รู้จักกับภาษา และคำสั่ง php เบื้องต้น

1. รู้จักกับภาษา และคำสั่ง phpเบื้องต้น ธีระพงษ์ แสงรักษาวงศ์

2. ตัวแปร (Variable) • กฎการตั้งชื่อตัวแปร • ใช้ได้เฉพาะตัวอักษร และ เครื่องหมาย _ • ตัวอักษรตัวแรกของชื่อห้ามเป็นตัวเลข • ตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่ไม่เหมือนกัน • ไม่ควรตั้งชื่อซ้ำกับฟังก์ชันมาตรฐาน หรือคำสงวนอื่น ๆ ได้ • ใช้เครื่องหมาย $ นำหน้าชื่อตัวแปร เพื่อบอกให้รู้ว่านี่คือตัวแปร เช่น $student , $salary

3. ตัวแปร • $salary • $integer • $number3 • $932 • $user_name • $password • $string • $value • $define • $echo • $_abc • $ab_c9 • $ab_99 • $9com

4. ชนิดของตัวแปร • Array • Boolean • Float • Integer • ฐาน 10 1,3,5 11 • ฐาน 8 034,046 • ฐาน 16 0x1A , 0x32 • Object • String

5. คำถามชนิดตัวแปร ? • $a = “computer”; • $a = computer; • $b = 987; • $b = 098; • $b = 037; • $b = 0x1A; • $c = “computer string”; • $c 89.321; • $c = x37;

6. การประกาศตัวแปร • $sum = 0; • $Name = “Teerapong”; • $number = $sum;

7. คุณสมบัติอื่น ๆ ของตัวแปร • Type Strength • ชนิดของตัวแปรในภาษา PHP สามารถกำหนดได้โดยไม่ต้องประกาศชนิดของตัวแปรได้ และเมื่อกำหนดค่าที่มีชนิดข้อมูลแตกต่างกับชนิดข้อมูลของตัวแปร จะทำให้ชนิดของตัวแปรเปลี่ยนแปลงไปตามชนิดของค่าที่กำหนดให้ใหม่ • $total = 60-20; • Echo “Total =” .$total; • $total = “ค่าผลรวม”; • echo “<br/> Total =” .$total;

8. $total = 60-20; • Echo “Total =” .$total; • $total = “ค่าผลรวม”; • echo “<br/> Total =” .$total;

9. คุณสมบัติอื่น ๆ ของตัวแปร • Type Casting • การให้ค่ากับตัวแปรสามารถกำหนดชนิดของตัวแปรได้ โดยใส่ค่าชนิดของตัวแปรไว้ในวงเล็บหน้าตัวแปรที่ต้องการ • $x = 30.2; • $y = 12.6; • $z = $x+$y; • echo “z = ”.$z; • $z = (integer)$z; • echo “z = ”.$z;

10. $x = 30.2; • $y = 12.6; • $z = $x+$y; • echo “z = ”.$z; • $z = (integer)$z; • echo “<br/>z = ”.$z;

11. ฟังก์ชันที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวแปรฟังก์ชันที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวแปร • gettype() : ใช้แสดงชนิดตัวแปร • settype() : ใช้กำหนดชนิดตัวแปร • isset() : ใช้ตรวจสอบตัวแปรว่ามีค่าหรือไม่ (true,false) • unset() : ใช้ยกเลิกตัวแปร เพื่อคืนหน่วยความจำ • empty() : ใช้ตรวจสอบตัวแปรว่าเป็นค่าว่างหรือไม่ (true,false)

12. $value = 26.343; • $sum = 25; • echo “value = ”; • echo gettype($value); • echo “<br/>sum = ”; • echo gettype($sum);

13. $sum = 25.33; • settype($sum,“integer”); • echo “<br/>sum = ”; • echo gettype($sum);

14. $value = 26.4; • If(isset($value)) • { • echo “ตัวแปร value มีค่า = ”.$value; • } • else{ • echo “ไม่มีตัวแปร value”; • }

15. $value = 26.4; • unset(value); • If(isset($value)) • { • echo “ตัวแปร value มีค่า = ”.$value; • } • else{ • echo “ไม่มีตัวแปร value”; • }

16. $value = 26.4; • unset(value); • If(empty($value)) • { • echo “ตัวแปร value ไม่มีค่า”; • } • else{ • echo “ตัวแปร value มีค่า = ”.$value; • }

17. ตัวแปร Superglobal • ตัวแปร Superglobleเป็นตัวแปรที่ใช้ส่งผ่านระหว่าง browser กับ Server มีดังนี้ $GLOBALS ใช้สำหรับประกาศตัวแปรให้เป็น Global $_SERVER เก็บค่าต่าง ๆ ของ Server ที่กำลังทำงานอยู่ $_GET ตัวแปรอะเรย์ใช้เก็บค่าตัวแปรที่ถูกส่งมากับสคริปต์ต่อท้าย URL $_POST ใช้เก็บค่าของตัวแปรที่ถูกส่มาจากเพจที่มีการส่งข้อมูลแบบ POST $_ENV เก็บสภาพแวดล้อมทั่วไป และค่าต่าง ๆ ของ Server $_SESSION ใช้เก็บตัวแปร Session เพื่อจดจำข้อมูลผู้ใช้ $_COOKIE ใช้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ เมื่อผู้ใช้กลับมาหน้าเพจอีกครั้ง จะสามารถระบุผู้ใช้และข้อมูลผู้ใช้ได้

18. การจัดการสตริงและตัวเลขการจัดการสตริงและตัวเลข • การกำหนดสตริง มี 3 แบบ คื่อ • Single Quote (‘) มักใช้เพื่อแสดงอักขระพิเศษ เช่น “\’book\’ ” • Double Quote (“) ใช้แสดงสตริงในรูปแบบปกติ • Heredoc (<<<) <<<thisistext <p> การกำหนดสตริงในรูปแบบพิเศษ หลายบรรทัด </p> thisistext;

19. การจัดการสตริงและตัวเลขการจัดการสตริงและตัวเลข • คำสั่งที่ใช้ในการแสดงผล • echo • printf • print

20. ตัวอย่างคำสั่ง echo ในการแสดงผล • $text = “business”; • echo “computer”; • echo $text; • echo $text.“ computer”;

21. ตัวอย่างคำสั่ง echo ในการแยกนิพจน์ • $money = 50; • echo “เงิน =”,15+15,“บาท” ; • echo “เงิน =”,$money,“บาท” ; • echo “เงิน =”.$money.“บาท” ; • echo “เงิน =”.$money+15.“บาท” ;

22. การหาความยาวของสตริง • ใช้คำสั่ง stelen() • echo strlen(“business”);

23. การตัดของสตริง • ใช้คำสั่ง substr() • echo substr(“thebusinesscomputer”,11,8);

24. ตัดช่องว่างในสตริง • ใช้คำสั่ง strtrim() • $text = “ computer business ” • echo strlen($text); • $result = trim($text); • echo $result; • $result = ltrim($text); • echo $result; • $result = rtrim($text); • echo $result;