1 / 29

ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า

ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า. วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อ. ชนกนันท์ บางเลี้ยง. เชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า. การผลิตและซื้อพลังงานไฟฟ้า. ข้อมูลจาก http://www.egat.co.th. แหล่งผลิตไฟฟ้า. จำแนกตามชนิดของพลังงานที่นำมาใช้ในการผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ดังนี้

Download Presentation

ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อ. ชนกนันท์ บางเลี้ยง

  2. เชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า

  3. การผลิตและซื้อพลังงานไฟฟ้าการผลิตและซื้อพลังงานไฟฟ้า ข้อมูลจาก http://www.egat.co.th

  4. แหล่งผลิตไฟฟ้า • จำแนกตามชนิดของพลังงานที่นำมาใช้ในการผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ดังนี้ • โรงไฟฟ้าพลังน้ำ จะใช้พลังงานจลน์ของการไหลของน้ำจากที่สูงลงมายังที่ต่ำไปหมุนกังหันซึ่งติดกับเพลาของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เพื่อให้การผลิตไฟฟ้าเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องสร้างเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เพื่อที่จะได้มีน้ำสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าตลอดเวลา • โรงไฟฟ้าจากพลังงานความร้อน อาศัยไอน้ำเดือดไปหมุนกังหันของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ต้องใช้เชื้อเพลิงในการต้มน้ำให้ร้อน เช่น ถ่านหิน น้ำมันเตา แก๊สธรรมชาติ โรงไฟฟ้าประเภทนี้จะต้องอยู่ใกล้แหล่งน้ำและแหล่งเชื้อเพลิง • โรงไฟฟ้าพลังงานกังหันแก๊ส ใช้แรงดันแก๊สที่ร้อนจัด มีความดันสูงไปหมุนแกนของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หลักการมีดังนี้ อัดอากาศให้มีปริมาตรเล็กลงอย่างรวดเร็ว ทำให้อุณหภูมิของอากาศภายในสูงขึ้น เมื่อฉีดเชื้อเพลิง เช่น น้ำมัน หรือแก๊สบางชนิดเข้าไปผสม จะทำให้เกิดการเผาไหม้อย่างรวดเร็วได้แก๊สที่ร้อนจัด และมีแรงดันสูง เมื่อผ่านแก๊สนี้เข้าไปยังกังหัน สามารถผลักให้แกนของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหมุนได้

  5. แหล่งผลิตไฟฟ้า (ต่อ) • โรงงานไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ในระบบการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานกังหันแก๊ส จะมีการปล่อยแก๊สเสียอุณหภูมิสูงออกมาจากระบบ สามารถนำแก๊สนี้ไปใช้เป็นเชื้อเพลิงได้อย่างคุ้มค่า เช่น ที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้สร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมโดยสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำอีกโรงหนึ่ง • โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ใช้ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชัน โดยยิงนิวตรอนเข้าไปชนกับนิวเคลียสของยูเรเนียม 235 เกิดพลังงานความร้อนมหาศาล จะได้นิวตรอนตัวใหม่จากปฏิกิริยา นิวตรอนเหล่านี้จะไปชนกับนิวเคลียสตัวอื่น ๆ เกิดปฏิกิริยาต่อเนื่องกันไปเป็นลูกโซ่ นำความร้อนที่ได้ไปทำให้น้ำเดือดกลายเป็นไอ แล้วนำไอน้ำไปหมุนกังหันของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า

  6. การส่งพลังงานไฟฟ้า

  7. เสาไฟฟ้าแรงสูง

  8. การใช้ไฟฟ้าในอาคารและในบ้านการใช้ไฟฟ้าในอาคารและในบ้าน

  9. การต่ออนุกรม การต่อโหลดแบบอนุกรม จะทำให้กระแสไฟฟ้า (I) ที่ผ่านโหลดทุกตัวเท่ากัน แต่แรงดัน (V) ที่โหลดแต่ละตัวไม่เท่ากัน และหากโหลดในวงจรตัวใดตัวหนึ่งเสียหาย จะทำให้ไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลภายในวงจร

  10. การต่อแบบขนาน การต่อโหลดแบบขนาน จะทำให้แรงดัน (V) ที่โหลดแต่ละตัวเท่ากัน แต่กระแสไฟฟ้า (I) ที่ผ่านโหลดจะขึ้นกับค่าความต้านทานของโหลด และหากมีโหลดในวงจรตัวใดตัวหนึ่งเสียหาย ที่เหลือก็ยังสามารถทำงานได้ตามปกติ

  11. เครื่องใช้ไฟฟ้าให้พลังงานความร้อนเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พลังงานความร้อน • เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานความร้อน หมายถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงานความร้อน เช่น เตาไฟฟ้า เตารีดไฟฟ้า หม้อหุงข้าวไฟฟ้า กระทะไฟฟ้า เตาปิ้งขนมปัง เตาอบขนม

  12. หลักการทำงาน • หลักการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้คือ เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านลวดความต้านทานจะมีความร้อนเกิดขึ้น พลังงานความร้อนที่ได้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณกระแสไฟฟ้า ความต้านทาน และเวลาที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่าน ลวดความต้านทานที่ใช้จะมีสมบัติเฉพาะ คือมีจุดหลอมเหลวสูง และให้ความร้อนอย่างรวดเร็ว ที่นิยมใช้คือลวดนิโครม (โลหะผสมระหว่างนิกเกิลกับโครเมียม) • เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้จะใช้พลังงานไฟฟ้าสูงมาก จะต้องมีเครื่องควบคุมอุณหภูมิ ที่เรียกว่า เทอร์โมคัพเพิล (thermo couple) เป็นแผ่นโลหะคู่ ทำด้วยโลหะต่างชนิดกัน เมื่ออุปกรณ์ไฟฟ้ามีอุณหภูมิสูง แผ่นโลหะจะขยายตัว โค้งงอ ทำให้จุดสัมผัสผละออกจากกันกระแสไฟฟ้าจะไม่ไหลผ่านอุปกรณ์ แต่เมื่ออุณหภูมิเย็นลง แผ่นโลหะจะเบนกลับมายังตำแหน่งเดิม อุปกรณ์ไฟฟ้าจะเริ่มทำงานอีกครั้ง

  13. ลวดความร้อนและสวิตซ์ความร้อนลวดความร้อนและสวิตซ์ความร้อน

  14. เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทให้แสงสว่างเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทให้แสงสว่าง ไส้หลอดทำด้วยลวดโลหะที่มีจุดหลอมเหลวสูง เช่นทังสเตนภายในหลอดแก้วบรรจุแก๊ส เฉื่อย เช่น อาร์กอน ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ไส้หลอดขาดง่าย เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านไส้หลอดทังสเตน ไส้หลอดจะร้อนมากจนเปล่งแสงออกมา หลอดไฟฟ้าอีกชนิดหนึ่ง คือ หลอดวาวแสง หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent) ภายในหลอดจะบรรจุไอปรอท ที่ผิวด้านในของหลอดจะฉาบไว้ด้วยสารเคมีที่เปล่งแสงได้ วงจรไฟฟ้าของหลอดวาวแสงจะซับซ้อนกว่าของหลอดธรรมดา จะต้องมี สตาร์ตเตอร์(starter) และ บัลลาสต์ (Ballast) เป็น ส่วนประกอบของวงจรด้วย

  15. สตาร์ตเตอร์ (Starter) หลอดฟลูออเรสเซนต์ ใช้สตาร์ทเตอร์  ช่วยจุดหลอดไฟ สวิทซ์สตาร์ทเตอร์ทำจากหลอดก๊าซขนาดเล็ก  บรรจุด้วยก๊าซซีนอน   เมื่อเรากดสวิทซ์  กระแสไฟฟ้ากระโดดข้ามช่องว่างในหลอดดังรูป ขั้วไฟฟ้าข้างหนึ่งของสตาร์ทเตอร์ทำด้วยโลหะติดกัน  2  ชนิดเรียกว่า ไบเมทาลิค  (Bimetallic)มันจะบิดตัว เมื่อกระแสไหลผ่านและเกิดความร้อน    หลังจากที่หลอดฟลูออเรสเซนต์ติดแล้ว  กระแสไฟฟ้าจะไม่ไหลผ่านสตาร์ทเตอร์อีก ทำให้โลหะไบเมทาลิคเย็นลง และแยกออกจากกัน  • ภายในสตาร์ทเตอร์คือหลอดก๊าซ •       ขณะที่สตาร์ทเตอร์ต่อวงจรไฟฟ้า  พลังงานจากไส้หลอดจะทำให้ก๊าซเกิดการอิออไนซ์  กลายเป็นตัวนำไฟฟ้า   พลังงานที่ทำให้ก๊าซแตกตัวต้องมากพอ  นั่นหมายความว่า แรงดันไฟฟ้าต้องมาก  จึงต้องอาศัยอุปกรณ์เพิ่มแรงดันไฟฟ้า  ที่เรียกว่า บัลลาสต์

  16. บัลลาสต์ (Ballast) • บัลลาสต์ คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมแรงดันไฟฟ้าที่จ่ายให้กับหลอดฟลูออเรสเซนต์ให้เหมาะสม เราสามารถแบ่งได้ 3 ชนิดหลักๆ ดังนี้  • บัลลาสต์ขดลวดแกนเหล็กแบบธรรมดา เป็นบัลลาสต์ที่ใช้กันแพร่หลายร่วมกับหลอด ฟลูออเรสเซนต์ เมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดที่พันรอบแกนเหล็ก จะเกิดการสูญเสียพลังงาน ในรูปของความร้อนในแกนเหล็ก ซึ่งมีค่าประมาณ 10 วัตต์  • บัลลาสต์ขดลวดแกนเหล็กแบบประสิทธิภาพสูง เป็นบัลลาสต์ที่ทำด้วยแกนเหล็กและขด ลวดที่มีคุณภาพดี ซึ่งการสูญเสียพลังงานจะลดลงเหลือ 5-6 วัตต์  • บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นบัลลาสต์ที่ทำด้วยชุดวงจรอิเล็กทรอนิกส์ มีการสูญเสียพลังงาน น้อยประมาณ 1-2 วัตต์ เปิดติดทันที ไม่กะพริบ ไม่ต้องใช้สตาร์ทเตอร์ ไม่มีเสียงรบกวน ทำ ให้อายุการใช้งานนานขึ้น 2 เท่าของหลอดไฟที่ใช้ร่วมกับบัลลาสต์แกนเหล็กธรรมดา 

  17. เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานเสียงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานเสียง

  18. เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานกลเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานกล เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานกล อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกลจะมีมอเตอร์และเครื่องควบคุมความเร็วของการหมุนของมอเตอร์เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ อุปกรณ์ไฟฟ้าประเภทนี้ได้แก่ พัดลม เครื่องดูดฝุ่น เครื่องเป่าผม เครื่องผสมอาหาร (food mixer) เครื่องบดอาหาร(Blender)

  19. เตาไมโครเวฟ • เตาไมโครเวฟ(Microwave Oven) จะให้ความร้อนโดยการเปลี่ยนแปลง • พลังงานไฟฟ้ากระแสสลับความถี่ปกติที่ใช้ตามบ้าน ให้เป็น ความถี่สูง ที่เรียกว่าคลื่นไมโครเวฟความถี่ของคลื่นไมโครเวฟประมารณ 2,450 MHz ความถี่ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในย่านนี้จะถูกดูดกลืนโดยน้ำ ไขมัน และน้ำตาล คลื่นจะไปทำให้โมเลกุลของอาหารสั่นสะเทือนเกิดเป็นความร้อน

  20. ข้อจำกัดของเตาไมโครเวฟข้อจำกัดของเตาไมโครเวฟ • ข้อจำกัดของการใช้เตาไมโครเวฟ ไม่ควรใช้ภาชนะโลหะ เพราะความร้อนจะเกิดการสะท้อนกลับ • ไม่ควรใช้พลาสติก เมลามีน เพราะสารที่เคลือบจะดูดซึมคลื่นไมโครเวฟ อาจทำให้ร้าวหรือไหม้ได้ • ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีมุมหรือรูปทรงแหลม เพราะจะทำให้ไหม้ในส่วนดังกล่าว • สำหรับอาหารแช่แข็งอย่าปรุงทันที เพราะอุณหภูมิจะต่างกันถึง 41 องศาเซลเซียส เชื้อจุลินทรีย์ถูกทำลายไม่หมด

  21. อันตรายจากกระแสไฟฟ้า • ร่างกายจะได้รับอันตรายจากกระแสไฟฟ้ามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น • ความต้านทานของร่างกาย • กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่าน • แรงดันไฟฟ้าหรือความต่างศักย์ไฟฟ้าในวงจร • ระยะเวลาที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกาย • อวัยวะที่สำคัญของร่างกายที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่าน

  22. ค่าความต้านทานของร่างกายค่าความต้านทานของร่างกาย • ความต้านทาน(Impedance) กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านร่างกายมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความต้านทานรวมซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่ง   • ความต้านทานรวมนี้คือ ความต้านทานของตัวนำไฟฟ้า   ความต้านทานของร่างกาย   ความต้านทานของดิน   ในกรณีที่กระแสไฟฟ้าไหลลงสู่ดิน    • ความต้านทานของร่างกายคนเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติทางกายภาพของแต่ละคน   สภาวะทางอารมณ์และความชื้นบนผิวหนัง   • ความต้านทานของร่างกายจะลดลงอย่างมากเมื่อผิวหนังเปียกชื้น  

  23. ผลที่ได้รับจากระแสไฟฟ้าปริมาณต่างๆผลที่ได้รับจากระแสไฟฟ้าปริมาณต่างๆ

  24. ผลจากปริมาณไฟฟ้าอื่นๆผลจากปริมาณไฟฟ้าอื่นๆ • แรงดันไฟฟ้า (Voltage)     ความต้านทานของผิวหนังจะลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อแรงดันไฟฟ้าสูงขึ้น  ไฟฟ้ากระแสสลับที่แรงดันเกินกว่า 240 โวลต์  สามารถทำให้ผิวหนังที่จุดสัมผัสทะลุได้  กรณีนี้ความต้านทานภายในร่างกายจะเป็นตัวจำกัดปริมาณกระแสที่ไหลผ่านร่างกาย แต่อย่างไรก็ตามไฟฟ้าแรงดันต่ำก็ทำให้ผู้ถูกไฟฟ้าดูดไม่สามารถสะบัดหลุดพ้นจากวงจรได้  ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตต่อผู้ถูกไฟฟ้าดูดได้เช่นกัน  • ระยะเวลาที่กระแสไหลผ่านร่างกายจะเห็นได้ว่าปริมาณกระแสตั้งแต่  16 มิลลิแอมป์ (mA) ขึ้นไป    ที่ไหลผ่านร่างกายทำให้ระบบประสาทชะงักงันไปชั่วขณะหนึ่ง มีอาการกระตุกอย่างแรง  และหมดความสามารถในการควบคุมกล้ามเนื้อส่วนที่กระแสไฟฟ้า ไหลผ่านทำให้ไม่สามารถจะสะบัดมือหลุดได้ อาจมีผลทำให้เกิดการหายใจหยุดชะงักหากไม่ได้รับการช่วยเหลือทันท่วงทีอาจทำให้เสียชีวิตได้  • อวัยวะที่สำคัญของร่างกายที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่าน กระแสไฟฟ้าสามารถไหลผ่านอวัยวะของร่างกายได้ทุกส่วนในทิศทางที่แตกต่างกัน ถ้ากระแสไฟฟ้าไหลผ่านจากนิ้วหนึ่งไปยังอีกนิ้วหนึ่งของมือเดียวกันในปริมาณน้อยจะไม่เป็นอันตราย แต่ถ้ากระแสไฟฟ้าไหลผ่านทรวงอกซึ่งเป็นอันตรายต่อกล้ามเนื้อหัวใจ มีโอกาสเสียชีวิตได้ทันที กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่าน ศีรษะ ทรวงอก หัวใจ จะมีอันตรายสูงกว่าอวัยวะส่วนอื่น

  25. การคำนวณการใช้พลังงานไฟฟ้าการคำนวณการใช้พลังงานไฟฟ้า • เครื่องใช้ไฟฟ้าจะสิ้นเปลื้องพลังงานไฟฟ้ามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ กำลังไฟฟ้า (Power) และระยะเวลาที่ใช้งาน • กำลังไฟฟ้า (Power : P) คืออัตราของพลังงานต่อเวลา คำนวณได้จาก • เมื่อ I คือค่ากระแสไฟฟ้า , V คือแรงดันไฟฟ้า และ R คือความต้านทานไฟฟ้า • พลังงานไฟฟ้า E • เมื่อ t คือเวลาในการเปิดใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น

  26. การคำนวณหน่วยการใช้ไฟฟ้าการคำนวณหน่วยการใช้ไฟฟ้า • ก่อนที่จะนำสายไฟฟ้าเข้าบ้านจะผ่าน วัตต์มิเตอร์ จะทำการบันทึกค่าการใช้พลังงานไฟฟ้าในหน่วย กิโลวัตต์-ชั่วโมง หรือ unit ซึ่งคำนวนได้จาก • W คือพลังงานไฟฟ้าในหน่วย กิโลวัตต์-ชั่วโมง หรือ ยูนิต • P คือกำลังไฟฟ้าในหน่วยวัตต์ • t คือ เวลาที่เปิดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในหน่วยชั่วโมง

  27. ใบแจ้งค่าไฟฟ้า

  28. อัตราค่าไฟฟ้า • ประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย • ประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก • ประเภทที่ 3 กิจการขนาดกลาง • ประเภทที่ 4 กิจการขนาดใหญ่ • ประเภทที่ 5 กิจการเฉพาะอย่าง • ประเภทที่ 6 ส่วนราชการและองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร • ประเภทที่ 7 สูบน้ำเพื่อการเกษตร • ประเภทที่ 8 ไฟฟ้าชั่วคราว http://www.eppo.go.th/power/pw-Rate-PEA.html

  29. อัตราค่าไฟฟ้าของบ้านอยู่อาศัยอัตราค่าไฟฟ้าของบ้านอยู่อาศัย อัตราปกติ อัตราตามช่วงเวลาของการใช้ (Time of Use Rate : TOU)

More Related