1 / 35

แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีคลอง 6

แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีคลอง 6. โดย Apex Education Consultant Co.,Ltd. Who we are.

heaton
Download Presentation

แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีคลอง 6

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีคลอง 6 โดย Apex Education Consultant Co.,Ltd.

  2. Who we are APEX เป็นสถาบันที่ก่อตั้งขึ้น เมื่อพ.ศ. 2539 โดยเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความชำนาญในหลากหลายสาขาวิชาซึ่งมีประสบการณ์ในการใช้ชีวิต ในต่างประเทศมาโดยตรง โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้คำปรึกษา และให้ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาต่อต่างประเทศ ทั้งภาครัฐและเอกชน  APEX ตระหนักดีถึงความสำคัญทางการศึกษา และการสร้างอนาคตที่ดีให้กับนักเรียนทุกคน APEX จึงเน้นการบริการที่รวดเร็ว และเที่ยงตรงด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ในการให้บริการทั้งสิ้นจากการทำงานที่เน้นคุณภาพในการให้บริการ ทำให้ APEXเป็นที่ยอมรับและได้รับความไว้วางใจจาก นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง และจากเจ้าหน้าที่ของสถาบันต่างๆ รวมถึงสถานทูตของประเทศต่างๆ ในไทย ด้วยดีเสมอมาAPEX มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่มีส่วนในการสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา ประสบความสำเร็จได้ดังมุ่งหวัง และเรายืนยันที่จะให้บริการที่ดีแก่ทุกท่านดั่งบุตรหลาน

  3. Study in UK ระบบ การศึกษาในเครือจักรภพอังกฤษ แบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา (ปริญญา) การศึกษาภาคบังคับเริ่มตั้งแต่อายุ 5 ปีถึง16 ปี เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ จะเรียนในโรงเรียนรัฐบาล

  4. Study in USA ข้อมูลทั่วไปประเทศสหรัฐอเมริกาประกอบด้วยรัฐ 50 รัฐ และ 1 เขตการปกครอง ได้แก่ Washington D.Cมีประชากรประมาณ 290 ล้านคน

  5. แบ่งเป็นระดับต่าง ๆ ได้ดังนี้ ระดับอนุบาล (Kindergarten) ระดับประถมศึกษา (Elementary School) ระดับมัธยมศึกษา (Secondary School) ระดับอุดมศึกษา(Higher Education) ระบบการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา

  6. การศึกษาในระดับนี้ แบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้ 1. วิทยาลัย 2 ปี (Junior College) หลักสูตร 2 ปีแล้วโอนเรียนเข้าวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยอีก 2 ปี 2. วิทยาลัยประจำท้องถิ่น (Community College)ส่วนใหญ่เป็นหลักสูตร 2 ปีแล้วโอนเรียนต่อปริญญาตรีในวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยอีก 2 ปี 3. วิทยาลัย (College)เปิดสอนหลักสูตร 4 ปีจบแล้วได้รับวุฒิปริญญาตรี บางแห่งมีเปิดสอนปริญญาโทด้วย 4. มหาวิทยาลัย (University) เปิดสอนระดับปริญญาตรี 4 ปี, โท 2ปีและปริญญาเอก 3-5 ปี 5. สถาบันทางวิชาชีพ เป็นสถาบันวิชาชีพชั้นสูงโดยเฉพาะเช่นแพทย์ กฏหมายเป็นต้นหลักสูตร 3-8 ปีแล้วแต่สาขาวิชาโดยปกติจะเข้าเรียนหลังจากจบปริญญาตรีมาแล้ว ระดับอุดมศึกษา

  7. Study in Australia ข้อมูลทั่วไปประเทศออสเตรเลียมีชื่อทางการว่า สหพันธรัฐออสเตรเลีย มีพื้นที่ 7,682,300 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรประมาณ 18.75 ล้านคน นับเป็นประเทศใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก แบ่งเป็น 6 รัฐและ 2 มณฑล โดยมี รัฐทัสมาเนีย เป็นเกาะ ทางตอนใต้ของประเทศ

  8. การปกครองออสเตรเลีย มีการปกครองในระบบสหพันธรัฐ ประกอบด้วย 6 รัฐNew South Wales เมืองหลวงคือ SydneyVictoria เมืองหลวงคือ MelbourneQueenslandเมืองหลวงคือ BrisbaneWestern Australiaเมืองหลวงคือ PerthSouth Australiaเมืองหลวงคือ AdelaideTasmaniaเมืองหลวงคือ Hobartและเขตปกครองตนเอง 2 เขตคือAustralian Capital Territoryมี Canberra เป็นเมืองหลวงNorthern Territory มี Darwin เป็นศูนย์กลาง

  9. ระบบการศึกษา - โรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา การศึกษาภาคบังคับในออสเตรเลียกำหนดให้เด็กทุกคนที่มีอายุระหว่าง 6 ถึง 15 ปี ต้องเข้าโรงเรียน นักเรียนสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (อายุประมาณ 18 ปี บางครั้งเรียกว่าชั้นปี 12)  - หลักสูตรเตรียมพื้นฐาน หากคุณไม่ได้เรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายของออสเตรเลียหรือในประเทศอื่นที่เทียบเท่า หลักสูตรเตรียมพื้นฐาน  ซึ่งจะช่วยให้คุณมีคุณสมบัติพร้อมเข้าเรียนต่อระดับอนุปริญญา อนุปริญญาขั้นสูง หรือปริญญาตรี ซึ่งหลักสูตรส่วนใหญ่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อเตรียมนักเรียนต่างชาติให้มีความพร้อมที่จะเข้าศึกษาต่อในออสเตรเลีย

  10. - สถาบันอาชีวศึกษาและฝึกอบรม (VET) นักเรียนสามารถเข้าเรียนหลักสูตรอาชีวศึกษาและฝึกอบรมได้หลังจากที่จบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้นปี 10) หรือมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้นปี 12) แล้ว มีหลักสูตรต่างๆที่เปิดสอนที่สถาบันเอกชนและวิทยาลัยเทคนิคและการศึกษาต่อเนื่องที่เป็นของรัฐบาล นอกจากนี้สถาบันอาชีวศึกษาหลายแห่งมีความสัมพันธ์ที่ดีและมีข้อตกลงกับมหาวิทยาลัยต่างๆ จากความสัมพันธ์เชื่อมโยงเหล่านี้ทำให้มหาวิทยาลัยสามารถรับโอนหน่วยกิตได้ถึง 1 ปีในการเข้าเรียนต่อปริญญาตรี ตลอดจนรับประกันการเข้าเรียนในหลักสูตรที่คุณสมัครหากคุณได้คะแนนตามที่สถาบันอาชีวศึกษาที่คุณเรียนกำหนดไว้ - มหาวิทยาลัย ออสเตรเลียมีมหาวิทยาลัยจำนวน 39 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้ 37 แห่งเป็นมหาวิทยาลัยที่รัฐบาลให้การอุดหนุน และอีก 2 แห่งเป็นมหาวิทยาลัยของเอกชน มหาวิทยาลัยเหล่านี้เปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรี 4 ปี, ปริญญาโท 1.5-2ปีและปริญญาเอก 3-5 ปี

  11. UK Scholarship The British Chevening Scholarship Scheme สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม บริติชเคานซิลทั้ง 2 แห่ง คือ ส่วนกลางจุฬาลงกรณ์ 64 และ เลขที่ 198 ถ.บำรุงราษฎร์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50000 หรือ www.chvening.com , www britishcouncil.or.th หรือโทรศัพท์ (02) 6525480-9 2. ทุนShell Shell Centenary scholarship เป็นการไปศึกษาต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ โดยมีมหาวิทยาลัยของประเทศอังกฤษเข้าร่วมโครงการ ซึ่งผู้ขอทุนจะต้องมีผลการเรียนดีเยี่ยม อายุไม่เกิน 35 ปี และต้องส่งใบสมัครไปยังมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการด้วยตนเอง หมดเขตรับสมัคร วันที่ 1 มีนาคม ของทุกปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เลขที่ 10 ถ.สุนทรโกษา คลองเตย กรุงเทพฯ 10110 หรือ ดูรายละเอียดที่www.shell.co.thหรือโทรศัพท์ (02) 2626512

  12. 3. ทุนยูซีอี โครงการเยาวชนยูซีอี โครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เพื่อศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมและภาษาของชาวต่างชาติ ตลอดจนเผยแพร่วัฒนธรรมไทย โครงการระยะเวลา 3 สัปดาห์ สำหรับผู้ศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย อาชีวศึกษา อุดมศึกษา อายุ ตั้งแต่ 11 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 22 ปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สำนักโครงการเยาวชนยูซีอี เลขที่ 16 ซ.โชคชัยร่วมมิตรแยก 11 ถ.วิภาวดีรังสิต เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10310หรือโทรศัพท์ (02) 6900375-7

  13. USA Scholarship สำนักงานกพ. www.ocsc.go.th

  14. Australia Scholarship ทุนการศึกษาของออสเตรเลีย เป้าหมายของทุนการศึกษา “The Australia Awards” คือการส่งเสริมความรู้ ความสัมพันธ์ทางการศึกษา และความผูกพันที่ยั่งยืนระหว่างออสเตรเลียและประเทศเพื่อนบ้านของเรา ด้วยโครงการทุนการศึกษาที่มากมายของออสเตรเลีย The Australia Awards ประกอบด้วยสองส่วนคือ ทุนเรียนดี (Achievement stream) สำหรับ นักเรียนหัวกะทิที่ฉลาดที่สุด รวมถึงนักวิจัย และผู้ประกอบวิชาชีพที่เดินทางมาออสเตรเลียและชาวออสเตรเลียที่เดินทางไปยัง ประเทศอื่น; ส่วนประเภทที่สองก็คือ ทุนพัฒนาการ (Development stream)ที่ส่งเสริมศักยภาพให้แก่ประเทศที่กำลังพัฒนา The Australia Awards เป็นการรวบรวมทุนการศึกษาขององค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่ง ออสเตรเลีย (AusAID) และกระทรวงศึกษาธิการ การจ้างงาน และแรงงานสัมพันธ์ (DEEWR) เข้าไว้ด้วยกันภายใต้ชื่อโครงการ Australia Awards กรุณาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: www.australiaawards.gov.au

  15. Work & Travel USA Apex Educationโดยความร่วมมือกับองค์กรแลกเปลี่ยนในสหรัฐอเมริกา ได้เปิดโอกาสให้น้องๆนักศึกษาเข้าร่วมโครงการทำงานและท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริการะหว่างปิดภาคเรียนเป็นระยะเวลา 3-4 เดือนและหลังจากจบโครงการแล้วสามารถอยู่ท่องเที่ยวต่อได้อีก 30 วัน โครงการ Work & Travel ได้รับการสนับสนุนและควบคุมโดย United Department of State (DOS) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีหน้าที่ดูแลงานด้านโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม น้องๆสามารถเลือกงานที่ต้องการได้ซึ่งสถานที่ทำงานส่วนใหญ่จะเป็น รีสอร์ท โรงแรม สวนสนุก ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆโดยตำแหน่งงานขึ้นอยู่กับความสามารถทางภาษาอังกฤษและบุคลิกภาพของผู้เข้าร่วมโครงการ งานแต่ละประเภทจะมีค่าตอบแทนแตกต่างกันไปโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ US$ 6 – US$ 10 ต่อชั่วโมง เวลาทำงาน 25-35 ชม.ต่อสัปดาห์ โดยมีช่วงเวลาการเข้าร่วมโครงการ คือเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน สำหรับนักศึกษาภาคปกติ และเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมสำหรับนักศึกษาหลักสูตรนานาชาติ

  16. คุณสมบัติของผู้สมัคร 1.สัญชาติไทย เพศชาย – หญิง อายุระหว่าง 18 – 28 ปี 2.มีสภาพเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี หรือโท ทุกชั้นปี 3.มีความสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี *สำคัญมาก 4.มีความเข้าใจวัตถุประสงค์ของโครงการเป็นอย่างดี ยอมรับในกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้ * สำคัญมากที่สุด 5.สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ และเพื่อนใหม่ได้ดีมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย

  17. เอกสารในการสมัคร 1.สมัครด้วยตนเองที่บริษัทเอเพ็กซ์ 2.สำเนาหนังสือเดินทางหรือสำเนาบัตรประจำตัวนักศึกษา 3. ผลสอบภาษาอังกฤษ TOEIC, TOEFL, IELTS (ถ้ามี) 4. หนังสือรับรองสถานภาพนักศึกษาออกโดยมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่

  18. ค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการ ค่าโครงการ 44,000 บาทมีรายละเอียดดังนี้ Promotionนี้ภายใน 30 กรกฎาคม 2555 เท่านั้น - ค่าประสานงาน 5000 บาท (Non – refundable) - ค่าจัดหาที่ทำงานและให้คำแนะนำเรื่องที่พัก - ค่าออกเอกสาร DS-2019 เพื่อยื่นวีซ่า ค่าธรรมเนียมวีซ่า, ค่า Pin Code ในการจองวันสัมภาษณ์ ค่าซองไปรษณีย์ - ค่าประกันสุขภาพ และอุบัติเหตุ - คู่มือเข้าร่วมโครงการ คำแนะนำในการทำ Social Security Card - เจ้าหน้าที่ขององค์กรในสหรัฐอเมริกา ให้การดูแลและช่วยเหลือ มี Emergency Call 24 ชั่วโมง - ให้คำแนะนำและช่วยเหลือในการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าประเภท J-1 - จัดการปฐมนิเทศก่อนการเดินทาง (Pre-departure Orientation) - ค่า SEVIS Fee ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.ice.gov/graphics/sevis อัตรานี้ไม่รวม - ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ - ค่าที่พัก ค่าอาหารและ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว

  19. การเตรียมตัวศึกษาต่อต่างประเทศการเตรียมตัวศึกษาต่อต่างประเทศ 1. หาข้อมูล หาข้อมูลให้เยอะที่สุดเท่าที่ทำได้ หาข้อมูลของมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนวิชาที่เราต้องการ หาข้อมูลของเมืองและประเทศ ว่าน่าอยู่เหมาะกับเราหรือเปล่า ภูมิอากาศ ภูมิประเทศ สภาพความเป็นอยู่ ชอบอยู่ในเมืองหรือชอบชนบท...กรณีต้องการหารายได้เพิ่มช่วยเหลือตัวเองไปด้วยระหว่างศึกษาต่อ ศึกษาดูว่าประเทศไหนที่อนุญาติให้นักศึกษาต่างชาติทำงานพาร์ท ทามได้ถูกต้องตามกฏหมาย แนะนำว่าให้ไปเมืองที่ใหญ่หน่อย และมีร้านอาหารไทยเยอะหน่อย จะช่วยได้เยอะค่ะ

  20. 2. เตรียมการสมัครสอบ ในการสมัครเรียน ทางมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ต้องการดูผลว่าเรามีความสามารถเพียงพอที่จะสามารถไปเรียนได้หรือเปล่า ส่วนใหญ่จะมี สอบภาษาอังกฤษ TOEFLสำหรับประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ และ IELTSสำหรับอังกฤษและประเทศอื่นๆ สอบความรู้ด้านอื่น รวมถึงสอบ GMATสำหรับด้านบริหาร และสอบ GREสำหรับด้านอื่นๆ บางสาขาไม่จำเป็นต้องสอบ (GMAT และ GRE จะใช้ในประเทศอเมริกา)

  21. 3. เตรียมเอกสาร - ควรเตรียมเอกสารตั้งแต่เริ่มคิดที่จะสมัครเรียนต่อ เนื่องจากบางเอกสารอาจจะต้องใช้เวลานาน(ถึงนานมาก ในบางที) ยังไงก็ควรขอเอกสารไว้กับตัวก่อน ไม่จำเป็นต้องคิดว่า สอบTOEFL หรือ IELTS ผ่านแล้วค่อยขอ หรือว่าหามหาวิทยาลัยที่ต้องการได้แล้วค่อยขอ โดยเอกสารหลักๆที่ต้องมี - ทรานสคริปต์ (transcript) เป็นใบผลการเรียนจากทางมหาวิทยาลัย - จดหมายแนะนำ (letters of recommendations) จดหมายแนะนำจากทางอาจารย์หรือหัวหน้างาน อย่างน้อย 3 ฉบับ (บางที่เอา 2) ก่อนจะไปขออาจารย์ ควรจะรู้ให้แน่ก่อนว่าอยากจะเรียนอะไร เวลาอาจารย์ถามจะได้ตอบถูก

  22. - เอกสารรับรองทางการเงิน (financial statement) เอกสารรับรองจากทางธนาคารว่าเรามีเงินเพียงพอที่จะเรียนต่อได้ - (statement of purpose) เป็นจดหมาย 1 หน้า (หรือมากกว่า แต่ควรเขียนไม่ยาวมาก) เป็นจดหมายที่เราเขียนให้แก่ทางมหาวิทยาลัย เกี่ยวกับเหตุผลที่ว่า ทำไมเราถึงเลือกมาเรียนที่นี่ (เช่นเดียวกับที่ว่า เหตุผลทำไมเค้าถึงรับเรา) ในสาย MBA มักจะมีคำถาม 2-5 ข้อให้เราเขียนตอบ เกี่ยวกับการสมัครเข้าเรียน บางสาขาวิชาต้องการให้เราเขียน เรซูเม (resume) อื่นๆ อาจจะเป็นประกาศนียบัตรต่างๆ ที่เราได้มาและเกี่ยวข้องกับที่เราจะสมัคร เดดไลน์ เดดไลน์ (deadline) ของการสมัครแต่ละมหาวิทยาลัยจะแตกต่างกัน และแต่ละคณะก็จะแตกต่างกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคือวันไหน และจำไว้ว่า ไม่ควรจะรอถึงวันใกล้เดดไลน์แล้วค่อยส่งเอกสาร เอกสารต่างๆ ควรจะส่งล่วงหน้า

  23. บริการที่จะได้รับจาก APEX ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น แนะแนว ให้คำปรึกษา พร้อมเอกสารข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการศึกษาต่อต่างประเทศทุกระดับ แนะนำ จัดหาสถาบันการศึกษา ที่เหมาะสม โดยยึดจากความต้องการของนักศึกษาเป็นหลัก พร้อมดำเนินการสมัครเรียนให้ตามขั้นตอน จัดหาที่พัก ที่เหมาะสม และปลอดภัย ทั้งพักร่วมกับครอบครัว หรือหอพักนักศึกษา เพื่อให้มั่นใจในการดูแลใส่ใจสวัสดิภาพของนักศึกษา จองตั๋วเครื่องบิน ในราคานักศึกษา และราคาพิเศษสำหรับผู้ปกครอง จัดเจ้าหน้าที่รอรับที่สนามบิน ดำเนินการด้านวีซ่า โดยทีมงานที่มีประสบการณ์ และชำนาญในด้านนี้โดยเฉพาะ จัดปฐมนิเทศ เตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง อำนวยความสะดวก โดยเป็นตัวแทนประสานงานระหว่างผู้ปกครอง และสถาบันการศึกษา ในทุกด้าน ดูแลนักศึกษาทุกขั้นตอน ตั้งแต่ก่อน ออกเดินทางจนถึงเดินทางกลับด้วยความเรียบร้อย

  24. นอกจากนี้เอเพ็กซ์ยังมีเจ้าหน้าที่คนไทยคอยดูแล และให้ความช่วยเหลือนักเรียนในเมืองBrisbane , Melbourne , Gold Costและ SydneyบางเมืองในNew Zealand และประเทศอังกฤษ ที่ Londonนอกจากนี้ APEXยังพร้อมให้คำแนะนำ ในการทำงาน Part-time หลังเวลาเรียน หรือร่วมโครงการ AU-Pair Program ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือนักเรียนที่ต้องการมีรายได้เสริม เส้นทางการศึกษาต่อในต่างประเทศของท่าน จะใกล้ และมั่นใจกว่า กับAPEXนอกจากนี้APEXยังเป็นตัวแทน สถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพอีกกว่า 300 แห่งทั่วโลก พร้อมบริการท่าน เสมือนติดต่อกับสถาบันโดยตรง

  25. Contact Us สาขาสุขุมวิท23 126/1 ซ.สุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 Tel : 0-2260-2910 (6 คู่สาย) Fax : 0-2260-2913 E-mail :apex@apexeducate.com สาขา ม. กรุงเทพฯ สาขามหาวิทยาลัยกรุงเทพซอยรังสิตภิรมย์ 15/104 หมู่ 5 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง ปทุมธานี 12120 Tel : 02-5162584Fax : 02-5162585E-mail :apex@apexeducate.com

  26. www.apexeducate.com Facebook/apexeducate

  27. Q & A

More Related