียกค่าคุ้มครอง

  36. บ่อนการพนัน • ปี พ.ศ.2539 มีบ่อนการพนันในกรุงเทพมหานครประมาณ 300 แห่ง • มีเงินหมุนเวียนประมาณ 136 ล้านบาทต่อปี • ต่างจังหวัดมีบ่อนขนาดใหญ่ประมาณ 90 แห่ง • มีเงินหมุนเวียนประมาณ 142,200 ล้านบาทต่อปี • นักพนันไทยนำเงินไปเล่นกาสิโนในต่างประเทศประมาณปีละ • 25,000 ล้านบาท Reference: ศูนย์ศึกษาเศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

  37. บ่อนการพนัน • บ่อนการพนันนอกกฎหมายต่าง ๆ เป็นแหล่งอาชญากรรม และการฉ้อราษฎร์บังหลวง รายได้จำนวนหนึ่งจ่ายให้แก่นักการเมืองและนายตำรวจบางคน • บ่อนการพนันจะต้องป้องกันตนเองและลูกค้าจากองค์กรอาชญากรรมกลุ่มอื่น ๆ จึงต้องจัดหามือปืนหรือเข้าร่วมกับองค์การอาชญากรรมต่าง ๆ เพื่อความอยู่รอด • ส่งผลกระทบไปยังระบบการเมืองการปกครองในส่วนรวมอีกด้วย เพราะเงินจากแหล่งการพนันยังถูกใช้ในการสร้างฐาน อำนาจทางการเมืองของนักการเมืองทุกระดับ

  38. ประธานาธิบดีเอสตราด้าแห่งประเทศฟิลิปปินส์ประธานาธิบดีเอสตราด้าแห่งประเทศฟิลิปปินส์ ถูกสอบสวนพฤติกรรม ในการรับเงินสินบนจากธุรกิจ การพนันที่ผิดกฎหมายที่ชาวฟิลิปปินส์เรียกว่า “ฮูเต็ง” (Jueteng) ซึ่งเป็นการบั่นทอนเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจ ของฟิลิปปินส์อย่างรุนแรง เพราะเป็นการทำลายความเชื่อมั่นและความศรัทธาของต่างประเทศ รวมทั้งฉุดให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ต้องลดต่ำลง

  39. บ่อนการพนันตามแนวชายแดนบ่อนการพนันตามแนวชายแดน

  40. แรงงานเถื่อน แรงงานเถื่อนโรฮิงญา • พบหลักฐานการกระทำความผิดในลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม และเชื่อมโยงกับขุมข่ายผู้มีอิทธิพล • จากหลักฐานเอกสาร และพยานบุคคลที่รวบรวม โดยหน่วยข่าวความมั่นคง ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มอิทธิพลค้าแรงงานเถื่อน เครือข่ายนายหน้าทั้งจากประเทศต้นทาง ประเทศทางผ่าน และจุดหมายปลายทางทั้งในเมืองใหญ่ของไทยและประเทศมาเลเซีย

  41. ปล่อยเงินกู้+ ดอกเบี้ยสูง • ตร.กระบี่จับยกแก๊งปล่อยกู้ ทวงหนี้โหด ตร.กวาดล้างจับยกแก๊ง 16 คนทวงหนี้โหด รับจ้างนายทุนจากกรุงเทพฯ-ภูเก็ตปล่อยเงินกู้-เก็บดอกเบี้ยโหดพ่อค้าแม่ค้าชาวเมืองกระบี่ ยอดเงินปล่อยกู้ไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท

  42. องค์กรยาเสพติดในเรือนจำองค์กรยาเสพติดในเรือนจำ 19ต.ค. 53 ตำรวจราชบุรีจับกุมเครือข่ายยาเสพติดพร้อมของกลางยาไอซ์ หนัก 9.2 กรัม ยาลดน้ำมูกยี่ห้อ นาโซลินมีส่วนประกอบของสารตั้งต้น ในการผลิตยาบ้าและยาไอซ์จำนวน 23,400 เม็ด กับเครื่องบินร่อนขนาดใหญ่ใช้รีโมทบังคับ เครื่องร่อนผลิตด้วยไม้รอนซ่า ซึ่งมีน้ำหนักเบา บินได้สูงประมาณ 5 เมตรบินข้ามกำแพงเรือนจำ และส่งมือถือให้กับลูกค้าในเรือนจำ คนร้ายใช้เทคโนโลยีแผนที่ดาวเทียมทางอินเตอร์เน็ตเป็นตัวนำทาง

  43. กระบวนการผลิต ยาไอซ์

  44. ซิมโทรศัพท์มือถือที่จำหน่ายให้นักโทษในเรือนจำซิมโทรศัพท์มือถือที่จำหน่ายให้นักโทษในเรือนจำ

  45. โทรศัพท์มือถือรุ่นและยี่ห้อต่างๆที่จำหน่ายให้นักโทษในเรือนจำโทรศัพท์มือถือรุ่นและยี่ห้อต่างๆที่จำหน่ายให้นักโทษในเรือนจำ

  46. เข้ามาสุดทางจะทะลุบ้านเจ้าหน้าที่ด้านนี้เข้ามาสุดทางจะทะลุบ้านเจ้าหน้าที่ด้านนี้ ไกล้กับจุดที่ถ่ายรูป เส้นทางนี้รถวิ่งมาได้แต่ทะลุออกไปไม่ได้ต้องออกทางเดิม ถ่ายจากจุดนี้ ทางตรงนี้รถวิ่งเข้าได้เป็นทางลูกลังมีต้นไม้สองข้างทาง ลึกเข้าไปทางจะแคบลงเรื่อยๆ แผนที่เรือนจำเขาบิน

  47. 1 2 3 Bom มองจากมุมนี้

  48. เครื่องร่อนบังคับที่ใช้ในการขนส่งสินค้าเครื่องร่อนบังคับที่ใช้ในการขนส่งสินค้า

  49. ลักษณะภายในเครื่องร่อนลักษณะภายในเครื่องร่อน

  50. การจับกุม

More Related