1 / 22

กา รบริหารคลังสินค้า

กา รบริหารคลังสินค้า. กา รบริหารคลังสินค้า. Inventory Management.

giulio
Download Presentation

กา รบริหารคลังสินค้า

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การบริหารคลังสินค้า

  2. การบริหารคลังสินค้า Inventory Management สินค้าคงคลัง หรือสินค้าคงเหลือ (Inventory) เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับธุรกิจ เพราะจัดเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนรายการหนึ่งซึ่งธุรกิจพึงมีไว้เพื่อให้การผลิตหรือการขาย สามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่น การมีสินค้าคงคลังมากเกินไปอาจเป็นปัญหากับธุรกิจ ทั้งในเรื่องต้นทุนการเก็บรักษาที่สูง สินค้าเสื่อมสภาพ หมดอายุ ล้าสมัย ถูกขโมย หรือสูญหาย นอกจากนี้ยังทำให้สูญเสียโอกาสในการนำเงินที่จมอยู่กับสินค้าคงคลังนี้ไปหาประโยชน์ในด้านอื่นๆ 

  3. การบริหารคลังสินค้า สินค้าคงคลัง สินค้าคงคลัง (Inventory) หมายถึงวัสดุหรือสินค้าต่างๆ ที่เก็บไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินงาน อาจเป็นการดำเนินงานผลิต ดำเนินการขาย หรือดำเนินงานอื่นๆ สินค้าคงคลังแบ่งได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ

  4. การบริหารคลังสินค้า สินค้าคงคลังแบ่งได้เป็น 4 ประเภท • วัตถุดิบ (Raw Material) คือสิ่งของหรือชิ้นส่วนที่ซื้อมาใช้ในการผลิต • งานระหว่างทำ (Work-in-Process) คือชิ้นงานที่อยู่ในขั้นตอนการผลิตหรือรอคอยที่จะผลิตหรือรอคอยที่จะผลิตในขั้นตอนต่อไป โดยที่ยังผ่านกระบวนการผลิตไม่ครบทุกขั้นตอน • วัสดุซ่อมบำรุง (Maintenance/Repair/Operating Supplies) คือชิ้นส่วนหรืออะไหล่เครื่องจักรที่สำรองไว้เผื่อเปลี่ยนเมื่อชิ้นส่วนเดิมเสียหรือหมดอายุการใช้งาน • สินค้าสำเร็จรูป (Finished Goods) คือปัจจัยการผลิตที่ผ่านทุกกระบวนการผลิตครบถ้วนพร้อมที่จะขายให้ลูกค้าได้

  5. การบริหารคลังสินค้า การบริหารสินค้าคงคลัง หมายถึง 1. การเก็บทรัพยากรไว้ใช้ในปัจจุบัน หรือในอนาคต เพื่อให้การดำเนินการของกิจการดำเนินไปอย่างราบรื่น ผ่านการวางแผนกำหนดปริมาณสินค้าคงคลังที่เหมาะสม

  6. การบริหารคลังสินค้า 2. การจัดการต่างๆ ที่เกี่ยวกับรายการสินค้าในคลัง ตั้งแต่รวบรวม จดบันทึกสินค้าเข้า-ออก การควบคุมให้มีสินค้าคงเหลือในปริมาณที่เหมาะสม มีระเบียบ เพื่อให้สินค้าที่มีอยู่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคทั้งในด้านแบบ สี ขนาด แฟชั่น  โดยมีจุดมุ่งหมาย เพื่อรายงานแก่ผู้บริหารว่า “รายการสินค้าใดขายดี สินค้าใดขายไม่ดี สินค้าใดควรสั่งซื้อเพิ่ม หรือสินค้าใดควรลดราคาล้างสต็อก หรือควรตัดสต็อก เพราะสินค้าเสื่อมคุณภาพ-ล้าสมัยแล้ว”

  7. การบริหารคลังสินค้า ประโยชน์ของสินค้าคงคลัง 1. เป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ที่ประมาณการไว้ในแต่ละช่วงเวลา ทั้งในฤดูกาล และนอกฤดูกาล โดยธุรกิจต้องเก็บสินค้าคงคลังไว้ในคลังสินค้า 2. เป็นการรักษาการผลิตให้มีอัตราคงที่สม่ำเสมอ เพื่อรักษาระดับการว่าจ้างแรงงาน การเดินเครื่องจักร ฯลฯ ให้สม่ำเสมอได้โดยจะเก็บสินค้าที่จำหน่ายไม่หมดในช่วงที่จำหน่ายได้ไม่ดี ไว้จำหน่ายตอนช่วงเวลาที่ลูกค้า หรือผู้บริโภคมีความต้องการ ซึ่งในช่วงเวลานั้นอาจจะผลิตไม่ทันการจำหน่าย

  8. การบริหารคลังสินค้า ประโยชน์ของสินค้าคงคลัง 3. ทำให้ธุรกิจได้ส่วนลดปริมาณ (Quantity Discount) จากการจัดซื้อสินค้าจำนวนมากต่อครั้ง เพื่อเป็นการป้องกันการเปลี่ยนแปลงราคา และผลกระทบจากเงินเฟ้อ เมื่อสินค้าในท้องตลาดมีราคาเพิ่มสูงขึ้น 4. ป้องกันสินค้าขาดมือ ด้วยสินค้าเผื่อขาดมือ เมื่อเวลารอคอยล่าช้า หรือบังเอิญได้คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างกระทันหัน

  9. การบริหารคลังสินค้า ประโยชน์ของสินค้าคงคลัง 5. ทำให้กระบวนการผลิตสามารถดำเนินการต่อเนื่องอย่างราบรื่น ไม่มีการหยุดชะงัก อันเนื่องจากของขาดมือ จนทำให้เกิดความเสียหายแก่กระบวนการผลิต ซึ่งจะทำให้คนงานว่างงาน เครื่องจักรถูกปิด หรือผลิตไม่ทันคำสั่งซื้อของลูกค้า

  10. การบริหารคลังสินค้า • วัตถุประสงค์ของการบริหารสินค้าคงคลัง • ความประหยัด • ความสมดุลของอุปสงค์และอุปทาน • เพื่อป้องกันสถานการณ์ที่มีความผันแปรในการซื้อขาย

  11. การบริหารคลังสินค้า MRP การวางแผนความต้องการวัตถุดิบ (Material Requirement Process : MRP) เป็นการวางแผนความต้องการเกี่ยวกับวัตถุดิบทั้งหมดที่จะนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ เป็นเทคนิคที่ทำให้การไหลเวียนของวัถุดิบมีประสิทธิภาพโดยจะใช้ระบบคอมพิวเตอร์และสารสนเทศในการคำนวณปริมาณและเวลาที่ต้องการวัตถุดิบนั้น เพื่อให้สามารถสั่งซื้อได้ตามปริมาณและเวลาที่ต้องการ ซึ่ง MRP นั้นถือเป็นระบบผลัก (Push System) คือ เราวางแผนว่าเราจะผลิตเท่าไหร่ แล้วเราต้องการวัตถุดิบเท่าไหร่แล้วเราจึงสั่งวัตถุดิบเข้ามา (หรือการสั่งเมื่อมีความต้องการเท่านั้น)

  12. การบริหารคลังสินค้า วัตถุประสงค์และประโยชน์ของ MRP - ลดปริมาณวัสดุคงคลัง - ลดเวลาในการผลิตและจัดส่งผลิตภัณฑ์ - สามารถผลิตสินค้าได้ตามOrder ที่ลูกค้าสั่ง และส่งมอบได้ทันตามที่ลูกค้ากำหนด - สามารถตอบสนองการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของตลาด

  13. การบริหารคลังสินค้า กระบวนการของ MRP จะเริ่มจากบริษัทได้รับคำสั่งซื้อหรือมีการประมาณความต้องการ(พยากรณ์ยอดขาย) ในแต่ละช่วงเวลา จะทำการประมวลผลด้วยระบบ Com โดยใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการจัดทำ MPS (MasterProductionSchedule) MPS ก็จะให้ข้อมูลกับฝ่ายจัดซื้อให้ทราบถึงความต้องการวัตถุดิบแต่ละตัวตามรายการ BOM (BillofMaterial) และตรวจเช็คปริมาณวัตถุดิบที่ยังมีอยู่ในโกดัง (InventoryRecord หรือ On-handInventory) เพื่อผลิตตามจำนวนที่ลูกค้าต้องการ

  14. การบริหารคลังสินค้า B. EOQ (EconomicOrderQuantity) • เป็นรูปแบบของการบริหารสินค้าคงคลัง • EOQ คือ ปริมาณการสั่งซื้อที่ประหยัด โดยการสั่งซื้อสินค้าในแต่ละครั้งจะสั่งในปริมาณหรือจำนวนที่ทำให้ค่าใช้จ่ายรวมต่ำที่สุด ซึ่งค่าใช้จ่ายรวมนั้นเกิดจากค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อ (Ordering Cost) และค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บสินค้า (Carrying Cost) (ค่าใช้จ่ายสองตัวนี้จะแปรผกผันกัน) • สูตร EOQ =  2 DO / C • D = ความต้องการสินค้าใน 1 ปี • O = ค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อแต่ละครั้ง • C = ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บสินค้าต่อหน่วยต่อปี

  15. การบริหารคลังสินค้า ข้อจำกัด ของ EOQ • ความต้องการสินค้ามีปริมาณแน่นอน • ระยะเวลาในการสั่งซื้อจนกระทั่งได้รับสินค้า (Lead time) มีระยะเวลาแน่นอน • ต้นทุนในการสั่งซื้อสินค้าคงที่ • ราคาสินค้าต่อหน่วยคงที่ • ไม่มีการส่งคืนสินค้า • ไม่มี Discount มาเกี่ยวข้อง • การสั่งซื้อทุกครั้งจะได้รับสินค้าโดยการจัดส่งเพียงครั้งเดียว • สินค้าไม่มีการขาด stock

  16. การบริหารคลังสินค้า EOQ ต้องคำนึงถึง • ต้นทุนในการสั่งซื้อ (Ordering Cost) เช่น การออกใบสั่งซื้อ การติดตามงานกับ Supplier • ต้นทุนการเก็บรักษา (Holding Cost) เช่น ค่าประกันภัยสินค้า ค่าเช่าโกดังสินค้า • อัตราการใช้สินค้า หรือการซื้อซ้ำ (Reorder point) คำนวณจากการพยากรณ์ และดูLead time ด้วย • Reorder point เป็นการตัดสินใจว่าจะทำการสั่งซื้ออีกเมื่อไหร่ ซึ่งอาจต้องมีการเผื่อ Safety Stock ไว้ระดับหนึ่ง เพื่อไม่ให้เกิดการขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิต • สูตร Reorder point = Lead time х Demand+ Safety Stock วัน

  17. การบริหารคลังสินค้า ประโยชน์ ของ EOQ ทำให้กิจการสามารถเผชิญกับความผันแปรของ Demand ได้ โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาการขาด Stock ช่วยลดต้นทุนสินค้าเนื่องจากการสั่งซื้อในปริมาณมาก ช่วยประหยัดต้นทุนการสั่งซื้อ กระบวนการผลิตดำเนินไปอย่างสม่ำเสมอ ไม่หยุดชะงัก

  18. การบริหารคลังสินค้า Supply Chain Management การจัดการซัพพลายเชน หรือการจัดการห่วงโซ่อุปทาน เป็นการจัดลำดับของกระบวนการทั้งหมดที่มีผลต่อการสร้างความพอใจให้กับลูกค้า โดยเริ่มต้นตั้งแต่ กระบวนการจัดซื้อ(Procurement) การผลิต (Manufacturing) การจัดเก็บ (Storage) เทคโนโลยีสารสนเทศ (InformationTechnology) การจัดจำหน่าย (Distribution) การขนส่ง (Transportation) กระบวนการทั้งหมดนี้จะจัดระบบให้ประสานกันอย่างคล่องตัว

  19. การบริหารคลังสินค้า การจัดการซัพพลายเชนหรือการจัดการห่วงโซ่อุปทาน ไม่ได้ครอบคลุมเฉพาะหน่วยงานต่างๆ ภายในองค์การเท่านั้น แต่ที่สำคัญจะสร้างความสัมพันธ์เชื่อมต่อกับองค์กรอื่น ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การจัดหาวัตถุดิบ/สินค้า(Supplies) บริษัทผู้ผลิต(manufactures) หรือผู้จัดจำหน่าย (Distribution) รมถึงลูกค้าของบริษัท จึงจำเป็นที่จะต้องเชื่อมโยงกระบวนการดำเนินธุรกิจทุกขั้นตอนด้วยกันเป็นเครือข่ายให้เกิดการประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง

  20. การบริหารคลังสินค้า *** SupplyChain มีเป้าหมายคือ ทำกำไรให้ได้มากที่สุด โดยมีค่าใช้จ่ายรวมตลอดสายห่วงโซ่ต่ำที่สุด และการบริหาร*** ***SupplyChainที่มีประสิทธิภาพ จะทำให้เกิดความสมดุลระหว่างความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าและต้นทุนต่ำที่สุด***

  21. การบริหารคลังสินค้า ประโยชน์ของการนำซัพพลายเชน เกิดความสะดวกรวดเร็วและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานในส่วนต่าง ๆ ลดต้นทุนรวมขององค์กร เพิ่มผลผลิตในกระบวนการผลิตเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดและประสิทธิภาพในการผลิต ขนส่ง และการบริการลูกค้าสร้างความได้เปรียบในการเพิ่มกำไร เนื่องจากต้นทุนโดยรวมลดลง

  22. ใบงานที่ 7 จงหาความหมายของข้อมูลต่อไปนี้ให้สมบูรณ์พร้อมยกตัวอย่าง 1. ระบบการขนาดสั่งซื้อที่ประหยัด (EOQ) 2. ระบบการวางแผนความต้องการวัสดุ (MRP) 3. ระบบสินค้าคงคลังของการผลิตแบบทันเวลาพอดี (JIT)

More Related