140 likes | 342 Views
คู่มือปฏิบัติโครงการ ลดภาระหนี้เกษตรกรรายย่อยและยากจนผ่านสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร. กลุ่มแก้ไขปัญหาหนี้สินสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร สำนักพัฒนาระบบการบริหารการจัดการสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ โทร. 0 2282 5848. 1.เจตนารมณ์ของการดำเนินโครงการ. 2.หลักการ. ลดดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 3 บาทต่อปี. ฟื้นฟูอาชีพ.
E N D
คู่มือปฏิบัติโครงการลดภาระหนี้เกษตรกรรายย่อยและยากจนผ่านสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรคู่มือปฏิบัติโครงการลดภาระหนี้เกษตรกรรายย่อยและยากจนผ่านสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร กลุ่มแก้ไขปัญหาหนี้สินสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร สำนักพัฒนาระบบการบริหารการจัดการสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ โทร. 0 2282 5848
1.เจตนารมณ์ของการดำเนินโครงการ1.เจตนารมณ์ของการดำเนินโครงการ
2.หลักการ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 3 บาทต่อปี ฟื้นฟูอาชีพ • ลดดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 3 บาทต่อปีให้กับเกษตรกรสมาชิกที่มาชำระหนี้ต้นเงินกู้คงค้างทั้งหมดหรือบางส่วน และดอกเบี้ยประจำปีให้กับสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร โดยรัฐจะเป็นผู้รับภาระจ่ายดอกเบี้ยในส่วนที่สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรลดให้กับสมาชิกแทน • สนับสนุนให้เกษตรกรสมาชิกของสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการลดภาระหนี้ ให้สามารถฟื้นฟูอาชีพเดิม หรือประกอบอาชีพใหม่หรือสร้างแหล่งรายได้เสริม เพื่อให้กลับมาประกอบอาชีพอย่างมั่นคง มีรายได้เพียงพอที่จะดำรงชีพอยู่ได้อย่างพอเพียง และเพิ่มขีดความ สามารถในการชำระหนี้
3.เกษตรกรสมาชิกที่ได้รับสิทธิ3.เกษตรกรสมาชิกที่ได้รับสิทธิ • เป็นสมาชิกของสหกรณ์ภาคเกษตร ได้แก่สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์นิคม สหกรณ์ประมง สำหรับ สหกรณ์เครดิตยูเนียนเฉพาะสมาชิกที่เป็นเกษตรกร และสมาชิกกลุ่มเกษตรกร • มีหนี้เงินกู้แต่ละราย รวมทุกสัญญา ไม่เกิน 100,000 บาททั้งที่เข้าร่วมโครงการปีที่ 1 และปีที่ 2 • เกษตรกรสมาชิกที่เป็นหนี้เงินกู้ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2551 สำหรับปีที่ 1 และเกษตรกรรายเดิมที่ขอกู้เงินอีกครั้งต้องอยู่ในระยะเวลาของโครงการ • เกษตรกรสมาชิกต้องชำระหนี้ต้นเงินกู้คงค้างทั้งหมดหรือบางส่วนให้กับสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรถึงจะได้รับสิทธิการลดดอกเบี้ยร้อยละ 3 บาทต่อปี ตามสัดส่วนของต้นเงินกู้คงค้างที่ชำระ • เกษตรกรสมาชิกต้องยืนยันว่าจะเข้าร่วมกิจกรรมฟื้นฟูอาชีพ
4.แนวปฏิบัติของสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร4.แนวปฏิบัติของสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร • 4.1 กิจกรรมการลดภาระหนี้ 1.สำรวจสมาชิกที่ได้รับสิทธิ ส่งให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดทราบและตรวจสอบ 4.ทำหนังสือขอเบิกเงิน 2.สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรลดดอกเบี้ยให้กับสมาชิก ร้อยละ 3 บาทต่อปี 5.ออกใบเสร็จรับเงินชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 บาทต่อปีให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัด 3.ออกใบเสร็จรับเงินชำระหนี้จากสมาชิก 6.การกู้ใหม่ภายในระยะเวลาของโครงการ ฯ
ขั้นตอนที่ 1 : การสำรวจสมาชิก • สำรวจสมาชิกที่ได้รับสิทธิแล้วแจ้งชื่อ พร้อมยอดหนี้ต้นเงินกู้คงค้าง อัตราดอกเบี้ย วันที่กู้และวันครบกำหนดสัญญาเงินกู้ พร้อมทั้งประมาณการจำนวนเงินที่จะต้องลดดอกเบี้ยร้อยละ 3 บาทต่อปีให้กับสมาชิกพร้อมรับรองรายชื่อดังกล่าว ส่งให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดทราบและตรวจสอบ • ในครั้งแรกให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร รวบรวมแล้วรายงานภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2551 หากมีสมาชิกกู้เงินหลังจากวันที่ 31 สิงหาคม 2551 ให้ทยอยแจ้งให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดทราบต่อไป • ทั้งนี้ต้องไม่เกิน หรือภายในวันที่ 1 ต.ค. 2551 ในรอบแรกและในรอบ 2 เกษตรกรรายเดิมที่ขอกู้เงินอีกครั้งต้องอยู่ในระยะเวลาของโครงการ อนึ่ง ขอให้สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรแยกแผ่นลูกหนี้รายตัวของสมาชิกเฉพาะโครงการลดภาระหนี้เป็นการเฉพาะ หรือใช้ตรายางประทับตราว่า “โครงการลดภาระหนี้ปี 1 หรือ 2” เพื่อสะดวกในการลดภาระหนี้ให้กับสมาชิกในการชำระหนี้แต่ละครั้ง ขั้นตอนที่ 2
ขั้นตอนที่ 2 : การลดดอกเบี้ยให้กับสมาชิก *** เมื่อสมาชิกมาชำระหนี้ สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรต้องลดดอกเบี้ยให้กับสมาชิก ร้อยละ 3 บาทต่อปี ทันที *** 1. กรณีการรับชำระหนี้ที่เป็นหนี้ปกติที่ไม่ผิดสัญญาในรอบปีบัญชี หากชำระภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2551ถึง 30 กันยายน 2553ให้สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรลดดอกเบี้ยให้กับสมาชิกได้ตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญาเงินกู้เช่น สมาชิกกู้เงิน ตั้งแต่ วันที่ 1 เมษายน 2551 กำหนดชำระคืน 31มีนาคม 2552 หากสมาชิกมาชำระภายในเวลาตามสัญญา สามารถลดดอกเบี้ยให้สมาชิกได้ ตั้งแต่วันกู้ถึงวันชำระ ตัวอย่าง
ขั้นตอนที่ 2 : การลดดอกเบี้ยให้กับสมาชิก (ต่อ) 2. กรณีการรับชำระหนี้ที่ค้างชำระหรือหนี้ที่ผิดสัญญา สมาชิกจะได้รับสิทธิลดดอกเบี้ยไม่เกิน 1ปี ส่วนที่เกินจาก 1ปี สมาชิกต้องจ่ายดอกเบี้ยและค่าปรับ ตามปกติที่สหกรณ์คิด เช่น สมาชิกกู้เงินกู้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2550 กำหนดชำระ 31มีนาคม 2551แต่สมาชิกผิดสัญญาไม่ชำระหนี้ หากสมาชิกมาชำระในวันที่ 1ตุลาคม 2551จะได้รับการลดดอกเบี้ยในระยะเวลาเพียง 1ปี คือตั้งแต่วันที่ 1ตุลาคม 2550ถึง วันที่ 1ตุลาคม 2551 ส่วนก่อนวันที่ 1ตุลาคม 2550 สมาชิกต้องเสียดอกเบี้ยและค่าปรับตามอัตราปกติตัวอย่าง
ขั้นตอนที่ 2 : การลดดอกเบี้ยให้กับสมาชิก (ต่อ) 3. กรณีสมาชิกชำระหนี้เพียงบางส่วน จะได้รับการลดดอกเบี้ย ตามสัดส่วนของต้นเงินที่ชำระจริงเท่านั้น ตัวอย่าง มีหนี้เงินกู้ 10,000 บาท สหกรณ์คิดดอกเบี้ย 10% แต่ชำระต้นเงินได้เพียง 5,000 บาท จะได้รับการช่วยเหลือลดดอกเบี้ย 3% จากต้นเงินที่ชำระได้เท่านั้น ขั้นตอนที่ 3
ขั้นตอนที่ 3 : การออกใบเสร็จรับเงินชำระหนี้จากสมาชิก • ให้ระบุจำนวนเงินที่ลดดอกเบี้ยให้เกษตรกร อัตราร้อยละ 3บาทต่อปี ให้ชัดเจนในใบเสร็จรับเงิน ทั้งนี้ให้ถือว่าใบสำคัญของสหกรณ์ที่ลดดอกเบี้ยให้กับสมาชิก เริ่มใช้ ณ วันที่ 1 ต.ค. 2551 เป็นต้นไป (หากสมาชิกมาชำระหนี้ก่อนวันที่ 1 ต.ค.2551 จะไม่ได้รับการชดเชยดอกเบี้ย 3 บาทต่อปี ทั้งนี้ควรชี้แจงให้สหกรณ์เลื่อนการชำระหนี้ในช่วงเดือน ส.ค. 2551 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 2551) และเริ่มการชำระหนี้ 1 ต.ค. 2551 เป็นต้นไป • หมายเหตุ ให้เลือกใช้เฉพาะที่มีรายการในแต่ละกรณี • การลงบัญชีลดดอกเบี้ยร้อยละ 3 บาทต่อปี ให้ลงบัญชีในลักษณะตั้งกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นลูกหนี้รอการเรียกเก็บเงินสด
ขั้นตอนที่ 4 : การทำหนังสือขอเบิกเงิน • ทำหนังสือขอเบิกเงิน พร้อมทั้งถ่ายเอกสารใบเสร็จรับเงิน เพื่อขอเบิกส่วนที่ลดดอกเบี้ยร้อยละ 3บาทต่อปี จากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดได้ทันที ขั้นตอนที่ 5 : การออกใบเสร็จรับเงินชดเชยฯ • เมื่อได้รับเงินจากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดให้ออกใบเสร็จรับเงินชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 บาทต่อปี ให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัด เพื่อใช้เป็นเอกสารใบสำคัญจ่ายเงิน และเป็นหลักฐานที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัด เพื่อรอ สตง. ตรวจสอบต่อไป ขั้นตอนที่ 6 : หากกู้ใหม่ภายในระยะเวลาของโครงการฯ • เมื่อสมาชิกรายเดิมที่ชำระหนี้แล้ว หากกู้ใหม่ภายในระยะเวลาของโครงการ ตั้งแต่ วันที่1 ตุลาคม 2551 ถึง 30 กันยายน 2553 จะได้รับสิทธิในการลดดอกเบี้ยร้อยละ 3 บาทต่อปี อีก 1 ปี เป็นปีที่ 2 ตามหลักเกณฑ์เดิม แต่ต้องชำระหนี้เงินกู้ไม่เกิน วันที่ 30 กันยายน 2553 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดโครงการ
4.แนวปฏิบัติของสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร (ต่อ) • 4.2 กิจกรรมฟื้นฟูอาชีพ เนื่องจากกิจกรรมการฟื้นฟูอาชีพ ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ ในปี งบประมาณ 2552 ดังนั้น ในชั้นนี้ให้สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ให้สมาชิกที่ได้รับสิทธิในการลดดอกเบี้ย ยืนยันว่าจะเข้าร่วมกระบวนการฟื้นฟูอาชีพ เมื่อได้รับการจัดสรรงบประมาณ
5.แนวปฏิบัติของสำนักงานสหกรณ์จังหวัด5.แนวปฏิบัติของสำนักงานสหกรณ์จังหวัด • ชี้แจงทำความเข้าใจรายละเอียดของโครงการให้กับสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร เพื่อให้สามารถเริ่มดำเนินการได้ทันที่ในวันที่ 1 ตุลาคม 2551 โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ จะโอน ค่าใช้สอยให้กับสำนักงานสหกรณ์จังหวัด เพื่อใช้ในการปฏิบัติงาน • ให้สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร สำรวจสมาชิกที่ได้รับสิทธิ แล้วแจ้งชื่อ พร้อมยอดหนี้ อัตราดอกเบี้ยปกติที่คิดกับสมาชิก วันที่กู้เงินและวันครบกำหนดสัญญาเงินกู้ พร้อมทั้งประมาณการจำนวนเงินที่จะต้องลดดอกเบี้ยร้อยละ 3% ต่อปีให้กับสมาชิก ส่งให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพร้อมรับรองรายชื่อและจำนวนหนี้ (ตามแบบ กปก.1) • รวบรวมประมาณการจำนวนเงินที่จะต้องเบิกให้กับสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร แจ้งกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นรายเดือนของแต่ละสหกรณ์และกลุ่มเกษตรในภาพของจังหวัด (ตามแบบ กปก.2) • กรมส่งเสริมสหกรณ์ จะโอนเงินงบประมาณเพื่อชดเชยดอกเบี้ย 3% ต่อปี ไปเบิกจ่ายที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดตามความต้องการใช้เงินชดเชยดอกเบี้ยเป็นรายเดือน ตามประมาณการข้อ 5.3 • เมื่อได้รับหนังสือขอเบิกเงินและสำเนาใบเสร็จรับเงินจากสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ให้เบิกจ่ายเงินให้กับสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรทันที โดยสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรจะต้องออกใบเสร็จรับเงินชดเชยดอกเบี้ย 3% ต่อปีให้กับสำนักงานสหกรณ์จังหวัดไว้เป็นหลักฐาน และเก็บไว้ ณ สำนักงานสหกรณ์จังหวัด เพื่อให้ สตง. ตรวจสอบต่อไป • รายงานผลการดำเนินงาน ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ทราบทุกเดือน (ตามแบบ กปก.3) • หากมีกรณีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละจังหวัด ที่ไม่เป็นตามเงื่อนไขในหนังสือฉบับนี้ สามารถแจ้งและสอบถามได้ เบอร์โทร. 02-282-5848