350 likes | 620 Views
แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีคลอง 6. โดย Apex Education Consultant Co.,Ltd. Who we are.
E N D
แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีคลอง 6 โดย Apex Education Consultant Co.,Ltd.
Who we are APEX เป็นสถาบันที่ก่อตั้งขึ้น เมื่อพ.ศ. 2539 โดยเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความชำนาญในหลากหลายสาขาวิชาซึ่งมีประสบการณ์ในการใช้ชีวิต ในต่างประเทศมาโดยตรง โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้คำปรึกษา และให้ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาต่อต่างประเทศ ทั้งภาครัฐและเอกชน APEX ตระหนักดีถึงความสำคัญทางการศึกษา และการสร้างอนาคตที่ดีให้กับนักเรียนทุกคน APEX จึงเน้นการบริการที่รวดเร็ว และเที่ยงตรงด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ในการให้บริการทั้งสิ้นจากการทำงานที่เน้นคุณภาพในการให้บริการ ทำให้ APEXเป็นที่ยอมรับและได้รับความไว้วางใจจาก นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง และจากเจ้าหน้าที่ของสถาบันต่างๆ รวมถึงสถานทูตของประเทศต่างๆ ในไทย ด้วยดีเสมอมาAPEX มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่มีส่วนในการสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา ประสบความสำเร็จได้ดังมุ่งหวัง และเรายืนยันที่จะให้บริการที่ดีแก่ทุกท่านดั่งบุตรหลาน
Study in UK ระบบ การศึกษาในเครือจักรภพอังกฤษ แบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา (ปริญญา) การศึกษาภาคบังคับเริ่มตั้งแต่อายุ 5 ปีถึง16 ปี เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ จะเรียนในโรงเรียนรัฐบาล
Study in USA ข้อมูลทั่วไปประเทศสหรัฐอเมริกาประกอบด้วยรัฐ 50 รัฐ และ 1 เขตการปกครอง ได้แก่ Washington D.Cมีประชากรประมาณ 290 ล้านคน
แบ่งเป็นระดับต่าง ๆ ได้ดังนี้ ระดับอนุบาล (Kindergarten) ระดับประถมศึกษา (Elementary School) ระดับมัธยมศึกษา (Secondary School) ระดับอุดมศึกษา(Higher Education) ระบบการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา
การศึกษาในระดับนี้ แบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้ 1. วิทยาลัย 2 ปี (Junior College) หลักสูตร 2 ปีแล้วโอนเรียนเข้าวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยอีก 2 ปี 2. วิทยาลัยประจำท้องถิ่น (Community College)ส่วนใหญ่เป็นหลักสูตร 2 ปีแล้วโอนเรียนต่อปริญญาตรีในวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยอีก 2 ปี 3. วิทยาลัย (College)เปิดสอนหลักสูตร 4 ปีจบแล้วได้รับวุฒิปริญญาตรี บางแห่งมีเปิดสอนปริญญาโทด้วย 4. มหาวิทยาลัย (University) เปิดสอนระดับปริญญาตรี 4 ปี, โท 2ปีและปริญญาเอก 3-5 ปี 5. สถาบันทางวิชาชีพ เป็นสถาบันวิชาชีพชั้นสูงโดยเฉพาะเช่นแพทย์ กฏหมายเป็นต้นหลักสูตร 3-8 ปีแล้วแต่สาขาวิชาโดยปกติจะเข้าเรียนหลังจากจบปริญญาตรีมาแล้ว ระดับอุดมศึกษา
Study in Australia ข้อมูลทั่วไปประเทศออสเตรเลียมีชื่อทางการว่า สหพันธรัฐออสเตรเลีย มีพื้นที่ 7,682,300 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรประมาณ 18.75 ล้านคน นับเป็นประเทศใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก แบ่งเป็น 6 รัฐและ 2 มณฑล โดยมี รัฐทัสมาเนีย เป็นเกาะ ทางตอนใต้ของประเทศ
การปกครองออสเตรเลีย มีการปกครองในระบบสหพันธรัฐ ประกอบด้วย 6 รัฐNew South Wales เมืองหลวงคือ SydneyVictoria เมืองหลวงคือ MelbourneQueenslandเมืองหลวงคือ BrisbaneWestern Australiaเมืองหลวงคือ PerthSouth Australiaเมืองหลวงคือ AdelaideTasmaniaเมืองหลวงคือ Hobartและเขตปกครองตนเอง 2 เขตคือAustralian Capital Territoryมี Canberra เป็นเมืองหลวงNorthern Territory มี Darwin เป็นศูนย์กลาง
ระบบการศึกษา - โรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา การศึกษาภาคบังคับในออสเตรเลียกำหนดให้เด็กทุกคนที่มีอายุระหว่าง 6 ถึง 15 ปี ต้องเข้าโรงเรียน นักเรียนสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (อายุประมาณ 18 ปี บางครั้งเรียกว่าชั้นปี 12) - หลักสูตรเตรียมพื้นฐาน หากคุณไม่ได้เรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายของออสเตรเลียหรือในประเทศอื่นที่เทียบเท่า หลักสูตรเตรียมพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยให้คุณมีคุณสมบัติพร้อมเข้าเรียนต่อระดับอนุปริญญา อนุปริญญาขั้นสูง หรือปริญญาตรี ซึ่งหลักสูตรส่วนใหญ่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อเตรียมนักเรียนต่างชาติให้มีความพร้อมที่จะเข้าศึกษาต่อในออสเตรเลีย
- สถาบันอาชีวศึกษาและฝึกอบรม (VET) นักเรียนสามารถเข้าเรียนหลักสูตรอาชีวศึกษาและฝึกอบรมได้หลังจากที่จบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้นปี 10) หรือมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้นปี 12) แล้ว มีหลักสูตรต่างๆที่เปิดสอนที่สถาบันเอกชนและวิทยาลัยเทคนิคและการศึกษาต่อเนื่องที่เป็นของรัฐบาล นอกจากนี้สถาบันอาชีวศึกษาหลายแห่งมีความสัมพันธ์ที่ดีและมีข้อตกลงกับมหาวิทยาลัยต่างๆ จากความสัมพันธ์เชื่อมโยงเหล่านี้ทำให้มหาวิทยาลัยสามารถรับโอนหน่วยกิตได้ถึง 1 ปีในการเข้าเรียนต่อปริญญาตรี ตลอดจนรับประกันการเข้าเรียนในหลักสูตรที่คุณสมัครหากคุณได้คะแนนตามที่สถาบันอาชีวศึกษาที่คุณเรียนกำหนดไว้ - มหาวิทยาลัย ออสเตรเลียมีมหาวิทยาลัยจำนวน 39 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้ 37 แห่งเป็นมหาวิทยาลัยที่รัฐบาลให้การอุดหนุน และอีก 2 แห่งเป็นมหาวิทยาลัยของเอกชน มหาวิทยาลัยเหล่านี้เปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรี 4 ปี, ปริญญาโท 1.5-2ปีและปริญญาเอก 3-5 ปี
UK Scholarship The British Chevening Scholarship Scheme สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม บริติชเคานซิลทั้ง 2 แห่ง คือ ส่วนกลางจุฬาลงกรณ์ 64 และ เลขที่ 198 ถ.บำรุงราษฎร์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50000 หรือ www.chvening.com , www britishcouncil.or.th หรือโทรศัพท์ (02) 6525480-9 2. ทุนShell Shell Centenary scholarship เป็นการไปศึกษาต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ โดยมีมหาวิทยาลัยของประเทศอังกฤษเข้าร่วมโครงการ ซึ่งผู้ขอทุนจะต้องมีผลการเรียนดีเยี่ยม อายุไม่เกิน 35 ปี และต้องส่งใบสมัครไปยังมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการด้วยตนเอง หมดเขตรับสมัคร วันที่ 1 มีนาคม ของทุกปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เลขที่ 10 ถ.สุนทรโกษา คลองเตย กรุงเทพฯ 10110 หรือ ดูรายละเอียดที่www.shell.co.thหรือโทรศัพท์ (02) 2626512
3. ทุนยูซีอี โครงการเยาวชนยูซีอี โครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เพื่อศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมและภาษาของชาวต่างชาติ ตลอดจนเผยแพร่วัฒนธรรมไทย โครงการระยะเวลา 3 สัปดาห์ สำหรับผู้ศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย อาชีวศึกษา อุดมศึกษา อายุ ตั้งแต่ 11 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 22 ปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สำนักโครงการเยาวชนยูซีอี เลขที่ 16 ซ.โชคชัยร่วมมิตรแยก 11 ถ.วิภาวดีรังสิต เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10310หรือโทรศัพท์ (02) 6900375-7
USA Scholarship สำนักงานกพ. www.ocsc.go.th
Australia Scholarship ทุนการศึกษาของออสเตรเลีย เป้าหมายของทุนการศึกษา “The Australia Awards” คือการส่งเสริมความรู้ ความสัมพันธ์ทางการศึกษา และความผูกพันที่ยั่งยืนระหว่างออสเตรเลียและประเทศเพื่อนบ้านของเรา ด้วยโครงการทุนการศึกษาที่มากมายของออสเตรเลีย The Australia Awards ประกอบด้วยสองส่วนคือ ทุนเรียนดี (Achievement stream) สำหรับ นักเรียนหัวกะทิที่ฉลาดที่สุด รวมถึงนักวิจัย และผู้ประกอบวิชาชีพที่เดินทางมาออสเตรเลียและชาวออสเตรเลียที่เดินทางไปยัง ประเทศอื่น; ส่วนประเภทที่สองก็คือ ทุนพัฒนาการ (Development stream)ที่ส่งเสริมศักยภาพให้แก่ประเทศที่กำลังพัฒนา The Australia Awards เป็นการรวบรวมทุนการศึกษาขององค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่ง ออสเตรเลีย (AusAID) และกระทรวงศึกษาธิการ การจ้างงาน และแรงงานสัมพันธ์ (DEEWR) เข้าไว้ด้วยกันภายใต้ชื่อโครงการ Australia Awards กรุณาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: www.australiaawards.gov.au
Work & Travel USA Apex Educationโดยความร่วมมือกับองค์กรแลกเปลี่ยนในสหรัฐอเมริกา ได้เปิดโอกาสให้น้องๆนักศึกษาเข้าร่วมโครงการทำงานและท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริการะหว่างปิดภาคเรียนเป็นระยะเวลา 3-4 เดือนและหลังจากจบโครงการแล้วสามารถอยู่ท่องเที่ยวต่อได้อีก 30 วัน โครงการ Work & Travel ได้รับการสนับสนุนและควบคุมโดย United Department of State (DOS) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีหน้าที่ดูแลงานด้านโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม น้องๆสามารถเลือกงานที่ต้องการได้ซึ่งสถานที่ทำงานส่วนใหญ่จะเป็น รีสอร์ท โรงแรม สวนสนุก ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆโดยตำแหน่งงานขึ้นอยู่กับความสามารถทางภาษาอังกฤษและบุคลิกภาพของผู้เข้าร่วมโครงการ งานแต่ละประเภทจะมีค่าตอบแทนแตกต่างกันไปโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ US$ 6 – US$ 10 ต่อชั่วโมง เวลาทำงาน 25-35 ชม.ต่อสัปดาห์ โดยมีช่วงเวลาการเข้าร่วมโครงการ คือเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน สำหรับนักศึกษาภาคปกติ และเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมสำหรับนักศึกษาหลักสูตรนานาชาติ
คุณสมบัติของผู้สมัคร 1.สัญชาติไทย เพศชาย – หญิง อายุระหว่าง 18 – 28 ปี 2.มีสภาพเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี หรือโท ทุกชั้นปี 3.มีความสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี *สำคัญมาก 4.มีความเข้าใจวัตถุประสงค์ของโครงการเป็นอย่างดี ยอมรับในกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้ * สำคัญมากที่สุด 5.สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ และเพื่อนใหม่ได้ดีมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
เอกสารในการสมัคร 1.สมัครด้วยตนเองที่บริษัทเอเพ็กซ์ 2.สำเนาหนังสือเดินทางหรือสำเนาบัตรประจำตัวนักศึกษา 3. ผลสอบภาษาอังกฤษ TOEIC, TOEFL, IELTS (ถ้ามี) 4. หนังสือรับรองสถานภาพนักศึกษาออกโดยมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่
ค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการ ค่าโครงการ 44,000 บาทมีรายละเอียดดังนี้ Promotionนี้ภายใน 30 กรกฎาคม 2555 เท่านั้น - ค่าประสานงาน 5000 บาท (Non – refundable) - ค่าจัดหาที่ทำงานและให้คำแนะนำเรื่องที่พัก - ค่าออกเอกสาร DS-2019 เพื่อยื่นวีซ่า ค่าธรรมเนียมวีซ่า, ค่า Pin Code ในการจองวันสัมภาษณ์ ค่าซองไปรษณีย์ - ค่าประกันสุขภาพ และอุบัติเหตุ - คู่มือเข้าร่วมโครงการ คำแนะนำในการทำ Social Security Card - เจ้าหน้าที่ขององค์กรในสหรัฐอเมริกา ให้การดูแลและช่วยเหลือ มี Emergency Call 24 ชั่วโมง - ให้คำแนะนำและช่วยเหลือในการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าประเภท J-1 - จัดการปฐมนิเทศก่อนการเดินทาง (Pre-departure Orientation) - ค่า SEVIS Fee ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.ice.gov/graphics/sevis อัตรานี้ไม่รวม - ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ - ค่าที่พัก ค่าอาหารและ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
การเตรียมตัวศึกษาต่อต่างประเทศการเตรียมตัวศึกษาต่อต่างประเทศ 1. หาข้อมูล หาข้อมูลให้เยอะที่สุดเท่าที่ทำได้ หาข้อมูลของมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนวิชาที่เราต้องการ หาข้อมูลของเมืองและประเทศ ว่าน่าอยู่เหมาะกับเราหรือเปล่า ภูมิอากาศ ภูมิประเทศ สภาพความเป็นอยู่ ชอบอยู่ในเมืองหรือชอบชนบท...กรณีต้องการหารายได้เพิ่มช่วยเหลือตัวเองไปด้วยระหว่างศึกษาต่อ ศึกษาดูว่าประเทศไหนที่อนุญาติให้นักศึกษาต่างชาติทำงานพาร์ท ทามได้ถูกต้องตามกฏหมาย แนะนำว่าให้ไปเมืองที่ใหญ่หน่อย และมีร้านอาหารไทยเยอะหน่อย จะช่วยได้เยอะค่ะ
2. เตรียมการสมัครสอบ ในการสมัครเรียน ทางมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ต้องการดูผลว่าเรามีความสามารถเพียงพอที่จะสามารถไปเรียนได้หรือเปล่า ส่วนใหญ่จะมี สอบภาษาอังกฤษ TOEFLสำหรับประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ และ IELTSสำหรับอังกฤษและประเทศอื่นๆ สอบความรู้ด้านอื่น รวมถึงสอบ GMATสำหรับด้านบริหาร และสอบ GREสำหรับด้านอื่นๆ บางสาขาไม่จำเป็นต้องสอบ (GMAT และ GRE จะใช้ในประเทศอเมริกา)
3. เตรียมเอกสาร - ควรเตรียมเอกสารตั้งแต่เริ่มคิดที่จะสมัครเรียนต่อ เนื่องจากบางเอกสารอาจจะต้องใช้เวลานาน(ถึงนานมาก ในบางที) ยังไงก็ควรขอเอกสารไว้กับตัวก่อน ไม่จำเป็นต้องคิดว่า สอบTOEFL หรือ IELTS ผ่านแล้วค่อยขอ หรือว่าหามหาวิทยาลัยที่ต้องการได้แล้วค่อยขอ โดยเอกสารหลักๆที่ต้องมี - ทรานสคริปต์ (transcript) เป็นใบผลการเรียนจากทางมหาวิทยาลัย - จดหมายแนะนำ (letters of recommendations) จดหมายแนะนำจากทางอาจารย์หรือหัวหน้างาน อย่างน้อย 3 ฉบับ (บางที่เอา 2) ก่อนจะไปขออาจารย์ ควรจะรู้ให้แน่ก่อนว่าอยากจะเรียนอะไร เวลาอาจารย์ถามจะได้ตอบถูก
- เอกสารรับรองทางการเงิน (financial statement) เอกสารรับรองจากทางธนาคารว่าเรามีเงินเพียงพอที่จะเรียนต่อได้ - (statement of purpose) เป็นจดหมาย 1 หน้า (หรือมากกว่า แต่ควรเขียนไม่ยาวมาก) เป็นจดหมายที่เราเขียนให้แก่ทางมหาวิทยาลัย เกี่ยวกับเหตุผลที่ว่า ทำไมเราถึงเลือกมาเรียนที่นี่ (เช่นเดียวกับที่ว่า เหตุผลทำไมเค้าถึงรับเรา) ในสาย MBA มักจะมีคำถาม 2-5 ข้อให้เราเขียนตอบ เกี่ยวกับการสมัครเข้าเรียน บางสาขาวิชาต้องการให้เราเขียน เรซูเม (resume) อื่นๆ อาจจะเป็นประกาศนียบัตรต่างๆ ที่เราได้มาและเกี่ยวข้องกับที่เราจะสมัคร เดดไลน์ เดดไลน์ (deadline) ของการสมัครแต่ละมหาวิทยาลัยจะแตกต่างกัน และแต่ละคณะก็จะแตกต่างกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคือวันไหน และจำไว้ว่า ไม่ควรจะรอถึงวันใกล้เดดไลน์แล้วค่อยส่งเอกสาร เอกสารต่างๆ ควรจะส่งล่วงหน้า
บริการที่จะได้รับจาก APEX ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น แนะแนว ให้คำปรึกษา พร้อมเอกสารข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการศึกษาต่อต่างประเทศทุกระดับ แนะนำ จัดหาสถาบันการศึกษา ที่เหมาะสม โดยยึดจากความต้องการของนักศึกษาเป็นหลัก พร้อมดำเนินการสมัครเรียนให้ตามขั้นตอน จัดหาที่พัก ที่เหมาะสม และปลอดภัย ทั้งพักร่วมกับครอบครัว หรือหอพักนักศึกษา เพื่อให้มั่นใจในการดูแลใส่ใจสวัสดิภาพของนักศึกษา จองตั๋วเครื่องบิน ในราคานักศึกษา และราคาพิเศษสำหรับผู้ปกครอง จัดเจ้าหน้าที่รอรับที่สนามบิน ดำเนินการด้านวีซ่า โดยทีมงานที่มีประสบการณ์ และชำนาญในด้านนี้โดยเฉพาะ จัดปฐมนิเทศ เตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง อำนวยความสะดวก โดยเป็นตัวแทนประสานงานระหว่างผู้ปกครอง และสถาบันการศึกษา ในทุกด้าน ดูแลนักศึกษาทุกขั้นตอน ตั้งแต่ก่อน ออกเดินทางจนถึงเดินทางกลับด้วยความเรียบร้อย
นอกจากนี้เอเพ็กซ์ยังมีเจ้าหน้าที่คนไทยคอยดูแล และให้ความช่วยเหลือนักเรียนในเมืองBrisbane , Melbourne , Gold Costและ SydneyบางเมืองในNew Zealand และประเทศอังกฤษ ที่ Londonนอกจากนี้ APEXยังพร้อมให้คำแนะนำ ในการทำงาน Part-time หลังเวลาเรียน หรือร่วมโครงการ AU-Pair Program ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือนักเรียนที่ต้องการมีรายได้เสริม เส้นทางการศึกษาต่อในต่างประเทศของท่าน จะใกล้ และมั่นใจกว่า กับAPEXนอกจากนี้APEXยังเป็นตัวแทน สถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพอีกกว่า 300 แห่งทั่วโลก พร้อมบริการท่าน เสมือนติดต่อกับสถาบันโดยตรง
Contact Us สาขาสุขุมวิท23 126/1 ซ.สุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 Tel : 0-2260-2910 (6 คู่สาย) Fax : 0-2260-2913 E-mail :apex@apexeducate.com สาขา ม. กรุงเทพฯ สาขามหาวิทยาลัยกรุงเทพซอยรังสิตภิรมย์ 15/104 หมู่ 5 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง ปทุมธานี 12120 Tel : 02-5162584Fax : 02-5162585E-mail :apex@apexeducate.com
www.apexeducate.com Facebook/apexeducate